ซูหยางสามารถรู้สึกได้ถึงร่างกายของเขาที่พลุ่งพล่านไปด้วยพลังวิญญาณและพลัง อย่างไรก็ตามเขารู้ดีว่าพลังเหล่านี้จะอยู่ได้ไม่นานนัก ในเมื่อมันมาจากเสี้ยวของปราณเทพภายในร่างของเขาหลังจากที่มันได้รับพลังจากกระบี่เทพศิลาจันทร์ และเขามีเวลาอย่างมากแค่สิบสองวินาทีก่อนที่มันจะสูญสลายไป
แน่นอนว่ามีเวลาเพียงแค่สิบสองวินาทีก็เพียงพอสำหรับเขาในการฆ่าอสรพิษโลหิตปีศาจและฟูกวางแล้ว
ครั้นเมื่อกระบี่เทพศิลาจันทร์ถูกครอบคลุมไปด้วยเพลิงสีดำแล้ว ดวงตาของซูหยางก็เป็นประกายลึกล้ำและแขนของเขาก็ตวัดกระบี่ขึ้นไปบนท้องฟ้า
“กระบี่ลับอาชูร่า กระบี่แรกกลืนสวรรค์”
วืด
ไฟสีดำพวยพุ่งออกจากคมกระบี่กึ่งโปร่งใสกลายเป็นเพลิงวงโค้งขนาดยักษ์พุ่งเข้าใส่ฟูกวางและอสรพิษโลหิตปีศาจ
ดวงตาของฟูกวางเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นเพลิงรูปโค้งขนาดยักษ์ที่ปลดปล่อยพลังมหาศาลมุ่งมาทางเขาอย่างรวดเร็ว
และในเวลาชั่วพริบตา ฟูกวางก็นำเอาสมบัติช่วยชีวิตออกมาและสั่งให้มันทำงานโดยไม่ลังเลตามสัญชาตญาณ ปกคลุมร่างของเขาด้วยแสงสีทองและย้ายร่างของเขาไปยังปลอดภัยที่ระยะหนึ่งร้อยกิโลเมตรจากอสรพิษโลหิตปีศาจในทันที
ทันทีที่ฟูกวางสั่งสมบัติช่วยชีวิตที่มีค่าถึงห้าล้านก้อนหินวิญญาณ เพลิงครึ่งวงกลมก็ไปถึงตรงหน้าอสรพิษโลหิตปีศาจแล้ว
และเมื่อเพลิงครึ่งวงกลมสัมผัสกับอสรพิษโลหิตปีศาจเพียงเล็กน้อยเท่านั้นมันก็แผ่ขยายและกลืนอสรพิษโลหิตปีศาจทั้งตัวแทบจะในทันทีทำให้มันกรีดร้องอย่างเจ็บปวดโหยหวน
อย่างไรก็ตามเพลิงครึ่งวงกลมไม่ได้หยุดอยู่แค่อสรพิษโลหิตปีศาจและยังคงพุ่งต่อไปตามแนวเส้นทาง จนกระทั่งมันปะทะเข้ากับแนวเทือกเขาเบื้องหลังอสรพิษโลหิตปีศาจ
วืด
ทันทีที่เพลิงครึ่งวงกลมสัมผัสกับแนวเทือกเขา มันก็เปลี่ยนทุกสิ่งที่มันสัมผัสไปเป็นฝุ่น ทำลายภูเขาหลายสิบลูกไปอย่างง่ายดาย
เพลิงครึ่งวงกลมยังเดินทางไปอีกหลายกิโลเมตรก่อนที่จะหายไปในอากาศ
เมื่อตอนที่เพลิงครึ่งวงกลมหายไปนั้น อสรพิษโลหิตปีศาจก็เผาใหม้เป็นจุลไม่เหลือแม้ขี้เถ้าให้เห็น
“ป-ป-เป็นไปไม่ได้…”
ฟูกวางจ้องมองไปยังความว่างเปล่าและภูเขาที่ถูกทำลายอย่างหมดจดจนตาถลนออกจากเบ้าและปากอ้าค้าง ในเมื่อเขาไม่เคยเห็นวิชาที่มีพลังอำนาจการทำลายเช่นนี้มาก่อน
ถ้าซูหยางได้ใช้วิชานี้ภายในเมืองหรือสำนักแทนที่จะเป็นป่าเขา เขาจะต้องลบเมืองทั้งเมืองหรือสำนักนั้นทั้งสำนักได้ภายในพริบตา
“ซ-ซูหยางทรงพลังมากน้อยแค่ไหนกัน นี่มิใช่อะไรที่คนที่อยู่ในเขตอัมพรวิญญาณจะสามารถทำได้ แม้กระทั่งปู่ของข้าก็ยังยากลำบากที่จะทำลายภูเขาสักลูกด้วยตัวของเขาเอง อย่าว่าแต่หลายสิบลูก และด้วยความง่ายดายเช่นนี้” ซีซิงฟางอุทานออกมาด้วยท่าทางตกใจหลังจากที่เห็นความสามารถที่แท้จริงของซูหยาง
“ไม่น่าเชื่อ… นั่นเป็นวิชากระบี่ประเภทไหนกันที่เขาเพิ่งใช้ มันเหนือกว่าทุกสิ่งที่ข้าได้เคยเห็นมาก่อน” ร่างกายของผู้อาวุโสซุนสั่นสะท้านกับการเผยโฉมของวิชากระบี่อันล้ำลึกเช่นนั้น รู้สึกด้อยกว่ามากแม้กระทั่งกระแสพลังที่ยังคงตกค้างอยู่
“เจ้ายังคงรอดอยู่รึ” ซูหยางมองไปที่ฟูกวางด้วยสีหน้าเยือกเย็น แต่ว่าร่างกายและใบหน้าของเขาโชกไปด้วยเหงื่อ
การใช้วิชาของตระกูลเทพอาชูร่าแม้แต่เพียงครั้งเดียวก็ทำให้เขาหมดปราณไร้ลักษณ์ของเขาไปเกือบหมด ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงผลลัพธ์อันทรงความแข็งแกร่งจากการใช้ปราณเทพเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับวิชายิ่งขึ้นไปอีก
แต่แม้ว่าจะรู้สึกเหมือนตัวเขาเองสามารถล้มลงไปได้ทุกขณะจากความเหนื่อยล้า ซูหยางก็ยังสามารถฝืนให้มีสติสามารถพูดได้ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “จริงแล้วข้าโล่งใจที่เจ้ายังมิตายง่ายๆ ในเมื่อนั่นจะเป็นการผ่อนปรนโทษทัณฑ์ให้กับคนบาปเช่นเจ้ามากเกินไป”
“จ-จ-เจ้า…” ฟูกวางร่างกายแข็งทื่อด้วยความกลัว กระทั่งแม้เขาต้องการที่จะหันกายหนีไป ร่างกายของเขาก็ปฏิเสธที่จะฟังคำสั่ง เป็นเหตุให้ตัวเขาเองยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนกับลูกไก่ที่รอถูกเชือด
“ข้าจักทำให้มั่นใจว่าเจ้าจักต้องทนรับผิดชอบต่อชีวิตทุกคนใน 36,000 คนที่เจ้าได้ขโมยไปอย่างไร้ค่า”
ซูหยางใช้ก้าวเก้าดาราและเข้าประชิดตัวฟูกวางในทันที
“เจ้าชั่ว ดรรชนีพิษพิฆาต”
เมื่อซูหยางเข้าไปใกล้เขา ฟูกวางก็พลันสะบัดกรงเล็บที่เคลือบไปด้วยพิษร้ายเข้าใส่ซูหยาง
วืด
กระบี่เทพศิลาจันทร์ในมือซูหยางเปล่งประกายและหายไปในทันที
และในทันใดนั้นเอง มันก็ตัดแขนทั้งสองข้างของฟูกวางออก
หลังจากที่ตัดแขนฟูกวางออกแล้ว ซูหยางก็ทิ่มจุดตันเถียนของฟูกวางด้วยกระบี่เทพศิลาจันทร์
“ผนึกสมบูรณ์กระบี่ศักดิ์สิทธิ์”
จากนั้นซูหยางก็ปิดผนึกพลังการฝึกปรือและอาการบาดเจ็บหนักของฟูกวาง เปลี่ยนให้อีกฝ่ายกลายเป็นคนธรรมดาและป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกจากร่างภายในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตามเขายังไม่จบกระบวนการกับฟูกวาง ในเมื่อหลังจากนั้นเขาก็ได้ทิ่มนิ้วที่เปล่งแสงสีดำลึกลับไปยังหน้าผากของฟูกวาง
“คำสาปโบราณเก้าพัน”
ฟูกวางสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงลึกลับเกิดขึ้นภายในร่างของเขา แต่ไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงภายในร่างของเขา
และทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นในเวลาชั่วพริบตา ทำให้เป็นไปไม่ได้สำหรับฟูกวางที่จะทันต่อต้าน
“จ-เจ้าทำอะไรกับข้า ซูหยาง” ฟูกวางคำราม รู้สึกเหมือนกับว่าร่างของเขาไม่ได้เป็นของตนเองอีกต่อไป
ซูหยางไม่ได้พูดอะไรกับอีกฝ่าย เพียงแค่ใช้พลังที่ยังเหลืออยู่ในการกลับคืนไปหาชิวเยว่และคนอื่นๆ
“ข้าได้ปิดสกัดพลังการฝึกปรือของฟูกวาง ดังนั้นเขาจึงไร้พลังอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ เขามิได้เป็นอันตรายแม้กระทั่งคนธรรมดาอีกต่อไป เจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการกับเขา หญิงซี” ซูหยางกล่าวกันเธอ
“ท-ท่านมั่นใจรึ” ซีซิงฟางพึมพัมด้วยเสียงสับสน เห็นได้ชัดว่ายังคงหวาดกลัวหลังจากที่เห็นพลังที่เหนือล้ำของเขา
ซูหยางพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เขาได้สังเวยชีวิตมากกว่า 36,000 คน และพวกเขาล้วนเป็นศิษย์ของเขา ข้าคิดว่าจะเป็นการเหมาะสมกว่าถ้าข้าปล่อยให้ตระกูลซีจัดการเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขามิได้เป็นอะไรไปมากกว่ามดในสายตาข้า ข้ามิได้สนใจอะไรมากนักกับเขา”
ซีซิงฟางพยักหน้าสองสามอึดใจจากนั้น “ข้าขอสาบานด้วยชื่อของตระกูลข้าว่าตระกูลซีจักลงโทษเขาตามความเหมาะสมและนำความยุติธรรมมาให้กับคนที่เขาฆ่ามิว่ามันจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม”