NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 8

ตอนที่ 8

บทที่ 8 ห้องเพรสซิเดนท์สูท

“หลี่ฝางไม่มีทางมาหรอก เธอตายใจสักเถอะ” เซี่ยลู่พูดไปด้วยและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาที่บ้าน

“จบกัน ดึกขนาดนี้ คนในบ้านฉันคงนอนหลับกันหมดแล้ว ทำไงดี? ” จางเชี่ยนโทรเบอร์พ่อแม่ไม่ติด ร้อนรนใจอย่างมาก

ถึงแม้เซี่ยลู่จะโทรติด แต่ถูกด่ากลับมาชุดใหญ่ ที่จริงบ้านของเซี่ยลู่ก็ไม่ได้รวยมาก นอกจากค่าใช้จ่ายปกติ ธุระเรื่องมิตรญาติสหาย ทั้งปีก็เก็บเงินไม่ได้สองสามหมื่น แต่ตอนนี้ แค่กินข้าวมื้อเดียว เซี่ยลู่ก็ใช้เงินไปเป็นหมื่น

“เซี่ยลู่ เธอให้คุณลุงเอามาเผื่ออีกหนึ่งหมื่นได้ไหม รอพรุ่งนี้โทรหาพ่อแม่ฉันได้แล้ว ฉันจะคืนให้พวกเธอ” จางเชี่ยนมองดูเซี่ยลู่อย่างอ้อนวอน

เซี่ยลู่ส่ายหัว พูดอย่างลำบากใจ: “แกอย่าหวังฉันเลย เมื่อกี้พ่อฉันยังบอกว่าจะตีฉันให้ตายเลย”

“จริงสิ เฉียวเฉียว หลี่ฝางกลายเป็นแฟนเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอสองคนไปดีกันตอนไหน ฉันทำไมไม่รู้ล่ะ? ” เซี่ยลู่ซักถามหลิวเฉียวเฉียว

ที่จริงเซี่ยลู่ไม่เชื่อคำพูดของหลิวเฉียวเฉียวเลยสักนิด คิดว่าหลิวเฉียวเฉียวแค่กำลังประวิงเวลา แค่สิบนาทีมีประโยชน์อะไร!

หลิวเฉียวเฉียวไม่สนใจเซี่ยลู่ แค่ตั้งหน้าตั้งตามองไปที่ทางเข้า คาดหวังว่าหลี่ฝางจะมา

“จริงสิ จางเชี่ยน ในมดฮัวเปและเจี้ยเป (แอฟกู้ยืนเงิน) ของเธอยังมีเงินไม่ใช่เหรอ? ” หลิวเฉียวเฉียวนึกขึ้นมาได้ทันทีและหันไปเตือนจางเชี่ยน

“เจี้ยเปของฉันมีแค่สามพัน ฮัวเปยิ่งน้อยเลย มีแค่พันกว่า ใช้จนหมดแล้ว เห้อ ฉันควรทำยังไงดีล่ะ? ” จางเชี่ยนร้อนใจจนน้ำตาไหลออกมาเลยทีเดียว

“เฉียวเฉียว หลี่ฝางจะมาจริงๆ ไหม? ” เซี่ยลู่ไม่ยอมช่วยเหลือ จางเชี่ยนได้แต่คาดหวังเหมือนกันเฉียวเฉียว ฝากความหวังไว้ที่ตัวหลี่ฝางแล้ว

“ต้องมาสิ” หลิวเฉียวเฉียวกัดริมฝีปาก พูดด้วยเสียงเบาๆ

สิบนาทีผ่านไป ในเวลานี้ พ่อของเซี่ยลู่มาแล้ว

“พ่อคะ ที่นี่ค่ะ!” เห็นพ่อของตนเอง ใจที่ตื่นกลัวของเซี่ยลู่ในที่สุดก็เบาใจลง

พ่อของเซี่ยลู่เดินผ่านหน้าเคาน์เตอร์ สีหน้าน่ากลัว: “ร้านพวกคุณเป็นร้านเถื่อนหรือไงกัน กินข้าวมื้อเดียวเอง ค่าใช้จ่ายเป็นหมื่น? ”

“คุณผู้ชายคะ นี่ค่ะรายการอาหารและค่าใช้จ่ายทั้งหมด ท่านดูก่อนนะคะ” พนักงานหญิงปริ้นบิลใบเสร็จออกมาอีกหนึ่งชุด ยื่นให้พ่อของเซี่ยลู่

“หนึ่งแสนสอง?? ” เห็นใบเสร็จแล้ว พ่อของเซี่ยลู่เกือบจะเป็นลม

“ใช่ค่ะ ห้องรับรองของลูกสายท่านค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือหนึ่งแสนสองหมื่น แต่ท่านชำระแค่หนึ่งหมื่น ก็พาลูกสาวของท่านกลับได้แล้วค่ะ” พนักงานหญิงยิ้มและถาม: “ท่านต้องการชำระเป็นเงินสด หรือจะรูดบัตรคะ? ”

พ่อของเซี่ยลู่รูดบัตรเสร็จแล้ว เดินมาถึงตรงหน้าของเซี่ยลู่

เสียงดังเปรี๊ยะ หน้าของเซี่ยลู่มีรอยนิ้วมือห้านิ้วเต็มหน้า

“แกมันลูกไม่เอาไหน กูทำงานในสวน ทำแทบตายเดือนเดียวได้แค่สามพันหยวน แกกลับทำตัวแบบนี้ กินข้าวมื้อเดียวใช้เงินเงินเดือนกูไปตั้งสามเดือน แกคิดว่าตนเองเป็นลูกมหาเศรษฐีหรือไง!”

“กุ้งมังกรหอยเป๋าฮื้อหูฉลามรังนก แล้วยังมีไวน์ชาโต้ลาฟีต เป็นสิ่งที่คนธรรมดาอย่างพวกเราสามารถใช้จ่ายได้เหรอ? ?!”

ดวงตาของพ่อเซี่ยลู่แดงก่ำ เงินทุกหยวนทุกสตางค์ของเขา แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย

ใบหน้าของเซี่ยลู่เจ็บแสบร้อน น้ำตาไหลออกมาโดยที่ไม่อาจยั้งได้ พ่อของเซี่ยลู่ด่าต่อไปเรื่อยๆ : “ร้องไห้ แกยังมีหน้ามาร้องไห้อีกเหรอ? ”

ด่าเสร็จแล้วตบเข้าไปที่หน้าของเซี่ยลู่ซ้ำอีกรอบ

หน้าตาของพ่อเซี่ยลู่ดุร้ายน่ากลัว หลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยนก็ไม่กล้าเข้าไปห้าม

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอก็ตกระกำลำบาก แม้แต่ตนเองยังช่วยไม่ได้ ยังจะมีกะจิตกะใจไปสนใจคนอื่นที่ไหน?

“กลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้ กลับถึงบ้านฉันค่อยคิดบัญชีกับแก!” ดึงคอเสื้อของเซี่ยลู่ พ่อของเธอลากตัวเธอออกจากLotus

ที่หน้าประตู ภาพนี้ถูกหลี่ฝางเจอพอดีและได้ทักทายกัน: “คุณลุงเซี่ย ท่านทำไมมาที่นี่ได้ครับ? ”

“หลีกไป ไม่เกี่ยวอะไรกับแก” พ่อของเซี่ยลู่ด่าโดยไม่ไยดี ตั้งแต่ที่พ่อแม่ของหลี่ฝางหายตัวไป พ่อของเซี่ยลู่ก็ยิ่งเกลียดหลี่ฝางมาก

“หลี่ฝาง ในที่สุดนายก็มาจนได้” หลิวเฉียวเฉียวมองเห็นหลี่ฝาง รีบวิ่งตรงเข้าหา

“ขอโทษด้วยนะ มาช้าไปหน่อย เวลานี้ เรียกรถยากจริงๆ ” หลี่ฝางอธิบายหนึ่งคำ ในใจคิด ต้องซื้อรถแล้วใช่ไหมเนี่ย

จางเชี่ยนก็วิ่งมาด้วย จับแขนของหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง นายช่วยฉันด้วยนะ”

หลี่ฝางถามอยู่สักพัก ถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหัวเราะและมองดูจางเชี่ยน: “ทำไมผมต้องช่วยเธอด้วยล่ะ? ”

“ถือว่าฉันยืมก็ได้ รอฉันมีเงินแล้วจะรีบคืนนาย ได้ไหม? ”

“ผมก็ไม่มีเหตุผลจะต้องยืมให้เธอนี่ ยิ่งกว่านั้นคือ ถ้าผมยืมให้เธอ เธอจะเอาอะไรมาคืน? ไปขายตัว? ” หลี่ฝางหัวเราะอย่างเยือกเย็น

“หลี่ฝาง นายอย่าพูดจาน่าเกลียดขนาดนี้สิ” จางเชี่ยนสีหน้าบึ้ง: “ฉันจะขอพ่อมาคืนให้นาย”

“เราต่างก็เป็นเพื่อนนักเรียนด้วยกัน นายก็ช่วยๆ เค้าหน่อยเถอะนะ” หลิวเฉียวเฉียวเขย่าแขนของหลี่ฝาง

หลี่ฝางถึงยอมเอ่ยปาก: “ก็ได้”

“สุดหล่อ เราเจอกันอีกแล้วนะ” มาถึงหน้าเคาน์เตอร์ พนักงานหญิงคนนั้นส่งสายตาหวานๆ ใส่หลี่ฝาง

“รูดบัตรครับ” หลี่ฝางยิ้มๆ จ่ายเงินที่เหลือให้เรียบร้อย

“จริงสิ เปิดห้องพักให้ผมหนึ่งห้องด้วยครับ เอาแบบดีๆ หน่อย” หันหน้ากลับไปมองหลิวเฉียวเฉียว แล้วหลี่ฝางบอกพนักงานหญิง

“ในเมื่อสุดหล่อรวยขนาดนี้ เปิดห้องเพรสซิเดนท์สูทไปเลย”

ขณะนั้นหลี่ฝางได้แต่มองร่างอันเซ็กซี่ของหลิวเฉียวเฉียว ไม่ได้สนใจว่าน้องพูดอะไร พยักหน้าอย่างเดียว

“เปิดเสร็จแล้วค่ะ ห้องเพรสซิเดนท์สูท หนึ่งหมื่นแปดพันแปดร้อยหยวนค่ะ” พนักงานหญิงพูดแล้วคืนบัตรให้แก่หลี่ฝาง

“อะไรนะ?!”

หลี่ฝางได้ยินราคาแล้วตกใจ เปิดห้องยังต้องใช้ตั้งหมื่นแปด?

คืนเดียวใช้ไปแล้วแสนกว่า หลี่ฝางรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ใช้เกินไปสักล่ะ ถ้าคุณปู่ที่ดูไบรู้ล่ะก็ คงต้องตายแน่

หลี่ฝางถือคีย์การ์ดห้องพักเดินไปตรงหน้าของหลิวเฉียวเฉียว: “เธอยังจำได้นะ ว่าเธอตกลงอะไรกับผมไว้?? ”

หลิวเฉียวเฉียวก้มหน้าด้วยความเขินอาย นาทีนี้ เธอรู้สึกคิดผิดอยากจะกลับใจ

จางเชี่ยนเห็นในมือของหลี่ฝางถือคีย์การ์ดห้องพักไว้ เข้าใจจุดประสงค์ของหลี่ฝางขึ้นมาทันที: “หลี่ฝาง นายนี่ไร้ยางอายเกินไปป่าว”

“นายช่วยเหลือพวกเรา พวกเราซาบซึ้งในบุญคุณของนาย แต่……”

คำพูดของจางเชี่ยนยังพูดไม่จบ หลี่ฝางก็รีบพูดแทรกเข้ามา: “ผมไม่ต้องการการสำนึกบุญคุณของพวกเธอหรอกนะ เมื่อกี้ในโทรศัพท์ ผมกับหลิวเฉียวเฉียวเราตกลงกันแล้ว อีกอย่างเค้าก็ตกลงยินยอมแล้ว”

“อยากกลับใจ ก็ได้ เอาเงินสองหมื่นคืนมา” หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา

“อ่อใช่สิ ค่าเปิดห้อง หนึ่งหมื่นแปดพันแปด”

“อะไรนะ ค่าห้องตั้งหนึ่งหมื่นแปดพันแปด นายหลอกผีรึไง” จางเชี่ยนพูดอย่างหมดคำพูด

“ผมเปิดห้องเพรสซิเดนท์สูท ถ้าเธอไม่เชื่อ ไปถามเคาน์เตอร์ก็รู้”

“เงินพวกเราต้องคืนนายแน่นอน เฉียวเฉียวไม่ไปเปิดห้องกับนายหรอก หลี่ฝาง นายนี่ต่ำทรามจริงๆ ”

“เฉียวเฉียว เธอนี่ก็จริงๆ เลย ทำไมไปตกลงเงื่อนไขที่สกปรกกับหลี่ฝาง แบบนี้กับขายมันต่างกันตรงไหน!” จางเชี่ยนขมวดคิ้วแล้วพูด

หลิวเฉียวเฉียวจับเสื้อตนเองไว้แน่นๆ ในฝ่ามือมีแต่เหงื่อ

“จางเชี่ยน แกอย่างพูดอีกเลย นี่มันเป็นเรื่องของฉัน”

“หลี่ฝาง ฉันไปกับนาย”

เวลาแค่แป๊บเดียว หลิวเฉียวเฉียวคิดอะไรได้มากมาย โดยเฉพาะคำพูดที่พ่อของเซี่ยลู่พูดเมื่อสักครู่นี้ กระทบจิตใจเธออย่างมาก

เทียบกับพ่อของเซี่ยลู่แล้ว พ่อของหลิวเฉียวเฉียวยิ่งลำบากมากกว่าเยอะ เงินเดือนก็น้อยมาก

ตอนเมื่อกี้ที่จางเชี่ยนกับเซี่ยลู่โทรไปขอเงินกับที่บ้าน หลิวเฉียวเฉียวไม่ได้โทรก็เพราะเธอรู้ว่าที่บ้านไม่มีเงิน ถึงแม้จะเอามาได้ก็ต้องยืมมาแน่นอน

ถึงแม้ในตอนนี้หลิวเฉียวเฉียวจะไม่เต็มใจ แต่เธอไม่มีหนทางอื่น อย่างน้อย หลี่ฝางยังหนุ่มยังแน่น ไม่ใช่ตาเฒ่าบ้ากาม

เดินตามหลี่ฝางขึ้นไปจนถึงห้องเพรสซิเดนท์สูท

ห้องใหญ่มาก กว้างตั้งหลายร้อยตารางเมตร ในห้องมีห้องนอนหลายห้อง ยังมีระเบียงดูวิว หลี่ฝางมาถึงข้างๆ หน้าต่าง

มองดูวิวกลางคืนทั่วทั้งเมืองตงไห่

นี่คือที่ที่สูงที่สุดของตงไห่ มองไปไกลๆ มองเห็นวิวทั้งเมืองของตงไห่ได้เลย

“ผมเพิ่งสังเกตเห็น ที่จริงแล้วตงไห่สวยมากขนาดนี้” หลี่ฝางพูดเองเออเองอยู่คนเดียว

หลิวเฉียวเฉียวตื่นเต้นจนกลืนน้ำลาย ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะดูวิวเลยสักนิด ตอนนี้เธอกำลังหวาดกลัว เพราะนี่คือครั้งแรกที่เธอออกมาเปิดห้องกับผู้ชาย

แน่นอน หลี่ฝางก็เป็นครั้งแรกที่ออกมาเปิดห้องกับผู้หญิงเช่นกัน

ทั้งสองคนต่างก็ตื่นเต้นมาก แต่ว่าหลังจากที่หลี่ฝางรวยแล้ว ทั้งคนดูมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ความกล้าหาญก็แข็งแกร่งมากขึ้น เขานั่งลงไปที่โซฟา มองดูหลิวเฉียวเฉียว หัวเราะเยาะเล่นๆ : “อย่ายืนเซ่ออีกเลย ถอดเสื้อผ้าเสียทีสิ”

“หา? ถอดตอนนี้เลยเหรอ? ”

“ใช่สิ ในเมื่อช้าเร็วก็ต้องถอด งั้นก็รีบๆ ถอดให้ผมชื่นชมหน่อย ผมจะลองดูซิ ว่าวิวของตงไห่สวย หรือว่าเธอจะสวยกว่า? ” หลี่ฝางยักคิ้วและยิ้มพูด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท