เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ Yaoi – ตอนที่ 192 ไม่พอใจ / ตอนที่ 193 คัน

ตอนที่ 192 ไม่พอใจ / ตอนที่ 193 คัน

ตอนที่ 192 ไม่พอใจ

‘คลื่นริมฝั่ง’ สู้กับหลายห้องพักจนฝ่าฟันเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้จำนวนการเข้าร่วมไม่สูงมาก คนในหอพักคนอื่นก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

ทุกครั้งที่ชุยหังพูดว่าต้องเตรียมซ้อมการแสดง พวกเขาต่างก็บอกแต่ว่าตัวเองมีเรื่องนั้น เรื่องนี้

วังเฉียงและถังเฉิงยังดีหน่อย หลังจากที่วังเฉียงรู้ว่าทุกคนให้เขาเป็นหัวหน้าห้องพัก เพราะต้องการเพิ่มคะแนนเพื่อเขา จึงหลีกเลี่ยงที่จะถูกมองไม่ดี

เดิมทีถังเฉิงก็เป็นคนร่าเริงด้วย

แต่คนอื่นอีกสามคน ทุกวันกลับยุ่งแต่เรื่องของตัว แม้แต่จ้าวหลินก็เริ่มตามพี่สาม (เหล่าซาน) จังเผิงไปห้องสมุดเรียนด้วยตัวเองทุกวัน

ต่อมาวังเฉียงเสนอความคิดว่า ต้องการแสดง ‘การแสดงคู่’

อย่างไรก็ตามในห้องพักนี้มีเพียงชุยหังเท่านั้นที่ภาษาจีนกลางดีที่สุด อีกทั้งยังพูดจาคมคาย

ถ้าหากให้เขาพูดอยู่ข้างหลัง คนด้านหน้าอาจจะรู้สึกประหม่าได้ แต่ถ้าหากให้เขาแสดงอยู่ด้านหน้า มีคนพูดภาษาจีนกลางอยู่ด้านหลัง ถือเป็นเรื่องท้าทายเรื่องหนึ่ง

โดยรวมแล้วไม่มีทางที่จะตกลงกันได้เลย

วันรอบชิงชนะเลิศใกล้เข้ามาแล้ว สไลด์ของพวกเขายังไม่ได้ทำเลย

ชุยหังไปหาซย่าอวี้ชิว เพื่อยืมกล้องมาถ่ายรูปในห้องพัก จากนั้นก็ไปร้านอินเทอร์เน็ตทำสไลด์พร้อมใส่เนื้อเพลง ‘ครอบครัวรักใคร่กลมเกลียว’ ลงไปด้วย

ถึงเวลากล่าวสุนทรพจน์ วังเฉียงในฐานะที่เป็นหัวหน้าห้องพักต้องขึ้นไปอธิบายที่มาห้อง แต่สำหรับการแสดงนั้นสรุปกันไม่ได้

ชุยหังก็ไม่รู้ว่าจะคุยกับพวกเขาอย่างไร ท่าทีของพวกเขานั้นเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไร เพราะเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว ถึงอย่างไรก็ได้คะแนนแล้ว ได้ลำดับที่เท่าไหร่ก็ไม่สำคัญแล้ว

ท่าทีแบบนี้ทำให้ชุยหังรู้สึกผิดหวัง และพูดอะไรไม่ออก

‘ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง เขาไม่สามารถเอาความคิดของตัวเองไปเรียกร้องกับคนอื่น’

เขาไม่ได้บ่น อะไรกับหลูจื้อ แต่ชุยหังก็รอให้หลูจื้อติดต่อเขามาทุกวัน จากนั้นทั้งสองก็เบื่อหน่ายกันไปสักพัก

จากนั้นชุยหังก็เลือกเพลงที่ง่ายที่สุดให้พวกเขาร้องเพลงคู่กัน ฝึกซ้อม ‘ขับร้องหมู่บทเพลงแห่งแม่น้ำเหลืองหรือหวงเหอ’ [1] ได้สองสามวัน เพียงแค่ได้ยินชื่อเพลงก็ไม่เหมาะกับการแข่งขันครั้งนี้แล้ว

แต่เพื่อความง่าย ทุกคนต่างเห็นด้วยและเจียดเวลาเล็กน้อยเพื่อมาซ้อมกัน

วันแข่งรอบชิงชนะเลิศอย่างเป็นทางการ วังเฉียงในชุดเครื่องแบบของเขายืนอยู่ด้านหน้าภาพสไลด์ด้วยความตื่นเต้น เมื่อมองจอที่ปรากฏภาพในห้องพักที่ทุกคนถ่ายรูปหน้าต้นไผ่ ผู้ตัดสินด้านล่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ฉันชอบห้องนี้ เพราะมีแสงไปอบอุ่นกำลังรอ…”

เสียงเพลงทำให้ภาพถ่ายดูอบอุ่นมาก จนทำให้ชุยหังน้ำตาไหล

อย่างไรก็ตาม การแสดงของพวกเขานั้นช่างห่างไกลความน่าพึงพอใจเหลือเกิน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องพักก่อนหน้าของพวกเขา แสดงเรื่อง ‘นางพญางูขาว’ [2] ผู้ชายแต่งชุดผู้หญิงเป็นงูขาว อีกทั้งยังแต่งล้อเลียนพระเถระฝาไห่ [3] อีกด้วย ทำให้คนดูหัวเราะจนท้องแข็ง

แต่การแสดงร้องเพลงคู่ของพวกเขาไม่มีอะไรพิเศษมาก ดูขาดความจริงใจ

สุดท้ายพวกเขาก็ได้รับรางวัลชมเชย ผลการตัดสินนี้ทุกคนต่างพึงพอใจ แต่ชุยหังกลับไม่พอใจ

ระหว่างทางกลับหอพัก ชุยหังไม่พอใจเล็กน้อย ในฐานะที่พวกเขาเป็นห้องเดียวที่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่พวกเขาได้รางวัลนี้ ชุยหังรู้สึกขายหน้าเหลือเกิน

ครั้งแรกที่ชุยหังรู้สึกผิดหวังกับความเฉื่อยชาของรูมเมทตัวเอง

ในตอนนั้นซ่งไข่โทรมาหาชุยหัง

“สวัสดีครับ ครูฝึกซ่ง” เห็นได้ชัดว่าความสนใจของชุยหังมีไม่มากนัก

“มีอะไรเหรอ นายรู้แล้วเหรอ” ครูฝึกซ่งได้ยินเสียงไม่ค่อยร่าเริงของชุยหัง

“รู้อะไรเหรอครับ” ชุยหังเอ่ยถาม

ซ่งไข่เอ่ยตอบ “พ่อแม่ของหลูจื้อพาผู้หญิงคนหนึ่งมาแนะนำให้หลูจื้อรู้จัก”

ตอนที่ 193 คัน

หลังจากที่ชุยหังได้ยิน ก็รู้สึกว่าโลกกำลังหมุน

ที่จริงเขาไม่ได้เตรียมใจสำหรับเรื่องนี้เลย แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

เขาตักตวงความสุขอยู่ในโลกกันสองคนกับหลูจื้อนานแค่ไหน ทำไม่พ่อแม่ของเขาถึงกังวลขนาดนี้

เขาบังคับตัวเองให้สงบลง แล้วเอ่ยถาม “หลูจื้อว่ายังไงบ้างครับ”

“เขาก็น่าจะไม่ยอม แต่พาพวกเขาออกไปกินข้าว หลังจากนั้นเหมือนหาข้ออ้างให้พวกเขากลับไป” ซ่งไข่เอ่ยตอบ

“ถ้างั้นก็ไม่สำเร็จ ใช่ไหมครับ” ชุยหังเอ่ยถาม

ซ่งไข่เอ่ยตอบ “เรื่องนี้ฉันไม่กล้ายืนยัน แต่สีหน้าของหลูจื้อดูไม่ค่อยดีนัก”

ในใจของชุยหังรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขามักรู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ง่ายเลยที่จะเก็บสะสมความโชคดีไว้ แต่สุดท้ายเหมือนจะถูกล้างไปด้วยข่าวนี้

“อืม ผมรู้แล้ว” เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี

“ที่จริงแล้วมาบอกนาย ไม่ได้อยากให้นายไม่สบายใจ แต่อยากให้นายเผื่อใจไว้บ้าง ฉันเคยคุยกับนายแล้วก่อนหน้านี้ว่าครอบครัวของหลูจื้อค่อนข้างพิเศษ” ซ่งไข่เอ่ยบอก

ชุยหังเอ่ยตอบ “ไม่ใช่เพราะครอบครัวของเขาพิเศษหรอก แต่ความจริงแล้วครอบครัวของเขาหาได้ง่ายทั่วไปมากที่สุดต่างหาก แบบผมถึงจะเรียกว่าพิเศษ”

“อย่าพูดอย่างนั้น แล้วถ้าหลูจื้อยืนยันจะคบนายต่อไปล่ะ” ซ่งไข่เอ่ยถาม

“เรื่องนี้ผมไม่กล้าพูดหรอก ถึงยังไงตอนนี้หลูจื้อก็ไม่พูดว่าจะคบหากับฝ่ายนั้นไม่ใช่เหรอ” ชุยหังเอ่ยบอก

ซ่งไข่เอ่ยตอบ “อือ เขาไม่เคยพูด ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเขามีนายอยู่แล้วเหรอ”

“ผมก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องนี้คิดไปก็กลุ้มใจ” ชุยหังเอ่ยบอก

ซ่งไข่เอ่ยบอก “กลุ้มใจก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนที่นายเลือกเป็นคนนี้ ก็ต้องยอมรับความกดดันเหล่านี้”

“อือ ผมเข้าใจแล้ว” ชุยหังเอ่ยตอบ

ซ่งไข่เอ่ยบอก “เรื่องของอนาคต ไม่มีใครรู้แน่ชัด”

“ขอบคุณครับครูฝึกซ่ง” ชุยหังเอ่ยตอบ

นอกจากเอ่ยขอบคุณแล้ว เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว

เขาพูดเสมอว่า แม้ว่าข่าวคราวบางอย่างทำให้ตัวเองอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสำหรับตัวเอง

ถ้าถึงเวลาหลูจื้อตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตแบบผู้ชายแท้ๆ เขายังไม่ได้เตรียมใจเลยสักนิด

ถ้าเป็นแบบนั้น เขาคงตกจากที่สูงล้มลงมาอย่างน่าเวทนา

ความจริงแล้วเขารู้สึกว่าคำพูดของตัวเองขัดแย้งกัน โดยเฉพาะเวลาที่คบกับผู้ชายแท้ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย อีกทั้งยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันอีกมากมาย

หลังจากคุยกับซ่งไข่ ชุยหังอดไม่ได้ที่จะส่งข้อความไปหาหลูจื้อก่อน

ถ้าหากเขาไม่ได้เป็นฝ่ายพูดถึงเรื่องนั้นก่อน ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องถามแล้ว

ถ้าหากถามแล้ว จะทำให้หลูจื้อโกรธ

เหมือนกับว่าตัวเองไม่มีคนคอยเป็นหูเป็นตาให้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็คงจะไม่ชินที่คนรักของตัวเองให้ผู้ชายใกล้ตัวของตัวเองมาคอยติดตาม

รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรกัดข้างในใจจนรู้สึกคันมาๆ แต่กลับไม่มีวิธีทำให้สงบลง

หายใจเข้าลึกๆ หายใจเข้าลึกๆ ชุยหังให้ตัวเองหายใจเข้าลึกๆ จะได้ไม่ต้องคิดมากเกินไป

บางทีเดี๋ยวสักพักหลูจื้ออาจจะติดต่อตัวเองกลับมา แล้วอธิบายเรื่องนี้กับตัวเอง

เมื่อกลับถึงห้องพักจึงส่งข้อความไปหาหลูจื้อ [กำลังทำอะไรอยู่ กินข้าวแล้วหรือยัง]

ผ่านไปสักพัก หลูจื้อก็ตอบกลับมา [ไม่เป็นไร กินแล้วล่ะ พ่อแม่มาหา เลยออกไปกินข้างนอกกับพวกเขา]

[โอ้ ดีจัง] คำตอบของชุยหังเรียบง่ายมาก เพราะทำอะไรไม่ถูก

[พวกเขาพาผู้หญิงมาด้วย แต่ฉันปฏิเสธไปแล้ว]

——

[1] ขับร้องหมู่บทเพลงแห่งแม่น้ำเหลืองหรือหวงเหอ ความเด่นของเพลงนี้อยู่ที่ทำนองและจังหวะเพลง กล่าวคือ เป็นการขับร้องประสานเสียงและการร้องโต้ตอบสลับกัน จึงทำให้เพลงนี้มีลักษณะของการมีส่วนร่วมของการร้องบนเวทีและการร่วมร้องของ ผู้ชม เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมแพร่หลายอย่างมากอีกเพลงหนึ่ง ในยุคสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น จังหวะเพลงเป็นแบบเพลงมาร์ชสวนสนาม มีจังหวะหนักแน่น ทรงพลัง เพื่อการก้าวย่างที่สั้นและกระชับ ปลุกเร้าจิตใจให้เต้นเป็นจังหวะที่มั่นคง เพื่อบอกสัญญาณการรุกไปข้างหน้าพร้อมรุกรบประจัญบาน

[2] นางพญางูขาว เดิมทีเป็นนิทานพื้นบ้านของเมืองหังโจว ซึ่งนิยมนำมาแสดงผ่านอุปรากรจีน และได้นิยมดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และซีรีส์ทางโทรทัศน์นับครั้งไม่ถ้วน แม้เมืองไทยก็เคยนำมาดัดแปลงเป็นละครเวที รายละเอียดของเรื่องราวก็ดัดแปลงตามความเหมาะสม โดยเนื้อเรื่อง กล่าวถึง นางงูขาวอายุพันปี บำเพ็ญตบะจนแปลงเป็นสาวงามชื่อ “ไป๋ซูเจิน” และได้รักกับหนุ่มคนหนึ่งชื่อ “สี่เซียน” (บางแห่งว่า เป็นบัณฑิต, บางแห่งว่าเป็นแพทย์) เมื่อคราวที่เดินทางมาเที่ยวยังเมืองมนุษย์ ต่อมาความรักของคนทั้งคู่เป็นเรื่องต้องห้าม ด้วยอมนุษย์ เรื่อง “จองจำงูขาวชั่วนิรันดร์ในเจดีย์เหลยเฟิง” ซึ่งตำนานนี้ แต่งโดย “เฝิงเมิ่ง หลง” ยุคราชวงศ์หมิง

[3] พระเถระฝาไห่ เป็นพระเถระผู้มีอาคมสูง เถรตรง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎ มีความต้องการจะแยกสี่เซียนและไป๋ซู่เจินออกจากกัน เพราะคนกับปิศาจมีความแตกต่างกันเกินไป มิอาจเดินร่วมทาง เพราะผิดกฎสวรรค์

เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ Yaoi

เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ Yaoi

Status: Ongoing

ชุยหัง เฟรชชี่ปีหนึ่งจากคณะเทคนิคการเดินเรือรอนแรมจากบ้านมาเรียนต่างเมืองเป็นครั้งแรก ทว่าเกือบถูกดักปล้นกลางทาง เคราะห์ดีที่มีคนผ่านทางมา แต่เขาคนนั้นกลับเมินเฉยไม่ยอมช่วยเสียอย่างนั้น ชุยหังจึงด่าพ่อล่อแม่ไปชุดใหญ่

กระนั้นโชคชะตาก็เล่นตลกให้ชุยหังได้พานพบกับ หลูจื้อ ชายที่เขาเคยปะทะฝีปากด้วยคราวก่อนอีกครั้งในฐานะครูฝึกทหารกับนักศึกษา จากเกลียดแรกพบจึงกลับกลายเป็นความใกล้ชิด ก่อตัวเป็นความรู้สึกเล็กๆ ในใจของทั้งสองโดยไม่รู้ตัว

แต่ความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อฝ่ายหนึ่งคือนายทหารอนาคตไกลที่มีแฟนสาวผู้เพียบพร้อมข้างกายอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายคือชายหนุ่มที่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว ผิดหวังจากความรักครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก ความรักที่ไม่ควรเกิดขึ้นท่ามกลางหน้าที่และความรับผิดชอบของลูกผู้ชายนี้จะเก็บเป็นความลับต่อไปได้อีกนานแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท