NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 15

ตอนที่ 15

บทที่ 15 ทะเลาะในบาร์

พี่ฝางสุดยอด มีเงินจะทำอะไรก็ได้…

ทุกคนค่อยๆ ยกแก้วขึ้นให้กับหลี่ฝางและส่งเสียงเชียร์เขาทันที มีเพียงพวกตู้เฟยไม่กี่คน ที่สีหน้าค่อยๆ เขียวคล้ำ

เมื่อหลี่ฝางกลับไปที่ที่นั่ง VIP อีกครั้ง ตู้เฟยก็คล้ายจู่ๆ ได้สติขึ้นมา เขามองไปที่หลี่ฝางอย่างเย็นชา “แกกล้าตลบหลังฉัน?”

“ฉันบอกแล้ว มีเกมบางเกม นายเล่นไม่ไหว มีคนบางคน นายหาเรื่องไม่ได้” หลี่ฝางยักไหล่และพูด

“บริกร ส่งบิลของฉันให้เขา” หลี่ฝางเรียกบริกรมาและชี้ไปที่ตู้เฟย

ใบหน้าของตู้เฟยเคียดแค้นอย่างยิ่ง เขาเข้าไปหาบริกรที่เดินเข้ามา “ไสหัวไป อาศัยอะไรให้ฉันจ่ายเงิน!”

“คนที่เก่งคือไอ้คนชอบพล่ามนั่นต่างหาก ไปให้มันจ่าย” ตู้เฟยด่าเสียงดัง

“สรุปใครเป็นคนจ่าย?” บริกรมองไปที่ตู้เฟยจากนั้นจึงมองหลี่ฝาง และไปหาผู้จัดการ

ทันทีที่บริกรออกไป หลี่ฝางก็ร้อนรนแล้ว

หลังจากดูบิลเมื่อครู่ ยอดบิลทั้งหมดมากกว่า 2 ล้าน ไม่เพียงแต่ตู้เฟย แม้แต่หลี่ฝางเองก็ยังรู้สึกหวาดกลัว

ให้ตายเถอะ เขาเล่นใหญ่ไปหน่อย หากไม่สามารถปิดฉากได้ เกิดตู้เฟยตุกติกขึ้นมา ตนเองจะทำยังไง?

ถ้าบาร์นี้เป็นของพ่อเขาจริงๆ อย่างนั้นก็พอพูดได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าหากไม่ใช่ล่ะ?

“ตู้เฟย แกยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า แม้กระทั่งเล่นเกมยังเล่นไม่เป็น” หลี่ฝางด่าทันที

ตู้เฟยเดินโซซัดโซเซเข้ามาและชี้ไปที่จมูกของหลี่ฝาง “ใช่ ฉันมันเล่นเกมไม่เป็น”

ตู้เฟยยิ้มน่ากลัว ท่าทางท้าทายคล้ายกับถามกลับว่าใครจะทำอะไรตนได้

เห็นชัดๆ ว่านี่คือกับดัก

โจวเจ๋ยืนขึ้นและเอ่ย “เพื่อน นายเองก็ร้ายกาจเกินไปหน่อย ตู้เฟยสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้เพื่อนของนาย แต่คนมากมายขนาดนั้น พวกเขาเป็นเพื่อนของนายหรือไง? เกรงว่าแม้กระทั่งชื่อของพวกเขานายยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ”

“ใช่ นายโกงก่อน” ตู้เฟยรีบเออออตาม

เมื่อหลี่ฝางไม่มีทางเลือก หลินชิงชิงที่นั่งเงียบก็เปิดปาก เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มน้อยๆ “ใครกำหนดว่าเป็นเพื่อนกันต้องรู้จักชื่อของกันและกัน”

“ฉันแค่อยากถามว่า บิล พวกนายจะจ่าย หรือไม่จ่าย” หลินชิงชิงเอ่ยหน้าเคร่ง

ตู้เฟยเหลือบมองไปที่หลินชิงชิง และหัวเราะออกมา “คนสวย บิลวันนี้ ฉันไม่ยอมจ่ายแน่”

“ถ้าคุณไม่พอใจ ก็ตีฉันได้! ”

หลังจากที่ตู้เฟยพูดจบ หลินชิงชิงก็คว้าขวด Royal Salute ที่ว่างเปล่าและทุบลงบนหัวของตู้เฟย

“แกกล้าทุบน้องฉัน!”

“หญิงหน้าเหม็น รู้ไหมว่าน้องฉันคือใคร? ”

โจวเจ๋และส้งเสียงยืนขึ้นพร้อมกันและจ้องมองหลินชิงชิงอย่างเย็นชา

หลินชิงชิงปรบมืออย่างไม่รีบร้อน “ฉันต้องสนใจด้วยหรือไงว่าน้อยพวกนายเป็นใคร เขาบอกเองนี่ว่าไม่พอใจก็ตีเขาได้ ฉันไม่พอใจ ก็เลยตี ทำไม ผิดตรงไหนหรือ?”

“พี่เจ๋ พี่เสียง พวกพี่ยืนนิ่งทำไม รีบลงมือสิ!” ตู้เฟย”ล้มลงกับพื้นและตะโกนขึ้นมา

“แต่ … ” โจวเจ๋และส้งเสียงลังเล ตอนพวกเขาออกมา พวกเขาได้รับคำสั่งจากที่บ้านว่าจะต้องห้ามมีเรื่องที่ Recalling the past

“แม่ง หากเกิดเรื่องผมรับเอง!”

หลังจากที่ตู้เฟยบอกว่าจะรับผิดชอบทั้งหมด โจวเจ๋และส้งเสียงก็ไม่กลัวอะไรอีกต่อไป

อย่างไรก็ตามหากมีอะไรเกิดขึ้นก็แค่ผลักดันไปที่ตู้เฟย

โจวเจ๋และส้งเสียงตัวบัดซบทั้งสอง ไม่สนแม้แต่น้อยว่าหลินชิงชิงจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง พวกมันเริ่มลงมือทันที หลี่ฝางเองก็ไม่นิ่งนอนใจ เขารีบเข้ามาช่วย

หลังจากที่ตู้เฟยลุกขึ้นมาจากพื้น เขาก็คว้าขวดเปล่าเอาไว้แล้วเหวี่ยงไปที่หัวของหลี่ฝาง

“แม่งเอ้ย ฉันอดทนกับแกมานานแล้ว ก็แค่ถูกลอตเตอรี่ ยังมาทำเบ่งต่อหน้าฉันอีก!”

ขวดถูกเหวี่ยงใส่หัวของหลี่ฝาง ตู้เฟยด่าเสียงดัง “วันนี้ฉันจะฆ่าแก! ”

ในเวลานั้นเองเจ้าหัวแบนก็กลับมา

เมื่อเขาเห็นหลินชิงชิงถูกทุบตี ก็วิ่งเข้ามาเหมือนคนบ้าทันที และชกใส่โจวเจ๋และส้งเสียงจนล้มลงไปกับพื้น

“แกเป็นใครวะ แม้กระทั่งฉันแกยังกล้าต่อย รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? พ่อของฉันคือส้งซือหมิง!” ส้งเสียงนอนอยู่บนพื้นและตะโกนใส่เจ้าหัวแบน

“ส้งซือหมิงก็แค่ไอ้ปัญญาอ่อน!” เจ้าหัวแบนไม่รู้สักนิดว่าส้งซือหมิงคือใคร เขาเข้าไปต่อยส้งเสียงที่หน้าอีกครั้ง จนหน้าของส้งเสียงบูดกลายเป็นหัวหมู

โจวเจ๋ตกใจจนพูดไม่ออก แต่ก็ยากจะหนี หลินชิงชิงถีบเข้าตรงกลางขาของเขา โจวเจ๋กรีดร้องราวกับหมูขึ้นมาทันที

“แม่มันเถอะ ก็แค่ลูกเศรษฐีกลุ่มหนึ่ง กล้าเบ่งต่อหน้าฉัน!”

“ฉันจะบอกพวกแกให้ ฉันชื่อหลินชิงชิง พ่อชื่อลูกพี่หลินแห่งตงไห่!” หลินชิงชิงกล่าวอย่างเย็นชา

“ไม่ใช่อาศัยชื่อพ่อหรอกหรือไง? มาสิ มาสู้กัน!”

ถ้าให้เทียบเรื่องเงิน บางที หลินชิงชิงอาจไม่สู้ส้งเสียง แต่ถ้าเทียบว่าไม่อาจหาเรื่องใคร ทั่วทั้งตงไห่ มีใครกันที่กล้าหาเรื่องลูกพี่หลินและลูกพี่หลี่?

ชายสองคนนี้ เป็นจักรพรรดิของตงไห่

โจวเจ๋และสีหน้าของคนอื่นๆ เปลี่ยนไปในทันที สีหน้าพวกเขาซีดขาว มีเรื่องกับนักเลงใต้ดิน เรียกได้ว่ารนหาที่ตาย

แม้กระทั่งตู้เฟยเอง ก็ถูกตัวตนของหลินชิงชิงทำให้กลัวจนพูดไม่ออก

ทันใดนั้น ด้านนอกบาร์ก็มีเสียงรถตำรวจดังขึ้น

“บาร์นี้มีที่มาที่ไปจริงๆ นี่แค่กี่นาที ตำรวจก็มาแล้ว” ชายสวมแว่นวัยกลางคนสวมหัวเราะ

แม้ว่ารถตำรวจจะมา แต่ตำรวจกลับไม่เข้ามา

ผู้จัดการบาร์เดินเข้ามาและมองไปที่ตู้เฟยและคนอื่นๆ “ดี วันเปิดธุรกิจวันแรกของเรา พวกคุณกลับทะเลาะวิวาทสร้างเรื่องขึ้น คิดว่าพวกเรารังแกได้ง่ายๆ หรือไง?”

“เด็กๆ มาพาพวกเขาไปส่งที่สถานีทีละคน จำคุกสักสองสามวันค่อยว่ากัน” ผู้จัดการบาร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ตู้เฟยและคนอื่นๆ รีบเอ่ยชื่อพ่อของพวกเขาออกมาทันที แต่ผู้จัดการบาร์กลับไม่สนใจ

“พอเถอะ ทรัพย์สินของครอบครัวพวกคุณรวมกันยังไม่มากเท่ากับเจ้านายของเรา หากอยากให้ฉันไว้หน้า ก็ให้พ่อพวกนายมาขอร้องฉันเอง” ผู้จัดการบาร์ขอให้บริกรจับพวกตู้เฟยไปยังรถตำรวจ

“ยังมีพวกเขาอีกสองสามคน” หลังจากที่ตู้เฟย”และคนอื่นๆ ถูกพาตัวไป ผู้จัดการของบาร์ก็ชี้ไปที่หลินชิงชิงและเจ้าหัวแบน

“ฉันไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนลงมือ ใครถูกผิด ถ้ากล้าก่อเรื่องในบาร์ ไม่ว่าใคร ก็ต้องไปกินข้าวในคุกสักสองสามวันก่อนค่อยว่ากัน” ผู้จัดการบาร์พูดดังๆ ราวกับเอ่นเตือน

หลี่ฝางในเวลานี้ บนหัวของเขาถูกทุบโดยตู้เฟย และทำให้ไหลออกมาไม่น้อย ส่วนหลินชิงชิงกำลังเกาะแกะอยู่ที่หัวของหลี่ฝางช่วยเช็ดเลือดให้เขา

“เอาล่ะ ไม่ต้องเช็ดแล้ว พอไปสถานีตำรวจ เดี๋ยวก็จะมีคนมาห้ามเลือดให้เขาเอง”

พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งผลักหลินชิงชิงออกไป เมื่อผู้จัดการบาร์เห็นใบหน้าของหลี่ฝาง สีหน้าของเขาก็ตะลึงขึ้นทันทีเขาร้องออกมาด้วยเสียงสั่น “คุณ…ชาย”

“เดี๋ยว! ” ผู้จัดการบาร์ร้องเสียงดัง

“รีบเรียกรถพยาบาลมาเดี๋ยวนี้บ้าเอ้ย!” ผู้จัดการบาร์ลุกลี้ลุกลน ดวงตามองไปที่หลี่ฝางท่าทางเต็มไปด้วยความกลัว

ตอนนี้ผู้จัดการบาร์กลัวแทบตายแล้ว ถ้าหลี่ต๋าคางรู้เข้าว่าลูกชายของเขาถูกทุบตี เขาจะไม่อาละวาดหรือไง!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลี่ฝางได้รับบาดเจ็บที่Recalling the past หากหลี่ต๋าคางสอบสวนเรื่องนี้เข้า ผู้จัดการบาร์คงจบเห่แน่

คนอื่นๆ ไม่รู้จักตัวตนของหลี่ฝาง แต่ผู้จัดการบาร์รู้ดี ตอนที่เขามาถึงตงไห่ หลี่ต๋าคางได้ให้รูปของหลี่ฝางกับเขา ให้เขาปกป้องหลี่ฝางอย่างลับๆ เพื่อไม่ให้เขาถูกทำร้าย

แต่นี่กระไร หลี่ฝางกลับบาดเจ็บใต้จมูกเขา

“บอส จะเอายังไงกับพวกเขาดี ยังจะส่งไปที่สถานีตำรวจไหม? ” พนักงานเสิร์ฟหลายคนมองไปที่ผู้จัดการบาร์และเอ่ยถาม

“ส่งอะไรเล่า พวกเขาเป็นเหยื่อชัดๆ พวกแกตาบอดหรือไงถึงมองไม่ออก?! ” ผู้จัดการบาร์ด่าทันที และเชิญหลินชิงชิงกับเจ้าหัวแบนขึ้นไปชั้นบน

หลี่ฝางเองก็ถูกประคองขึ้นไปและทำแผลอย่างง่ายๆ

“เขาบาดเจ็บที่ผิวหนังนิดหน่อย ไม่ต้องเรียกรถพยาบาล” หลินชิงชิงมองไปที่หัวของหลี่ฝางและเอ่ย

“ใช่ ผมไม่เป็นอะไร แค่เลือดออกนิดหน่อย” หลี่ฝางเองก็ยังรู้สึกว่าเขาสบายดี

แต่ผู้จัดการบาร์กลับยังยืนกราน “ทำอย่างนั้นได้ยังไง มีเลือดที่ศีรษะของน้องคนนี้มากขนาดนั้น ต้องไปโรงพยาบาลรับการถ่ายเลือดก่อน จากนั้นถึงค่อยไปตรวจร่างกาย! ”

ผู้จัดการบาร์สวดมนต์เงียบๆ ภายในใจ ขออย่าได้กระทบกระเทือนอะไรเลย!

หลินชิงชิงหัวเราะ เธอรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย “คนที่เลือดออกไม่ใช่แค่น้องชายฉัน เด็กที่คุณเพิ่งพาออกไปเมื่อครู่ ที่หัวก็เลือดอาบเหมือนกัน ทำไมไม่เห็นคุณจะกังวลสักนิด! ”

ผู้จัดการบาร์หัวเราะและเอ่ย “มีคนที่หัวแตกอีกหรือ ผมไม่เห็นเลย บางทีแสงอาจจะมืดเกินไปหน่อย”

หลี่ต๋าคางสั่งเอาไว้ว่าห้ามเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของหลี่ฝางก่อนที่เขาจะกลับมา ดังนั้นตนจึงไม่กล้าพูดอะไร

“ตู้เฟยล่ะ เขายังไม่ได้จ่าย! ”

“ในเวลานี้เอง หลี่ฝางก็นึกอะไรบางอย่างได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท