NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 27

ตอนที่ 27

บทที่27 ปัญหาที่รุมเร้ามาสามปี

“ฝันหรือไงไอ้ห่า” ตู้เฟยไม่โง่ เขาเข้าใจว่าหลี่ฝางหมายความว่าไง

“มา เรามาคุยกัน” หลี่ฝางไปโอบไหล่ตู้เฟย ออกจากห้องพักครูกับเขา

หลังจากออกไป ตู้เฟยก็สะบัดไล่ออกจากหลี่ฝาง: “อยู่อย่าใกล้ผมมากนัก แค่เห็นก็รำคาญแล้ว”

“งั้นก็ดี ตอนนี้ผมจะโทรหาตำรวจ ให้พวกเขากลับมา” หลี่ฝางยิ้ม เอาเครื่องบันทึกเสียงในกระเป๋าออกมา: “คุณฟังดูว่านี่อะไร”

แค่เปิดช่วงเล็กๆ ช่วงหนึ่ง สีหน้าของตู้เฟยก็เปลี่ยนโดยสิ้นเชิง

“ไอ้ห่ามีบันทึกเสียงด้วยจริงๆ !” สีหน้าตู้เฟยมองหลี่ฝางอย่างดุร้าย ยื่นมือไปแย่งเครื่องอัดเสียง

หลี่ฝางไม่โต้ตอบใดๆ แป๊บเดียวเครื่องอัดเสียงก็อยู่ในมือตู้เฟย

ตู้เฟยเอาเครื่องอัดเสียงเขวี้ยงไปที่พื้นแรงๆ แล้วใช้เท้าเหยียบจนแตก

“คุณทำลายความส่วนตัวของผม นี่ถือว่าทำผิดไหม?” มองตู้เฟยที่พาลโกรธ หลี่ฝางอยากจะขำเสียจริง

ตู้เฟยในตอนนี้ เหมือนคนบ้า แทบจะเสียสติไป

“ก็แค่เครื่องอัดเสียงไม่ใช่เหรอ งั้นชดใช้อันใหม่ให้คุณเอง” ตู้เฟยหยิบกระเป๋าเงิน หยิบแบงก์มาห้าใบ

“พอยัง?”

หลี่ฝางส่ายหน้า

“หนึ่งพัน นี่คงพอแล้วสินะ” ตู้เฟยกัดฟัน แล้วก็หยิบมาห้าใบ

“ไอ้ห่า เครื่องนี้อย่างมากก็ไม่กี่ร้อย ผมให้คุณหนึ่งพันก็ไม่เอา?” ตู้เฟยด่าหลี่ฝาง

“ผมไม่ต้องการเงิน ผมต้องการปอร์เช่ของคุณ” หลี่ฝางพูดนิ่งๆ : “ตอนเช้าคุณไม่ได้พูดเหรอ ปอร์เช่นี้เป็นเพราะผมส่วนหนึ่งด้วย?”

“ผมจะบอกคุณให้นะ ตู้เฟย ที่อัดเสียงเมื่อกี๊ ผมเก็บสำรองไว้อีกอัน ดังนั้นคุณทำลายเครื่องอัดเสียงไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ผมไปแจ้งความที่สถานีตำรวจได้ตลอดเวลา ฟ้องว่าคุณแบล็กเมล์ แล้วยังมีเรื่องที่คุณกับจางเสี่ยวเฟิงใส่ร้ายผม”

หลี่ฝางพูด จู่ๆ ก็คิดขึ้นได้: “ใช่สิ นาฬิกาเรือนนั้นของคุณแพงมากใช่ไหม”

ถึงแม้หลี่ฝางไม่เข้าใจนาฬิกา แต่Rolexชื่อนี้ ใครบ้างไม่เคยได้ยิน ก็เหมือนกับรถโรลส์รอยสแหละ ถึงแม้หลี่ฝางไม่เข้าใจว่ามันดีตรงไหน แต่หลี่ฝางรู้มาเล็กน้อยว่า ว่านาฬิกานั้นแพงมาก

“ในเมื่อคุณเอามาใส่ในโต๊ะผมก่อนเอง งั้นก็หมายความว่าให้ผม?” หลี่ฝางยิ้มอย่างน่ากลัว

“นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่พ่อผมให้ผม ผมจะให้คุณได้ไง” ตู้เฟยจ้องหลี่ฝาง

“ไม่ได้จะให้ผม งั้นก็เตรียมจะใส่ร้ายผม ความผิดใส่ร้ายนี่ ไม่รู้ว่าถูกตัดสินกี่ปีเนอะ” หลี่ฝางเบะปาก หยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมแจ้งความ: “ผมก็ไม่รู้กฎหมาย ไม่งั้น พวกเราก็ถามลุงตำรวจไหม?”

ตู้เฟยกลับไปที่ห้องออฟฟิศ เอาRolexคืนมาจากมือครูประจำชั้น: “Rolexเอาคืนคุณไป พอใจไหม”

“ไม่โอเคแน่นอน Rolexนี้คือคุณใช้คืนที่ใส่ร้ายผม คุณยังแบล็กเมล์ผมอีกครั้ง เรายังไม่คิดบัญชีเรื่องนี้” หลี่ฝางพูดจบ ก็เดินไปข้างหน้าต่าง

“เห้อ ปอร์เช่คุณคันนั้นยิ่งดูก็ยิ่งสวยเสียจริง อย่างครอบครัวผมแบบนี้ กลัวว่าชาตินี้ก็คงขับรถดีขนาดนี้ไม่ได้” หลี่ฝางส่ายหน้า ถอนหายใจ

“คุณคิดดู ปอร์เช่นี้ผมให้คุณไม่ได้เด็ดขาด” ตู้เฟยกัดฟันพูด

“ผมรู้ว่าคุณทำใจไม่ได้ ดังนั้นผมเลยได้แต่มองอย่างอ้อนวอน” หลี่ฝางพูด

“ก็แค่ ถึงผมไม่มีทางได้มันมา แต่ผมอยากให้ต่อไปคุณไม่มีโอกาสขับ เพราะว่าพรุ่งนี้ผมจะเตรียมไปโรงพัก เอาเรื่องที่คุณกับเซี่ยลู่แบล็กเมล์แจ้งความลุงตำรวจ” หลี่ฝางยิ้มออกมา เผยให้เห็นฟันขาวใหญ่

“คุณมีเวลาคิดหนึ่งคืน คิดดีแล้ว โทรบอกผม” หลี่ฝางหยิบกระดาษออกมา เขียนเบอร์ตัวเองลงไป จากนั้นก็พ่นน้ำลายลง แล้วแนบไปที่หน้าอกตู้เฟย

ตู้เฟยในตอนนี้ พ่ายแพ้หลี่ฝางโดยสิ้นเชิง

เขาพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

“ใช่สิ ตู้เฟย ที่จริงผมอยากถามคุณหนึ่งคำถามมาก” หลี่ฝางเตรียมจะออกไปจู่ๆ ก็หยุดลง

“ที่จริงคำถามนี้ ผมเก็บไว้มานานมากแล้ว”

ตู้เฟยหมุนตัว มองไปที่หลี่ฝาง: “คุณอยากถามอะไร?”

“ตั้งแต่วันนั้นที่พวกเราเป็นเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ผมก็ไม่เคยทำให้คุณไม่พอใจ ปกติก็ยิ่งอยู่ห่างจากคุณ ทำไมในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณกลับทำให้ผมอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า คอยรังแกผม?”

“ผมรู้ สาเหตุที่จางเสี่ยวเฟิงกับเกาเสิ้งทำกับผมไม่ดีทุกๆ วันนั้น เบื้องหลังก็คือคำสั่งของคุณทั้งนั้น เดิมทีพวกเขาไม่ใช่แบบนั้นแต่เพราะว่าหลังจากอยู่กับคุณ ถึงได้ทำกับผมเกินไปมากขึ้น”

หลี่ฝางถูกคำถามนี้รบกวนมานานสามปี

“เพราะว่าเซี่ยลู่ไหม?” หลี่ฝางมองตู้เฟย ถามอย่างจริงจัง

“ไม่ผิด คนจนแบบคุณนี้ มีคุณสมบัติตรงไหนไปจีบเซี่ยลู่”

“คุณรู้ไหม?ที่จริงเซี่ยลู่ไม่ได้ไม่ชอบคุณขนาดนั้น และยังพูดได้ว่ายังชอบคุณอยู่ แต่ผมค่อยๆ ทำลายภาพลักษณ์คุณ เอาข่าวทุเรศของคุณส่งให้เซี่ยลู่ เธอก็เริ่มไม่ชอบคุณ เกลียดคุณ” ตู้เฟยพูดพร้อมหัวเราะอย่างเย็นชา

“งั้นทำไมคุณคบกับเซี่ยลู่แล้ว แต่ยังไม่ปล่อยผมล่ะ?” สีหน้าหลี่ฝางนิ่งมาก

“เหตุผลเยอะมาก อย่างแรก ผมอยากเห็นคุณเป็นสภาพต่ำต้อย เงินที่จางเสี่ยวเฟิงกับเกาเสิ้งให้คุณ ที่จริงเป็นผมให้หมด ดังนั้น คุณควรรู้สึกขอบคุณผมต่างหาก ไม่มีผม คุณก็ไม่มีทางเข้าเรียนที่มัธยมตงไห่ แม้แต่เอาชีวิตรอดก็ไม่ได้”

“สองเหรอ ผมทนไม่ไหวที่เมื่อก่อนเซี่ยลู่ชอบคุณ แค่คิดว่าผู้หญิงของตัวเองเคยชอบคนที่โคตรจะจนคนหนึ่ง ผมก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว ดังนั้น พอเซี่ยลู่กลายเป็นผู้หญิงของผม ผมก็ยิ่งรังเกียจคุณ”

“เข้าใจแล้ว” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วลงจากตึกเรียน

สูดหายใจลึกๆ หลี่ฝางรู้สึกว่าตอนนี้สบายสุดๆ

ตู้เฟยรังแกเขามาสามปี ในที่สุดวันนี้ ในที่สุดหลี่ฝางก็พูดคำนี้ออกมา

วันนี้ หลี่ฝางรอนานมาก ก็ถือว่ารอจนสำเร็จแล้ว

วันนี้เป็นวันดี ไม่ใช่แค่ตัวเองอารมณ์เสียออกมา แต่พ่อแม่ตัวเองก็กลับมาแล้ว

ลงมาก็เจอพ่อแม่ตัวเอง เมี๋ยวชุ่ยมองหลี่ต๋าคาง ชี้ไปที่ปอร์เช่คันนั้นของตู้เฟย พูด: “ฉันว่านะ หลี่ต๋าคาง ที่ลูกชายเราพูดไม่น่าจะใช่คันนี้หรอก”

“น่าจะใช่” หลี่ต๋าคางพยักหน้า

“คุณดูสิคันเก่าๆ แบบนี้ เหมาะกับลูกชายเราหรือไง?” เมี๋ยวชุ่ยมีใบหน้าไม่ชอบใจ

“เสี่ยวฝางจนมาตั้งหลายปีอย่างนั้น ไม่เคยเห็นโลกกว้างอะไร ดังนั้นเลยปกติ ไม่งั้นเราก็ซื้อปอร์เช่918คันหนึ่งให้เขาสิ แค่ยี่สิบกว่าล้านเอง”

“เรื่องเล็กแบบนี้ ยังจำมาปรึกษาอะไรแม่อีก ซื้อสิ” เมี๋ยวชุ่ยพูดนิ่งๆ

หลี่ฝางยืนอยู่หลังพ่อแม่ตัวเอง ได้ยินพวกเขาพูดกัน ก็กลืนน้ำลายอย่างทนไม่ไหว

“พ่อ แม่ พวกคุณมีเงินเท่าไหร่กันแน่ รถราคายี่สิบกว่าล้าน บอกว่าซื้อก็ซื้อ?” หลี่ฝางเดินไป มองพ่อแม่ของตัวเองพูดไม่ออกแล้วจริงๆ

ดีที่ตรงนี้ไม่มีใคร ถ้ามีคนอยู่ ได้ยินพ่อแม่ตัวเองพูดแบบนี้ จะต้องคิดว่าพวกเขาบ้าแน่นอน

“พ่อแม่กำลังล้อเล่นน่ะ”

เมี๋ยวชุ่ยเห็นลูกตัวเอง ก็ยิ้มแห้งใส่: “ปู่ลูกบอกแล้ว เด็กผู้ชาย ต้องเลี้ยงลำบาก ไม่งั้นจะแย่ได้ง่าย”

“แต่เลี้ยงมาลำบากสามปีแล้ว ก็น่าจะพอแล้ว” เมี๋ยวชุ่ยพูด

“ไอ้แก่ พูดสิ คุณลืมเหรอว่าตอนที่พวกเรามาพูดยังไง?” เมี๋ยวชุ่ยจ้องหลี่ต๋าคาง

“จำได้แน่นอน งั้นก็ดูว่าเจ้าเด็กนี่มีความสามารถนี้ไหม” หลี่ต๋าคางลังเลเล็กน้อย พูด: “ไม่งั้นพวกเราก็ลองเรียนรู้ตามเหล่าหวางของว่านต้าให้ลูกเขาห้าร้อยล้าน ให้เขาไปลองดู?”

“พ่อแม่ อย่าล้อผมเล่นอีกเลยครับ” หลี่ฝางหัวเราะอย่างทนไม่ไหว

“พ่อกับแม่นั่งรถไฟมาทั้งวันก็เหนื่อยแล้ว เดี๋ยวผมพาพ่อกับแม่ไปกินข้าวพักผ่อนก่อนละกัน” หลี่ฝางพูด

เพิ่งเดินถึงหน้าโรงเรียน จู่ๆ หลี่ต๋าคางก็หยุดลง ถาม: “เสี่ยวฝาง โรงเรียนพวกคุณมีประตูหลังไหม”

“มีป่าเล็กๆ ที่หนึ่ง จากตรงนั้นออกไปได้ครับ”

“งั้นพวกเราเดินจากป่าเล็กนี่ละกัน” หลี่ต๋าคางหันไป เดินไปทางป่าเล็ก

“ทำไมล่ะ?”

“เห็นชายกลางคนหัวล้านคนนั้นไหม?เขาคือสวีจื่อโห้ คนที่หนึ่งของตงไห่ เขาโทรหาผมทุกวัน อยากนัดผมทานข้าว จนผมเริ่มจะรำคาญแล้ว” หลี่ต๋าคางพูดด้วยใบหน้าไม่ชอบใจ

หลี่ฝางมองสวีจื่อโห้อย่างตะลึง ลืมหายใจกลับเยือกเย็น

แต่สวีจื่อโห้คนนี้เจ๋งแค่ไหน ดูเหมือนเทียบกับพ่อตัวเองแล้ว ก็ยังแย่หน่อย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน