บทที่ 3 ช่วยเหลือคนสวย
“หลี่ฝาง หรือเราอย่าไปที่Lotusดีกว่านะ หาร้านอาหารแถวๆ หน้าโรงเรียนก็พอแล้ว” โจวหยางเตือนด้วยความหวังดี
“ใช่ ไม่จำเป็นต้องไปที่ที่หรูหราขนาดนั้น หาร้านอาหารที่ไหนก็ได้ ช่วยประหยัดเงินของนายได้ไม่น้อยเลยนะ นายประหยัดเงินไว้ซื้อเสื้อผ้าสักชุดหนึ่งให้ฉันดีแค่ไหน” หลี่เสี่ยวเสี่ยวใช้หน้าอกของตนเองเข้าไปชิดๆ แขนของหลี่ฝางอย่างแรง
นุ่มจัง สบายจริงๆ
หลี่ฝางรู้สึกเคลิ้ม
สามปีมานี้ หลี่ฝางอยู่อย่างเงียบๆ อัดอั้นใจมานาน ผู้หญิงทุกคนต่างก็รู้ว่าหลี่ฝางจนมาก จนจนต้องซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ใส่น้ำล้างเท้าให้คนอื่นเผื่อมีรายได้มาใช้จ่าย ผู้หญิงในโรงเรียนทุกคนต่างก็หลีกให้ห่างจากหลี่ฝางไกลๆ ทั้งนั้น
นึกไม่ถึงว่ารวยแล้ว จะมีบุญวาสนากับผู้หญิงด้วย
แต่ว่าหลี่ฝางไม่ได้หลงใหลความสวยของหลี่เสี่ยวเสี่ยว เขาหันไปบอกหลี่เสี่ยวเสี่ยว: “ถึงแม้ว่าผมจะประหยัดเงินเอาไว้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องซื้อเสื้อผ้าให้คุณมั้ง คุณไม่ใช่แฟนผมสักหน่อย”
หลี่เสี่ยวเสี่ยวหันสายตาไป: “เด็กโง่ นายไม่จีบฉัน ฉันจะเป็นแฟนนายได้ไง”
หลี่ฝางไม่โง่ เขาดูจุดมุ่งหมายของหลี่เสี่ยวเสี่ยวออก
“ไปกินข้าวก่อนเถอะ ไปLotusนั่นแหล่ะ” หลี่ฝางยิ้มๆ และกล่าว
จางเสี่ยวเฟิงเดินกลับมาที่ห้องเรียน ตะโกนบอกหลี่ฝาง: “เพื่อนๆ ไปกันหมดแล้ว รอแต่พวกนายแล้วนะ”
“มาแล้ว”
หลี่เสี่ยวเสี่ยวควงแขนของหลี่ฝางเดินออกไปด้วยกัน โจวหยางลังเลอยู่สองสามวิ แล้วก็รีบตามไป
ที่ไม่ไกลมากนัก เซี่ยลู่มองเห็นหลี่ฝาง เธอขมวดคิ้วขึ้นและถามตู้เฟย: “พี่เฟย พวกนายไปกินเลี้ยงวันนี้ หลี่ฝางไอ้ยาจกจนๆ นั่นก็ไปด้วยเหรอ? ”
ตู้เฟยตอบอืมคำเดียว
“นายบอกเสี่ยวเฟิงได้ไป อย่าให้นายคนนี้ตามไปด้วย ฉันเห็นเขาก็รู้สึกสะอิดสะเอียนกินข้าวไม่ลง” เซี่ยลู่พูด
“ไม่ได้หรอก” ตู้เฟยส่ายหัว
“ทำไม? ”
“คุณเข้าใจผิดแล้ว วันนี้ไม่ใช่จางเสี่ยวเฟิงเลี้ยงข้าวนะ หลี่ฝางเป็นคนเลี้ยง” ตู้เฟยหัวเราะ: “คิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ? ”
“พี่เฟย อย่าล้อเล่นสิ ยาจกนี่นะ แม้แต่โรงอาหารก็เลี้ยงไม่ไหวแล้ว เขาจะเลี้ยงคนเยอะขนาดนี้ที่Lotusได้ไง? ” เซี่ยลู่ไม่อยากจะเชื่อ
“คราวนี้เขาโชคดี ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่” เกาเสิ้งบ่นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจมาก
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ถูกรางวัลเท่าไหร่เหรอ? ” เซี่ยลู่ถามด้วยความสงสัย เธอกลัวได้ยินหลี่ฝางถูกรางวัลใหญ่
“แค่สองหมื่นเอง”
“สองหมื่น? ว้าว ตาบ้านี่ถูกรางวัลแค่สองหมื่น ก็กล้าเลี้ยงเพื่อนทั้งห้องไปกินข้าวที่Lotus กล้ามากจริงๆ ” เซี่ยลู่หัวเราะในตอนนั้น หัวเราะแบบดูถูก
แต่ว่าตอนที่หลี่ฝางเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้ว เซี่ยลู่รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันที
ตอนแรกเซี่ยลู่นึกว่าจางเสี่ยวเฟิงเป็นคนเลี้ยง ดังนั้นถึงได้ตอบตกลงไปด้วย อีกทั้งยังชวนเพื่อนสนิทสองคนไปด้วย คือหลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยน
แต่กลับกลายเป็นหลี่ฝางที่เป็นคนเลี้ยงข้าว แล้วตนเองจะตามไปอีกไหม?
หลี่ฝางเห็นเซี่ยลู่ ไม่พูดจาอะไร ยกมือโบกรถคันหนึ่ง จากนั้นหันไปบอกพวกตู้เฟย: “ผมไปก่อนนะ พวกนายรีบๆ ตามมา”
“เขาหมายความว่าไง เห็นหน้าไม่ทักทายกันเลย? ” มองดูหลี่ฝางเรียกรถออกไป เซี่ยลู่รู้สึกโมโห
“เซี่ยลู่ เราไม่ไปดีกว่ามั้ง? ” นี่เป็นงานเลี้ยงห้องเขา พวกเราไม่ได้อยู่ห้องเขานิ” จางเชี่ยนพูดขึ้นมาในตอนนี้
หลิวเฉียวเฉียวก็สีหน้าไม่ค่อยดี: “ใช่ เขาไม่ได้เชิญชวนพวกเรานะ ถ้าเราสามคนตามไปด้วย เดี๋ยวถูกไล่ออกมาทำไง? ”
“มันกล้า!” ตอนแรกเซี่ยลู่ยังมีความลังเลบ้าง แต่คำพูดของหลิวเฉียวเฉียว ทำให้เซี่ยลู่คิดอยากจะไปมากขึ้น
“ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะกล้าไล่พวกเราออกมา นอกจากว่าเขาจะกล้าทำให้พี่เฟยของฉันขุ่นเคือง” เซี่ยลู่มองหน้าตู้เฟยด้วยความมั่นใจเต็มร้อย
“ขึ้นรถเถอะ มีผมอยู่” ตู้เฟยยิ้มๆ กดกุญแจรีโมทรถBMWของตนเอง
“เมื่อกี้พวกแกไม่เห็น หลี่เสี่ยวเสี่ยวควงแขนของหลี่ฝาง ใกล้ชิดมาก” มีคนพูดขึ้นมาหนึ่งคำ
“พวกเราไม่ตาบอด จะไม่เห็นได้ไง? หลี่เสี่ยวเสี่ยวคนนี้ เป็นผีดูดเลือดที่มีชื่อเสียงดังจะตาย ชายคนไหนไปติดพันเธอ ในกระเป๋ามีเงินมากเท่าไหร่ ก็ถูกเธอหลอกใช้จนหมดเกลี้ยง” เซี่ยลู่ขึ้นไปนั่งที่ข้างคนขับ มุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย
เธอรู้ว่าหลี่ฝางได้ใจแบบนี้ได้ไม่นานหรอก
ผ่านไปประมาณสิบนาที คนขับแท็กซี่ก็จอดรถ: “ถึงแล้วครับ สิบหยวน”
โจวหยางกำลังล้วงกระเป๋าเสื้อ หลี่ฝางก็ยื่นแบงค์ร้อยให้คนขับหนึ่งใบ จากนั้นบอกว่า: ไม่ต้องทอน
“หลี่ฝาง นายจะใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เงินสองหมื่นอาจจะใช้ได้ไม่นานก็หมดไป” โจวหยางตักเตือนหลี่ฝางด้วยความหวังดี
“หัวหน้าครับ นายอย่ากังวลไปเลย ที่จริงผมไม่ได้ถูกรางวัลแค่สองหมื่น แต่เป็นสองแสน” หลี่ฝางพูดเบาๆ
แต่คำนี้ ถูกหลี่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินเข้าพอดี
วินาทีนี้ หลี่เสี่ยวเสี่ยวสะเทือนใจมากสุดๆ
สองแสน?
แววตาที่หลี่เสี่ยวเสี่ยว มองหลี่ฝาง ก็เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวในฝันอย่างนั้น
“เพื่อนๆ ครับ อย่ารีรอเลย เข้าไปกันเถอะ” หลี่ฝางมองดูเพื่อนนักเรียนที่ยืนออกันอยู่ตรงหน้าประตู แล้วก็โบกมือเรียกให้เข้าไป
หลี่ฝางไม่เคยมาโรงแรมที่หรูมีระดับขนาดนี้มาก่อน วินาทีที่เข้าไปนั้น เขาตะลึงมากจนหยุดชะงัก
พอเข้าประตูไปก็จะมองเห็นภูเขาปลอมใหญ่มาก อยู่ตรงใจกลาง ดูอลังการมาก
“คนเยอะขนาดนี้เลยหรือ? ”
มองดูคนเยอะแยะมากมาย พนักงานของLutusก็ตกตะลึงเช่นกัน
“ขอถามหน่อยนะครับ พวกคุณมาด้วยกันหรือเปล่าครับ? ” พนักงานเข้ามาถามอย่างมีมารยาท
หลี่ฝางพยักหน้า: “ใช่ครับ มาด้วยกัน คุณช่วยหาห้องวีไอพีที่ใหญ่หน่อยนะครับ”
“ต้องขออภัยด้วยนะคะ คุณผู้ชาย ห้องวีไอพีที่ใหญ่ที่สุดถูกจองไว้หมดแล้วค่ะ แต่เหลือเฉพาะห้องเล็ก” พนักงานตอบด้วยความขอโทษ
“ห้องเล็กก็ได้ครับ ไปจัดเตรียมได้เลยครับ” หลี่ฝางบอก
ถึงแม้หลี่ฝางจะใส่ชุดราคาถูกๆ ที่ขายข้างทาง แต่พนักงานก็มีมารยาทเหมือนเดิม ก็ยังให้บริการอย่างดี
ทันใดนั้น หลี่ฝางหยิบออกมาสองร้อย ยื่นให้เขา: “อะ อันนี้ให้ทิปคุณ”
“ขอบคุณเถ้าแก่ ของคุณเถ้าแก่” พนักงานดีใจมาก เรียกเถ้าแก่อย่างไพเราะมากกว่าเรียกพ่อตนเองอีก
“หลี่ฝาง นายใจดีจังเลย ให้ทิปทีเดียวสองร้อยเลย? ” เพื่อนนักเรียนต่างตะลึงกันใหญ่ เพราะเงินเดือนพนักงานบริการก็ไม่เท่าไหร่ สำหรับในเมืองตงไห่ที่ไม่ค่อยเจริญมากนัก เงินเดือนอย่างมากก็แค่สองพัน
“หลี่ฝาง ถูกรางวัลก็ไม่ง่ายนะ นายอย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยขนาดนี้ ใช้หมดแล้วจะทำไง? ” เพื่อนๆ เตือนด้วยความหวังดี
“ใช่ ใช่ เดี๋ยวพวกเราก็กินอะไรง่ายๆ ก็พอ ฟุ่มเฟือยมากเกินไปไม่ดี พวกเราต่างก็เป็นนักเรียน”
“ไม่เป็นไร เพื่อนๆ ไม่ต้องเกรงใจผมนะ” หลี่ฝางไม่ค่อยคิดมากอะไร เขาใจกว้างเช่นนี้ ก็เพราะในบัญชีของเขามีเงินตั้งหนึ่งล้าน แต่เป็นเพราะปู่ของเขาเป็นถึงมหาเศรษฐีในเมืองดูไบ
ตอนที่อยู่ในห้องเรียน หลี่ฝางได้ค้นข้อมูลดูแล้ว ที่ดูไบมีคนที่ชื่อหลี่เจียเฉินจริงๆ ทรัพย์สินของเขามีมูลค่ามากถึงแสนล้าน ถ้าหลี่เจียเฉินคนนั้นก็คือปู่ของตนเอง ชีวิตที่เหลืออยู่ ก็ใช้เงินได้สบายๆ เลย
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นคนใช้มานานขนาดนั้น หลี่ฝางก็อยากจะลองเป็นเจ้าเป็นนายคนดูบ้างว่าจะรู้สึกยังไง
ไม่พูดไม่ได้ว่า ความรู้สึกของการจ่ายเงิน มันสะใจมาก
จากนั้นสักพัก พนักงานวิ่งกลับมาเรียกหลี่ฝางไปพบผู้หญิงคนหนึ่ง
“สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อนนะคะ ฉันชื่อหลินชิงชิง คือเรื่องมันเป็นแบบนี้นะคะ วันนี้พี่ชายฉันแต่งงาน มีแขกไม่มาร่วมงานประมาณสามโต๊ะ นั่นก็คือ พี่ชายฉันจองโต๊ะเยอะเกินไปสามโต๊ะ ค่าใช้จ่ายคือโต๊ะละสามพันแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน สุดหล่อช่วยรับซื้อต่อได้ไหมคะ”
“ฉันลดราคาให้คุณครึ่งหนึ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นไง? ” หลินชิงชิงยกมือขึ้นมาโชว์มือห้านิ้ว
โครงหน้าของหลินชิงชิงดูสวยน่าดู วันนี้เธอใส่ชุดสีดำกระโปรงยาว ดูดีมีสง่าราศี หลี่ฝางอยากจะช่วยเหลือเขา แต่ถ้าค่าใช้จ่ายต่ำกว่านี้อีกหน่อย เขาอาจจะตกลงแล้ว
แต่ว่าโต๊ะละตั้งสามพันแปดร้อยกว่า สามโต๊ะก็หนึ่งหมื่นกว่าแล้ว หลี่ฝางรู้สึกลำบากใจนิดๆ
“สุดหล่อ นายวางใจได้ วันนี้นายช่วยเหลือฉัน หลินชิงชิงฉันคนนี้จะจดจำพระคุณครั้งนี้ หลังจากวันนี้ ถ้านายเจอปัญหาอะไรที่ตงไห่ มาหาฉันได้เสมอ นี่คือเบอร์ติดต่อของฉัน นายจดไว้นะ” หลินชิงชิงพูดขึ้นมาอีก
“ก็ได้ครับ” สีหน้าหลี่ฝางเต็มไปด้วยความฝืนใจ
“แต่ว่า……”
“แต่ว่าอะไร? ” หลินชิงชิงขมวดคิ้ว
“แต่ว่าไม่ต้องลดราคาให้ผมก็ได้ โต๊ะอาหารราคาเท่าไหร่ผมก็จ่ายเท่านั้น” หลี่ฝางยิ้มๆ และพูด
หลินชิงชิงได้ยินแล้วตกตะลึงสักพัก เธอนึกว่าตนเองหูฝาดฟังผิดไปแล้ว จึงถาม: “นายหมายความว่า จะช่วยรับซื้อในราคาเดิมทั้งสามโต๊ะเหรอ? ”
“ใช่”
“ฮาๆ ดีจริงๆ นายชื่ออะไร? ” หลินชิงชิงหัวเราะดังๆ หน้าอกก็สั่นไปด้วย
“ผมชื่อหลี่ฝาง”
“โอเค ฉันจำนายไว้แล้วนะ ตั้งแต่ตอนนี้ไป นายก็คือน้องชายของฉันคนนี้หลินชิงชิง ถ้าใครกล้ารังแกนาย……”
หลินชิงชิงยังไม่ทันพูดจบ ห้องรับรองก็มีเสียงด่าของจางเสี่ยวเฟิงดังขึ้น: “หลี่ฝาง แกไปตายที่ไหนแล้วเนี่ย? รีบออกมาเร็วๆ สิ!