“เจ้ากล้าทำโอสถดอกบัวเพลิงของอาจารย์ข้าเช่นนั้นได้อย่างไร อธิบายมา” ศิษย์หญิงสุดจะโกรธกับสิ่งที่ซูหยางทำกับยาของอาจารย์ของเธอ หวังชูเหริน ได้ปรุงขึ้น
แม้ว่าเธอได้แนะนำให้อย่าสนใจผู้คนที่พยายามสร้างปัญหาที่นี่ เธอกลับไม่อาจเพิกเฉยกับการกระทำของซูหยาง
“นี่เป็นยาขยะ ดังนั้นข้ามิได้ต้องการมันอีกต่อไป” ซูหยางให้คำอธิบายสั้นๆ
แต่นั่นเพียงทำให้เธอโกรธมากยิ่งขึ้น
“ข-ข-ขยะ เจ้ากล้าเรียกยาดอกบัวเพลิงเพียงหนึ่งเดียวที่มีผลถึงร้อยเปอร์เซนต์ในโลกนี้ว่าขยะ เจ้ายังมีความรู้เรื่องยาบ้างหรือไม่”
ซูหยางยักไหล่ด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ “อย่างไรข้าก็มิได้มาที่นี่เพื่อยาของเจ้า ไปเรียกหวังชูเหรินออกมาให้ข้า ข้าต้องการพูดกับเธอ บอกเธอว่าซูหยางมาที่นี่เพื่อพบกับเธอ”
“ข้ามิสนใจว่าเจ้าเป็นซูหยางหรือซูหยิน เจ้ามิมีทางได้พูดกับอาจารย์ของข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิมีทางกับสิ่งที่เจ้าทำ ถ้าเจ้ามิจากไปในตอนนี้ ข้าจักเรียกผู้อาวุโสนิกายของข้ามาช่วยเหลือเจ้า”
ในใจของเธอ ซูหยางช่างไร้สัมมาคารวะต่อยาที่ผลิตโดยหวังชูเหริน เห็นได้ชัดว่าเขามิได้มาที่นี่ฉันมิตร
“นี่ก็มีผู้อาวุโสนิกายอยู่คนหนึ่งในอาคารนี้ ทำไมเจ้ามิเข้าไปและเรียกหาเธอ ข้ามั่นใจว่าเธอต้องยินดีช่วยเหลือข้าแน่” ซูหยางชี้ไปยังอาคารที่พักของหวังชูเหรินพร้อมด้วยรอยยิ้ม
ศิษย์คนนี้เริ่มสั่นไปด้วยความโกรธ เธอไม่เคยพบใครที่บ้าบอดังเช่นซูหยางมาก่อน รูปโฉมอันสง่างามของเขาเพียงเป็นคราบปลอมแปลงของปีศาจที่สิงอยู่ในร่างของเขา
“เจ้าอยู่ไหน เซียวยาเหวิน ยาชุดต่อไปพร้อมแล้ว” เสียงหวังชุเหรินพลันดังมาจากภายในอาคาร
“ข-ข้ากำลังไป”
หลังจากที่ได้ยินเสียงของหวังชูเหริน ศิษย์ของเธอ เซียวยาเหวิน ไม่สนใจซูหยางอีกต่อไปและเดินกลับเข้าไปในบ้าน
อย่างไรก็ตามเธอต้องหยุดอยู่ที่ประตูเมื่อพบว่าซูหยางคนนั้นพยายามเข้ามาในบ้านตามหลังเธอ
“จ-เจ้า เจ้าคงต้องการตายในวันนี้จริงๆ เฮอะ” เธอชี้ไปที่เขา
ซูหยางแสดงรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวเข้าไปในบ้านแม้ว่าเซียวยาเหวินยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“จ-เจ้าคิดว่ากำลังจะไปไหน”
เมื่อเซียวยาเหวินพยายามที่จะหยุดซูหยางจากการเข้าไปในบ้าน เธอต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเธอไม่สามารถที่จะดันเขากลับออกไปได้แม้เพียงหนึ่งเซนติเมตรด้วยพลังการฝึกปรือระดับสูงสุดของเขตคัมภีร์วิิญญาณ รู้สึกกลับเหมือนว่าเธอพยายามที่จะเคลื่อนย้ายภูเขาด้วยมือเปล่า
“เจ้ายังไม่เสร็จรึ” ซูหยางหัวเราะหึขณะที่เขามองเธอดิ้นรนพยายามที่จะผลักเขาออกไปจากประตู
“ฝ่ามือดอกบัวเพลิง”
เซียวยาเหวินพลันยกมือขึ้นกระแทกไปที่อกซูหยางด้วยฝ่ามือดอกบัวเพลิง หนึ่งในวิชาประจำนิกาย
“อ-อ-อะไรกัน เป็นไปมิได้” เซียวยาเหวินแตกตื่นเป็นอย่างมากเมื่อซูหยางไม่สะดุ้งสะเทือนแม้ว่าจะโดนฝ่ามือดอกบัวเพลิงของเธอซัดเข้าไปเต็มอก
“ตัวเจ้าทำด้วยอะไรกัน เพชรรึ” เธอร้องลั่นขณะที่กุมมือที่เธอใช้โจมตีซูหยาง เช่นเดียวกับผู้อาวุโสเกาที่ด้านนอก เธอกลับทำให้ตัวเองบาดเจ็บแทนที่จะทำร้ายเขา
หลังจากที่พบว่าเธอไม่สามารถที่จะหยุดซูหยางได้ เซียวยาเหวินเริ่มตะโกนร้องเสียงดัง “อาจารย์ ระวัง มีผู้บุกรุกพยายามที่จะทำร้ายท่าน”
“ผู้บุกรุก เฮ้อ เช่นนั้นก็ได้ เจ้ามิได้พูดผิดทั้งหมด” ซูหยางไม่หยุด ยังคงเดินตรงไปยังห้องของหวังชูเหริน
“มีคนพยายามที่จะทำร้ายข้า ฮ่าฮ่าฮ่า มาดูกันว่าเป็นคนโง่คนไหนกัน–” หวังชูเหรินพลันออกมาจากห้องของเธอพร้อมหัวเราะ
“สักพักหนึ่งแล้วนะ หวังชูเหริน” ซูหยางทักเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ฮาฮา…ฮา.. เอ๋” เสียงหัวเราะของหวังชูเหรินเบาลงจนถึงกับหยุดชะงักเมื่อเธอเห็นใบหน้าหล่อเหลาของซูหยาง
“จ-จ-เจ้าคือ…” แม้ว่าเธอจะจดจำเขาไม่ได้ในทันที แต่สุดท้ายครั้นที่เธอนึกถึงหน้าเขาขึ้นมาได้ หวังชูเหรินก็เริ่มสั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น
“อาจารย์” หวังชูเหรินไม่สนใจว่าศิษย์ของเธอเองจะยืนอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร เธอคุกเข่าลงเพื่อคำนับซูหยาง
“ข้าจำมิได้ว่ายอมรับเจ้าเป็นศิษย์ตอนไหน” ซูหยางกล่าวกับเธอ
“อย่าเป็นเช่นนั้นสิ ซูหยาง…” หวังชูเหรินกล่าวพร้อมรอยยิ้มขื่นขม
ในเวลานั้น เซียวยาเหวินเหม่อมองอาจารย์ของเธอและซูหยางด้วยดวงตางงงัน ดูเหมือนว่ายอมรับไม่ได้
เธอไม่อยากเชื่อว่าทั้งคู่รู้จักกัน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาดูเหมือนสนิทกัน
“ถ้าจะว่าไป ทำไมท่านมาทำอะไรที่นี่ ท่านต้องการสมบัติจากข้าใช่ไหม หรือจะเป็นยา” หวังชูเหรินสามารถคิดหาเหตุผลออกเพียงประการเดียวว่าทำไมเขาจึงมาปรากฏต่อหน้าเธอ
“เจ้าเข้าถึงประเด็นได้รวดเร็วเหมือนแต่ก่อน ข้าชอบ” ซูหยางยิ้ม “ถูกต้องแล้ว ข้าเคยต้องการให้เจ้าปรุงยาให้ แต่ว่า…”
“เคยต้องการ ทำไมถึงต้องเคย” เธอถามด้วยท่าทางสับสน
“หลังจากที่เห็นโอสถสู่คัมภีร์ที่เจ้าปรุง ข้ามิคิดว่าเจ้าจะสามารถจัดการสิ่งที่ข้าวางแผนให้เจ้าได้”
“เอ๋ ท่านหมายความว่าอย่างไรกับสิ่งนั้น”
มองเห็นว่าเธอยังดูท่าทางงุนงง ซูหยางส่ายหน้าและกล่าวว่า “ข้าซื้อยาของเจ้าไปสองสามเม็ดก่อนหน้านี้ และข้าต้องบอกว่าหลังจากที่เห็นคุณภาพของยา ข้ามิพึงพอใจถึงที่สุด”
“แต่ว่า…” ซูหยางพลันขยับหน้าเข้าไปใกล้กับหวังชูเหรินและเริ่มสูดดมช่วงคอที่เปิดอยู่ของเธอ “มีกลิ่นของโอสถสู่คัมภีร์คุณภาพสูงบนร่างของเจ้า..เจ้าสามารถอธิบายเรื่องนี้ให้แก่ข้าได้หรือไม่”
หวังชูเหรินหน้าแดงเมื่อซูหยางเข้าไปจนชิด เธอเริ่มหัวเราะหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา “โอนั่นรึ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เธอขยับริมฝีปากนุ่มของเธอเข้าไปใกล้หูของเขาและกระซิบว่า “ท่านเข้าใจไหม ข้าขายยาคุณภาพต่ำเหล่านั้นโดยเจตนา… ในเมื่อทั้งยาคุณภาพต่ำและยาคุณภาพสูงล้วนมีโอกาสร้อยเปอร์เซนต์ในการสนับสนุนให้ผู้ที่อยู่ในเขตปฐมวิญญาณให้เข้าสู่เขตคัมภีร์วิญญาณ ข้าจึงควรขายสิ่งที่เลวไปให้คนอื่นและเหลือแต่สิ่งที่ดีสำหรับนิกายของข้าใช่ไหม แม้กระทั่งศิษย์ของข้ายังมิรู้เรื่องนี้ โปรดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ตกลงไหม”
ครั้นเมื่อซูหยางรู้กลอุบายของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา เขามีความรู้สึกว่าควรจะเป็นเช่นนี้ เมื่อคิดว่าหวังชูเหรินก็เป็นคนหนึ่งที่ฉลาดเฉลียว