NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 3

ตอนที่ 3

บทที่ 3 ช่วยเหลือคนสวย

“หลี่ฝาง หรือเราอย่าไปที่Lotusดีกว่านะ หาร้านอาหารแถวๆ หน้าโรงเรียนก็พอแล้ว” โจวหยางเตือนด้วยความหวังดี

“ใช่ ไม่จำเป็นต้องไปที่ที่หรูหราขนาดนั้น หาร้านอาหารที่ไหนก็ได้ ช่วยประหยัดเงินของนายได้ไม่น้อยเลยนะ นายประหยัดเงินไว้ซื้อเสื้อผ้าสักชุดหนึ่งให้ฉันดีแค่ไหน” หลี่เสี่ยวเสี่ยวใช้หน้าอกของตนเองเข้าไปชิดๆ แขนของหลี่ฝางอย่างแรง

นุ่มจัง สบายจริงๆ

หลี่ฝางรู้สึกเคลิ้ม

สามปีมานี้ หลี่ฝางอยู่อย่างเงียบๆ อัดอั้นใจมานาน ผู้หญิงทุกคนต่างก็รู้ว่าหลี่ฝางจนมาก จนจนต้องซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ใส่น้ำล้างเท้าให้คนอื่นเผื่อมีรายได้มาใช้จ่าย ผู้หญิงในโรงเรียนทุกคนต่างก็หลีกให้ห่างจากหลี่ฝางไกลๆ ทั้งนั้น

นึกไม่ถึงว่ารวยแล้ว จะมีบุญวาสนากับผู้หญิงด้วย

แต่ว่าหลี่ฝางไม่ได้หลงใหลความสวยของหลี่เสี่ยวเสี่ยว เขาหันไปบอกหลี่เสี่ยวเสี่ยว: “ถึงแม้ว่าผมจะประหยัดเงินเอาไว้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องซื้อเสื้อผ้าให้คุณมั้ง คุณไม่ใช่แฟนผมสักหน่อย”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวหันสายตาไป: “เด็กโง่ นายไม่จีบฉัน ฉันจะเป็นแฟนนายได้ไง”

หลี่ฝางไม่โง่ เขาดูจุดมุ่งหมายของหลี่เสี่ยวเสี่ยวออก

“ไปกินข้าวก่อนเถอะ ไปLotusนั่นแหล่ะ” หลี่ฝางยิ้มๆ และกล่าว

จางเสี่ยวเฟิงเดินกลับมาที่ห้องเรียน ตะโกนบอกหลี่ฝาง: “เพื่อนๆ ไปกันหมดแล้ว รอแต่พวกนายแล้วนะ”

“มาแล้ว”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวควงแขนของหลี่ฝางเดินออกไปด้วยกัน โจวหยางลังเลอยู่สองสามวิ แล้วก็รีบตามไป

ที่ไม่ไกลมากนัก เซี่ยลู่มองเห็นหลี่ฝาง เธอขมวดคิ้วขึ้นและถามตู้เฟย: “พี่เฟย พวกนายไปกินเลี้ยงวันนี้ หลี่ฝางไอ้ยาจกจนๆ นั่นก็ไปด้วยเหรอ? ”

ตู้เฟยตอบอืมคำเดียว

“นายบอกเสี่ยวเฟิงได้ไป อย่าให้นายคนนี้ตามไปด้วย ฉันเห็นเขาก็รู้สึกสะอิดสะเอียนกินข้าวไม่ลง” เซี่ยลู่พูด

“ไม่ได้หรอก” ตู้เฟยส่ายหัว

“ทำไม? ”

“คุณเข้าใจผิดแล้ว วันนี้ไม่ใช่จางเสี่ยวเฟิงเลี้ยงข้าวนะ หลี่ฝางเป็นคนเลี้ยง” ตู้เฟยหัวเราะ: “คิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ? ”

“พี่เฟย อย่าล้อเล่นสิ ยาจกนี่นะ แม้แต่โรงอาหารก็เลี้ยงไม่ไหวแล้ว เขาจะเลี้ยงคนเยอะขนาดนี้ที่Lotusได้ไง? ” เซี่ยลู่ไม่อยากจะเชื่อ

“คราวนี้เขาโชคดี ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่” เกาเสิ้งบ่นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจมาก

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ถูกรางวัลเท่าไหร่เหรอ? ” เซี่ยลู่ถามด้วยความสงสัย เธอกลัวได้ยินหลี่ฝางถูกรางวัลใหญ่

“แค่สองหมื่นเอง”

“สองหมื่น? ว้าว ตาบ้านี่ถูกรางวัลแค่สองหมื่น ก็กล้าเลี้ยงเพื่อนทั้งห้องไปกินข้าวที่Lotus กล้ามากจริงๆ ” เซี่ยลู่หัวเราะในตอนนั้น หัวเราะแบบดูถูก

แต่ว่าตอนที่หลี่ฝางเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้ว เซี่ยลู่รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันที

ตอนแรกเซี่ยลู่นึกว่าจางเสี่ยวเฟิงเป็นคนเลี้ยง ดังนั้นถึงได้ตอบตกลงไปด้วย อีกทั้งยังชวนเพื่อนสนิทสองคนไปด้วย คือหลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยน

แต่กลับกลายเป็นหลี่ฝางที่เป็นคนเลี้ยงข้าว แล้วตนเองจะตามไปอีกไหม?

หลี่ฝางเห็นเซี่ยลู่ ไม่พูดจาอะไร ยกมือโบกรถคันหนึ่ง จากนั้นหันไปบอกพวกตู้เฟย: “ผมไปก่อนนะ พวกนายรีบๆ ตามมา”

“เขาหมายความว่าไง เห็นหน้าไม่ทักทายกันเลย? ” มองดูหลี่ฝางเรียกรถออกไป เซี่ยลู่รู้สึกโมโห

“เซี่ยลู่ เราไม่ไปดีกว่ามั้ง? ” นี่เป็นงานเลี้ยงห้องเขา พวกเราไม่ได้อยู่ห้องเขานิ” จางเชี่ยนพูดขึ้นมาในตอนนี้

หลิวเฉียวเฉียวก็สีหน้าไม่ค่อยดี: “ใช่ เขาไม่ได้เชิญชวนพวกเรานะ ถ้าเราสามคนตามไปด้วย เดี๋ยวถูกไล่ออกมาทำไง? ”

“มันกล้า!” ตอนแรกเซี่ยลู่ยังมีความลังเลบ้าง แต่คำพูดของหลิวเฉียวเฉียว ทำให้เซี่ยลู่คิดอยากจะไปมากขึ้น

“ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะกล้าไล่พวกเราออกมา นอกจากว่าเขาจะกล้าทำให้พี่เฟยของฉันขุ่นเคือง” เซี่ยลู่มองหน้าตู้เฟยด้วยความมั่นใจเต็มร้อย

“ขึ้นรถเถอะ มีผมอยู่” ตู้เฟยยิ้มๆ กดกุญแจรีโมทรถBMWของตนเอง

“เมื่อกี้พวกแกไม่เห็น หลี่เสี่ยวเสี่ยวควงแขนของหลี่ฝาง ใกล้ชิดมาก” มีคนพูดขึ้นมาหนึ่งคำ

“พวกเราไม่ตาบอด จะไม่เห็นได้ไง? หลี่เสี่ยวเสี่ยวคนนี้ เป็นผีดูดเลือดที่มีชื่อเสียงดังจะตาย ชายคนไหนไปติดพันเธอ ในกระเป๋ามีเงินมากเท่าไหร่ ก็ถูกเธอหลอกใช้จนหมดเกลี้ยง” เซี่ยลู่ขึ้นไปนั่งที่ข้างคนขับ มุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย

เธอรู้ว่าหลี่ฝางได้ใจแบบนี้ได้ไม่นานหรอก

ผ่านไปประมาณสิบนาที คนขับแท็กซี่ก็จอดรถ: “ถึงแล้วครับ สิบหยวน”

โจวหยางกำลังล้วงกระเป๋าเสื้อ หลี่ฝางก็ยื่นแบงค์ร้อยให้คนขับหนึ่งใบ จากนั้นบอกว่า: ไม่ต้องทอน

“หลี่ฝาง นายจะใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เงินสองหมื่นอาจจะใช้ได้ไม่นานก็หมดไป” โจวหยางตักเตือนหลี่ฝางด้วยความหวังดี

“หัวหน้าครับ นายอย่ากังวลไปเลย ที่จริงผมไม่ได้ถูกรางวัลแค่สองหมื่น แต่เป็นสองแสน” หลี่ฝางพูดเบาๆ

แต่คำนี้ ถูกหลี่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินเข้าพอดี

วินาทีนี้ หลี่เสี่ยวเสี่ยวสะเทือนใจมากสุดๆ

สองแสน?

แววตาที่หลี่เสี่ยวเสี่ยว มองหลี่ฝาง ก็เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวในฝันอย่างนั้น

“เพื่อนๆ ครับ อย่ารีรอเลย เข้าไปกันเถอะ” หลี่ฝางมองดูเพื่อนนักเรียนที่ยืนออกันอยู่ตรงหน้าประตู แล้วก็โบกมือเรียกให้เข้าไป

หลี่ฝางไม่เคยมาโรงแรมที่หรูมีระดับขนาดนี้มาก่อน วินาทีที่เข้าไปนั้น เขาตะลึงมากจนหยุดชะงัก

พอเข้าประตูไปก็จะมองเห็นภูเขาปลอมใหญ่มาก อยู่ตรงใจกลาง ดูอลังการมาก

“คนเยอะขนาดนี้เลยหรือ? ”

มองดูคนเยอะแยะมากมาย พนักงานของLutusก็ตกตะลึงเช่นกัน

“ขอถามหน่อยนะครับ พวกคุณมาด้วยกันหรือเปล่าครับ? ” พนักงานเข้ามาถามอย่างมีมารยาท

หลี่ฝางพยักหน้า: “ใช่ครับ มาด้วยกัน คุณช่วยหาห้องวีไอพีที่ใหญ่หน่อยนะครับ”

“ต้องขออภัยด้วยนะคะ คุณผู้ชาย ห้องวีไอพีที่ใหญ่ที่สุดถูกจองไว้หมดแล้วค่ะ แต่เหลือเฉพาะห้องเล็ก” พนักงานตอบด้วยความขอโทษ

“ห้องเล็กก็ได้ครับ ไปจัดเตรียมได้เลยครับ” หลี่ฝางบอก

ถึงแม้หลี่ฝางจะใส่ชุดราคาถูกๆ ที่ขายข้างทาง แต่พนักงานก็มีมารยาทเหมือนเดิม ก็ยังให้บริการอย่างดี

ทันใดนั้น หลี่ฝางหยิบออกมาสองร้อย ยื่นให้เขา: “อะ อันนี้ให้ทิปคุณ”

“ขอบคุณเถ้าแก่ ของคุณเถ้าแก่” พนักงานดีใจมาก เรียกเถ้าแก่อย่างไพเราะมากกว่าเรียกพ่อตนเองอีก

“หลี่ฝาง นายใจดีจังเลย ให้ทิปทีเดียวสองร้อยเลย? ” เพื่อนนักเรียนต่างตะลึงกันใหญ่ เพราะเงินเดือนพนักงานบริการก็ไม่เท่าไหร่ สำหรับในเมืองตงไห่ที่ไม่ค่อยเจริญมากนัก เงินเดือนอย่างมากก็แค่สองพัน

“หลี่ฝาง ถูกรางวัลก็ไม่ง่ายนะ นายอย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยขนาดนี้ ใช้หมดแล้วจะทำไง? ” เพื่อนๆ เตือนด้วยความหวังดี

“ใช่ ใช่ เดี๋ยวพวกเราก็กินอะไรง่ายๆ ก็พอ ฟุ่มเฟือยมากเกินไปไม่ดี พวกเราต่างก็เป็นนักเรียน”

“ไม่เป็นไร เพื่อนๆ ไม่ต้องเกรงใจผมนะ” หลี่ฝางไม่ค่อยคิดมากอะไร เขาใจกว้างเช่นนี้ ก็เพราะในบัญชีของเขามีเงินตั้งหนึ่งล้าน แต่เป็นเพราะปู่ของเขาเป็นถึงมหาเศรษฐีในเมืองดูไบ

ตอนที่อยู่ในห้องเรียน หลี่ฝางได้ค้นข้อมูลดูแล้ว ที่ดูไบมีคนที่ชื่อหลี่เจียเฉินจริงๆ ทรัพย์สินของเขามีมูลค่ามากถึงแสนล้าน ถ้าหลี่เจียเฉินคนนั้นก็คือปู่ของตนเอง ชีวิตที่เหลืออยู่ ก็ใช้เงินได้สบายๆ เลย

ยิ่งไปกว่านั้น เป็นคนใช้มานานขนาดนั้น หลี่ฝางก็อยากจะลองเป็นเจ้าเป็นนายคนดูบ้างว่าจะรู้สึกยังไง

ไม่พูดไม่ได้ว่า ความรู้สึกของการจ่ายเงิน มันสะใจมาก

จากนั้นสักพัก พนักงานวิ่งกลับมาเรียกหลี่ฝางไปพบผู้หญิงคนหนึ่ง

“สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อนนะคะ ฉันชื่อหลินชิงชิง คือเรื่องมันเป็นแบบนี้นะคะ วันนี้พี่ชายฉันแต่งงาน มีแขกไม่มาร่วมงานประมาณสามโต๊ะ นั่นก็คือ พี่ชายฉันจองโต๊ะเยอะเกินไปสามโต๊ะ ค่าใช้จ่ายคือโต๊ะละสามพันแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน สุดหล่อช่วยรับซื้อต่อได้ไหมคะ”

“ฉันลดราคาให้คุณครึ่งหนึ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นไง? ” หลินชิงชิงยกมือขึ้นมาโชว์มือห้านิ้ว

โครงหน้าของหลินชิงชิงดูสวยน่าดู วันนี้เธอใส่ชุดสีดำกระโปรงยาว ดูดีมีสง่าราศี หลี่ฝางอยากจะช่วยเหลือเขา แต่ถ้าค่าใช้จ่ายต่ำกว่านี้อีกหน่อย เขาอาจจะตกลงแล้ว

แต่ว่าโต๊ะละตั้งสามพันแปดร้อยกว่า สามโต๊ะก็หนึ่งหมื่นกว่าแล้ว หลี่ฝางรู้สึกลำบากใจนิดๆ

“สุดหล่อ นายวางใจได้ วันนี้นายช่วยเหลือฉัน หลินชิงชิงฉันคนนี้จะจดจำพระคุณครั้งนี้ หลังจากวันนี้ ถ้านายเจอปัญหาอะไรที่ตงไห่ มาหาฉันได้เสมอ นี่คือเบอร์ติดต่อของฉัน นายจดไว้นะ” หลินชิงชิงพูดขึ้นมาอีก

“ก็ได้ครับ” สีหน้าหลี่ฝางเต็มไปด้วยความฝืนใจ

“แต่ว่า……”

“แต่ว่าอะไร? ” หลินชิงชิงขมวดคิ้ว

“แต่ว่าไม่ต้องลดราคาให้ผมก็ได้ โต๊ะอาหารราคาเท่าไหร่ผมก็จ่ายเท่านั้น” หลี่ฝางยิ้มๆ และพูด

หลินชิงชิงได้ยินแล้วตกตะลึงสักพัก เธอนึกว่าตนเองหูฝาดฟังผิดไปแล้ว จึงถาม: “นายหมายความว่า จะช่วยรับซื้อในราคาเดิมทั้งสามโต๊ะเหรอ? ”

“ใช่”

“ฮาๆ ดีจริงๆ นายชื่ออะไร? ” หลินชิงชิงหัวเราะดังๆ หน้าอกก็สั่นไปด้วย

“ผมชื่อหลี่ฝาง”

“โอเค ฉันจำนายไว้แล้วนะ ตั้งแต่ตอนนี้ไป นายก็คือน้องชายของฉันคนนี้หลินชิงชิง ถ้าใครกล้ารังแกนาย……”

หลินชิงชิงยังไม่ทันพูดจบ ห้องรับรองก็มีเสียงด่าของจางเสี่ยวเฟิงดังขึ้น: “หลี่ฝาง แกไปตายที่ไหนแล้วเนี่ย? รีบออกมาเร็วๆ สิ!

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท