บทที่25 ครูใหญ่เจ้าเล่ห์
สามปีมานี้ หลี่ต๋าคางปัญหาเรื่องใหญ่ใดๆ ก็ไม่เคยเจอ เจอสิ่งท้าทายต่อหน้ามานับไม่ถ้วน หลี่ต๋าคางไม่เคยถอย แต่ตอนนี้ ยืนตรงหน้าห้องพักครูเล็กๆ นี้ เขาหยุดลง
คนที่แม้แต่สถานที่อันตรายๆ ยังกล้าเข้าออก แต่กลับไม่กล้าเข้าไปเหยียบในห้องทำงานครูเล็กๆ
“ทำไมไม่เข้าไป คุณคิดมันมาสามปีแล้ว” เมี๋ยวชุ่ยกลอกตาใส่หลี่ต๋าคาง แล้วก้าวเข้าไปก่อน
หลี่ฝางเห็นแม่ตัวเองตอนนั้น ขอบตาที่อัดอั้นน้ำตา ก็พรั่งพรูออกมา
หลี่ฝางร้องไห้ น้ำตาไหลออกมาอย่างทนไม่ไหว เขาไม่ได้อ่อนแอ และก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้มแข็งพอ
กลับกัน เขาเข้มแข็งกว่าใครทั้งนั้น
เขากำมืออยู่นาน แค่ในเวลานี้กำไม่อยู่แล้ว เพราะในที่สุดก็เจอครอบครัว
สามปีนี้หลี่ฝางไม่เคยร้องไห้ ครั้งนี้เขาร้องไห้ เพราะว่าในที่สุดเขาก็ได้เจอครอบครัว อีกอย่างยังเป็นแม่ที่เข้าใจเขาดีพอ และห่วงใยเขา นั่นคือเมี๋ยวชุ่ย
“ลูก น่าน้อยใจลูกเสียจริง” เมี๋ยวชุ่ยเดินเข้ามา กอดหลี่ฝางในอ้อมแขนตัวเอง
ส่วนหลี่ต๋าคางหลังจากที่หยุดอยู่นอกห้องพักครูสักพัก จึงเข้ามา
หลี่ต๋าคางในเวลานี้ สีหน้าไร้การแสดงออกใดๆ มีความเคร่งขรึมและอาฆาตมากขึ้น
“เก็บน้ำตาไปเลย!” หลี่ต๋าคางมองหลี่ฝาง แล้วพูดเสียงคมกริบ
“ลูกผู้ชาย อย่าเอาแต่ร้องไห้ ทำให้คนตลก!” หลี่ต๋าคางจ้องหลี่ฝาง ประโยคเดียวก็ทำให้น้ำตาของหลี่ฝางตกใจจนหายไป
“ท่านทั้งสองคือพ่อแม่หลี่ฝางสินะ เรื่องเป็นแบบนี้ ลูกคุณขโมยของคนอื่น ดังนั้น……” คำพูดครูประจำชั้นหลี่ฝางยังพูดไม่จบ หลี่ต๋าคางก็ไม่ทน
“เสี่ยวฝาง มานี่!”
หลี่ต๋าคางเรียกหลี่ฝางมาข้างตัวเอง: “พ่อถามลูกนะ ได้ขโมยของคนอื่นไหม?”
“พ่อ ผมไม่ได้……”
หลี่ฝางยังพูดไม่จบ หลี่ต๋าคางก็ตัดบท: “โอเค พ่อรู้แล้ว”
“พวกคุณได้ยินไหม?ลูกชายผมบอกไม่” หลี่ต๋าคางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สงสัยสักนิด: “เทียบกับพวกคุณแล้ว ผมเชื่อลูกผมมากกว่า ดังนั้นลูกผมบอกไม่ งั้นก็ไม่”
“หือ??”
เวลานี้ ไม่ว่าเป็นครูประจำชั้นหลี่ฝาง หรือครูประจำชั้นเซี่ยลู่ ต่างตกตะลึง
พวกเขาเจอผู้ปกครองมามากมาย แต่เป็นครูมาหลายปี ผู้ปกครองที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอ
“ลูกชายคุณขโมยของคนอื่นจริงๆ นาฬิกาเรือนนี้ หาเจอจากโต๊ะเขาครับ” ครูประจำชั้นของหลี่ฝางเอาของที่ขโมยวางบนโต๊ะทำงาน
“อีกอย่าง พวกเราแจ้งความแล้ว เดี๋ยวตำรวจก็จะมาแล้ว”
หลี่ต๋าคางขมวดคิ้ว มองลูกชายตัวเองแวบหนึ่ง หลี่ฝางส่ายหน้า: “พ่อครับ นาฬิกาเรือนนั้น ผมไม่ได้แตะต้องสักนิด มีคนฉวยโอกาสตอนที่ผมไม่อยู่ แอบเอาใส่โต๊ะผม”
“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ เอารอยนิ้วมือบนนาฬิกามาตรวจ ถ้ามีรอยนิ้วมือผม ผมยอมรับ” หลี่ฝางพูดอย่างไม่กลัว
หลี่ต๋าคางพยักหน้าอย่างพอใจ: “งั้นรอตำรวจมา ตรวจลายนิ้วมือ”
หลี่ต๋าคางลูบหัวลูกตัวเองด้วยความปลาบปลื้ม ถึงขนาดคิดได้ว่าพิสูจน์ลายนิ้วมือมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง หมายความว่าลูกตัวเองไม่โง่
“เรื่องของนาฬิกาพวกเราพักก่อน งั้นโทรศัพท์ล่ะเกิดอะไรขึ้น?”
“โทรศัพท์ครูเอามาจากกระเป๋าคุณเองกับมือ คุณจะอธิบายอย่างไร?” ครูประจำชั้นมองไปที่หลี่ฝางอย่างเฉียบคม อยากดูว่าครั้งนี้เขาจะเถียงอย่างไร
หลี่ฝางเงียบอยู่นาน: “ผมว่าคุณถามเซี่ยลู่กับตู้เฟยเถอะ ผมว่าพวกเขาบอกคำตอบคุณได้”
“พวกเขาล่ะ?” ครูประจำชั้นหลี่ฝางมองไปรอบห้อง เห็นว่าตู้เฟยกับเซี่ยลู่จู่ๆ ก็หายไป เมื่อกี๊ยังอยู่ที่นี่อยู่เลย
“พวกเขาน่าจะกลับไปเข้าเรียนแล้ว” ครูประจำชั้นเซี่ยลู่ตอบ
เวลานี้ ตู้เฟยกำลังทักทายกับเพื่อนในโรงพักที่นอกห้อง พอวางสาย เซี่ยลู่ก็ถามอย่างกังวล: “พี่เฟย เรียบร้อยยัง?”
“วางใจเถอะ เรียบร้อยแล้ว เพื่อนผมออกจากโรงพักพอดี เขาอยู่บนถนนแล้ว เดี๋ยวก็ถึง” ตู้เฟยหัวเราะ: “รอหลี่ฝางไม่มีเครื่องบันทึกเสียง ดูสิจะจัดการเขาได้ไหม”
“ครูใหญ่ คุณมาแล้ว!” เวลานี้ ครูใหญ่เดินขึ้นตึกไป
“ที่แท้ก็ตู้เฟย ช่วงนี้พ่อคุณคงสบายดีนะ ไม่เจอพ่อคุณนานแล้ว คิดถึงเขามาก” ครูใหญ่ยิ้ม ตบไหล่ตู้เฟย
ตู้เฟยก็ไม่โง่ เข้าใจได้เองว่าครูใหญ่หมายความว่าอย่างไร
“ฮ่าฮ่า ครูใหญ่ เสาร์อาทิตย์นี้พ่อผมว่างพอดี ไม่รู้ว่าคุณมีธุระอะไรไหม ถ้าคุณไม่มีอะไร ผมกับพ่อจะไปนั่งที่บ้านคุณ” ตู้เฟยพูด
ที่เรียกว่าแขก ก็คือมอบของขวัญให้ ครูใหญ่ไม่มีทางปฏิเสธ: “โอเค ครูว่างพอดี เรียกพ่อคุณมาสิ ครูจะได้เล่นไพ่กับเขาสักสองเกม”
ครั้งที่แล้วครูใหญ่กับพ่อของตู้เฟยเล่นไพ่นกกระจอก แต่ชนะเขาบ่อยมาก ครูใหญ่คนนี้ก็ไม่โง่ รู้ว่าพ่อของตู้เฟย จงใจแพ้
“ครูใหญ่ วันนี้ผมมีเรื่องอยากให้ครูช่วย” ตู้เฟยไปที่ข้างหูครูใหญ่ พูดเบาๆ
เดิมทีตู้เฟยคิดว่าครูใหญ่จะตอบรับไว แต่คิดไม่ถึงว่าเวลานี้ครูใหญ่จะขมวดคิ้ว สีหน้าหม่นลงเล็กน้อย
“ตู้เฟย ดูเหมือนสัปดาห์นี้ผมจะไม่ว่างเล่นไพ่นกกระจอกกับพ่อคุณแล้วล่ะ” ครูใหญ่ถอนหายใจ พูดอย่างหดหู่
“ครูใหญ่ หมายความว่าไง เมื่อกี๊ไม่ใช่ว่าเพิ่งบอกว่าว่างเหรอครับ?ทำไมจู่ๆ ก็ไม่ว่างล่ะ?ไม่เป็นไร ถ้าวันหยุดนี้คุณไม่ว่าง ก็นัดวันหยุดหน้า” ตู้เฟยพูด
“ตู้เฟยนะ คุณไม่เข้าใจความหมายของผมเหรอ ผมอยากบอกคุณเป็นนัย เรื่องที่คุณขอร้องผมเมื่อกี๊ ผมกลัวว่าจะช่วยคุณไม่ได้ คุณมาครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าจับหลี่ฝาง”
ครูใหญ่ขมวดคิ้ว: “กลับกัน ครั้งนี้ที่ผมมา คือมาช่วยเขาล้างข้อกล่าวหา”
“อะไรนะ?ครูใหญ่ คุณมั่วหรือเปล่า แม้แต่ความสัมพันธ์พ่อผมกับคุณ คุณก็ไม่ช่วย แต่ไปช่วยคนนอกเนี่ยนะ?” ตู้เฟยร้อนใจ: “อย่าลืมล่ะ ปีที่แล้วพ่อผมบริจาคคอมให้มัธยมตงไห่ของพวกเราสิบกว่าเครื่อง”
“ถึงพ่อคุณให้มัธยมตงไห่คอมอีกมากแค่ไหน เรื่องนี้ผมก็ช่วยคุณไม่ได้ ผมคือครูใหญ่ ทำอะไรต้องยุติธรรม นี่มันเรื่องสาธารณะ จะคุยปนกับเรื่องส่วนตัวได้ไง พอแล้ว คุณรีบกลับไปเข้าเรียนเถอะ ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาเข้าเรียนแล้ว?”
พูดจบ ครูใหญ่ก็เข้าไปในห้องพักครู
พอครูใหญ่เข้ามา ก็นั่งลง ครูประจำชั้นของหลี่ฝางเอาเรื่องนี้เล่าให้ครูใหญ่ฟัง พอพูดจบ ครูประจำชั้นหลี่ฝางก็ถาม: “ครูใหญ่ ไม่งั้นพวกเราไล่หลี่ฝางออกเถอะ”
“ไม่งั้นตำรวจมา ก็ไม่ทันนะ”
“ถ้าตอนนี้คุณไล่หลี่ฝางออก งั้นหลี่ฝางก็ไม่ใช่นักเรียนของมัธยมตงไห่แล้ว ถึงตอนนั้นเขาถูกตำรวจจับไป ฝ่ายสำนักงานการศึกษาโทษขึ้นมา พวกเราก็สามารถบอกได้ว่าเขาไม่ใช่นักเรียนของมัธยมตงไห่ คุณว่าไหมล่ะ?” ครูประจำชั้นของหลี่ฝางคิดแต่จะเอาตัวเองออกมาจากเรื่องนี้ จึงแนะนำครูใหญ่
ครูใหญ่ฟังจบ ก็ขมวดคิ้ว
“ผมกลับคิดว่าควรไล่คุณออก มีครูที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบคุณเนี่ยนะ?เรื่องยังไม่ทันตรวจสอบจริงจังก็ตัดสินมั่วๆ” ครูใหญ่มองหลี่ฝาง ครูประจำชั้น พูดเสียงเยือกเย็น
“ครูใหญ่ ผม……”
“คุณ คุณอะไรล่ะ คุณปรักปรำคนนี้รู้ไหม?หลี่ฝางคะแนนดีมาก นิสัยดีมีคุณธรรม จะขโมยของคนอื่นได้ไง ชัดเจนว่านักเรียนคนอื่นริษยาเขา จงใจใส่ร้ายเขา” ครูใหญ่หยิบโทรศัพท์ตัวเอง เปิดคลิป: “คุณดูเอง นี่ใช่จงใจใส่ร้ายไหม?”
“ครูใหญ่ ที่แท้จางเสี่ยวเฟิงขโมยนาฬิกาของตู้เฟย โยนความผิดให้หลี่ฝาง” ครูประจำชั้นของหลี่ฝางดูคลิปจบ ก็เข้าใจว่าเรื่องเป็นไง
ทุกห้องสอนมีกล้องวงจรปิด แต่กล้องวงจรปิดนี้ ไม่ค่อยมีคนมาดู จนทุกคนต่างลืม
“นาฬิกานี้คือจางเสี่ยวเฟิงใส่ร้ายหลี่ฝาง แล้วโทรศัพท์ล่ะ โทรศัพท์ผมเจอจากตัวหลี่ฝางเอง นี่คงสลัดไม่ออกนะครับ?” ครูประจำชั้นของหลี่ฝางขมวดคิ้ว เขาทำเป็นฟังไม่ออก นี่คือจุดประสงค์ที่ครูใหญ่มา ชัดเจนว่ามาช่วยหลี่ฝาง
สีหน้าครูใหญ่หม่นลง กลอกตาใส่ครูประจำชั้นหลี่ฝาง พูดเสียงทุ้ม: “คุณก็ฟังผมเข้าใจแล้วนี่ โทรศัพท์สองเครื่องคือหลังจากที่หลี่ฝางเก็บได้ที่ลานกีฬา ก็จงใจเอาให้คุณ ไม่ใช่ว่าคุณเจอจากตัวเขา เข้าใจไหม?”