หลังจากที่ใช้เวลาชั่วขณะในการทำใจแล้ว ชิวเยว่ก็นอนลงข้างกายซูหยางบนเตียงและคลายเสื้อผ้าของตนเอง
“ข้ามิเคยทำเช่นนี้จริงๆมาก่อน… การช่วยตัวเองนั้นเป็นอย่างไรรึ” ชิวเยว่ครุ่นคิดในใจ
จากนั้นเธอก็หันไปยังพื้นที่ตรงจุดบรรจบของขาทั้งสองข้างของเธอ จุดที่ชัดเจนที่สุดในใจของเธอเมื่อพูดถึงการสร้างความพึงพอใจ
หลังจากที่กลืนน้ำลายแล้ว ชิวเยว่ก็เริ่มเอื้อมมือไปยังรอยแยกที่สะอาดระหว่างขาของเธอ ค่อยๆลูบไล้มันด้วยนิ้วเรียวยาวของเธอ
“อืมมม… นี่….”
ความรู้สึกเสียวซ่านพลันพุ่งผ่านร่างของเธอ จนทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้านเล็กน้อย
แต่อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเป็นสุขนี้ไม่ได้อยู่นานและหายไปหลังจากเพียงแค่ไม่กี่วินาที
เหตุผลนั้นง่ายดาย เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกต้องการและไม่ได้มีอารมณ์ช่วยตัวเอง
“นี่คงใช้ไม่ได้ผล…”
เมื่อรู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะว่าเธอไม่มีอารมณ์ ชิวเยว่จึงเลิกล้มความพยายามที่จะช่วยเหลือตัวเองหลังจากที่ผ่านไปอีกชั่วขณะ และเริ่มหาวิธีที่จะเพิ่มความปรารถนาของตนเอง
จากนั้นเธอก็หันความสนใจของเธอไปยังซูหยางที่หลับอยู่ข้างกายเธอ จากนั้นเธอก็นึกถึงตัวเอง “คำสาปในเลือดของข้าห้ามมิให้มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่มิได้มีสายเลือดของตระกูลเทพจันทรา แต่อย่างไรก็ตามตราบเท่าที่มิได้มีเพศสัมพันธ์ นั่นก็คงไม่มีปัญหาใช่ไหม”
หลังจากที่ใช้เวลาอีกชั่วขณะในการทำใจ มือที่สั่นสะท้านของชิวเยว่ก็ยื่นไปที่เสื้อผ้าของซูหยาง
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น เสื้อผ้าของซูหยางก็คลายออกจนหมดสิ้น เผยให้ชิวเยว่เห็นทุกอย่าง
“ข้ามิอยากเชื่อว่าข้าทำเช่นนี้กับคนที่มิได้มีสติสัมปชัญญะ…” ชิวเยว่ถอนหายใจ
อย่างไรก็ตามภาพของร่างกายที่น่าลิ้มลองของซูหยางได้ขจัดความคิดที่ไม่เกี่ยวข้องในใจเธอออกไปอย่างรวดเร็ว
“…”
ชิวเยว่จ้องมองไปยังมังกรหลับและอัญมณีทรงค่าที่อยู่ระหว่างขาของซูหยางด้วยน้ำลายเต็มปาก
จากนั้นมือของเธอก็ตรงไปยังอัญมณีสองลูกที่ห้อยอยู่ด้านใต้ของมังกรหลับ
“มันช่างนุ่มและอุ่น…” ชิวเยว่คิดในใจขณะที่นิ้วของเธอเล่นไปรอบๆอัญมณีประจำตระกูลของซูหยาง
สองสามอึดใจให้หลัง ราวกับว่าบางสิ่งได้ตื่นขึ้นภายในซูหยาง มังกรหลับของเขาพลันเริ่มตื่นขึ้น จนกระทั่งมันแข็งตัวตั้งขึ้นเต็มที่
“?!?!”
มือของชิวเยว่กระตุกกลับเมื่อเธอเห็นฉากนี้ ในเมื่อเธอกลัวว่าซูหยางอาจจะตื่นขึ้นมาเพราะเธอ
ผู้แปล: สรุปว่าเธอต้องการให้ตื่นหรือไม่ตื่น ฮา
อย่างไรก็ตามแม้กระทั่งจะผ่านไปอีกหลายชั่วขณะ ดวงตาซูหยางก็ยังคงปิด และร่างของเขาก็ยังคงนิ่งเหมือนเช่นเคย
“เขาไม่ตื่น…” ชิวเยว่ถอนหายใจลึกอย่างโล่งอกหลังจากที่ตระหนักว่าเขายังคงหลับอยู่ แต่ใจของเธอยังคงเต้นเหมือนกลองรบอยู่
“ทำไมของสิ่งนี้จึงสามารถแข็งตัวได้ทั้งที่เขายังหลับอยู่ อย่างนี้ก็เป็นไปได้ด้วยรึ ร่างกายของเขามีการทำงานอย่างไรกัน
แม้ว่าเธอจะสงสัยและทึ่งกับปฏิกิริยาของร่างกายของซูหยาง เธอก็ไม่ได้มีเวลาที่จะคิดเรื่องนั้น ในเมื่อแท่งแกร่งเกร็งที่ตั้งอยู่นี้ได้เข้ามาครองใจเธออย่างรวดเร็ว
ช่องหลืบระหว่างขาสวยของเธอหยดเปียกไปด้วยปราณหยิน แต่เธอมุ่งมั่นกับอวัยวะเพศของซูหยางเกินกว่าที่จะสังเกตพบ
สองสามวินาทีให้หลัง มือของเธอก็เริ่มเอื้อมเข้าไปหามันอีกครั้ง
“มันช่างใหญ่… และแข็ง… นี่คงเป็นความเป็นชายของท่านพ่อ…”
ชิวเยว่พึมพัมในขณะที่มือทั้งสองข้างของเธอสัมผัสกับทุกตารางนิ้วของแท่งแกร่งของเขา
หลังจากที่เล่นกับแท่งของเขาไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ความรู้สึกต้องการที่จะฝังแท่งอวบนี้เข้าไปในช่องพรหมจรรย์ของเธอก็เพิ่มสูงขึ้นจนเกือบทนทานไม่ได้ แต่ชิวเยว่ก็ยังสามารถที่จะยับยั้งความต้องการนั้นด้วยการฝังเพศชายของซูหยางเข้าไปในช่องอื่น ปากของเธอ
“อืม…”
“งึมมมม…”
เสียงจ๊วบจ๊าบครอบคลุมห้องขณะที่ชิวเยว่ทำการดูดดื่มกินแท่งซูหยางเป็นเวลานานหลายนาที ราวกับว่าเธอไม่เคยพอเพียงในเรื่องนี้
ในขณะที่ชิวเยว่ดูดแท่งอวบของซูหยาง มืออีกข้างของเธอก็เริ่มเอื้อมไปหาถ้ำเปียกโชกที่อยู่ระหว่างขาของเธอ ลูบไล้ไข่มุกสีชมพูเล็กๆที่อยู่ภายในและยิ่งกระตุ้นความกำหนัดของเธอมากยิ่งขึ้น
“อืมม…”
“งืมมมม…”
แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆในตอนแรก แต่ยิ่งนานที่เธอดูดสัญลักษณ์เพศชายของซูหยาง ประสบการณ์ของเธอก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และหลังจากที่ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เธอก็รู้สึกเป็นธรรมชาติเหมือนกับการหายใจ
ริมฝีปากของเธอโลมไล้อยู่ด้านนอกอย่างแผ่วเบา ในขณะที่ลิ้นอ่อนนุ่มของเธอตวัดไปโดยรอบทุกสิ่งที่อยู่ภายใน
หนึ่งชั่วโมงให้หลังชิวเยว่ก็สามารถรู้สึกได้ว่าแท่งที่อยู่ในปากของเธอเปลี่ยนเป็นร้อนขึ้น
อย่างไรก็ตามเธอหลงไหลเกินกว่าจะหยุด ดังนั้นเธอจึงทำต่อไป จนกระทั่งทันใดนั้นของเหนียวสีขาวจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากแท่งนั้นเข้าไปในปากเธอ
“หืม”
แม้ว่าเธอจะประหลาดใจกับการที่มันเข้าไปสู่ปากของเธออย่างรวดเร็ว ชิวเยว่ก็สามารถเก็บปราณหยางทั้งหมดไว้ในปากของเธอโดยไม่ปล่อยให้มันหยดออกมาแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอตระหนักว่าปราณหยางนั้นไม่ได้หยุดยั้งจากการหลั่งแม้ว่ากระทั่งปากของเธอเต็มแล้วก็ตาม เธอก็ตัดสินใจที่จะกลืนพวกมันทั้งหมดเข้าไปเพื่อให้มีช่องว่าง
เมื่อเวลาผ่านไปหลายอึดใจและได้กลืนเข้าไปหลายคำหลังจากนั้น เมื่อสุดท้ายปราณหยางได้หยุดหลั่งออกมาแล้ว ชิวเยว่ก็ถอนปากของเธอออกจากน้องชายของซูหยางและเริ่มหอบหายใจหนัก
“ข้ากลืนปราณหยางเข้าไปมากมายเท่าไหร่กัน…” ขิวเยว่ลูบท้องของเธอด้วยความรู้สึกอิ่มราวกับว่าเธอได้ดื่มน้ำแกงชามใหญ่
“แต่ไม่ว่าอย่างไร…มันก็รสชาติดี… ข้ามิรู้ว่าพวกมันจะมีรสชาติหอมหวานอยู่ด้วย” ชิวเยว่เริ่มเข้าใจว่าทำไมเซี่ยวหรงจึงต้องการที่จะลิ้มลองปราณหยางของเขา
แน่นอนว่าเธอไม่รู้ว่าความจริงแล้วปราณหยางโดยทั่วไปจะไม่มีรสชาติในนั้น และซูหยางเป็นเพียงกรณีพิเศษเนื่องมาจากวิชาที่เขาฝึกและสมุนไพรวิญญาณที่เขาได้กลืนกินเข้าไปได้เพิ่มคุณภาพของปราณหยางของเขาจนถึงขนาดที่ว่ามันมีรสชาติดี
จากนั้นชิวเยว่จึงมองไปรอบๆห้อง และเธอก็ประหลาดใจที่มันเต็มไปด้วยปราณหยินที่เข้มข้นอย่างมาก จนถึงขั้นที่ว่ามันกลายเป็นหมอกอยู่เล็กน้อยภายในห้อง
ไม่เพียงแต่เป็นเพราะว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ แต่ยังคงเป็นเพราะพลังการฝึกปรือที่สูงและสายเลือดเฉพาะของเธออีกด้วย ปราณหยินของเธอจึงเข้มข้นกว่าผู้หญิงทั้งหมดที่นั่น
“ปราณหยินมากขนาดนี้คงพอที่จะฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาแล้ว…” ชิวเยว่คิดในใจขณะที่เธอกระชับเสื้อผ้าบนร่างซูหยางอีกครั้งก่อนที่จะออกจากห้องไปพร้อมกับใบหน้าที่ยังคงแดงอยู่
หลังจากที่ชิวเยว่ออกจากห้องไปได้ชั่วเวลาหนึ่ง ดวงตาของซูหยางก็ลืมขึ้นมาอย่างช้าๆและรอยยิ้มอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“นั่นช่างเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจริงๆ…” เขาคิดในใจก่อนที่จะหลับตาลงไปอีกครั้ง