วันที่สอง อะเดค่าไปซื้อนมผงกับอาหารเช้า เพราะว่าเงินที่เนี่ยเฟิงให้เยอะมากจริงๆ เธอกำลังดีใจจะกลับไป กลับเห็นเวสลี่รีบเร่งเข้ามา
“เวสลี่แกเป็นอะไรเหรอ? รีบเร่งทำไมล่ะ?” อะเดค่าถามอย่างมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย
“แย่แล้วอะเดค่า! คนกลุ่มนั้นมาอีกแล้ว! คุณรีบกลับไปดูหน่อยเถอะ!”
ชั่วพริบตาเดียวใบหน้าของอะเดค่าซีดไปหมดเลย เธอก็สนใจมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว รีบเร่งกลับไปยังบ้าน ในเวลานี้คลินิกแพทย์แผนจีนถูกร้อยกว่าคนล้อมรอบไว้
ผู้ชายที่นำหน้าคนนั้นผมสั้นสีบลอนด์สวมชุดสูทรองเท้าหนัง หลังจากเห็นอะเดค่า แสยะปากยิ้มอยู่พูดว่า “อะเดค่า พิจารณาเป็นยังไงบ้างแล้วล่ะ?”
อะเดค่ากำกำปั้นอย่างแน่น “พวกคุณไอ้คนเหล่านี้ อย่าคิดที่จะให้ฉันขายคลินิกแพทย์แผนจีน! นี่เป็นของของคุณปู่ แม้ว่าฉันตายแล้วก็ต้องปกป้องมัน!”
“ไอ้โย ดูแล้วในเมื่อคุณพูดด้วยดีๆไม่ยอมทำตามก็คงต้องใช้กำลังบังคับจริงๆเลย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราก็ได้แต่บังคับลื้อออกแล้ว!”
ชายผมสีบลอนด์พูดอยู่ ปล่อยควันบุหรี่ออกมาวงหนึ่ง เพียงเห็นเขายกมือขึ้น อันธพาลกลุ่มนั้นที่อยู่ข้างหลังพุ่งเข้าไปทันที
อะเดค่าก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้นเช่นกัน ขัดขวางอยู่หน้าประตูโดยตรงอยากจะขัดขวางคนเหล่านั้นเข้าไป แต่ว่าเธอเพียงแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง จะเป็นคู่ต่อสู้ของชายรูปร่างใหญ่เหล่านี้ได้ยังไงอีกล่ะ?
“คนอื่นๆที่อยู่ในซอยนี้ล้วนยินยอมถวายบ้านให้กับท่านเจ้าเมือง เพียงแค่คุณที่ยังดื้อรั้นขนาดนั้น ถ้าหากคุณอ่านสถานการณ์ออกก็รีบไสหัวออกไปเถอะ มิฉะนั้นสภาพของคุณก็จะเป็นเช่นดั่งคุณปู่คุณ ผมไม่หวังที่จะเห็นดอกกุหลาบดอกหนึ่งที่สวยงานขนาดนั้นอย่างคุณเหี่ยวแห้งอยู่บนดินที่สกปรก”
แม้ว่าอะเดค่าหวาดกลัวมาก แต่ยังยืนหยัดเฝ้าอยู่หน้าประตู เพราะว่าอะเดค่าไม่เพียงแค่ต้องปกป้องคลินิกแพทย์แผนจีนแห่งนี้ เธอยังต้องปกป้องความปลอดภัยของพวกเด็กๆ ถ้าหากคลินิกแพทย์แผนจีนแห่งนี้ถูกคนเหล่านี้เอาไปแล้ว อย่างงั้นพวกเขาอะเดค่าก็ต้องพลัดจากที่อยู่ไปอย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว ยิ่งกว่านั้นอันธพาลกลุ่มนี้ไม่คิดที่จะให้เงินเลยสักนิด นี่ก็คือบังคับแย่งชิงจริงๆเลย!
ชายผมสีบลอนด์ที่นำหน้าเห็นอะเดค่าดื้อรั้นขนาดนี้ ดังนั้นก็ไม่เกรงใจอีกแล้ว ถึงแม้ว่าอะเดค่าหน้าตาสวยดั่งนางฟ้า แต่นั่นก็ยังไงล่ะ? ผู้หญิงที่สวยขนาดไหนหากมองข้ามความหวังดีของผู้อื่นก็ต้องถูกจัดการเช่นกันล่ะ
“ถ้าหากไม่หลีกทางล่ะก็ ผมก็จะทำร้ายใบหน้าที่สวยงามนี้ของคุณ!”
ฝ่ายตรงข้ามทั้งพูดอยู่ทั้งยกกำปั้นขึ้น ชกไปยังใบหน้าของอะเดค่า อะเดค่าตกใจจนหลับตาลง แต่ความเจ็บปวดที่อยู่ในจินตนาการไม่ได้มาถึงเลย
“แต่เช้าตรู่ก็ไม่ให้คนนอน ร้องเอะอะโวยวายอะไรอยู่นี่ล่ะ?”
เสียงที่มีความเกียจคร้านเล็กน้อยของเนี่ยเฟิงส่งเข้ามาเลย ฉับพลันในทันทีอะเดค่าลืมตาขึ้น เธอรีบเงยหน้าขึ้น “คุณผู้ชาย!”
มือของเนี่ยเฟิงขวางกำปั้นของชายผมสีบลอนด์ไว้ ดูแล้วเหมือนไม่ได้ใช้กำลังใดๆ แต่ชายผมสีบลอนด์กลับรู้สึกว่ากำปั้นของตนเองดึงกลับไปไม่ได้แล้ว!
“คุณเป็นใครเหรอ? คุณปล่อยผม!”
“นั่นไม่ได้นะ คุณภาพการนอนของผมแย่มากมาโดยตลอด เมื่อคืนยากที่จะนอนหลับได้ดี ผลสุดท้ายตั้งแต่เช้าตรู่พวกคุณก็วิ่งมาที่นี่รบกวนการนอนของคน ไม่ว่ายังไง ผมก็ต้องสั่งสอนให้คุณสักหน่อยจึงจะได้”
หลังจากเนี่ยเฟิงพูดจบใช้สายตาที่หนาวเหน็บจ้องมองผู้ชายคนนั้นอยู่ ยังไม่ทันรอผู้ชายมีปฏิกิริยากลับมา เขาก็พุ่งออกไปแล้ว ชนไปยังลูกน้องเหล่านั้นที่อยู่ข้างหลังโดยตรง ก็เหมือนเช่นดั่งเล่นโบว์ลิ่ง พวกเขาล้มจนสมองเลอะเลือน
อะเดค่ากับเด็กๆเหล่านั้นที่อยู่ข้างหลังเธอหลังจากเห็นแล้วเบิกตาโพลง เท้านี้ของเนี่ยเฟิงเตะอย่างหล่อมากเลยจริงๆ ทำให้คนเห็นแล้วอดไม่ไหวที่จะกระโดดโลดเต้นร้องไชโย
เนี่ยเฟิงพลิกตาขาวหนึ่งทีอย่างจนใจ “ถ้าหากอ่านสีหน้าคนอื่นออกก็ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าขวางหูขวางตาอยู่ที่นี่ ถ้าหากให้ผมพบเจอกับพวกคุณอีกครั้ง ผมจะให้อภัยพวกคุณไม่ได้”
ชายผมสีบลอนด์หน้าอกถูกเตะจนเจ็บปวด เขาก็รู้สึกว่ากระดูกของตนเองเหมือนจะหักแล้วเช่นกัน เขาเพิ่งอยากจะเอ่ยปากพูด ใครจะรู้ว่ากลับกระอักเลือดออกมา
คนอื่นๆเห็นสภาพที่ไหนยังกล้าจะอยู่ต่ออีกล่ะ หนึ่งหน้าหนึ่งหลังยกชายผมสีบลอนด์รีบวิ่งหนีไป
อะเดค่าหันหน้าไป ใช้สายตาที่เลื่อมใสศรัทธาจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ “คุณผู้ชายคุณก็เก่งมากเกินไปแล้วล่ะ เมื่อกี้คุณยกเท้าหนึ่งทีก็สะเทือนจนพวกเขาคนกลุ่มนั้นถอยไปเลย!”
เนี่ยเฟิงนั่งลงที่ข้างๆ รับอาหารเช้าที่อะเดค่าเอากลับมาไป ดูแล้วเรียบง่ายเหมือนไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ ที่นี่แม้ว่ามีห้องครัวแต่ไม่มีวัตถุดิบอาหารสักนิด เนี่ยเฟิงละทิ้งความคิดที่จะทำอาหารให้ตนเอง จำใจกินอาหารเช้าที่อะเดค่าเอามาอยู่
“ก็ไม่มีอะไร เพียงแค่เป็นพวกเขาชนกับปากกระบอกปืนพอดี พวกคุณก็กินอะไรสักหน่อยเถอะ”
เนี่ยเฟิงผลักอาหารเช้าเข้าไป อะเดค่าซื้อมากกว่าเยอะเลยจริงๆ พวกเด็กๆไม่เกรงใจเลยสักนิดนั่งขึ้นไปบนโต๊ะอาหาร หยิบอาหารเช้าขึ้นมากินเลย
“คุณผู้ชาย เมื่อกี้เท่านั้นของคุณเก่งมากจริงๆนะ คุณเป็นคนอะไรเหรอ? คุณเป็นซูเปอร์วีรบุรุษเลยเชียวเหรอ?”
เวสลี่ใช้สายตาที่เลื่อมใสศรัทธาจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ นัยน์ตาคู่นั้นเขียนเต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา
เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้มหนึ่งที “ผมไม่ใช่ซูเปอร์วีรบุรุษ แกเติบโตแล้ว แกก็จะกลายเป็นคนเก่งมากเหมือนเช่นดั่งผม”
เวสลี่เบิกตาโพลงดีใจถามว่า “จริงเหรอ? แต่ว่าผมดูแล้วตัวผอมเล็กขนาดนั้น!”
“ย่อมเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว ผมไม่โกหกแกนะ ตอนนี้ดูแล้วตัวผอมเล็ก แต่เพียงแค่กินข้าวดีๆฝึกฝนดีๆ วันหลังแกก็จะเป็นลูกผู้ชายที่รับภาระด้านหนึ่งแต่ผู้เดียวได้คนหนึ่ง”
แป๊บเดียวเวสลี่ก็เงียบไม่ค่อยพูดเลย คล้ายดั่งถูกน้ำเย็นกะละมังหนึ่งสาดความกระตือรือร้นของตนเองดับแล้ว เขาถอนหายใจหนึ่งทีพูดอย่างลำบากว่า “งั้นดูแล้ววันหลังผมล้วนเป็นซูเปอร์วีรบุรุษไม่ได้แล้ว เพราะว่าผมไม่มีโอกาสที่จะกินข้าวได้ดีเลยสักนิด”
พออะเดค่าได้ยินเวสลี่พูดอย่างนี้ก็ลำบากใจเหลือเกินเช่นกัน คนกลุ่มหนึ่งตกอยู่ในความเงียบ เนี่ยเฟิงรู้ว่าพวกเขายากลำบากมาก แต่นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ข้าวพวกเขาล้วนไม่ได้กิน
“เมื่อกี้คนเหล่านั้นมีเรื่องอะไรกันแน่ล่ะ?” เนี่ยเฟิงไม่ได้เอ่ยหัวเรื่องที่คุยกันนี้ต่อ แต่ซักถามถึงไอ้คนกลุ่มนั้นอยู่ เห็นแล้วก็เหมือนเป็นพวกอันธพาลท้องถิ่น แม้ว่าสำหรับเนี่ยเฟิงมากล่าวเป็นแค่คนที่ทนการตีหนึ่งทีก็ไม่ไหว แต่สำหรับอะเดค่าและเด็กๆกลุ่มนี้มากล่าวกลับเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งมากๆ
“นั่นเป็นลูกน้องของเจ้าเมืองเมืองกู่ปา พวกเขาชอบใจที่ดินผืนนี้ของพวกเรา อยากจะเอาไปเพราะว่าจะก่อตั้งพระราชวังอะไรให้กับเขา ด้วยเหตุนี้เขาไล่คนในซอยนี้ไปหมดเลย”
อะเดค่าถอนหายใจหนึ่งที “ตอนแรกทุกคนล้วนมุมานะบากบั่นต่อต้านอยู่ เพราะว่าพวกเขาไม่อยากสูญเสียบ้านเมืองสุดท้ายเลย แต่ว่าเจ้าเมืองของเมืองกู่ปาโอหังมากเกินไปแล้วจริงๆ คนของพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา แม้แต่คุณปู่ก็เพราะว่าหลังจากได้รับบาดเจ็บทรุดลงอย่างไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้ ไม่นานก็เสียไปแล้ว……..”
คนอื่นๆก็กังวลว่าจะเหมือนเช่นดั่งคุณปู่ของอะเดค่า ดังนั้นพวกเขาต่างคนต่างมอบอสังหาริมทรัพท์ออกมา มีเพียงอะเดค่าไม่ยินยอมออกไป
“ครั้งนี้ถ้าหากไม่ได้คุณผู้ชายคุณมาช่วยเหลือ พวกเราเกรงว่าจะต้องสูญเสียบ้านเมืองไปแล้ว”
เพียงแค่ไม่รู้ว่าวันเวลาแบบนี้จะสามารถอยู่ต่ออีกนานขนาดไหน
“เจ้าเมืองเมืองกู่ปาเหรอ?” เนี่ยเฟิงทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก บ่นพึมพำ
“คุณผู้ชายคุณวางใจเถอะ อยู่ในระยะเวลานี้พวกเขาน่าจะไม่กล้ากลับมาอีก คนเหล่านั้นก็คือข่มเหงคนดีหวาดกลัวคนชั่วล่ะ ฉันไม่มอบอสังหาริมทรัพท์ออกมา พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะทำอะไรพวกเรา!” อะเดค่าพูดอย่างมั่นใจในตนเอง
เนี่ยเฟิงก็ใจร้ายไม่ลงที่จะกระทบอะเดค่าเลย ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามมีอำนาจมีอิทธิพลอยู่ ไม่ว่าอะเดค่าต่อต้านขนาดไหน สุดท้ายคลินิกแพทย์แผนจีนก็จะถูกแย่งชิงไปล่ะ