พานฉางอันเห็นไอ้หนุ่มนั่นวิ่งหนีไปแบบนั้นแล้ว ในใจมีความไม่สมัครใจเล็กน้อย เดิมทีพานฉางอันยังกังวลใจเหลือเกิน ไม่รู้ว่าล่วงเกินคอนสแตนตินเจ้าเมืองน้อยของเมืองหยกวิศิษฏ์จะถูกลงโทษจนน่าเวทนามากหรือไม่ นึกไม่ถึงคอนสแตนตินคนนี้อ่อนแอขนาดนั้น
หลังจากเนี่ยเฟิงเห็นคอนสแตนตินขับรถออกไป เขาเก็บสายตากลับมา จากนั้นพูดกับพานฉางอันว่า “พวกเราสะเปะสะปะซื้อรถสักคันเถอะ”
สำหรับเนี่ยเฟิงมากล่าว รถไม่มีดีแย่ที่แน่นอน เพียงแค่ขับได้ ความเร็วค่อนข้างดี นั่นก็ใช้ได้แล้ว
ถ้าหากไปสถานที่ไกลหน่อย เนี่ยเฟิงจะขับเครื่องบินไปโดยตรงเลย ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นที่จะขับรถไป
ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนสะเปะสะปะซื้อรถคันหนึ่ง อยู่ภายใต้คำแนะนำของพานฉางอันเนี่ยเฟิงซื้อรถสปอร์ตLamborghiniเลย
รถสปอร์ต Lamborghini คันนี้แท้ที่จริงสมรรถนะยังถือว่าค่อนข้างไม่เลวนะ แต่เนื่องเพราะราคาอยู่ที่นี่มากที่สุดก็นับได้ว่าเป็นรถประเภทระดับกลางเท่านั้น
ประเด็นหลักคือที่นี่มีรถหรูหราทั่วทุกที่จริงๆ
หลังจากทั้งสองคนซื้อรถเสร็จไปกินข้าวพร้อมกัน ในเวลานี้พานฉางอันนั่งอยู่บนรถใหม่ ตื่นเต้นดีอกดีใจมากๆ รถสปอร์ต Lamborghini คันนี้มีที่นั่งแค่สองที่ ที่หนึ่งเป็นคนขับอีกที่หนึ่งเป็นที่ข้างคนขับ
ตามความจริงรถสปอร์ตส่วนมากโดยพื้นฐานล้วนเป็นสองที่นั่งเท่านั้น
ยามปกติพานฉางอันก็ปรารถนาที่จะมีรถคันหนึ่งเป็นของตนเอง เพียงแต่บ้านของพานฉางอันจ่ายไม่ไหวจริงๆ ดังนั้นเพื่อที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย ตลอดเวลามาพานฉางอันไม่มีรถสปอร์ตคันแรกของชีวิตเลย
ถึงแม้ว่าในมือของพานฉางอันตอนนี้มีเงินแล้ว แต่พานฉางอันกลับไม่กล้าใช้เงินก้อนนี้ไปทั่ว เพราะว่าเงินก้อนนี้เนี่ยเฟิงมอบให้เขา เขารู้สึกละอายในการรับ เนี่ยเฟิงรับปากเป็นอาจารย์ของตนเองแล้ว จะสอนสั่งสิ่งมากมายขนาดนั้นให้กับเขา ถ้าหากเขาเอาเงินไปอีก นั่นจะไม่ใช่คนแล้ว?
ถ้าหากเนี่ยเฟิงสามารถรู้ว่าพานฉางอันกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะก็ เขาย่อมจะหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะว่าเงินก้อนนี้สำหรับเขามากล่าวก็นับได้เพียงว่าเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วเท่านั้นจริงๆ ถ้าเป็นยามปกติล้วนจะไม่ไปดูสักที
แต่นึกไม่ถึงพานฉางอันกลับถือเงินก้อนนี้เป็นการทดสอบที่ตนเองให้กับเขา
“พี่เฟิง คืนนี้พวกเราจะเชื่อฟังไอ้หนุ่มนั่นไปรอพวกเขาที่ถนนคดเคี้ยวโน่นเชียวเหรอ? ไอ้คนนั้นเป็นผู้บ้าคลั่งที่ชอบแข่งรถคนหนึ่ง ให้พวกเราไปที่ถนนคดเคี้ยวโน่นเห็นได้ชัดก็คืออยากจะแข่งรถกับพวกเราล่ะ ถ้าหากพวกเราไปล่ะก็ เป็นไปได้จะเกิดเรื่อง ไม่แน่ว่าอาจจะมีอันตรายด้วย”
ช่องว่างในระหว่างกินข้าว พานฉางอันพูดเจื้อยแจ้ววิเคราะห์ ความประสงค์ที่คอนสแตนตินให้พวกเขาไปถนนคดเคี้ยวขึ้นมาเลย
เนี่ยเฟิงกินข้าวไปคำหนึ่ง จากนั้นพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “งั้นพวกเราก็ไปสักรอบเถอะ ไอ้คนนี้ไม่เห็นพวกเราคาดว่าจะไม่ยอมปล่อยแน่ล่ะ”
พานฉางอันรู้ว่าหลักการเป็นเช่นนี้ แต่ในใจพานฉางอันยังคงกังวลมาก
“พี่เฟิงผมไม่ได้คิดจะสงสัยความคิดของคุณเลย ผมเพียงพูดว่าไอ้คนนั้นบ้าคลั่งมากเกินไปแล้ว อยู่ในมือของเขามีนักแข่งรถที่ยอดเยี่ยมไม่กลัวตายหลายคน นักแข่งรถเหล่านี้ต่อถนนคดเคี้ยวนั้นล้วนรู้อย่างแจ่มแจ้งดุจนิ้วบนฝ่ามือ ถ้าพวกเราแข่งรถกับเขาล่ะก็ได้แต่เสียเปรียบ”
พานฉางอันมีความวิตกกังวลกับเป็นห่วงเช่นนี้ก็เป็นเรื่องปกติมาก เนี่ยเฟิงเข้าใจมากๆ แต่เพราะว่าเป็นเช่นนี้นั่นเองเนี่ยเฟิงจึงยิ่งต้องไป
“เขารู้สึกว่าตนเองจะชนะอย่างแน่นอน ถ้าหากพวกเราไปทำลายความคิดเช่นนี้ของเขา จะไม่ใช่ยิ่งสนุกกว่าเหรอ?”
แม้คำพูดอย่างนี้ไม่ผิด แต่ความกังวลที่อยู่ในใจพานฉางอันยังคงแค่เพิ่มแต่ไม่ลด
พานฉางอันจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิงที่มั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยมหนึ่งที ได้แต่กลืนคำพูดถัดมานี้ลงท้องไปเลย
และอีกฝั่งหนึ่งคอนสแตนตินโกรธตัวสั่นกลับถึงบ้านตนเอง เห็นเพียงเขาฟาดของที่ฟาดได้ล้วนฟาดไปหมด กระทั่งแม้แต่รถของตนเองล้วนทุบจนแหลกเลย
คอนสแตนตินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโมโห เมื่อกี้อยู่ในแหล่งขายรถนั้นถึงขนาดถูกไอ้คนอย่างนี้คนหนึ่งทำให้อับอายขายหน้า พอคอนสแตนตินนึกถึงจุดนี้ก็โมโหเหลือเกิน เขากำกำปั้นอย่างแน่น ความโมโหพุ่งสูงขึ้นสู่ฟ้า
“ไอ้หนุ่ม ผมไม่รู้ว่าตกลงคุณมีภูมิหลังอะไรกันแน่ แต่คืนนี้คุณตายแน่!”
ในเวลานี้ยามนี้มองเห็นแต่สิ่งที่จะได้อยู่ข้างหน้า แต่หารู้ไม่ว่ายังมีภัยมหันต์กำลังจะตามมา แอนโทนี่เห็นทั้งหมดนี้อยู่ลับหลังแล้ว เดิมทีแอนโทนี่คิดอยากจะก้าวก่ายมากหน่อย แต่แอนโทนี่ คิดแล้วคิดอีก ไม่ดีเท่าอาศัยโอกาสนี้จัดการเนี่ยเฟิงไปเลย
แม้ว่าบิดาของคอนสแตนตินจะทำงานให้กับตนเอง แต่นั่นยังไงอีกล่ะ ถ้าหากคอนสแตนตินสละชีพเพื่อเรื่องของตนเองล่ะก็ นั่นก็เป็นเกียรติและโชคดีของคอนสแตนตินแล้ว
“ไปสืบให้ชัดเจนคืนนี้พวกเขาจะไปแข่งรถอยู่ถนนไหน แอบวางหมากอยู่ที่นั่นสักหน่อย ทำให้รถพวกเขาพังคนตาย!”
ถ้าเป็นอย่างนี้เขากระทั่งไม่ต้องให้ลงมือเองก็ได้
เขาพอนึกถึงจุดนี้ ก็รู้สึกในใจสะใจและมีความสุข
ไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็มาถึงกลางคืนแล้ว เนี่ยเฟิงขับรถพาพานฉางอันมาถึงถนนคดเคี้ยวด้วยกัน
ที่นี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการแข่งรถจริงๆ ไม่มีครัวเรือนธรรมดาเลย ล้วนเป็นฮอลิเดย์วิลล่าบ้างเล็กน้อย ตลอดทั้งปีไม่มีคนมาพักอยู่ที่นี่
ถนนคดเคี้ยวแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงแห่งหนึ่ง และข้างซ้ายของภูเขาสูงแห่งนี้ติดกับทะเล ล้วนเป็นหินโสโครกกับคลื่นทะเลไปทั่วทุกที่ ดูในตอนกลางคืนอึมครึมหนาวเย็น แต่กลางวันดูแล้วกลับสวยงามมาก
ก็มีชายหญิงที่ไม่น้อยจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกอยู่ที่นี่ แต่นี่ก็เป็นส่วนน้อย เพราะว่าถนนคดเคี้ยวเส้นนี้ถูกแก๊งแข่งรถยึดครองไปนานแล้ว ถึงตอนกลางคืนแก๊งแข่งรถก็จะเป็นกลุ่มปีศาจร้ายร่ายรำอย่างบ้าคลั่งอยู่ที่นี่ แต่อยู่ในแก๊งแข่งรถเหล่านี้มีแก๊งแข่งรถแก๊งหนึ่งที่บ้าระห่ำกำเริบเสิบสานเป็นพิเศษ แก๊งแข่งรถแก๊งนี้ก็คือคอนสแตนตินก่อตั้งขึ้นมา
Lamborghiniสีฟ้าคันนั้นของพวกเขาเนี่ยเฟิงจอดอยู่ใต้ถนนคดเคี้ยวและในเวลานี้ถนนที่มืดตึ๊ดตื๋อสว่างขึ้นอย่างดุเดือด นี่ไม่ใช่ไฟถนนเลย แต่เป็นไฟสูงของรถ
“ไอ้ควย ไอ้คนเหล่านี้เป็นประสาทแดกมั้ง เปิดไฟสูงจะส่องให้ตาของคนบอดเลยเหรอ!”
พานฉางอันรีบใช้มือปิดตาตนเองไว้ แต่เนี่ยเฟิงเพียงแค่ทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีกเล็กน้อย จากนั้นลงจากรถปิดประตูรถไว้อย่างไหลลื่นเป็นธรรมชาติ พานฉางอันยังต้องหมุนตัวหนึ่งทีจึงลงจากรถได้
เป็นอย่างที่คิดไว้คนขายาวลงจากรถล้วนง่ายกว่าหน่อยจริงๆ
และในเวลานี้รถสปอร์ตสีแดงคันหนึ่งชั่วพริบตาเดียวมาถึงต่อหน้าพวกเขาเกือบจะชน Lamborghini สีฟ้าคันนั้นไปเลย เนี่ยเฟิงกลับล้วนไม่ใส่ใจสักนิด ถ้าหากมีคนกล้าชนรถของเขา งั้นเขาก็จะให้ฝ่ายตรงข้ามจ่ายคืนสิบเท่า
“ไอ้หนุ่มนึกไม่ถึงคุณยังกล้ามาจริงๆ!”
ในเวลานี้คอนสแตนตินเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าบาดแผลหายแล้วก็ลืมว่าเคยเจ็บ เขากระโดดออกมาร้องตะโกนอยู่ทันที
สิ่งที่สวมใส่อยู่บนกายคอนสแตนตินเป็นชุดแข่งรถมืออาชีพ ดูจากลักษณะท่าทีไอ้คนนี้ชอบแข่งรถมากๆจริงๆ คอนสแตนตินในเวลานี้เท้าสะเอวอยู่
ส่วนข้างหลังของเขาคือสุนัขรับใช้คนนั้น สุนัขรับใช้คนนี้วันนี้ถูกตีจนเหลือทน ตอนนี้ถึงขนาดเลือดเต็มเปี่ยมฟื้นคืนชีพใหม่แล้ว ดูจากลักษณะท่าทีพลังชีวิตของสุนัขรับใช้ล้วนไม่ควรประมาทนะ!
เนี่ยเฟิงจ้องมองโดยคร่าวๆหนึ่งที คนที่มานี่ในวันนี้มีประมาณยี่สิบสามสิบคน มีรถมากมายล้วนยึดเต็มพื้นที่ที่นี่ไปหมด หลังจากตอนที่รถของเนี่ยเฟิงมาถึงที่นี่ ทีมรถทีมหนึ่งขับรถหรูหราลงจากเขาทันที พวกเขาเพื่อที่จะไปสกัดกั้นคนที่จะขึ้นภูเขา ก็เพื่อที่จะไม่ให้พวกเขาขึ้นมาขัดขวางการแข่งขันฉากนี้
ยี่สิบสามสิบคนนี้ชั่วพริบตาเดียวหายไปครึ่งหนึ่ง เมื่อกี้รถหรูหราที่จอดไว้อยู่นี่อย่างถี่ยิบก็หายไปเป็นส่วนใหญ่
“มีคนอยากจะอัปยศอดสู ผมไม่มาได้ยังไงล่ะ?”
เนี่ยเฟิงยิ้มอยู่ยักไหล่แล้วยักไหล่อีก