“พ-พี่จินจิง…ท-ท่านเอาจริงรึ” ซูเมิ่งอี้ต้องการยืนยันว่าอีกฝ่ายเอาจริงหรือว่าเพียงแค่ล้อเธอเล่นดังเหมือนทุกครั้ง
“ข-ข้ามิได้พูดเล่นกับเรื่องนี้” วูจินจิงรีบตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ห้องเงียบลงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น
หลังจากนั้นชั่วขณะซูเมิ่งอี้ก็กล่าวด้วยเสียงเอียงอายว่า “ถ-ถ้าเช่นนั้น…ถ้าพี่จินจิงมิถือทำเช่นนั้นกับคนเช่นข้า…ข-ข้าคิดว่าควรจะลองดูสักครั้ง…”
แม้ว่าจะไม่ได้หายากจนถึงขั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่การที่ผู้หญิงสนองความพึงใจตนเองโดยร่วมกับหญิงอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ปกติ แม้ว่าคนทั้งโลกจะไม่ได้เหยียดหยามผู้ที่ต้องการดื่มด่ำเพศรสกับเพศเดียวกัน แต่ก็ยังมีคนนอกเหนือจากนั้นที่ไม่ชอบการปฏิบัติเช่นนั้น ในเมื่อพวกเขาเชื่อว่าการทำเช่นนั้นคือการทำผิดบาปต่อสรวงสวรรค์
แต่โชคดีที่ทั้งซูเมิ่งอี้และวูจินจิงไม่เป็นคนกลุ่มนั้นที่ปฏิเสธความคิดที่แปลกแยก ที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าหลังจากที่พบกับซูหยาง พวกเธอก็เป็นคนที่เปิดใจยอมรับหลายสิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึง “การร่วมเรียง”
“เจ้ามั่นใจรึ เจ้ามิต้องตกลงกับความคิดแปลกประหลาดของข้า ถ้าเจ้ามิได้ต้องการมันจริงๆ”
“อย่ากังวลไปเลย พี่จินจิง ถ้าคิดว่าแนวคิดของเจ้านั้นแปลก เช่นนั้นเจ้าต้องเห็นสิ่งที่ข้ามีอยู่ในใจเมื่อข้าพยายามที่จะให้ซูหยางสนใจ…”
“ช-เช่นนั้นรึ..” วูจินจิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มกับคำกล่าวของเธอ
“เช่นนั้น…เจ้าต้องการที่จะลองตอนนี้เลยไหม” เธอพลันถาม
“ต-ตอนนี้ ตอนนี้หรือ” ซูเมิ่งอี้ดูนิ่งขึง ในเมื่อเธอไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในเร็วนี้
วูจินจิงพยักหน้าและกล่าวต่อว่า “กายข้ากระสับกระส่ายมาชั่วระยะหนึ่งแล้ว และข้าจักขอบคุณเป็นอย่างยิ่งถ้าเจ้าสามารถช่วยข้าได้ในตอนนี้…” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเอียงอาย
“…”
หลังจากที่จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบเป็นเวลาชั่วขณะ ซูเมิ่งอี้ก็พยักหน้าเล็กน้อยตกลงกับข้อเรียกร้องของอีกฝ่าย
สองสามนาทีหลังจากนั้น ครั้นเมื่อพวกเธอเตรียมตัวพร้อมแล้ว ซูเมิ่งอี้และวูจินจิงก็ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าอีกฝ่ายและนั่งลงบนเตียง
เพราะว่าพวกเธอล้วนเป็นหญิง พวกเธอไม่รู้สึกอายเท่ากับเมื่อพวกเธอเปิดเผยตัวให้กับซูหยาง อย่างไรก็ตามความกังวลใจก็ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าเมื่อตอนที่พวกเธออยู่กับซูหยาง ในเมื่อพวกเธอยังไม่กล้าสวมกอดอีกฝ่ายด้วยวิธีที่พวกเธอไม่เคยนึกมาก่อน
“…”
ซูเมิ่งอี้ถึงกับหมดคำพูดเมื่อเธอมองเห็นซาลาเปายัดใส้ใบใหญ่ของวูจินจิงเป็นครั้งแรก ตระหนักว่าความแตกต่างในความดึงดูดใจทางเพศในฐานะหญิงของพวกเธอช่างใหญ่หลวงนักเกินกว่าที่เธอเคยคิด
และเมื่อวูจินจิงสังเกตเห็นการจ้องมองอย่างอิจฉาของอีกฝ่าย เธอหัวเราะน้อยๆและกล่าวด้วยเสียงหยอกล้อว่า “เจ้าอิจฉารึ”
“ใครรู้สึกอิจฉากัน” ซูเมิ่งอี้พลันจับซาลาเปาของวูจินจิงพร้อมกับกล่าว เป็นเหตุให้พวกเธอสะดุ้ง
“อา” วูจินจิงไม่ได้คาดว่าซูเมิ่งอี้จะเป็นคนเริ่ม จึงเผลอส่งเสียงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
“โอ…ขอโทษ เจ็บไหม” ซูเมิ่งอี้รีบปล่อยมือ
วูจินจิงส่ายหน้าและกล่าวว่า “อย่ากังวล ข้าเพียงแค่ประหลาดใจ”
เธอพลันนอนลงบนเตียงและกล่าวต่อว่า “มาสิ…ทำต่อสิ่งที่เจ้าเพิ่งทำลงไป…”
ซูเมิ่งอี้กลืนน้ำลายและเอื้อมไปหาซาลาเปาของวูจินจิงอีกครั้ง ครานี้เธอไม่ได้ใช้แรงมากนักและค่อยนวดเปาทั้งคู่ด้วยนิ้วของเธอ ราวกัว่าเธอกำลังนวดแป้ง
เธอพยายามเลียนแบบการเคลื่อนไหวมือของซูหยางยามเมื่อเขานวดเธอ แต่อนิจจา เธอรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าช่างเป็นความพยายามที่ล้มเหลว เธอจึงหันกลับมานวดวูจินจิงแบบปกติ
“อืม…” วูจินจิงถูกปลุกเร้าได้โดยง่าย เธอเริ่มครางขณะที่หอบหายใจเบาๆ
สองสามอึดใจถัดไป เมื่อความสุขในกายของวูจินจิงไปถึงจุดหนึ่ง เธอก็เริ่มเอื้อมมือไปยังดอกไม้ชุ่มฉ่ำของตัวเอง
“…”
ซูเมิ่งอี้เกือบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อวูจินจิงเริ่มช่วยตัวเองขณะที่เธอนวดอกของอีกฝ่าย และเมื่อเธอเห็นท่าทางวาบหวามของวูจินจิง ร่างกายของเธอก็เริ่มตื่นตัว และเริ่มใช้มือของตนเองช่วยตัวเองเช่นกัน
ดังนั้นเสียงหอบหายใจหนักสองเสียงก็เริ่มสร้างความสุขให้กับตนเองเคียงข้างกันในห้อง
สองสามนาทีภายหลัง เมื่อวูจินจิงเริ่มไม่พอใจกับการช่วยตัวเอง เธอก็กล่าวกับซูเมิ่งอี้ว่า “ดูเหมือนว่าบางสิ่งจะไม่ถูกต้อง… นี่มิได้ต่างกับการทำด้วยตนเอง…”
“เช่นนั้นเราควรทำเช่นไรต่อไป”
หลังจากคิดชั่วขณะ วูจินจิงก็กล่าวขึ้นขณะที่ชี้ไปยังเตียง “มานอนตรงนี้”
ซูเมิ่งอี้ไม่ได้ถามคำถามอะไรอีกและทำตามคำแนะนำของอีกฝ่าย
ครั้นเมื่อซูเมิ่งอี้เอนหลังลงไปบนเตียง วูจินจิงก็เริ่มเอนกายลงบนร่างของซูเมิ่งอี้อย่างนุ่มนวลโดยหันศีรษะของตนเองไปทางด้านทางเข้าด้านล่างของซูเมิ่งอี้ซึ่งทำให้ใบหน้าพวกเธอพบกับพื้นที่ลับของอีกฝ่าย
“จ-เจ้าวางแผนจะทำอะไรในท่านี้” ซูเมิ่งอี้ถามโดยมีดอกไม้สีชมพูของวูจินจิงเปิดเผยอยู่ด้านบนต่อหน้าเธอ
“เจ้าจักรู้ในบัดดล…”
ขณะที่เธอกล่าวคำเหล่านั้น วูจินจิงก็ลดศีรษะลงจนกระทั่งอยู่ระหว่างต้นขาของซูเมิ่งอี้และริมฝีปากก็เกือบสัมผัสกับดอกไม้ชุ่มฉ่ำของอีกฝ่าย
ซูเมิ่งอี้รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไรและร่ำร้องเสียงดัง “ย-อย่าบอกว่าเจ้าจะ—อาาาา”
วูจินจิงเพิกเฉยอีกฝ่ายและเริ่มโลมไล้กลีบดอกไม้ของอีกฝ่ายด้วยลิ้น
“พ-พี่จินจิง” ซูเมิ่งอี้เกือบปลดปล่อยออกมาจากการสัมผัสในบัดดลนั้น
“ช่างเป็นการตอบสนองที่น่ารัก” วูจินจิงคิดในใจและเริ่มใช้ชิวหาต่อไป ทำให้ร่างนุ่มนิ่งของซูเมิ่งอี้เริ่มสั่นสะท้าน
“อืมมม…เช่นนั้น…อาาา…” ซูเมิ่งอี้จมอยู่กับความสุขสมและเริ่มขยับสะโพก ทำราวกับว่าลิ้นของวูจินจิงคือแท่งของซูหยาง ถึงกระทั่งจินตนาการในใจ
สองสามนาทีถัดไปวูจินจิงก็หยุดการใช้ลิ้นและกล่าวว่า “เมิ่งอี้ นี่มิยุติธรรมเลยที่มีเพียงเจ้าสุขสมอยู่ฝ่ายเดียวที่นี่…รีบทำเช่นเดียวกันกับข้า…”
“อา…ข้าขอโทษ…” หลังจากที่ขอโทษอีกฝ่ายแล้ว ซูเมิ่งอี้ก็ดึงดอกไม้ของวูจินจิงเข้าไปยังใบหน้าของตนเองและเริ่มใช้ลิ้นของตนเองกับอีกฝ่าย
“อืมมม” วูจินจิงร่างสั่นสะท้านผ่านความรู้สึกจากปลายลิ้นของซูเมิ่งอี้ และความเครียดในร่างกายของเธอก็ค่อยจางหายไปทีละเล็กละน้อย