ตอนที่ 218 ฉันอยากหงายไพ่
ลืมเวลา…ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ชุยหังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งใด เพียงแค่ปล่อยให้เป็นไปตามที่หลูจื้อเรียกร้อง
เมื่อหลูจื้อหยุดหอบหายใจ ชุยหังก็ไม่มีแรงพูดอะไรแล้ว ทำได้เพียงนอนอยู่ตรงนั้นเพราะไม่อยากขยับไปไหน
“เมียจ๋า สุขสันต์วันปีใหม่นะ” หลูจื้อนอนคว่ำอยู่บนร่างของชุยหังแล้วเอ่ยบอกเสียงเบาที่ข้างหูของเขา
ชุยหังก็พูดพึมพำ “สุขสันต์วันปีใหม่ คุณสามี”
“ขอโทษนะ หลายวันมานี้ทำให้นายรู้สึกน้อยใจ” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังส่ายหน้าพร้อมเอ่ย “ไม่เป็นไร แต่ในใจของนายมีฉันก็พอแล้ว”
ตอนเวลานี้เขาอยากนอนแล้ว
แต่…เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่หลูจื้อจะไม่กลับบ้าน
เขาออกมานานแล้ว ถ้าไม่กลับบ้านไป คนที่บ้านของเขาต้องโทรมาตามแน่นอน
แม้ว่าเขาและผู้หญิงคนนั้นยังไม่มีสถานะใดๆ แต่หลูจื้อก็ไม่สามารถหาข้ออ้างมานอนที่บ้านเขา
ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำให้ครอบครัวเข้าใจผิดมากยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาไม่กลับไปเป็นเวลานาน คนที่บ้านต้องโทรหาผู้หญิงคนนั้นโดยตรงและความลับจะต้องถูกเปิดเผย
“ฉันต้องกลับไปแล้ว” หลูจื้อลูบหัวชุยหังเบาๆ
ชุยหังอดทนต่อความรู้สึกหดหู่ในใจพร้อมเอ่ย “อือ รีบกลับไปเถอะ พรุ่งนี้วันแรกต้องไปอวยพรปีใหม่ด้วย”
“อือ พรุ่งนี้นายมีแผนจะทำอะไร” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “ส่งข้อความไปอวยพรปีใหม่ให้เพื่อนกับญาติ แล้วก็นอน”
“ไม่ทำอย่างอื่นแล้วเหรอ” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังเอ่ยตอบ” มี ฝันถึงนายไง”
หลูจื้อหัวเราะ จากนั้นก็จูบเขาเบาๆ พลางเอ่ยว่า “เชื่อฟังดีจัง ปีนี้ต้องลำบากหน่อยนะ”
ชุยหังรู้ดีว่าถ้าเขากับผู้หญิงคนนั้นไปด้วยกันได้ดี ปีนี้ก็อาจจะตกลงกันได้แล้ว
‘ถ้าเป็นอย่างนั้นตัวเขาคืออะไรล่ะ’
ความจริงเขาอยากบอกว่าให้ดูกันไปก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ตอนนี้เหมือนว่าหนทางนั้นยาวไกลเหลือเกิน
เพราะว่าอนาคตของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยหิมะอย่างหนัก
เมื่อมองย้อนกลับไปก็ไม่เหลือแม้แต่รอยเท้า
ชุยหังพลิกตัวแล้วดึงกางเกงขึ้น จากนั้นก็พูดกับหลูจื้อ “นายต้องไปทำอะไร ก็ไปทำเถอะ แล้วก็ติดต่อฉันบ้าง ให้ฉันได้รู้ว่านายกำลังทำอะไรบ้างก็พอแล้ว”
“ฉันรู้ว่านายทุกข์ใจ ฉันจะพยายามหาวิธีให้ผู้หญิงคนนั้นจากไป” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังเอ่ยตอบ “ไม่ได้นะ ไม่งั้นนายจะไม่มีทางอธิบายให้ย่าของนายเข้าใจได้”
หลูจื้อลำบากใจเล็กน้อยพร้อมเอ่ยถาม “งั้นนายจะทำยังไงล่ะ”
“ฉันก็ไม่เป็นไรนี่ พูดตามตรงเลยนะ ฉันมีเวลารอนายมากกว่าย่าของนายไม่ใช่เหรอ นายก็พูดเองว่าสิ่งที่ท่านต้องการมากที่สุดก็คือได้เห็นนายแต่งงาน นายก็อย่าทำให้ท่านผิดหวังเลย”
ความจริงตอนที่ชุยหังพูดประโยคเหล่านั้น หัวใจของเขามีเลือดไหล
ถ้าเป็นอย่างนั้น ชีวิตของเขาและหลูจื้อก็จะถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ แล้วตกลงพื้นไป
เขาไม่สามารถครอบครองผู้ชายคนนี้ได้อย่างเต็มที่ ความรู้สึกเจ็บปวดแบบนั้น เขาไม่สามารถแสดงออกมาได้ในตอนนี้และไม่อยากให้หลูจื้อรับรู้
‘เพราะรักเขา จึงพยายามไม่ทำให้เขาต้องเสียใจ’
ชุยหังปลอบใจตัวเองว่า หลูจื้อเคยบอกผู้หญิงคนนั้นไปแล้วว่าเขาไม่ได้ชอบเธอ
แต่เธอก็ยังเต็มใจอยู่กับหลูจื้อ
น่าจะพูดได้ว่าสิ่งที่เธอชอบก็คืออนาคตของหลูจื้อและครอบครัวของหลูจื้อมากกว่า
“แล้วนายไม่ผิดหวังเหรอ” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังเอ่ยตอบ “ฉันมีอะไรให้ผิดหวังไม่ผิดหวังล่ะ ก่อนหน้านี้ฉันรู้เรื่องของนายอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกอยู่กับนาย ในเมื่อตัดสินใจไปแบบนี้แล้วก็ต้องรับผิดชอบความรู้สึกตัวเอง”
หลูจื้อมองที่เขา จากนั้นก็จูบเขาอีกครั้งพร้อมเอ่ยบอก “ไม่ได้หรอก ฉันจะต้องคุยให้เธอเข้าใจ ฉันไม่อยากแต่งงานกับเธอ ปล่อยให้เธอได้ไปทำในสิ่งที่ควรเถอะ”
ตอนที่ 219 สองมาตรฐาน
ชุยหังรีบเอ่ยขึ้นทันที “ไม่ได้ ในวันตรุษจีนใหญ่ถ้านายไม่กลัวเธอเสียใจ ก็ต้องนึกถึงคนในครอบครัวบ้าง พวกเขาต้องรับไม่ได้แน่ๆ มันไม่ง่ายเลยนะที่นายจะหาคนที่เขาอยากอยู่ด้วยกันกับนาย ฉลองตรุษจีนด้วยกันก็ทำมาแล้ว นายยังไม่เข้าใจความหมายของเธออีกเหรอ”
หลูจื้อถอนหายใจแล้วเอ่ยบอก “ก็เพราะว่ารู้ความหมายของเธอไง ถึงไม่อยากให้นายน้อยใจ”
“ฉันไม่เป็นไร แค่นายดีกับฉันก็พอแล้ว ถ้านายคิดว่าฉันน้อยใจ นายก็จะรู้สึกละอายใจกับฉันแล้วชีวิตนี้นายจะต้องรู้สึกเป็นหนี้ฉัน จากนั้นก็จะดีกับฉันมากกว่าเดิม” ชุยหังแสร้งทำเป็นสงบพลางเอ่ยขึ้น
หลูจื้อซึ่งดื้อรั้นอยู่อย่างนั้นไม่มีข้อสงสัยอะไรแล้ว
“ทำไมนายถึงฉลาดแบบนี้ คิดได้ไง” หลูจื้อบีบจมูกของชุยหังเบาๆ
อย่างไรก็ตามในใจของชุยหังไม่สงบอีกต่อไปแล้ว
เขากำลังคิดถึงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับเขาและหลูจื้อ
อันที่จริงหลูจื้อก็ไม่ใช่คนของโลกนี้ แต่เป็นเขาที่ลากหลูจื้อเข้ามา
‘ตอนนี้หลูจื้อมีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตปกติแล้ว แล้วเขายังจะรั้งไว้อีกเหรอ?’
แม้ว่าตัวเขาจะชอบหลูจื้อมากจริงๆ และไม่อยากแยกจากเขา
ในสายตาของคนอื่นเขาไม่อยากสนใจ แต่เขาไม่อยากให้หลูจื้อโดนคนอื่นดูถูก
เรื่องชุยหังมีเรื่องยุ่งเหยิงมากมายในหัวซึ่งไม่มีทางที่จะอธิบายได้หมด
แม้ว่าจะรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนตัวเองก่อนหน้านี้แล้ว
เขาไม่สามารถอธิบายกับพ่อแม่ได้ อีกทั้งยังปล่อยให้ลูกสาวของบ้านอื่นอยู่ในความมืดและกลายเป็นคนที่มีสามีร่วมกับคนอื่น
ตอนนี้เขากลับสนับสนุนให้หลูจื้อลองคบกับผู้หญิงคนนั้น เพื่อให้คุณย่าที่อายุมากแล้วสบายใจและรู้สึกดี ท่านจะได้ไม่ต้องเสียใจ
‘เขาควรทำเรื่องนี้ให้เป็นสองมาตรฐานจริงๆ เหรอ”
โชคดีที่หลูจื้อเคยบอกผู้หญิงคนนั้นไปแล้วตั้งแต่แรกว่าเขาไม่ได้ชอบเธอและไม่อยากจะอยู่กับเธอ
ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่มีความรับผิดชอบต่อตัวเองโดยคิดที่จะแต่งงานเข้าครอบครัวนี้
ความจริงแล้วเรื่องนี้หลูจื้อมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบน้อยมาก ทั้งหมดเป็นเพราะความต้องการของผู้หญิงคนนั้น
ชุยหังทำได้เพียงแค่ปลอบใจตัวเองด้วยวิธีนี้เพราะไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้ใจของเขาสงบลงได้
“เอาล่ะ รีบกลับไปเถอะ อย่างน้อยก็ทำตัวดีๆ ต่อหน้าครอบครัว นายเคยพูดกับผู้หญิงคนนั้นชัดเจนแล้ว แต่เธอกลับยืนกรานแบบนั้น เรื่องนี้ใครก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะความจริงแล้วย่าของนายชอบเธอมาก นายเลยพูดกับคุณย่าตรงๆ ไม่ได้ว่าเธอชอบนาย แต่นายไม่ได้เธอ”
เขายอมรับว่าตัวเขาเป็นคนสองมาตรฐาน
ถ้าหากให้พูดตามตรงก็คือเขาใจร้ายกับตัวเองมาตลอด
เมื่อถึงตาคนอื่นบ้างเขากลับใจร้ายไม่ลง
นิสัยของเขามักเป็นฝ่ายยอมรับความเจ็บปวดแต่กลับไม่อยากให้คนอื่นถูกทำร้าย
หลูจื้อเงียบไปสักพัก ก่อนจะเอ่ย “ฉันจะลองดูก่อน ความจริงเรื่องนี้มันไม่ง่ายเลย”
ชุยหังตอบ “ชีวิตคนเรามีราบรื่นที่ไหนล่ะ ต้องมีขรุขระบ้างก็ถูกแล้ว”
หลูจื้อยิ้มแล้ววางมือลงศีรษะของชุยหังใช้แล้วออกแรงกดพลางพูดขึ้นว่า “ในหัวน้อยๆ ของนายมีอะไรอยู่ข้างใน พูดเหมือนกับคนแก่เลย”
ชุยหังเอ่ยตอบ “ไม่ใช่นะ ก็แค่พูดตามความเป็นจริง”
หลูจื้อเอ่ยตอบ “โอเค ฉันรู้แล้ว นายไม่ต้องสนใจแล้ว”
หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบใส่เสื้อผ้า จากนั้นชุยหังก็จูบกับเขาอีกครั้งและลงรถไป
ชุยหังยืนท่ามกลางหิมะที่ตกหนักมองดูรถของหลูจื้อค่อยๆ ไกลตัวเองออกไปตอนเช้าตรู่ในวันแรกของปีใหม่