พานฉางอันดูจริงจังมาก เพราะเขาได้ถือว่าเนี่ยเฟิงเป็นที่พึ่งของตนเองไปแล้ว เนี่ยเฟิงไม่ใส่ใจอะไร แต่เขาไม่ได้บอกพานฉางอันเรื่องจุดประสงค์ที่แท้จริงในการเข้าสมาพันธ์นักศึกษา
ตอนบ่าย เนี่ยเฟิงตรงไปที่สมาพันธ์วิทยาเขตA
พอมาถึงวิทยาเขตA เนี่ยเฟิงก็เห็นผู้ชายที่รูปร่างเหมือนหมีคนหนึ่ง
เสี่ยวเฮยใช้สายตาอันดุดันมองไปที่เนี่ยเฟิง ราวกับจะแผดเผาเนี่ยเฟิงให้เป็นจุน
ตอนนี้เสี่ยวเฮยรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก เพราะเนี่ยเฟิงได้เข้าร่วมกับสมาพันธ์นักศึกษาของพวกเขา นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์
ถึงแม้ในทุกปีประธานสมาพันธ์นักศึกษาจะคัดเลือกคนใหม่เข้ามา แต่คนใหม่เหล่านี้จะต้องผ่านการสังเกตการณ์ตลอดหนึ่งปีเมื่อเข้าสู่โรงเรียน เมื่อรวบรวมข้อมูลทุกอย่างได้แล้วถึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วม
ไม่เหมือนเนี่ยเฟิงที่เป็นอย่างในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาใช้เส้นสาย ดูท่านอกจากจะมีศิลปะการต่อสู้ ความสามารถอื่นๆจะไม่มีเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมลิซ่าอยากได้เขาเข้ามาในสมาพันธ์นักศึกษา
เสี่ยวเฮยกำหมัดแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
หลังจากที่ลิซ่าเห็นว่าเนี่ยเฟิงมาแล้ว ใบหน้าของเธอจึงมีรอยยิ้มสวยเผยให้เห็น จากนั้นลิซ่าก็ค่อยๆเดินมา
“ข้อมูลของนายฉันเตรียมไว้ให้แล้วนะ ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเรื่องพวกนั้นหรอก นายเป็นคนที่ฉันคัดเลือกเข้ามาด้วยตัวเอง งั้นนายก็จะมีสิทธิ์เลือกสาขาที่ไหนอยากเข้า นายพูดมาได้เลย อยากจะเข้าสาขาไหนหรืออยากจะอยู่กับฉันในฐานะรองประธานก็ได้”
เงื่อนไขที่ลิซ่าให้เขามามันดึงดูดใจมาก ต้องรู้ว่าการได้เป็นถึงรองประธาน อำนาจที่อยู่ในมือของเขาจะมีเยอะมากขึ้น
เสี่ยวเฮยที่ได้ยินลิซ่าพูดแบบนั้นจึงรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ดวงตาที่เขามองไปที่เนี่ยเฟิงจึงแทบจะลุกเป็นไฟ
เนี่ยเฟิงไม่ใส่ใจเสี่ยวเฉยแม้แต่น้อย เห็นเพียงแค่เนี่ยเฟิงหาที่แล้วนั่งลง สายตาของลิซ่ามองตามการเคลื่อนไหวของเนี่ยเฟิง
“ฉันต้องการอำนาจเด็ดขาด”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงนั่งลง เขาก็พูดกับลิซ่าอย่างจริงจัง เวลานี้เสี่ยวเฮยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เห็นเพียงแค่เขาพูดอย่างเย้ยหยันว่า
“นายไม่ดูตัวเองหน่อยล่ะว่าเป็นใคร!ถึงได้อยากจะมีอำนาจเด็ดขาด ถ้างั้นนายก็ต้องอยากได้ตำแหน่งของประธานสมาพันธ์เลยไม่ใช่หรอ?”
สีหน้าของลิซ่าเปลี่ยนไป เห็นเพียงลิซ่าถลึงตาใส่เสี่ยวเฮย ให้เสี่ยวเฮยหุบปาก ห้ามพูดอะไรไร้สาระ
เสี่ยวเฮยรู้สึกอัดอั้นมาก เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้
“ประธานครับ ผมไม่รู้ว่าไอ้หมอนี่ใส่ยาอะไรให้คุณกิน แต่ผมคิดว่าเขาไม่มีสิทธิ์เป็นประธานสมาพันธ์ เขาเป็นแค่นักเรียนที่ย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนเมื่อไม่นานมานี้เท่านั้น!ถ้าคุณให้เขาเป็นประธานของพวกเรา แล้วสมาชิกคนอื่นๆพวกเขาจะคิดยังไง?พวกเขาจะต้องคิดว่ามีอะไรดลจิตดลใจประธาน!”
“ฉันแยกแยะการตัดสินใจของฉันเองได้ ไม่ต้องให้นายมาสอนฉันหรอก อีกอย่างนายไม่มีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันอย่างนี้ นายเป็นแค่ลูกน้องฉันคนหนึ่งเท่านั้น”
ระหว่างพวกเขามีการแบ่งแยกลำดับชั้นที่เข้มงวดมาก เสี่ยวเฮยรู้ดีไม่ว่าอย่างไรตนเองก็เป็นแค่บอดิการ์ดคนหนึ่งของลิซ่าเท่านั้น
แต่เสี่ยวเฮยไม่เคยคิดว่าก่อนว่า ลิซ่าจะปฏิบัติกับตนเองเช่นนี้เพื่อคนนอกคนหนึ่ง เสี่ยวเฮยรู้สึกเจ็บปวดมาก แต่เขาไม่สามารถจากลิซ่าไปไหนได้ เพราะเขารักลิซ่าจริงๆ
ตอนนี้เนี่ยเฟิงยกมือขึ้นมาเพื่อห้ามบทสนทนาของทั้งสองคน
“นายพูดผิดแล้วล่ะ ฉันแค่อยากได้อำนาจเด็ดขาด แต่ฉันไม่ได้อยากเป็นประธานหรอก และไม่อยากเป็นสมาชิกหนึ่งในสมาพันธ์นักศึกษาของพวกนายด้วย”
เสี่ยวเฮยรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก ดวงตาทั้งคู่ของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ถ้าเป็นแบบนั้น เนี่ยเฟิงก็อยากได้อำนาจของสมาพันธ์นักศึกษาไปฟรีๆน่ะสิ?!
“นายกล้าดียังไง สมองของนายเต็มไปด้วยความคิดแปลกๆ นายคิดว่าประธานของเราจะมอบอำนาจแบบนั้นให้นายงั้นหรอ?”
เสี่ยวเฮยไม่อยากจะเชื่อ การกระทำของเนี่ยเฟิงไม่อยากทำงานด้วยซ้ำ ไม่คิดจะให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น เขาเพียงต้องการอำนาจสูงสุดของสมาพันธ์นักศึกษา
สมาพันธ์นักศึกษาในทุกวิทยาเขตดูเหมือนจะเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดตัวจริง
พวกเขาควบคุมทรัพยากรทุกวิทยาเขต รวมถึงข้อมูลทั้งหมดของนักเรียนภายในวิทยาเขต
ถ้าหากบุคคลหนึ่งสามารถได้รับอำนาจเด็ดขาดของสมาพันธ์นักศึกษา อย่างนั้นเขาไม่เพียงแต่จะสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งยังจะได้รับทรัพยากรจำนวนมากอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นใครล้วนอยากได้อำนาจแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่อำนาจยิ่งใหญ่มากเท่าไรภาระหน้าที่จะเยอะมากเท่านั้น ก็เหมือนกับประธานลิซ่า ถึงเธอจะมีอำนาจยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่เธอยังต้องรักษาสมดุลของทั้งวิทยาเขตด้วย
ไอลีนที่มีชีวิตไม่ค่อยดีเท่าไร เธอจำเป็นต้องพึ่งพาเทพเจ้าในวิทยาเขตของพวกเขา นั่นก็คือหลุยส์
นอกจากหลุยส์แล้ว ไอลีนยังไปสร้างสัมพันธ์กับคนจำนวนมากอีกด้วย
ลิซ่าไม่มีปัญหานี้เลย เพราะฐานะของลิซ่าก็มีให้เห็น ลิซ่ากับหลุยส์แทบจะอยู่ในระดับเดียวกัน พ่อของพวกเขาทั้งสองคนเป็นผู้บัญชาการพันธมิตรที่หนึ่ง
ดังนั้นลิซ่าจึงใช้ชีวิตอยู่ในวิทยาเขตAอย่างสุขสบาย เพราะในมือของลิซ่ามีอำนาจเด็ดขาด
เป็นอำนาจที่คนจำนวนมากเฝ้าถวิลหา มีเพียงลิซ่าคนเดียวเท่านั้นที่มีความสามารถนี้
“เสี่ยวเฮย ที่นี่นายไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น”
ลิซ่าถลึงตาใส่เสี่ยวเฮย จากนั้นเธอก็ หัวเราะแล้วมองไปที่เนี่ยเฟิง
“แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว นายอยากได้อำนาจยังไงฉันให้นายได้ทั้งหมดเลย”
“ไม่ได้นะครับประธาน คุณรู้ผลของการใช้อำนาจที่ผิดไหม?ถ้าเขามีอำนาจแบบนี้จะต้องทำให้วิทยาเขตAไม่สงบสุขอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นมันไม่ใช่สิ่งที่สมาพันธ์นักศึกษาของเราจะรับไหว!”
เสี่ยวเฮยยังคงไม่สามารถ ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ เขาเป็นห่วงว่าลิซ่าอาจจะถูกสะกดจิตหรือถูกข่มขู่ ไม่อย่างนั้นลิซ่าจะตอบตกลงเงื่อนไขแบบนี้ของเนี่ยเฟิงได้อย่างไร?นี่เป็นเงื่อนไขที่ไร้เหตุผลสุดๆ
“เสี่ยวเฮยแม้แต่ฉันก็ไม่สามารถ สั่งการนายได้แล้วอย่างงั้นหรอ?ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นนายก็ลาออกเองเถอะ ตัวฉันตัดสินใจยังไงฉันรู้ ไม่ต้องให้นายมาสั่งสอนฉันหรอก”
สายตาของลิซ่าเย็นชามาก เขามองเสี่ยวเฮยด้วยหัวใจที่เยือกเย็น แต่เสี่ยวเฮยไม่สามารถลาออกได้ เสี่ยวเฮยจึงทำได้เพียงแค่หุบปากไม่พูดอะไรอีก
“เนี่ยเฟิงฉันสามารถตอบรับเงื่อนไขของนายได้ แต่ฉันต้องรู้ก่อนว่านายจะทำอะไรบ้าง”
“ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องดึงฉันเข้าสมาพันธ์นักศึกษาหรอก ระหว่างที่ฉันอยู่ในสมาพันธ์นักศึกษาฉันจะทำให้พวกเธอได้รับประโยชน์ที่มากกว่านี้ แต่ฉันบอกแล้ว ฉันต้องได้รับอำนาจเด็ดขาดมาก่อน อำนาจเด็ดขาดยังหมายความว่าฉันจะมีอำนาจเหนือกว่าเธอ”
สิ่งที่เนี่ยเฟิงกล่าวออกมาก็คือไม่มีช่องว่างให้โต้แย้งใดๆทั้งสิ้น ลิซ่าหรี่ตาลง ความจริงนี่เป็นการตัดสินใจที่อันตรายมาก แต่ลิซ่ากลับอยากเสี่ยงดูสักตั้ง เธอรู้สึกว่าเนี่ยเฟิงอาจจะเป็นคนที่ทำให้ประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึงก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นลิซ่าจึงพยักหน้า
“ได้ ฉันตกลงเงื่อนไขของนาย”
นี่มันไม่เท่าเทียมกันด้วยซ้ำ เสี่ยวเฮยคิดว่าเนี่ยเฟิงต้องถูกเนี่ยเฟิงทำเสน่ห์ใส่อย่างแน่นอน แต่เขาไม่มีสิทธิ์พูดอย่างนั้น เพราะตำแหน่งของเขาต่ำต้อยเกินไป
เมื่อทั้งสองพูดคุยกันจบ หลังจากที่เนี่ยเฟิงเดินออกมาจากสมาพันธ์นักศึกษา เสี่ยวเฮยจึงเดินตามมาทันที
“ฉันไม่เชื่อใจนาย ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่านายพูดอะไรกับประธานของเราไว้ก็ตาม”