NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 23

ตอนที่ 23

บทที่23 หลี่ต๋าคางมาแล้ว

“หลี่ฝาง คุณขโมยของของคนอื่น แล้วถูกจับได้ ทำไมยังยิ้มอยู่นะ” เห็นหลี่ฝางยิ้ม ครูประจำชั้นก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เด็กคนนี้ทำไมไม่มีความละอายเลยนะ

“ไม่มั้ง หลี่ฝางขโมยของ?”

“คิดไม่ถึงจริงๆ หลี่ฝางจะเป็นขโมย”

คนในห้องเห็นว่านาฬิกาของตู้เฟยโดนเอาออกจากโต๊ะหนังสือของหลี่ฝาง ต่างก็ตกใจ

ถึงหลี่ฝางจะจน แต่ไม่เคยขโมยของใคร เพราะว่าพ่อของเขาหลี่ต๋าคางสอนเขาตั้งแต่เด็ก คนไม่ว่าจะจนแค่ไหน ก็ไปขโมยของ ไปแย่ง ไปหลอก ไปทำผิดไม่ได้

ครั้งหนึ่ง หลี่ฝางจนมากจนต้องเก็บเศษผ้ามาเลี้ยงชีพ แต่ตอนนั้น หลี่ฝางก็ไม่เคยขโมยของใครนะ

“ไม่มีทาง หลี่ฝางดูซื่อสัตย์ จะขโมยของของคนอื่นได้ไง?”

“สองสามวันก่อนเขาเลี้ยงข้าวทุกคน จ่ายเงินไปตั้งเยอะ”

“ไม่แน่เงินที่เลี้ยงพวกเราก็อาจจะขโมยมานะ”

พวกเพื่อนๆ ค่อยวิจารณ์ หน้าของหลี่ฝางก็เก็บไม่อยู่แล้ว เขาตะโกนเสียงดัง: “ผมไม่ได้ขโมยนาฬิกาตู้เฟย!”

“หลี่ฝาง คุณอย่าปฏิเสธเลย ตอนนี้ถูกจับได้คาหนังคาเขา คุณยังจะปฏิเสธอะไรอีก?” จางเสี่ยวเฟิงมองหลี่ฝางไม่ดี หัวเราะออกมา

“นาฬิกานี่คุณเอามาใส่ในโต๊ะแน่นอน” หลี่ฝางกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว

“หลี่ฝาง พวกเราก็ไม่มีความแค้นอะไรกันนะ คุณว่าทำไมผมต้องเอานาฬิกาของตู้เฟยใส่ในโต๊ะหนังสือคุณด้วยล่ะ” ถึงนาฬิกาจะเป็นจางเสี่ยวเฟิงวางไว้จริง แต่เขาจะยอมรับได้ไงล่ะ

“ถ้าจะใส่ ผมก็คงใส่ในโต๊ะตัวเอง นาฬิกาของตู้เฟยเป็นRolex เอาไปขายได้ตลอดเวลา ได้มาตั้งหลายหมื่นแหนะ” จางเสี่ยวเฟิงพูดจบ จู่ๆ ก็คิดถึงครูประจำชั้นที่กำลังจ้องเขา

“ครูครับ อย่าเข้าใจผิด ผมแค่เปรียบเทียบ ผมไม่กล้าขนาดนั้น ที่จะกล้าไปขโมยของของคนอื่น” จางเสี่ยวเฟิงหัวเราะอย่างละอาย

“ครูครับ หลี่ฝางเขาจนจนเป็นบ้าแล้ว”

เกาเสิ้งพูดคำนี้จบ หลี่ฝางก็เกือบจะทนไม่ไหวอยากจะเอาเงินแปดล้านกว่าหยวนของตัวเองออกมา

ตัวเองมีเงินตั้งมากขนาดนั้น ทำไมต้องไปขโมยของของคนอื่นล่ะ?

“หลี่ฝาง คุณอย่าปฏิเสธเลย ถึงเรื่องนาฬิกาคุณจะปฏิเสธได้ งั้นโทรศัพท์ล่ะ โทรศัพท์ครูหยิบมาจากกระเป๋ากางเกงคุณเอง” ครูประจำชั้นกลอกตาใส่หลี่ฝาง ในใจก็มั่นใจว่าหลี่ฝางเป็นขโมย

“พระเจ้า หลี่ฝางไม่ใช่แค่ขโมยนาฬิกาของตู้เฟย และยังขโมยโทรศัพท์คนอื่น”

ได้ยินครูประจำชั้นพูดแบบนี้ นักเรียนในห้องก็ดูกระเป๋าตัวเอง มองว่าโทรศัพท์ยังอยู่ไหม

โทรศัพท์ไม่ได้ถูกขโมย ทุกคนต่างโล่งอก

ถ้าในห้องมีขโมยจริง งั้นต่อไปทุกคนก็จะกลัวแน่นอน

โจวหยางกับหลี่เสี่ยวเสี่ยวได้แต่มองหลี่ฝางถูกดูถูกอย่างเป็นห่วง แต่ไม่สามารถช่วยเขาตอบโต้อะไรได้ นอกจากตอนนี้จะหาหลักฐานที่แน่นหนาพอจะไปพิสูจน์ว่าเขาบริสุทธิ์ ก็ไม่มีโอกาสอื่นแล้ว

ถึงหลี่ต๋าคางมาแล้ว ก็ไม่อาจช่วยได้

ถึงจะเป็นลูกชายเศรษฐีแล้วยังไง หรือว่านี่จะพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้ขโมยของ?

“ตู้เฟย คุณปล่อยหลี่ฝางได้ไหม” เวลานี้ หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองไปที่ตู้เฟยอย่างขอร้อง

ตอนนี้ช่วยหลี่ฝางได้ น่าจะมีแค่ตู้เฟยคนเดียว

แค่ตู้เฟยพูด หลี่ฝางก็เป็นไปได้ที่จะไม่เป็นไร แต่นี่จะเป็นไปได้เหรอ?

ตู้เฟยทำโดยเจตนาแบบนี้ ไม่ใช่เพื่อใส่ร้ายเขาเหรอ?

ตู้เฟยกลอกตาใส่หลี่เสี่ยวเสี่ยว ไม่สนเขา

“หลี่ฝาง ครั้งนี้คุณตายแน่” ตู้เฟยมาตรงหน้าหลี่ฝาง พูดข้างหูเขาเบาๆ

“เห้อ พวกคุณว่าหลี่ฝางจะติดคุกไหม?”

“ถ้าเข้าคุก อนาคตของเขาก็พังแล้ว”

เพื่อนในห้องต่างพูดอย่างกังวล: “อีกเดี๋ยวก็จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าจับไป คงไม่พลาดสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรอกนะ?”

“ไม่ง่ายเลยที่จะขยันมุมานะท่องตำราจนสอบเข้ามหาวิทยาลัย คิดไม่ถึงว่าความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้จะหายไป การเรียนของหลี่ฝางคะแนนดีขนาดนั้น”

“ใช่ น่าเสียดายมาก เขาเป็นถึงที่หนึ่งในห้องเราเลย”

“ได้ยินว่าบ้านเขาจนมาก ชาตินี้ก็คงอยู่ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยถึงจะเปลี่ยนโชคชะตาได้ เห้อ ดูเหมือนว่าชีวิตนี้หลี่ฝางจะจบเห่แล้ว”

ได้ยินคำพวกนี้ แม้แต่ในใจครูประจำชั้นก็ไม่สบายใจ

“คุณนะคุณ ทำไมขาดเงินขนาดนั้น ถึงกับต้องขโมยของ ตอนนี้ดีไหมล่ะ แม้แต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ได้” ครูประจำชั้นกลอกตาใส่หลี่ฝาง รู้สึกว่าหลอมเหล็กไม่ได้เป็นเหล็กกล้าเล็กน้อย

“เดิมทีหวังว่าคุณจะทำให้ห้องเรามีชื่อเสียงได้ซะอีก สรุปพังหมด รอตำรวจมา คุณไม่ทำให้ห้องเราเสื่อมเสียก็ดีแล้ว”

หลังจากถูกทุกคนพูดว่าไป ในใจหลี่ฝางก็น้อยใจสุดๆ

เขาไม่ได้ขโมยนาฬิกากับโทรศัพท์ตู้เฟยเลย เขาโดนปรักปรำชัดๆ แต่เวลานี้ ทุกคนต่างเห็นเขาเป็นขโมย แทบจะไม่มีใครเชื่อเขา

ความรู้สึกถูกปรักปรำแบบนี้ ทำให้แตกสลายจริงๆ หลี่ฝางแทบจะร้องไห้ออกมา

เวลานี้เอง เซี่ยลู่พาครูประจำชั้นของตัวเองมาที่ห้องหลี่ฝาง เพื่อมาประณามและถามไถ่ เซี่ยลู่กับครูประจำชั้นของเธอคุยเผชิญหน้ากับหลี่ฝาง แล้วยังตำหนิครูประจำชั้นของหลี่ฝาง:คุณสอนนักเรียนยังไงเนี่ย ทำให้เด็กขโมยของได้ น่าอายจริงๆ ไล่ออก ไล่ออกไปเลย ฉันแจ้งครูใหญ่ไปแล้ว

ครูประจำชั้นของหลี่ฝางสีหน้าเปลี่ยนทันที: “ห๊า ครูใหญ่รู้แล้ว?งั้นครูยอดเยี่ยมของผม……”

“หึ ฉันว่าคุณอย่าคิดเลย ห้องคุณมีนักเรียนแย่ขนาดนั้น ไม่ใช่แค่ทำให้ห้องคุณเสื่อมเสีย แต่ยังให้พวกเราทั้งมัธยมตงไห่เสื่อมเสีย ครูใหญ่ตัดสินใจแล้วว่าจะตัดคุณจากตำแหน่งครูยอดเยี่ยมออก”

ครูประจำชั้นของหลี่ฝางถอนหายใจ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ครูใหญ่ไม่มีทางไม่รู้ ปิดก็ปิดไม่อยู่

“เพราะคุณ ทำให้ตำแหน่งครูของครูถูกตัดหมด!”

ครูประจำชั้นของหลี่ฝางจ้องเขาเขม็ง ถ้าไม่ใช่ว่ากระทรวงศึกษาตรวจสอบพฤติกรรมที่ครูทำร้ายนักเรียนอย่างเคร่งครัด เขาก็แทบจะทนไม่ไหวที่จะชกต่อยหลี่ฝาง

“เดี๋ยวครูใหญ่ก็จะมาแล้ว ถึงตอนนั้นเด็กคนนี้ก็จะถูกไล่ออก”

“ส่วนแจ้งความหรือไม่ ก็ต้องดูเจตนาของผู้ได้รับบาดเจ็บ”

ครูประจำชั้นของเซี่ยลู่พูด หลังจากพูดจบ ก็ไป แต่เซี่ยลู่อยู่ต่อ

เซี่ยลู่ไปตรงหน้าหลี่ฝาง ทำเป็นพูดอย่างใจดี: “หลี่ฝาง เราสองคนเล่นกันตั้งแต่เด็กจนโต เรื่องที่คุณขโมยโทรศัพท์ฉันฉันจะไม่เอาความ แต่ตู้เฟยทางนั้นฉันไม่รับประกัน”

ตู้เฟยไอออกมา: “ผมไม่มีทางปล่อยอย่างนั้น”

“นาฬิกาของผมบวกกับโทรศัพท์ก็ไม่กี่แสน นี่ก็น่าจะถือว่าเป็นของราคาแพง ถึงตอนนั้นตำรวจมา ก็ดูว่าจะลงโทษยังไงละกัน”

“หลี่ฝาง ถึงแม้เราสองคนจะเป็นเพื่อนเรียนด้วยกัน แต่ผมก็ไม่มีทางยอมที่คุณทำผิด” ตู้เฟยพูดด้วยความโกรธ

เวลานี้หลี่ฝางก็กำหมัดขึ้นมา พอตู้เฟยเห็น ก็หัวเราะพูด: “ทำไม อยากจะทำร้ายผมเหรอ?”

“มา ทำสิ ยังไงผมก็แจ้งความแล้ว เดี๋ยวตำรวจก็มาแล้ว ถ้าคุณมีอะไรก็ต่อยมาสิ ทำแรงยิ่งดี ผมรับรองว่าไม่เอาคืน” ตู้เฟยยื่นหน้าเข้าไป ยั่วยุหลี่ฝาง

หลี่ฝางไม่ลังเลใดๆ หมัดหนึ่งปล่อยเข้าไป หมัดนี้ หลี่ฝางใช้แรงทั้งตัว

หมัดนี้ รวมกับความน้อยใจและละอายใจที่หลี่ฝางได้รับ

“แม่เอ๊ย ต่อยผมจริงๆ ด้วย!”

“ไอ้ห่า ฟันผมหลุดแล้ว!”

“ครู ฟันผมถูกหลี่ฝางต่อยจนหัก” ถึงใบหน้าตู้เฟยจะเจ็บมาก แต่ดีใจสุดๆ เขารู้ว่าอีกเดี๋ยวตำรวจก็มาแล้ว แล้วนี่ ความผิดของหลี่ฝางก็จะหนักขึ้น

“หลี่ฝาง ทำตัวซื่อสัตย์หน่อยสิ!”

“ช่างเถอะชินแล้ว ผมจะกลัวอะไรได้ ยังไงถ้าต้องเข้าคุก ผมก็คงไม่กี่ปี แต่ยังไง ตู้เฟย เซี่ยลู่ พวกคุณก็ต้องไปกับผม!” หลี่ฝางหยิบเครื่องบันทึกเสียง ยิ้มชั่วร้ายออกมา

“หมายความว่าไง?” เซี่ยลู่กังวลขึ้นมา

ตู้เฟยก็ตกใจมากขึ้น: “หลี่ฝาง ที่มือคุณถือคืออะไร?”

ตอนที่หลี่ฝางจะรื้อคดีของตู้เฟย โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น หยิบมาดู เป็นพ่อตัวเองโทรมา

“พ่อ พ่อมาแล้วเหรอ?” กดปุ่มรับ หลี่ฝางถาม

“ใช่ พ่อกับแม่ของลูกเพิ่งกลับมาถึงตงไห่ ยังไม่ได้พักเลย ก็ได้ยินครูลูกบอกว่าลูกถูกจับได้ว่าขโมยของ ลูกพูดมา ลูกได้ขโมยหรือเปล่า!” หลี่ต๋าคางถาม

“พ่อ ผมไม่ได้ขโมย” หลี่ฝางพูด

“โอเค แค่ลูกไม่ได้ขโมย แม้แต่พระเจ้าก็ปรักปรำลูกไม่ได้” หลี่ต๋าคางพูดด้วยความดุดันจบ ก็ก้าวขึ้นไปที่ตึกสอน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท