เนี่ยเฟิงพยุงลิซ่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ดูท่าเสน่ห์ของฉันคงแรงไม่พอสินะ ไม่อย่างนั้นทำไมนายไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่นิดเดียว”
ในสายตาของลิซ่ามองไปที่กางเกงของเนี่ยเฟิงอย่างไม่กลัวเกรง กวาดตาขึ้นลงมองไปตรงนั้น
เนี่ยเฟิงอดที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่ได้ กำลังในใจว่าเนี่ยเฟิงลิซ่าเปิดกว้างจริงๆ และสามารถพูดได้ทุกอย่าง
“แต่จากเสน่ห์ของฉันไม่ควรจะเป็นแบบนี้นะ หรือว่านายมีโรคที่ไม่กล้าบอกใครใช่ไหม?ถ้านายป่วยต้องไปหาหมอดูอาการหน่อยนะ ฉันรู้จักหมอที่เก่งหลายคนเลยล่ะ ไม่รู้ว่านายต้องการให้ฉันแนะนำให้ไหม?”
ลิซ่ายิ่งพูดมากเท่าไรเธอก็พูดแย่ลงเท่านั้น เนี่ยเฟิงนวดคลึงขมับแล้วตัดบทสนทนาของลิซ่าทันที“เธอมาที่นี่เพื่อทำอะไรกันแน่?ถ้าต้องการมาแค่แกล้งฉันด้วยเรื่องพวกนี้ล่ะก็ ผมว่ามันไม่จำเป็น”
“นายยังเป็นเหมือนเคยเลยนะที่ตรงเข้าประเด็นเลย แบบนี้มันทำให้หมดสนุกไม่น้อยเลยนะ แต่ทำยังไงได้ล่ะ?ฉันชอบสเปคอย่างนายนินา เอาล่ะฉันไม่พูดพล่ามกับนายแล้วละกัน ที่ฉันมาวันนี้ก็เพื่อจะถามนายว่าจะร่วมแข่งวิ่งมาราธอนด้วยกันไหม”
หลังจากที่รู้เรื่องการแข่งวิ่งมาราธอน ปฏิกิริยาแรกของลิซ่าคือการหาคนร่วมทีม ความจริงแล้วคนอย่างลิซ่าไม่จำเป็นต้องหาคนร่วมทีมด้วยซ้ำ
เพราะลิซ่าเป็นประธานสมาคมสมาพันธ์นักศึกษา ดังนั้นทุกคนจึงต่างแย่งกันกลัวตัวเองจะอยู่ข้างหลัง อยากจะร่วมทีมกับลิซ่า
ในปีก่อนๆผู้ที่สามารถร่วมทีมกับลิซ่าได้ล้วนเป็นสมาชิกของสมาพันธ์นักศึกษา คนที่ขาดไม่ได้ที่สุดนั่นก็คือเสี่ยวเฮย เพราะเสี่ยวเฮยเป็นบอดิการ์ดส่วนตัวของลิซ่า รักษาความปลอดภัยให้ลิซ่ามาโดยตลอด อย่าเห็นว่าเป็นแค่ประธานสมาคมนักศึกษาของสมาพันธ์นักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง แต่ประธานสมาพันธ์นักศึกษาที่ถูกลอบสังหารเมื่อหลายปีก่อนนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เนื่องจากพวกเขาล้วนเป็นคนชั้นสูง อีกทั้งสามารถเป็นประธานสมาคมของสมาพันธ์นักศึกษาได้ฐานะต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
“ไม่จำเป็นหรอก คนที่จะรวมทีมกับเนี่ยเฟิงคือฉันเอง เธอไปร่วมทีมกับสมาชิกของพวกเธอเถอะ!”
เวลานี้เองอลิสผลักประตูเข้ามา ความจริงแล้วอลิสพึ่งมาถึงได้ไม่นาน บังเอิญได้ยินพวกเขาพูดถึงเรื่องการแข่งขันวิ่งมาราธอน ถ้าถูกอลิสรู้ว่าเมื่อครู่ลิซ่านั่งบนตักของลิซ่าแนบสนิทชิดเชื้อล่ะก็ อลิสต้องหัวเสียมากแน่ๆ
“ฉันก็คิดว่าใครเสียอีก ที่แท้ก็เป็นเจ้าเมืองน้อยของเมืองทองนี่เอง เธอมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ”
“ยังไม่ชัดเจนอีกหรอว่าฉันมาทำอะไรที่นี่?ฉันร่วมทีมกับเนี่ยเฟิงเรียบร้อยแล้ว ทีมของเรามีคนครบแล้ว พวกเธอไม่ต้องเข้าร่วมหรอก!”
อลิสเชิดคางขึ้น ด้วยท่าทีหยิ่งยโส ลิซ่าจึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“หรือเธอไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงเป็นสมาชิกของสมาพันธ์นักศึกษาแล้ว?”
“ว่าไงนะ?!”
ข่าวนี้พึ่งถูกปล่อยออกไปเมื่อคืน ดังนั้นมีคนจำนวนมากที่ไม่รู้เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องปกติ
ประกอบกับอลิสไม่ค่อยสนใจพวกกระดานข่าว ด้วยเหตุนี้อลิสจึงไม่ได้รับข่าวอะไร นับหลังจากที่อลิสได้รู้ว่าเนี่ยเฟิงได้เข้าร่วมกับสมาพันธ์นักศึกษา สีหน้าของอลิสก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“เนี่ยเฟิง ทำไมนายถึงเข้าร่วมกับสมาพันธ์นักศึกษาล่ะ?นายไม่รู้เรื่องที่สมาพันธ์นักศึกษาเป็นสถานที่ที่กินคนไม่คายกระดูกหรอ ถ้านายเข้าร่วมกับสมาพันธ์นักศึกษานายจะต้องเสียใจทีหลังแน่?!”
อลิสกล้าหาญจริงๆ เธอยังกล้าใส่ร้ายสมาพันธ์นักศึกษาต่อหน้าลิซ่าแบบนี้อีก ลิซ่าหรี่ตาอันทรงเสน่ห์ที่เต็มไปด้วยอันตรายของเธอลง
อย่างไรก็ตามลิซ่ามีความสามารถและความมั่นใจนี้จริงๆนั่นแหละ เนื่องจากเธอเป็นเจ้าเมืองน้อยผู้น่ำรวยแห่งเมืองทอง
อลิสเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจว่า คิดว่าลิซ่าร่ายมนตร์อะไรใส่เนี่ยเฟิงเพื่อให้หลงรักหรือลิซ่าอาจจะขู่บังคับเนี่ยเฟิง นี่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเนี่ยเฟิงจะเข้าร่วมกับสมาพันธ์นักศึกษาได้อย่างไร?
“เจ้าเมืองน้อยพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆนะ ในสายตาของเจ้าเมืองน้อยสมาพันธ์นักศึกษาของเราเปราะบางอ่อนแอขนาดนี้เชียวหรอ?”
“เธอไม่จำเป็นต้องแกล้งอ่อนแอต่อหน้าฉันหรอกนะ ใครๆก็รู้ว่าสมาพันธ์นักศึกษาของพวกเธอมันเป็นยังไง ในมือของพวกเธอมีอำนาจ ดังนั้นจึง ข่มเหงคนดี หวาดกลัวคนชั่ว และสมาคมพวกนั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับสมาพันธ์นักศึกษาของพวกเธอ ล้วนไม่ใช่คนดีอะไร!”
อลิสเชิดปลายคางขึ้น ถึงครอบครัวของอลิสจะเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ชั่วช้าเลวทราม แต่อลิสไม่มีทางร่วมมือกระทำความชั่วกับคนของสมาพันธ์นักศึกษา ก่อนหน้านี้มีคนอยากให้อลิสเข้าร่วมกับสมาพันธ์นักศึกษา เพราะอลิสไม่อยากตัวเองเป็นสมาชิกของสมาพันธ์นักศึกษา ในสายตาของอลิส สมาพันธ์นักศึกษาเป็นการดำรงอยู่ที่สกปรกที่สุด
ประกอบกับตอนนี้อลิสกับลิซ่าสามารถพูดได้ว่าเป็นศัตรูหัวใจของกันและกัน สายตาที่อลิสมองไปที่ลิซ่าแทบลุกเป็นไฟออกมา
ดังคำที่กล่าวไว้ว่าเมื่อศัตรูความรักมาเจอกันจะอิจฉาริษยากันเป็นพิเศษ เนี่ยเฟิงสามารถรับรู้กลิ่นเขม่าดินปืนที่คละคลุ้งไปทั่ว ลิซ่าเป็นคนสร้างสมาพันธ์นักศึกษามาด้วยมือของเธอเอง ดังนั้นเส้นสายกับทรัพยากรที่อยู่ในมือของลิซ่าจึงมีเยอะมาก ลิซ่าจะปล่อยให้คนอื่นดูหมิ่นความสำเร็จที่ตัวเองสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเจ้าเมืองน้อยของเมืองทองก็ไม่ได้
สายตาของทั้งสองฝ่ายกำลังทำสงครามกัน เตรียมจู่โจมฝ่ายตรงข้าม ในเวลานี้เองจู่ๆพานฉางอันก็พูดขึ้นมาว่า
“แต่เมื่อกี้อลิสพูดแล้วไม่ใช่หรอครับ?เพื่อนพวกนั้นของคุณไปรวมทีมกับคนอื่นแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณไปหาใครมาร่วมแข่งขันกับเราอย่างนั้นหรอ?”
พานฉางอันไม่ได้สังเกตกลิ่นของเขม่าดินปืนที่คละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ คำพูดของเขาแค่ประโยคเดียวก็สามารถทำให้อลิสกับลิซ่าชะงัก ใบหน้าของอลิสแดงก่ำขึ้นมาในทันที เพราะอลิสหาคนไม่ได้จริงๆ
ที่อลิสรีบกลับมา ก็เพื่ออยากบอกกับเนี่ยเฟิงก่อน ให้เขาให้เวลาเธออีกหน่อยเพื่อไปหาคน แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่อลิสกลับมาจะได้ยินสิ่งที่ลิซ่าพูดกับเนี่ยเฟิง อลิสจะทนได้อย่างไร?
ลิซ่าหัวเราะออกมาในทันที เธอหรี่ตามองไปที่อลิสที่พูดโกหก
“เป็นถึงเจ้าเมืองน้อยแห่งเมืองทองแต่กลับหาคนร่วมทีมไม่ได้ ถ้าพูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อหรอกมั้ง?”
“จะเป็นได้ยังไงที่ฉันหาคนรวมทีมไม่ได้ เพียงแต่ฉันไม่ชอบรวมทีมกับพวกเขาแค่นั้นเอง!อีกอย่างนะ ฉันกับเนี่ยเฟิงรวมทีมกันสามารถได้ที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เพื่อนร่วมทีมเยอะขนาดนั้นหรอก!”
“ไม่ได้หรอก กฎก็ต้องเป็นกฎ หนึ่งทีมต้องมีห้าคน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีห้าคนถึงจะสมัครได้ ตอนนี้พวกคุณมีแค่สามคน ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันวิ่งมาราธอนได้อยู่ดี เอาอย่างงี้ไหมล่ะ?เพิ่มฉันไปด้วยคนหนึ่ง แล้วเพิ่มเสี่ยวเฮยไปด้วยก็จะมีห้าคนพอดี เราห้าคนรวมทีมกันแล้วค่อยยื่นใบสมัคร”
เสี่ยวเฮยเป็นบอดิการ์ดส่วนตัวของลิซ่า ไม่ว่าจะร่วมกิจกรรมอะไร เสี่ยวเฮยจะอยู่ข้างกายของลิซ่าตลอด
“ฉันไม่ร่วมทีมกับเธอหรอกย่ะ!”
กว่าจะหาโอกาสอยู่เนี่ยเฟิงสองต่อสองไม่ง่ายเลย อลิสจะยอมให้เอากขค.ไปได้อย่างไร อลิสยิ่งคิดยิ่งหัวเสีย
ลิซ่าเป็นคนที่คาดเดาใจคนอื่นได้ เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าอลิสกำลังคิดอะไรอยู่?
“หรือว่าเจ้าเมืองจะไม่กล้ารวมทีมกับฉัน?กลัวว่าฉันจะเก่งเกินไป แล้วปล้นรัศมีออร่าของเธอไป?”
อุบายของลิซ่า วิธีการเชิงรุกใช้ได้ผลเป็นอย่างมาก
“ห้ะ?เธอพูดพล่ามอะไรของเธอน่ะ?จะเป็นไปได้ยังไงที่ฉันจะกลัวว่าจะได้อยู่ทีมเดียวกับเธอน่ะ ฉันแค่เป็นห่วงว่าจะคนบางคนจะเป็นตัวถ่วงฉันต่างหาก!”
เป็นไปตามคาดอลิสติดเบ็ดจนได้ และได้ยินเพียงคำพูดของอลิซพูดคำเหล่านี้ด้วยความโกรธเคือง