รถที่เนี่ยเฟิงขึ้นเสี่ยวเฮยเป็นคนขับ หลังจากเสี่ยวเฮยเห็นเนี่ยเฟิงขึ้นรถแล้ว เคารพนบนอบพูดกับเนี่ยเฟิงว่า “คุณเนี่ย ที่พวกเราจะไปตอนนี้คือโรงแรมอัญมณี คุณหนูและนายท่านรออยู่ที่นั่นแล้ว”
สถานะแบบนี้ของเสี่ยวเฮยจะไม่สามารถปรากฏตัวตามสังคมได้ กล่าวโดยทั่วไปงานนัดพบปะงานชุมนุมผู้บริหารระดับสูง จะไม่พาบอดี้การ์ดเข้าไปด้วย พวกบอดี้การ์ดล้วนเฝ้ารออยู่ข้างนอก ถ้าหากข้างในเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา พวกเขาจะพุ่งเข้าไปเป็นกลุ่ม
กล่าวโดยทั่วไปจะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา เพราะว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยของโรงแรมอัญมณีทำได้ดีมาก พูดได้ว่าแข็งแกร่งมากไม่สามารถตีให้แตกได้ การปกป้องรักษาละเอียดรอบคอบมาก ไม่ใช่ใครๆล้วนจะสามารถเข้าไปได้ ทุกคนที่เข้าไปล้วนต้องผ่านการตรวจสอบเป็นชั้นๆ ตรวจเช็คความปลอดภัยเป็นชั้นๆ อยากจะพกอาวุธเข้าไปจะเป็นไปไม่ได้นะ
แต่สำหรับเนี่ยเฟิงมากล่าว สิ่งเหล่านี้ยังเหมือนแค่การก่อตั้งแบบจอมปลอม เพราะว่าเนี่ยเฟิงไม่ต้องการของที่มีชื่อว่าอาวุธจริงๆ
เศษแก้วไวท์ชิ้นหนึ่งก็สามารถกลายเป็นอาวุธของเนี่ยเฟิงได้ เนี่ยเฟิงอยากจะฆ่าคนไม่จำเป็นต้องสลับซับซ้อนขนาดนั้น
เนี่ยเฟิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก เสี่ยวเฮยก็เลยขับรถออกไปเลย ถ้าหากเป็นเสี่ยวเฮยในยามปกติย่อมจะไม่พอใจมากแน่นอน เพราะว่าเสี่ยวเฮยล้วนไม่มีสีหน้าที่ดีอะไรให้กับเนี่ยเฟิงมาโดยตลอด เพียงแต่ครั้งก่อนเนี่ยเฟิงช่วยพวกเขาไว้ ช่วยลิซ่าไว้ ดังนั้นเสี่ยวเฮยก็เลยมองด้วยสายตาที่ทึ่งกับเนี่ยเฟิงแล้ว
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงแรมอัญมณีแล้ว โรงแรมอัญมณีนี้เหมือนดั่งชื่อนี้จริงๆ ไม่ว่าในและนอกล้วนเปิดเผยใหญ่โตรโหฐานอยู่
เพียงแค่ดูล้วนทำให้คนรู้สึกมองเห็นก็หยุดชะงัก แต่สิ่งก่อสร้างแบบนี้อยู่ในเมืองจันทร์ทองคำมีมากมาย
ถึงยังไงเมืองจันทร์ทองคำทั้งถูกเรียกว่าเป็นสถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทองคำคนมีเงินที่อยู่ในนี้มากเกินไปแล้วจริงๆ เพียงแค่มือข้างเดียวล้วนนับไม่ถ้วนเลยสักนิด เต็มทั่วทุกที่ และพ่อค้าที่ร่ำรวยเหล่านี้ทั้งแบ่งเป็นระดับชั้นต่างๆมากมายหลากหลาย บุคคลที่รวยชั่วข้ามคืนอยู่ที่นี่ไม่สามารถปรากฏตัวตามสังคมได้เลยสักนิด
คนที่มีเงินมีอำนาจมีความสามารถ ฝีมือแข็งแกร่งพอ จึงจะสามารถได้รับความเคารพจากคน
และเป็นเพราะว่าที่นี่ร่ำรวยมั่งคั่งนั่นเอง ดังนั้นมีคนมากมายไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็วิ่งมาที่นี่ อยากจะอาศัยสมองหรือว่าความสามารถของตนเองคว้าเงินก้อนใหญ่สักก้อนอยู่ที่นี่ มีบางคนทำสำเร็จแล้วจริงๆ มีบางคนกลับอยู่ที่นี่ต่อไม่กลับไปอีกเลย เพราะว่าที่นี่เคียงคู่ด้วยความตายและความร่ำรวยมีเกียรติ
เสี่ยวเฮยพาเนี่ยเฟิงขึ้นชั้นที่ยี่สิบสี่ของโรงแรมอัญมณีที่เป็นห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่มากๆแห่งหนึ่ง
ยังไม่ทันเข้าไปล่ะ เนี่ยเฟิงก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้อย่างหนึ่ง นอกจากนี้แล้ว ยังมีบอดี้การ์ดไม่น้อยเฝ้ารออยู่ข้างนอกแล้ว
บอดี้การ์ดเหล่านั้นใช้สายตาที่พิจารณาดูอย่างรอบคอบจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่หายไปในชั่วพริบตาเดียว เพราะว่าพวกบอดี้การ์ดไม่เพียงแค่ต้องจัดการการบุกรุกและก่อกวนจากโลกภายนอกเท่านั้น ยังต้องสังเกตคนเหล่านั้นที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย
เสี่ยวเฮยเข้าไปไม่ได้ ดังนั้นเนี่ยเฟิงต้องเข้าไปเอง
หลังจากเนี่ยเฟิงผ่านการตรวจเช็คความปลอดภัยแล้ว เดินตรงเข้าไปยังห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ และในเวลานี้ข้างในมีคนมากมายหลายหลากกำลังเต้นรำอยู่ในฟลอร์เต้นรำ ยังมีคนบางส่วนเจรจาหารืออยู่ข้างๆ ที่นี่แสงไฟแวววาว บนใบหน้าของทุกคนล้วนแขวนไว้ด้วยรอยยิ้มที่เหมาะสม เพียงแค่พอดูให้ละเอียดจึงพบเห็นรอยยิ้มของคนเหล่านี้จะไม่ถึงนัยน์ตานะ ทุกคนล้วนแทบจะเหมือนกัน
พวกเขาเยินยอด้วยความประจบพูดคำพูดที่สวยงามกับฝ่ายตรงข้าม ชมเชยยกย่องพวกเขาอยู่ ตามความจริงนี่เป็นงานเลี้ยงที่จอมปลอมฉากหนึ่ง
การมาถึงของเนี่ยเฟิงไม่ได้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆเลย เขาดูแล้วก็เหมือนไอ้คนที่ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่ง และที่นี่คนที่เหมือนเนี่ยเฟิงอย่างนี้มีมากมาย พวกเขาไม่ใช่ผู้ที่อยู่ตำแหน่งสูง ด้วยเหตุนี้ก็ไม่ค่อยมีคนสนใจ
เนี่ยเฟิงตามหาไปหนึ่งรอบ ก็ไม่เห็นลิซ่าเช่นกัน ดังนั้นเขาหาที่นั่งสักแห่งนั่งลงอย่างตามใจ อาหารของที่นี่ยังถือว่าไม่เลว เขาถือจานหยิบมาบางอย่าง ตามความจริงคนที่มานี่จะไม่กินอาหาร ในมือของทุกคนล้วนแทบจะถือไวท์หรือว่าแชมเปญ หรืออาจจะเป็นเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง พวกเขาสร้างปาร์ตี้สนุกสนาน แสร้งทำเป็นซื่อ
เนี่ยเฟิงเพิ่งกินของหวานไปคำหนึ่ง รู้สึกยังไม่เลว ในเวลานี้มีเงากายหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา
“เนี่ยเฟิงเหรอ?! คุณอยู่นี่ได้ยังไง เมื่อกี้ฉันยังคิดว่าตนเองมองผิดแล้วหรือไม่ ดังนั้นฉันตั้งใจเข้ามาทำให้แน่ใจสักหน่อย คิดไม่ถึงเป็นคุณจริงๆล่ะ คุณมานี่ได้ยังไงล่ะ? มีคนเชื้อเชิญคุณมาใช่หรือไม่?”
คนที่เจี้ยวๆจ้าวๆพูดอยู่นั้นไม่ใช่คนอื่นเป็นอลิซนั่นเอง เนี่ยเฟิงเงยหน้ามองเห็นอลิซ เธอสวมใส่ชุดราตรีสีเหลือง เห็นแล้วสวยงามสดใสสะเทือนใจ
ยามปกติอลิซอยู่ในโรงเรียนล้วนใส่ชุดลำลอง แต่ถึงแม้ว่าเป็นเช่นนี้ก็ปกปิดความงดงามของอลิซไม่ได้
และอลิซที่ผ่านการแต่งตัวอย่างดีที่สุดมาในวันนี้ ดูแล้วยิ่งงดงามสะเทือนใจมากอีก ทำให้คนพอเห็นก็จะถูกยึดครองแล้ว เนี่ยเฟิงพินิจพิเคราะห์อลิซขึ้นลงหนึ่งรอบ จากนั้นพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
“เสื้อชุดนี้เลือกมาได้ไม่เลว การแต่งตัวของคุณในวันนี้สวยมาก”
เนี่ยเฟิงไม่ตระหนี่ขี้เหนียวคำชื่นชมของตนเองเลย ถึงยังไงอลิซยังเป็นลูกศิษย์ของเขา หลังจากอลิซได้ยินแก้มทั้งคู่แดงขึ้นเลย โชคดีว่าทาแป้งอยู่ดังนั้นมองไม่ค่อยออก อลิซหมุนหนึ่งรอบอยู่ข้างหน้าเนี่ยเฟิง ภูมิใจเหลือเกินเชิดคางแล้วเชิดคางอีก
“นี่แน่นอนอยู่แล้ว อยู่ในโรงเรียนมีคนมากมายล้วนตามจีบฉัน ก็เป็นเพราะว่าฉันหน้าตาสวย!”
อลิซนั่งอยู่ตรงข้ามเนี่ยเฟิง เห็นเนี่ยเฟิงกำลังกินอาหารที่อยู่ในงานเลี้ยง เธอมีความตกใจเล็กน้อย เพราะว่าตั้งแต่เด็กบิดาของเธอก็สอนสั่งเธอว่ามางานเลี้ยงกินอาหารไม่ได้ อย่างมากดื่มได้แค่ไวท์เล็กน้อย
เพราะว่าสุภาพสตรีคนหนึ่งจะไม่กินอาหารอยู่ในห้องจัดเลี้ยง ดูแล้วไม่งดงามมากเกินไปแล้วจริงๆ
แต่เนี่ยเฟิงเห็นได้ชัดว่าจะไม่ถือสาสายตาของคนอื่น เขากินเหมือนดั่งไม่มีใครอยู่ข้างๆ ก็ดึงดูดความสนใจของคนไม่น้อย
“ยังไงเหรอ? คุณอยากเอาสักชิ้นเลยเชียวเหรอ?”
ช่วงนี้อลิซติดตามเนี่ยเฟิงฝึกกังฟูด้วย ดังนั้นหิวค่อนข้างเร็ว
เห็นเนี่ยเฟิงกินมากขนาดนั้น อลิซก็มีความระส่ำระสายอยากจะเคลื่อนไหวเล็กน้อย ถึงแม้ว่าก่อนที่เธอจะมากินข้าวมาก่อนแล้ว แต่ตอนนี้เธอมีความรู้สึกหิวเล็กน้อยจริงๆ หลักการกับความเห็นแก่ตัวของอลิซขัดแย้งกันในใจ สุดท้ายอลิซยังคงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก
“ท้องหิวอยู่จะไม่สามารถทำการต่อสู้อยู่ในสนามรบนะ จะต้องรับรองกำลังวังชาของตนเองอย่างแน่นอน ถ้าหากคุณหิวแล้วล่ะก็สามารถกินสักหน่อย”
แม้คำพูดจะพูดเช่นนี้ แต่ความเคยชินที่ผ่านมาหลายปีนี้แกะสลักอยู่ในส่วนลึกของจิตใจอลิซไปแล้ว อลิซกินไม่ได้ ดังนั้นอลิซเปลี่ยนหัวเรื่องการพูดคุยไปเลย ซักถามเนี่ยเฟิงว่ามานี่ได้ยังไง ตกลงเป็นใครเชื้อเชิญเขามา
“คนที่เชื้อเชิญเนี่ยเฟิงย่อมเป็นฉันอยู่แล้ว”
คนที่พูดอยู่ไม่ใช่คนอื่น เป็นลิซ่านั่นเอง สิ่งที่ลิซ่าสวมใส่ในวันนี้เป็นชุดราตรีสีม่วงชุดหนึ่ง เห็นแล้วเรียบๆงดงามสูงส่ง เส้นผมของเธอม้วนขึ้นใช้เพชรเป็นเครื่องประดับ ดูแล้วแวววาวละลานตา
บนใบหน้าของลิซ่าเป็นการแต่งหน้าที่ประณีต เธอยิ้มแล้วยิ้มอีก เดินถึงข้างหน้าเนี่ยเฟิง ชุดที่ทั้งสองคนสวมใส่ถึงขนาดสอดคล้องกันและกันจากที่ไกลๆ หลังจากอลิซเห็นชุดราตรีนี้ สีหน้าขึงลับลง
อลิซเม้มปากแล้วเม้มปากอีก “อย่าคิดว่าแบบนี้คุณก็จะสามารถมีฝีเท้าเร็วชิ่งไปก่อนเลย ฉันกับเนี่ยเฟิงของฉันมีความลับที่ร่วมกันปกป้องอยู่นะ!”
“ใช่เหรอ? แต่เนี่ยเฟิงเป็นว่าที่สามีของฉันแล้ว วันหลังคุณยังคงอย่าคิดอะไรเกินควรกับเขาดีกว่า มิฉะนั้นฉันจะไม่เกรงใจกับคุณแล้วนะ”
ลิซ่าพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย นี่ทำให้อลิซเบิกตาโพลง อลิซยากที่จะเชื่อจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง
“เนี่ยเฟิงสิ่งที่ลิซ่าพูดเป็นจริงหรือเท็จล่ะ? คุณอยู่ด้วยกันกับลิซ่าแล้วจริงๆเหรอ?”