“แน่นอน ทุกๆ คนคิดหาวิธีกันหัวแทบแตกเพื่อจะเข้าร่วมสภานักเรียน แต่ว่าสภานักเรียนคัดเลือกแบบเคร่งครัดมาก เรื่องเรียนไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดของที่นี่ มาหาพรรคหาพวกถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
พานฉางอันพูดถึงจุดนี้ แล้วก็มองเนี่ยเฟิงด้วยความกังวล เขาก็รีบพูดอธิบายว่า “พี่เฟิง พี่อย่าเข้าใจผิดไปนะพี่ ผมไม่ได้หมายความว่าที่มาอยู่กับพี่แบบนี้ แล้วจะเป็นการหาพรรคพวกนะพี่ แต่ว่านี่มันเป็นสังคมที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก…….”
“พี่รู้ว่าหมายความว่าอย่างไร ไม่ต้องอธิบายมากหรอก” เนี่ยเฟิงก็ไม่ได้สนใจอะไร มีคนคอยช่วยดูแลสิ่งของของตัวเอง ก็ถือว่าไม่น้อย พานฉางอันก็ถือว่าได้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว
พานฉางอันก็ดีใจอยู่ลึกๆ เพราะว่าพานฉางอันรู้สึกว่าตนเองเลือกที่จะอยู่ถูกคนแล้ว
ถ้าเป็นคนอื่น ก็คงจะจัดการเขาไปแล้ว แต่ว่าเนี่ยเฟิงไม่ได้มีความคิดแบบนั้นเลย
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องทำงานของประธานสภานักเรียน เนี่ยเฟิงมองดูอยู่ด้านนอก ก็รู้สึกว่าห้องทำงานนี้มันดูใหญ่มาก
“เนื่องจากประธานสภานักเรียนไม่ได้เรียกผม ดังนั้นผมก็เข้าไปไม่ได้ พี่เฟิง เดี๋ยวผมรอพี่อยู่ข้างนอกนะ!”
พานฉางอันมองเนี่ยเฟิงตาปริบๆ เนี่ยเฟิงก็พยักหน้าบอกเป็นความนัยว่าตนเองรู้แล้ว
เนี่ยเฟิงเพิ่งเดินไปถึงหน้าประตู คิดไม่ถึงว่าประตูมันจะเปิดออกเลย มีชายหน้าบึ้งมองมาทางเนี่ยเฟิง ราวกับว่าจะฉีกเนี่ยเฟิงให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ
เนี่ยเฟิงก็จ้องตาหมอนั่น แล้วก็เดินตรงเข้าไป ที่นี่ถือว่าใหญ่โตโอ่อ่ามาก ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนห้องทำงานเลย แต่เหมือนกับห้องโถงในยุคกลางมากกว่า
ประตูทางด้านหลังก็ถูกชายคนนั้นผิดลง ชายคนนั้นก็เดินมาข้างๆ เนี่ยเฟิง แล้วก็ใช้สายตาอันน่ากลัวจ้องมองเนี่ยเฟิง “ไก่อ่อนแบบคุณเนี่ยนะ?”
เนี่ยเฟิงแสหยะยิ้ม “พูดพล่อยๆ จะต้องชดใช้กับสิ่งที่พูดนะ”
“เหอะๆ ผมไม่รู้ว่าผมต้องชดใช้ด้วยอะไร แต่ว่าถ้าสู้กับไก่อ่อนแบบคุณ ผมไม่คิดว่าจะแพ้นะ!”
“เสี่ยวเฮย อย่าเสียมารยาทกับแขกคนสำคัญของเรา”
ในตอนนี้เอง ลิซ่าก็เดินออกมาจากอีกห้อง ตอนนี้เธอเปลี่ยนชุดเป็นกระโปรงพลีทสีดำ ดูแล้วน่าดึงดูดมาก เส้นผมสีน้ำตาลราวกับละอองน้ำตกนั้น ก็ปล่อยยาวลงมา เธอมองเนี่ยเฟิงด้วยสายตาชมดชม้อย “แขกของเราดูไปแล้วเหมือนจะอ่อนแอไม่เอาไหน แต่ว่าภายในกายกลับมีพลังเต็มเปี่ยม เป็นคนแบบที่ฉันชอบ”
เสี่ยวเฮยได้ยินลิซ่าพูดแบบนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เห็นเสี่ยวเฮยกำหมัดแน่น แล้วก็มองมายังเนี่ยเฟิง ราวกับเห็นศัตรู
“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร แต่ว่าที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อมาเอาเงินพนันของผม เมื่อครู่ผมลงเดิมพันไป100ล้าน ตามกฎที่บอกว่าจะให้5เท่า งั้นก็ต้องจ่ายมา500ล้านใช่ไหม?”
เนี่ยเฟิงพูดไป แล้วก็แบมือตนเองออกมา แล้วเข้าไปถามลิซ่า
ก็ยิ้มๆ จากนั้นก็พยักหน้าขึ้นเล็กน้อย เสี่ยวเฮยก็เหมือนกับหมาที่ฟังคำสั่งอย่างดี รีบเอาเครื่องรูดบัตรในมือตนเองไปให้ทันที “แน่นอน ในเมื่อคุณชนะแล้ว งั้นเงินที่พนันได้ ฉันก็จะให้คุณแน่นอน แต่ว่าไม่มีใครรู้เลยว่าคุณจะเป็นม้ามืดแบบนี้ ครั้งนี้คุณทำให้เจ้ามือของเราได้กำไรไม่น้อย”
ลิซ่าพูดไปด้วย แล้วก็กดจำนวนเงินลงใส่เครื่องรูดบัตรไปด้วย จากนั้นก็ยื่นออกไป
เนี่ยเฟิงก็หยิบเครื่องรูดบัตรมาอย่างไม่เกรงใจ แล้วก็รูดบัตรของตนเองไป จำนวนเงินก็เข้ามาในบัตรของเนี่ยเฟิงทันที แต่ว่าเงินพวกนี้ สำหรับเนี่ยเฟิงแล้วก็เป็นแค่เศษขยะ เนี่ยเฟิงไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าในบัตรของตนเองจะมีเงินเท่าไร
“ไม่มีใครรู้ว่าผมจะเป็นม้ามืดงั้นหรือ? คุณก็เดาล่วงหน้าแล้วใช่ไม่หรือไง? ดังนั้นก็เลยลงเดิมพันฝั่งผมไป50ล้าน”
หลังจากเนี่ยเฟิงเก็บบัตรไปแล้ว ก็เอาเครื่องรูดบัตรยื่นคืนไป ลิซ่าก็อึ้งๆ รอยยิ้มบนใบ้หน้าของเธอยิ่งลุกขึ้น “ฉันสงสัยว่าคุณรู้ได้อย่างไร ว่าคนที่สามที่เลือกว่าคุณจะชนะนั้น คือฉัน?”
“สัญชาตญาณ” เนี่ยเฟิงไม่ได้หลบสายตาของลิซ่า แต่จับจ้องไปที่ลิซ่า ปกติแล้วลิซ่าจะมั่นใจในตัวเองมาก แต่สายตาของเนี่ยเฟิงเหมือนกับจะดึงดูตัวเธอเข้าไปเสียอย่างนั้น ลิซ่าก็ทำตัวสับสนขึ้นมา ผู้ชายคนนี้ช่างน่าสนใจเสียจริง!
“ถ้าอย่างนั้นสัญชาตญาณของคุณก็แม่นดีเหมือนกันนะ คุณเดาถูกแล้วล่ะ ฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคุณจะสามารถเอาชนะ” หวางต้าฉิวได้ ผู้ชายแบบคุณน่าจะเป็นทหารพันธมิตรนะ
มือของลิซ่าค่อยๆ มาจับที่ข้อมือของเนี่ยเฟิง ราวกับเป็นงูน้ำตัวนิ่ม มาพันรอบแขนของเนี่ยเฟิง
มือของลิซ่าไม่มีรอยแข็งกระด้างอะไรเลย มันนุ่มมาก ทำให้คนรู้สึกถึงคำว่า นุ่มไม่มีกระดูก คำนี้ขึ้นมา
เสี่ยวเฮยก็กำลังโมโหแต่พูดอะไรไม่ได้อยู่ข้างๆ ดวงตาของเขาแทบจะลุกเป็นไฟออกมาแล้ว
เนี่ยเว็บไซต์ก็จับมือของลิซ่าไว้ แล้วก็ดึงตัวเธอมาข้างหน้าตน เขามองลิซ่าลงไปข้างล่าง “น่าเสียดายมาก ผมไม่ได้สนใจอะไรในทหารพันธมิตรของคุณเลย”
“แล้วฉันล่ะ?” ลิซ่าก็ถือโอกาสเข้าไปซบตัวของเนี่ยเฟิง บนตัวเธอมีกลิ่นหอมระเรื่อ ชวนหลงใหลมาก แต่ไม่ได้มีแรงดึงดูดที่มีผลต่อเนี่ยเฟิงเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าผู้หญิงที่เนี่ยเฟิงเจอมา มันเยอะกว่าเส้นผมบนหัวเธอเสียอีก
“เหมือนกัน” พอเนี่ยเฟิงพูดจบก็ผลักตัวลิซ่าออก ลิซ่าก็มองเนี่ยเฟิงอย่างตะลึงๆ เนี่ยเฟิงจะรู้ไหมว่าตนเองกำลังทำอะไรลงไป?
“เห้ย!นี่คุณกล้าเสียมารยาทกับประธานงั้นหรือ?!”
เสี่ยวเฮยหัวเสียพุ่งเข้าไป แต่ในตอนนี้ลิซ่าก็เรียกเขาไว้ “โง่จริง คุกเข่าลง!”
เสี่ยวเฮยคุกเข่าลงฟุบลงที่พื้นทันที ท่าทางเหมือนคนรับใช้ เนี่ยเฟิงเห็นเสี่ยวเฮยมีท่าทางเสียใจแบบนั้น ก็ส่ายหัวพูดว่า “น่าเศร้าจริงๆ”
พอเนี่ยเฟิงพูดจบ ก็มองอย่างมีเลศนัยว่า จากนั้นก็เก็บสายตากลับมา แล้วก็ก้าวขายาวเดินออกห้องทำงานที่หรูหรานี้ไป เหลือไว้เพียงลิซ่าที่กำลังอึ้ง และเสี่ยวเฮยที่นั่งอยู่ที่พื้น
ลิซ่ารับรู้ได้ถึงความอัปยศที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เธอกำมือแน่น จากนั้นก็ค่อยๆ คลายออก แล้วเธอก็หัวเราะเสียงต่ำแล้วก็เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“น่าสนุกจริงๆ ที่โรงเรียนไม่เคยมีผู้ชายน่าสนใจแบบนี้มาก่อน ผู้ชายคนนี้จะต้องเป็นของฉัน” ลิซ่าตาเป็นประกาย
เนี่ยเฟิงออกมาเร็วแบบนี้ ทำให้พานฉางอันต้องรีบเดินตามเข้าไป แล้วก็รีบถามว่า “เป็นไงบ้างพี่เฟิง?”
“อะไรเป็นไง?”
“ไอหย๋า! ผมหมายถึงประธานเธอพูดว่าไงบ้าง?” พานฉางอันวิ่งเหยาะไปข้างๆ เนี่ยเฟิง เนื่องจากเนี่ยเฟิงเดินเร็วมาก ถ้าพานฉางอันไม่วิ่ง คงตามไม่ทันแน่
“เธอน่ะหรือ? เธออยากจะให้พี่ไปเข้าร่วมทหารพันธมิตร”
“โอ้โห!นี่มันเป็นเรื่องดีมากเลยนะพี่ ถ้าพี่ได้เข้าไปในทหารพันธมิตรล่ะก็ ขอเพียงได้อยู่กองทหารล่ะก็ พี่ก็จะเสพสุขอย่างไม่มีวันหมดสิ้น พี่รู้ไหมว่าแต่ละเดือนทหารพันธมิตรมีเงินเดือนเท่าไร? เป็นทองคำแท่งเลยนะ!”
เขารู้ว่าเนี่ยเฟิงจะต้องได้เข้าทหารพันธมิตรแน่!เป็นอย่างนั้นจริงๆ !
ตอนนี้พานฉางอันอยากจะหัวเราะให้ลั่น ถ้าหากว่าเขาสามารถเกาะอยู่กับคนที่เข้าร่วมกับกองทหารพันธมิตรล่ะก็ สำหรับเขาแล้ว ก็เหมือนกับทำอะไรได้ง่ายขึ้น พ่อของเขาแค่ฝันก็คงต้องยิ้มจนต้องตื่นขึ้นมาเลยล่ะ!