dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน – Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – บทที่ 454 พาข้าไปด้วยได้ไหม

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 454 พาข้าไปด้วยได้ไหม

บทที่ 454 พาข้าไปด้วยได้ไหม
อีกห้าชั่วโมงผ่านไปนับตั้งแต่จำนวนของคู่นอนของซูหยางลดลง
เหลือสิบคน และระหว่างระยะเวลาห้าชั่วโมงนี้ ชินเหลียงหยูได้แอบ
มองเข้ามาข้างในเป็นเวลาทั้งสิ้นสองชั่วโมง
ทุกครั้งที่เธอมีความกล้าที่จะเบือนหน้าหนี เธอก็จะกลับมาแอบดูอีก
ครั้งในบางเวลาหลังจากนั้น
ในเวลานั้นภายในกระท่อมหญิงสิบคนสุดท้ายที่ได้อยู่มานานกับซู
หยางถึงตอนนี้ก็ได้ถึงขีดจำกัดของพวกเธอแล้วเช่นกัน ถ้าพวกเธอ
ฝึกต่อไปอีกก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกายของพวกเธอ
“ขอบคุณที่ให้ประสบการณ์อันล้ำค่านี้แก่พวกเรา ข้าจักมิลืมช่วงเวลา
ของข้าที่อยู่กับท่านในวันนี้ไปตลอดชั่วชีวิต”
บรรดาเด็กสาวคุกเข่าคำนับเขา ให้ความเคารพและขอบคุณอย่างสูงสุด
แก่เขาก่อนที่จะออกไปจากกระท่อม
เมื่อชินเหลียงหยูเห็นเด็กสาวเหล่านั้นกลับออกมาและได้นับจำนวน
ของพวกเธอ เธอก็ถามว่า “พวกเจ้าทั้งหมดเสร็จกิจแล้วรึ”
บรรดาเด็กสาวพยักหน้าและตอบว่า “แม้ว่าพวกเราจักชื่นชอบใน
การร่วมฝึก แต่ว่าร่างกายของพวกเราก็ถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นพวก
เราจึงมิมีทางเลือกอื่นนอกจากที่จะจากไป”
“ล-แล้วท่านผู้อาวุโสซูล่ะ เขาสบายดีไหม”
“เขาได้เติมพลังปราณไร้ลักษณ์ของเขาไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว”
“เพียงแค่ครึ่งเดียวเองรึ”
ชินเหลียงหยูตะลึงงัน เขาร่วมฝึกกับหญิงสาวตั้งมากมายตั้งนานแต่
ฟื้นฟูได้เพียงแค่ครึ่งหนึ่งของปราณไร้ลักษณ์งั้นรึ จริงแล้วเขาแข็งแกร่ง
มากมายแค่ไหนกัน
“ข้าเข้าใจ ขอบคุณพวกเจ้าทุกคนสำหรับความร่วมมือ” ชินเหลียงหยู
กล่าวกับพวกเธอ
“ไม่ พวกเราควรจะขอบคุณท่านที่ให้โอกาสนี้กับพวกเราได้มีโอกาส
ร่วมฝึกกับเขา”
เหล่าหญิงสาวพากันคำนับเธอก่อนที่จะจากไป
ครั้นเมื่อเหล่าหญิงสาวจากไปหมดแล้ว ชินเหลียงหยูก็พูดเสียงดังว่า
“ท่านผู้อาวุโสซู ข้าขอเข้าไปด้านในได้ไหม”
“เข้ามาสิ” เสียงเยือกเย็นของซูหยางแว่วมาในเวลาถัดไป
“ขออภัย…”
ชินเหลียงหยูเลิกผ้าม่านด้วยมือข้างหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
แต่ทว่าเมื่อเธอเห็นว่าซูหยางยังคงเปลือยเปล่าและนั่งอยู่บนเตียง เธอ
พลันหันกายกลับด้วยใบหน้าแดงซ่าน
“ข-ข้าขอโทษ ข้ามิคิดว่าท่านยังคง…”
ซูหยางหัวเราะหึ ๆ กับปฏิกิริยาของเธอและพูดว่า “นั่นมิสายเกินไป
หน่อยรึที่จะขอโทษ”
“ท-ท่านหมายความว่าอย่างไรเช่นนั้น ผู้อาวุโสซู”
เธอถามโดยที่ยังหันหลังให้กับเขา
“เจ้าได้ดูพวกเราร่วมฝึกมาชั่วขณะแล้วใช่ไหม มันชัดเจนจนกระทั่ง
ข้าเกือบหัวเราะออกมาดัง ๆ เมื่อข้าสังเกตเห็นเจ้า ถ้าเจ้าต้องการที่จะ
ดูเจ้าก็เพียงแค่ขอและข้าก็จักให้เจ้าได้ชมทุกสิ่งที่เจ้าต้องการจาก
ระยะใกล้โดยมิจำเป็นต้องลำบากจากการแอบมองจากด้านนอก”
“อา?!?!”
เลือดสูบฉีดขึ้นใบหน้าของชินเหลียงหยูในทันทีที่รู้ว่าซูหยางรู้ถึง
การกระทำของเธอมาโดยตลอด และขาของเธอก็หมดแรงทำให้เธอ
ล้มลงก้นจ้ำเบ้า
“ข-ข้าขอโทษจริง ๆ ถ้าข้าได้ล่วงเกินท่านผู้อาวุโสซูอย่างหนึ่งอย่าง
ใด ข้าจักยินดีให้ชีวิตไร้ค่าและน่าอับอายนี้เป็นสิ่งชดเชย”
เธอคุกเข่าและเริ่มอ้อนวอนขอโทษ
“ข้ามิต้องการชีวิตของเจ้า” ซูหยางส่ายหน้า
“ช-เช่นนั้นท่านต้องการอะไรจากข้า ข้ายินดีทำทุกสิ่ง”
“อืม…”
หลังจากครุ่นคิดชั่วขณะ ซูหยางก็กล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “ข้า
ต้องการให้เจ้าช่วยข้าเติมปราณไร้ลักษณ์ของข้า เจ้าสนใจใช่ไหม
ร่วมฝึกวิชาคู่ไง มิเช่นนั้นเจ้าคงมิจ้องมองอย่างคร่ำเคร่งเช่นนั้น”
ชินเหลียงหยูจ้องมองเขาด้วยสีหน้างงงัน
อย่างไรก็ตามครั้นเมื่อเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา เธอก็ส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว
“อะไรก็ได้ยกเว้นเรื่องนั้น ได้โปรด นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ข้ามิสามารถ
ทำได้”
“โห” ซูหยางยังคงเยือกเย็นและถามว่า “เจ้ายินดีที่จะมอบชีวิตให้กับ
ข้า แต่เจ้ามิยินยอมที่จะให้ร่างกายกับข้าอย่างนั้นรึ หรือว่าข้ามิได้เป็น
แบบที่เจ้าชอบ ข้าพอจะฟังเหตุผลเจ้าได้ไหม”
“นั่นเป็นเพราะว่าข้าอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน และข้าต้อง
รับผิดชอบในการที่จะให้ร่างกายกับคนที่จะมาเป็นหัวหน้าคนต่อไป
และเพียงเขาเท่านั้น ถ้ามิใช่เพราะว่าตำแหน่งของข้า ข้าย่อมยอมรับ
คำขอร้องของท่านอย่างแน่นอน”
“อย่างนั้นรึ…”
เพราะว่าเขาสิ้นสติอยู่ในตอนที่ชินเหลียงหยูได้กล่าวถึงเรื่องนี้เป็น
ครั้งแรก เขาจึงไม่รู้สถานการณ์ของเธอ
“ถึงแม้ว่าข้ามิรู้ถึงสถานการณ์ของเจ้า ข้าก็ยังต้องขออภัยในการผลัก
เจ้าเข้าสู่สถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้ตั้งแต่แรก ข้าต้องขอโทษ
สำหรับคำขอที่มิเหมาะสมของข้า หัวหน้าชิน”
“…”
เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจบนหน้าชวนฝันของเขา ชิน
เหลียงหยูก็พูดไม่ออกและจิตใจของเธอก็ว่างเปล่าไปชั่วขณะ
“อย่างไรก็ตามแม้ว่าข้ายังมิฟื้นตัวเต็มที่นัก แต่มันก็ดีพอแล้วสำหรับ
ข้าในการเคลื่อนไหวไปมา ดังนั้นข้าจักไปจากที่นี่แล้วในตอนนี้
ขอบคุณสำหรับการต้อนรับและทุกสิ่งที่ชนเผ่าหมูป่ าได้ทำให้ข้า” ซู
หยางกล่าวก่อนที่เขาจะเริ่มสวมใส่เสื้อผ้า
“เอ๋ ท่านจะไปในตอนนี้แล้วรึ” ชินเหลียงหยูถามเขาโดยไม่รู้ตัว
เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้ามิกล้าที่จะก้าวก่ายเรื่องของหมู่บ้านเจ้า
อีกต่อไป และข้าก็มีคนที่รอคอยข้าให้กลับไปในที่อื่น อย่างไรก็ตาม
ข้าจักขอให้ชิวเยว่ให้ยังคงอยู่ที่นี่อีกชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อหาข้อมูล
เกี่ยวกับกระจกนิลกาฬเพิ่ม ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการอะไร เจ้าก็เพียงแค่
ไปหาเธอ”
ชินเหลียงหยูยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เธอมองดูเขาแต่งตัว
“ท่านจักกลับมาที่ชนเผ่าหมูป่าอีกไหม” เธอพลันถามเขา
“ข้าจักกลับมาในเวลาสองปีสำหรับกระจกนิลกาฬ แต่หลังจากนั้น
ด้วยความสัตย์จริงข้ามิรู้”
“…”
ชินเหลียงหยูกลับไปเงียบอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามจิตใจของเธอ
เปี่ยมไปด้วยความคิดในเวลานั้น
เมื่อยามที่ซูหยางแต่งตัวเสร็จไปครึ่งหนึ่ง ชินเหลียงหยูก็ได้คิดอะไร
หลาย ๆ อย่าง
และเมื่อถึงตอนที่ซูหยางกำลังจะเสร็จ ชินเหลียงหยูก็กล่าวด้วยเสียง
เบาว่า “ท่านผู้อาวุโสซู ท่านพอที่จะรับฟังคำขอสุดท้ายของข้าได้
ไหม”
“หือ อะไรรึ” ซูหยางหันไปมองเธอ
“ท่านพอที่จะพาข้าไปด้วยได้ไหม” ชินเหลียงหยูกล่าวด้วยสีหน้าเด็ด
เดี่ยว เสียงของเธอชัดเจนราวกับท้องฟ้าครามที่แจ่มใส
“เอ๋”
ซูหยางดูเหมือนจะประหลาดใจอยู่บ้างหลังจากที่ได้ยินคำขอของเธอ
ดังนั้นเธอจึงพูดต่อว่า “ข้ามิสนใจว่าท่านจะไปที่ไหน ข้าต้องการที่
จะติดตามท่านไป”
“แม้ว่านี่อาจจะฟังดูค่อนข้างกะทันหันไปหน่อย แต่ข้าก็เกลียดการ
เป็นหัวหน้าชนเผ่าตลอดมานับตั้งแต่ข้าได้เป็น ข้ามิเห็นด้วยกับ
ประเพณีนี้มาโดยตลอดนับตั้งแต่ข้ารู้จัก แต่เพราะว่าพ่อของข้า ข้าจึง
มิมีทางเลือกนอกจากยอมรับมัน พ่อของข้า… เขาตายหลังจากที่
ได้รับบาดเจ็บหนักจากสัตว์ร้าย และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเกิดจาก
ความผิดพลาดของข้า ดังนั้นข้าจึงรู้สึกเหมือนกับว่าข้าต้องรับผิดชอบ
และรักษาประเพณีนี้ต่อไป”
“ถ้าข้ามิได้พบกับท่านผู้อาวุโสซู บางทีข้าก็จักเลือกเลอเป่ าขึ้นมาเป็น
หัวหน้าคนถัดไปและเป็นคู่ครองของข้าด้วยเช่นกัน เขาเป็นนักรบที่
แข็งแกร่งและทุกคนในชนเผ่าชอบเขา ข้าก็เคารพเขาในฐานะนักรบ
ด้วยเช่นกันแต่ความรู้สึกของข้าก็มีเพียงเท่านั้น”
“ในเมื่อเลอเป่ามีคุณสมบัติที่จะเป็นหัวหน้าคนถัดไปของชนเผ่าหมูป่า
ข้าย่อมต้องทำให้เข้าเป็นหัวหน้าคนถัดไป แต่อย่างไรก็ตามนั่นมิได้
เป็นเพราะว่าข้าจักทำให้เขาเป็นคู่ของข้า ไม่… เขาจักกลายเป็นหัวหน้า
คนถัดไปเพราะว่าข้าปรารถนาที่จะสละตำแหน่งหัวหน้าของข้าและ
ออกไปจากชนเผ่าหมูป่ า หากว่าท่านพยักหน้า ท่านผู้อาวุโสซู ข้าจัก
มิลังเลในการไปจากชนเผ่าหมูป่าเพื่อไปกับท่าน”
“ข้ารู้ว่ามิได้นานเท่าไหร่เลยนับตั้งแต่พวกเราพบกันครั้งแรก แต่ข้า
ต้องการที่จะอยู่กับท่าน ท่านผู้อาวุโสซู ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นเพียงหนึ่ง
ในคู่เคียงจำนวนมากของท่าน ข้าก็ยังเต็มใจที่จะติดตามท่าน”
“…”
ความเงียบเข้าครอบงำหลังจากที่ชินเหลียงหยูเผยความรู้สึกที่แท้จริง
ของเธอและทุกสิ่งที่อยู่ในใจของเธอ
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ซูหยางก็พูดขึ้น “ซูหยาง”
“หือ” ชินเหลียงหยูเลิกคิ้วด้วยท่าทางงงงวย
“ถ้าเจ้ามีความตั้งใจในการติดตามข้า เช่นนั้นอย่างน้อยเจ้าควรจะ
สามารถพูดชื่อของข้าได้โดยปราศจากพิธีรีตอง”
ชินเหลียงหยูตาเบิกกว้าง และเธอก็พูดด้วยสีหน้าสดใสว่า
“ซูหยาง”

dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน

dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน

⊕ ฐานะและความร่ำรวยจะมีค่าอะไรถ้าไม่มีใครร่วมแบ่งปัน  ⊕

 

♥ Dual Cultivation จะเผยให้เห็นถึงอีกด้านของโลกผู้ฝึกปราณที่มีแต่ความโดดเดี่ยว♥
ซูหยางถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตที่หน้าผาบาปนิรันดร์ ที่ซึ่งมีแต่อาชญากรสุดชั่วช้าเหี้ยมโหดเท่านั้นอาศัยอยู่
♥ควมผิดของเขา ล่อลวงภรรยาของเทพจันทรา♥ ลักพาน้องสาวของราชันย์มังกร♥ และร่วมเรียงเคียงหมอนกับลูกสาวสุดที่รักของจักรพรรดิสวรรค์♥
สุดท้ายเขาพบกับชายชราลึกลับซึ่งช่วยให้เขาหนีออกจากคุกโดยการส่งไปสู่ร่างใหม่
♥ในชีวิตใหม่ ซูหยางสาบานว่าจะตามหารวบรวมคนรักของเขาใหม่ และโอบพวกเธอไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง♥

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท