NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 6

ตอนที่ 6

บทที่ 6 ตู้เฟยที่ชั่วร้าย

หลี่ฝางพูดจบ เสียงในห้องอิมพีเรียลเงียบลง

ทุกคนในห้อง ต่างก็จ้องมองหลี่ฝาง

“หลี่ฝาง ฉันว่านายบ้าไปแล้วเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงพูดขึ้นมาทำลายความเงียบนั้น

“หลี่ฝางต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถ้าเอาอย่างที่เขาพูด อาหารมื้อนี้คงต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นแสน ถึงจะหารกันคนละครึ่ง เขาก็ต้องรับผิดชอบบิลอย่างน้อยห้าหมื่นขึ้นไป”

“แต่เขาถูกรางวัลแค่สองหมื่นเองไม่ใช่เหรอ? ”

ระหว่างทางที่มา พวกตู้เฟยคิดจะปอกลอกหลี่ฝางยังไง แต่วันนี้ไปๆ มาๆ พวกเขากลัวขึ้นมาแล้ว

สีหน้าตู้เฟยเขียวไปเลยทีเดียว บนตัวเขามีแค่สองหมื่นกว่า ถ้าสั่งไวน์สี่ขวดจริงๆ ไม่เพียงแค่หลี่ฝางจะถูกคุมตัวไว้ แม้แต่เขาก็ต้องโดนไปด้วย

แต่ในขณะนั้นพนักงานพยายามช่วยพูดขึ้นมาว่า: “เถ้าแก่น้อย ท่านล้อเล่นเก่งจริงๆ เดี๋ยวผมแนะนำไวน์ยี่ห้ออื่นๆ ให้นะครับ”

“ใช่ หลี่ฝางกำลังล้อเล่นกับคุณ” ตู้เฟยรีบพูด

แต่หลี่ฝางกลับยิ้มนิดๆ : “ใครล้อเล่น ผมพูดจริงๆ ”

“พี่เฟย นายจ่ายไม่ไหวเหรอ? ” หลี่ฝางหรี่ตาลงเล็กๆ จ้องมองหน้าตู้เฟยอย่างเยาะเย้ย

หลี่ฝางพูดแล้วก็หยิบเอาเงินในกระเป๋าออกมายื่นให้พนักงาน: “เพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้ล้อเล่น ผมจ่ายค่ามัดจำก่อนก็ได้”

“ได้ครับ เถ้าแก่” ที่จริงพนักงานก็กลัว กลัวว่าสุดท้ายแล้วหลี่ฝางและเพื่อนๆ จะจ่ายไม่ไหว ตอนนี้หลี่ฝางจ่ายค่ามัดจำไปสองหมื่น เขาจึงไม่ต้องกลัวจะเกิดปัญหาอีก

“พี่เฟย ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็ให้พนักงานเสิร์ฟอาหารได้เลย ปรึกษากันนานมากแล้ว ผมว่าทุกคนหัวแย่แล้ว” หลี่ฝางพูด

ตู้เฟยถึงกับพูดอะไรไม่ออก

เขาไม่กล้าตอบตกลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้

ถ้าเขาปฏิเสธ ก็แสดงว่าเขายอมแพ้ ยอมก้มหัวให้หลี่ฝางแล้ว

“ไม่พูดแสดงว่ายอมรับ ดูแล้วพี่เฟยไม่มีปัญหาอะไร” หลี่ฝางพูด: “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เสิร์ฟอาหารเสิร์ฟเหล้ามา”

พนักงานเดินออกจากห้องรับรองแล้ว ตู้เฟยพูดขึ้นมาว่า: “เดี๋ยวนายจ่ายของนายก่อน ถ้าจ่ายไม่ไหว นายก็อยู่ที่นี่แหล่ะ”

หลี่ฝางยิ้มๆ ไม่ตอบอะไร

ไม่นาน อาหารและเหล้าเสิร์ฟพร้อมแล้ว กับข้าวเยอะเกินไป จนโต๊ะไม่พอวาง

ทุกคนต่างหยิบมือถือออกมาถ่ายรูป โพสต์ในเฟสบุ๊ค อินสตาร์แกรมและเว็บต่างๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้มอย่างได้ใจ

ผ่านไปสักพักใหญ่ ทุกคนต่างก็ปล่อยวางได้แล้ว

ดื่มไปแค่ไม่กี่แก้ว หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็เอามือนวดขมับ แกล้งทำเป็นมึนเมาและพูดว่า: “พี่ฝาง ฉันเหมือนจะเมามากแล้ว ขอยืมไหล่ของนายพิงหน่อยได้ไหม”

หลี่ฝางหันไปมองทางเซี่ยลู่ แต่กลับเห็นเซี่ยลู่เมาและซบอยู่ในอกของตู้เฟยแต่เช้าแล้ว หลี่ฝางเห็นแล้วหงุดหงิดกรอกเหล้าเหมาไถลงไปอึกหนึ่ง

ที่จริงแล้วหลี่ฝางได้ตายใจจากเซี่ยลู่ตั้งนานแล้ว แค่ว่ามองดูเซี่ยลู่กับตู้เฟยอยู่ด้วยกัน ในใจของเขาก็ยังรู้สึกโมโห

“หลี่ฝาง มา ขอชนแก้วขอบใจนายสักแก้ว” หลิวเฉียวเฉียวมาอยู่ข้างๆ ของหลี่ฝาง

“ถ้าไม่ใช่นาย ชีวิตนี้ฉันคงไม่มีโอกาสได้ดื่มไวน์ดีๆ แบบนี้”

“ฉันเคยได้ยินมาว่า ไวน์ต้องค่อยๆ ชิม แต่ดื่มหมดไปขวดหนึ่งแล้ว ฉันยังดื่มไม่ออกเลยว่ามันรสชาติยังไง” หลิวเฉียวเฉียวกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เบิกบาน

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “ตอนที่เธอดื่มลงไป ไม่ได้รสชาติของแบงค์พันเหรอ? ”

ฮาๆๆ หลิวเฉียวเฉียวถูกหลี่ฝางหยอกจนหัวเราะเสียงดังออกมา

“นายอารมณ์ดีจริงๆ เลย เมื่อก่อนทำไมไม่สังเกตเห็นนะ” หลิวเฉียวเฉียวกำมือทุบที่หน้าอกของหลี่ฝางเบาๆ

หลี่ฝางหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ ก็เพราะเมื่อก่อนมันจนไงล่ะ

หลิวเฉียวเฉียวเดินไปแล้ว จางเชี่ยนก็เดินมาคุยดีกับหลี่ฝางเหมือนกัน ทำให้หลี่เสี่ยวเสี่ยวหงุดหงิดโมโห ด่าสองคนนั้นตลอดว่าเป็นนางมารสุนัขจิ้งจอก

จนสุดท้ายกินข้าวไม่ลง ดื่มก็ดื่มไม่ลงแล้ว จึงคุยกันว่าจะกลับบ้านกัน

ตอนที่เช็คบิล จางเสี่ยวเฟิงและเกาเสิ้งหัวเราะเยาะอยู่ตลอดเวลา

“ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ? ” หลี่ฝางและตู้เฟยเดินไปที่เคาน์เตอร์เช็คบิล เซี่ยลู่และคนอื่นๆ ต่างก็พากันไปด้วย

“สวัสดีค่ะ ค่าใช้จ่ายห้องอิมพีเรียลทั้งหมดหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นสองพันหยวน ส่วนค่าใช้จ่ายห้องวีไอพีอีกสามห้องทั้งหมดสองหมื่นสองพันหยวนค่ะ” พนักงานบัญชีที่เคาน์เตอร์สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

“ผมขอสอบถามหน่อย ห้องอื่นอีกสามห้อง เป็นมาตรฐานสามพันแปดร้อยแปดสอบไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมค่าใช้จ่ายถึงตั้งสองหมื่นสอง? คิดผิดหรือเปล่าครับ” หลี่ฝางขมวดคิ้วถาม

“คุณผู้ชายสวัสดีค่ะ สามห้องนั้นได้สั่งเหล้าข้าวทุกห้อง และยังเหมือนห้องอิมพีเรียลของพวกคุณด้วย เหล้าเหมาไถเหมือนกัน ทั้งหมดดื่มไปแปดขวด”

สีหน้าของหลี่ฝางบึ้งและเข้าใจอะไรบางอย่างทันที

หลี่ฝางรูดบัตร จากนั้นมองหน้าตู้เฟยนิ่งๆ : “พี่เฟย ค่าใช้จ่ายของห้องอิมพีเรียลเราตกลงกันไว้ว่าหารกันคนละครึ่ง ของผมจ่ายแล้ว”

“นายเอาเงินเยอะขนาดนั้นมาจากไหน? ” ตู้เฟยมองหน้าหลี่ฝางอย่างเยือกเย็น

เซี่ยลู่เข้าใจขึ้นมาทันที: “หลี่ฝาง นายไม่ได้ถูกรางวัลแค่สองหมื่นเท่านั้นใช่ไหม แต่เยอะกว่านั้น? ”

“ผมไม่เคยพูดว่าผมถูกรางวัลแค่สองหมื่นนะ? ” หลี่ฝางยิ้มๆ อย่างมีเล่ห์นัย

“ผมแค่เอาเงินสดออกมาสองหมื่น ก็หมายความว่าผมถูกรางวัลแค่สองหมื่นเหรอ? ”

“ถ้าผมถูกรางวัลห้าล้าน ก็ต้องเอาออกมาทั้งหมด แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าอย่างนั้นเหรอ? ผมไม่มีกระเป๋าที่ใหญ่ขนาดนั้น” สองมือของหลี่ฝางล้วงกระเป๋ากางเกง พูดจบก็เดินออกจากLotusอย่างสง่าผ่าเผย

อาหารมื้อเดียวหลี่ฝางใช้ไปตั้งเจ็ดแปดหมื่น จะบอกว่าไม่เสียดายคงไม่ใช่แน่นอน แต่ที่เขาทำเช่นนี้ในคืนนี้ ทั้งหมดก็เพื่อเอาความมั่นใจของตนเองกลับคืนมา

หลี่ฝางอัดอั้นมานานสามปี ในที่สุดก็สามารถลืมตาอ้าปาก เงยหน้าเดินได้อย่างสง่าผ่าเผย

เหมือนในหนังเรื่อง《โหด เลว ดี》คำพังเพยที่โจวเหวินฟะพูดไว้: ผมรอมาตั้งสามปี ก็เพื่อรอโอกาส ผมจะต้องยืดอกเดินได้สง่าผ่าเผย ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าผมยอดเยี่ยมขนาดไหน ผมอยากบอกทุกคน สิ่งที่ฉันเคยเสียไปทั้งหมด ผมต้องเอาคืนมาให้ได้!

คำพังเพยประโยคนี้เหมาะสำหรับหลี่ฝางมาก

“คุณผู้ชายคะ ท่านยังต้องจ่ายอีกห้าหมื่นหกพัน ท่านต้องการรูดบัตรหรือจ่ายเงินสดคะ? ” พนักงานเคาน์เตอร์มองหน้าตู้เฟยและคนอื่นๆ

ตู้เฟยร้อนใจล่ะทีนี้ ในบัตรของเขามีแค่สองหมื่น มีเงินจ่ายที่ไหนกัน?

“เดี๋ยวนะครับ ผมโทรศัพท์ก่อน” ตู้เฟยรีบร้อนหยิบมือถือออกมา แล้วรีบโทรหาคนนั้นคนนี้

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ตู้เฟยยืมได้แค่ไม่กี่พัน คนส่วนใหญ่ได้ยินคำว่ายืมเงินก็เริ่มบ่นว่าจนหรือวางสายทิ้งทันที

“แม่งเอ้ย!” ตู้เฟยตาแดงๆ ถามพวกจางเสี่ยวเฟิง

“พี่เฟย บนตัวผมมีแค่ไม่กี่พัน แต่ก็ไม่พอนี่นา” จางเสี่ยวเฟิงพูดด้วยความขมขื่น

“เกาเสิ้ง นายล่ะ? ” ตู้เฟยถาม

“พี่เฟย สองวันนี้ผมเล่นพนันออนไลน์ เล่นเสียหมดแล้ว” เกาเสิ้งพูดโกหกไป

“เหี้ยแม่ง คืนนี้มึงกินเยอะที่สุด” ตู้เฟยร้อนรนใจ ตะโกนด่าเกาเสิ้งออกมาโดยไม่สนใจอะไรแล้ว

ถึงแม้เกาเสิ้งจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับตู้เฟย

เงินรวบรวมได้แค่สองหมื่นหก ยังขาดอีกสามหมื่น ไม่มีทางอื่น ตู้เฟยจึงให้สาวๆ อยู่เป็นตัวประกันไว้ก่อน บอกว่าเดี๋ยวไปเงินมาได้ค่อยกลับมารับพวกเธอกลับ

หลังจากออกไปแล้ว จางเสี่ยวเฟิงกัดฟันพูด: “แม่งเอ้ย นึกไม่ถึงจะถูกหลี่ฝางไอ้ตาบ้านั่นแกล้ง!”

ใช่ ตอนแรกยังกะจะแกล้งมัน นึกไม่ถึงกลับถูกมันแกล้ง!”

“ตอนนี้จะทำยังไงดี? ” เกาเสิ้งรู้สึกร้อนใจแล้ว: “สามหมื่น? เงินเยอะขนาดนี้พวกเราจะไปหาที่ไหน!”

“พี่เฟย ถ้าไม่ได้จริงๆ ต้องเอ่ยปากขอกับพ่อนายแล้ว” จางเสี่ยวเฟิงมองหน้าตู้เฟยและพูดด้วยความอัดอั้นใจ

ตู้เฟยจ้องจางเสี่ยวเฟิง: “ให้พ่อกูรู้เข้าว่ากูมากินข้าวมื้อเดียวใช้ไปห้าหมื่นกว่า เขาต้องเอากูตายแน่ วันหลังรถคันนี้ก็ขับไม่ได้อีกแน่”

“งั้นไปยืมพวกเงินกู้นอกระบบคงไม่ได้หรอกมั้ง? ” จางเสี่ยวเฟิงถอนหายใจ

“นี่ก็เป็นอีกวิธีที่ใช้ได้นะ พอดีผมก็รู้จักพี่คนหนึ่งที่ปล่อยเงินกู้ ผมโทรหาเขาได้” พูดจบเกาเสิ้งยังรีบหยิบมือถือออกมา แต่ปรากฏว่าถูกตู้เฟยถีบจนล้มลงกับพื้น

“แม่งเอ้ยมึงทำไมโง่วะ ยืนเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยสูงพวกเราจะคืนยังไง? ” ตู้เฟยถาม: “เงินกู้ดอกเบี้ยบาน ถ้ายืมแล้วไม่มีคืน พวกเรายิ่งตายแน่”

เกาเสิ้งหันไปมองด้านหลัง: “ซ้อกับหลิวเฉียวเฉียวพวกเค้า……”

“อย่าเอ่ยถึงพวกนางนั่น ถ้าไม่ใช่พวกเธอ ข้าวมื้อนี้จะใช้ไปเยอะขนาดนั้นได้ไง? ” ตู้เฟยพูดด้วยความโมโห: “ค่าใช้จ่ายพวกเค้าเป็นคนใช้เอง ก็ให้พวกมันจ่ายเองละกัน พวกเราไป”

จางเสี่ยวเฟิงและเกาเสิ้งได้ยินแล้ว ต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครพูดจา

เซี่ยลู่เป็นแฟนของตู้เฟย ตู้เฟยเองยังไม่สนใจแล้ว พวกเขาจะสนใจทำไม

“เดี๋ยวรอมีโอกาส ต้องสั่งสอนไอ้บ้าหลี่ฝางสักหน่อยแล้ว” ตู้เฟยพูดอย่างเยือกเย็น

จางเสี่ยวเฟิงและเกาเสิ้งก็คิดแบบนี้เหมือนกัน

เซี่ยลู่และเพื่อนๆ นั่งบนโซฟาในล็อบบี้Lutus นั่งมาสองชั่วโมงแล้ว ระหว่างนั้น เซี่ยลู่พยายามโทรหาตู้เฟย จะถามเขาหาเงินได้หรือยัง?

ตอนแรกตู้เฟยยังตอบดีๆ อยู่ ว่าตนเองกำลังหาวิธี แต่สุดท้าย ปิดเครื่องหายเงียบไปเลย

ในเวลานี้ เซี่ยลู่ตกใจอย่างมาก

“มือถือของตู้เฟยปิดเครื่องแล้ว” เซี่ยลู่จับมือถือไว้และพูดอย่างตื่นตระหนกใจ

“หา!” หลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยนก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเหมือนกัน

“แล้วพวกเราควรทำยังไงดี? ” หลิวเฉียวเฉียวขมวดคิ้วแน่นๆ

จางเชี่ยนผลักแขนของเซี่ยลู่: “ลู่ลู่ หรือว่าแกโทรหาหลี่ฝางดูไหม ให้เขามาช่วยพวกเราเถอะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน