NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 12

ตอนที่ 12

บทที่ 12 เศรษฐีลึกลับ

แม้ว่าลูกพี่หลี่จะมีรูปร่างเตี้ย แต่เขาก็มีความน่ายำเกรงอย่างยิ่ง เพียงแค่คำพูดเดียว จางจื้อเหาก็กลัวจนฉี่แทบรดกางเกงของเขา

ลูกพี่หลี่มองไปที่จางจื้อเหาอย่างสงบ “อาเหา เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

จางจื้อเหาไม่กล้าโกหกลูกพี่หลี่ เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง รวมถึงเรื่องที่ตนพังรถ ลงไม้ลงมือ และเงินที่แบ่งออกไปให้กับพวกจางเชี่ยนเซี่ยลู่

“มีคนรวมด้วย? พวกเธอล่ะ?” หลังจากได้ฟังดังนั้น ลูกพี่หลี่ก็โมโหขึ้นมาเล็กน้อย

“พวกเธอ พวกเธอไปแล้ว” จางจื้อเหามองไปที่ลูกพี่หลี่ด้วยความกลัว และมองไปที่”หลินชิงชิงอีกครั้ง

จางจื้อเหาดิ้นรนในแวดวงมานานหลายปี จากน้ำเสียงที่หลินชิงชิงพูดกับลูกพี่หลี่ เขารู้ว่าได้ทันทีว่าตัวตนของ หลินชิงชิงนั้นไม่ธรรมดา

ผู้หญิงธรรมดา จะกล้าขอคำตอบจากลูกพี่หลี่ได้ยังไง

“คนสวย ฉันไม่รู้ว่าเด็กนี่เป็นน้องชายของคุณ ถ้ารู้ว่าเขามีคุณคุ้มอยู่ ผมไม่กล้ารังแกเขาแน่” จางจื้อเหารีบเอ่ยขอโทษหลินชิงชิง

“ตามกฎใต้ดินของเรา หากถูกจับได้ว่าโกง คุณจะได้รับเงินคืนมากที่สุด 30% เอาอย่างนี้ไหม ผมจะคืนเงินให้คุณ 70% ได้ไหม?” จางจื้อเหาถามอย่างระมัดระวัง

“70%” หลินชิงชิงหัวเราะตาหยี จากนั้นจึงหันไปมองเจ้าหัวแบน

เจ้าหัวแบนคนนั้นขมวดคิ้ว จากนั้นจึงพุ่งเข้ามาทันที และเหวี่ยงหมัดลงไปที่ใบหน้าของจางจื้อเหาอย่างแรง

แม้ว่าเจ้าหัวแบนมองดูแล้วธรรมดาย่างยิ่ง แต่เมื่อเขาลงมือกลับทำให้หลายคนสะดุ้ง

เพียงหมัดเดียว เจ้าหัวแบนก็ทำให้จางจื้อเหาต้องล้มนอนลงกับพื้น

จากนั้น เขาก็ดึงผมของจางจื้อเหาขึ้นมาและกดลงบนรถอย่างแรง “แกมันรนหาที่ตาย แม้กระทั่งน้องชายของพี่ชิงแกยังกล้าไปโกง?”

ลูกพี่หลี่มองดู แต่กลับไม่ส่งเสียงออกมา

แม้ว่าจางจื้อเหาจะเป็นคนของเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าลูกพี่หลี่จะไม่สามารถจัดการอะไรได้

“พี่ชิง? ลูกสาวของลูกพี่หลิน?” ดวงตาของจางจื้อเหาเบิกกว้าง เขามองไปที่หลินชิงชิง และคิดอยู่ในใจ: ไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ไว้หน้าลูกพี่หลี่สักนิด ที่แท้เธอเป็นลูกสาวของลูกพี่หลิน ตายแน่แล้ว คราวนี้เขาตายแน่ๆ”

ทั้งตงไห่ไม่มีใครใหญ่ไปกว่าสองอำนาจนี้ หนึ่งคือลูกพี่หลี่เมืองตะวันออก อีกหนึ่งคือเจ้าใหญ่หลินแห่งเมืองตะวันตก

จางจื้อเหาไม่เคยคิดฝันว่า ครั้งนี้เขาจะไปหาเรื่องลูกสาวของลูกพี่หลินเข้าให้แล้ว!

“พี่ชิง จะทำยังไงกับเขา?” เจ้าหัวแบนมองไปที่หลินชิงชิงและเอ่ยถาม

“ให้เขาเอาเงินที่โกงไปออกมาก่อน” หลินชิงชิงพูดจบ เจ้าหัวแบนก็ปล่อยจางจื้อเหา

“รีบไปเอาเงินออกมา”

หลังจากที่จางจื้อเหาคืนเงินให้หลี่ฝางแล้ว เขาก็ร้องคร่ำครวญ “คุณหนู ทำไมคุณถึงไม่บอกเล่าว่านายเป็นน้องชายของพี่ชิง หากนายบอกก่อน ฉันคงไม่กล้ากินดีหมีแบบนี้ อีกทั้งยังไม่กล้าไปการท้าทายอำนาจผู้ยิ่งใหญ่แบบนั้นแน่! ”

“นายไม่ให้โอกาสฉันพูดเลยนี่ ลงจากรถมานายก็ลงมือทุบฉันทันที” หลี่ฝางพึมพำคำหนึ่ง เมื่อมองเห็นเงินที่กลับมาสู่มือของตน ในใจก็สบายขึ้นมาก

“พี่แปด ผมคืนเงินไปแล้ว เรื่องนี้ ให้มันจบได้ไหม?” จางจื้อเหาถามอย่างระมัดระวัง

ลูกพี่หลี่ไม่พูดอะไรสักคำ และมองไปที่หลินชิงชิง

หลินชิงชิงหัวเราะเยาะ “ถึงแม้จะจ่ายเงินคืนแล้ว แต่นายอย่าลืม นายทุบตีน้องชายของฉันไปยกหนึ่งด้วยนี่”

หัวใจของจางจื้อเหารู้สึกหมดอาลัยขึ้นมา เมื่อกี้เจ้าหัวแบนทุบตีเขาไปแล้ว นี่ยังมีอีกหรือ?

“พี่แปด ผมติดตามพี่นะ พี่จะมองผมถูกตีแบบนี้ไม่ได้!” จางจื้อเหาเดินไปที่ลูกพี่หลี่ หวังว่าลูกพี่หลี่จะช่วยตัวเองได้

“อาเหา ฉันก็อยากช่วยนายเหมือนกัน แต่นายทำผิดกฎของฉัน”

“ตอนแรกที่ติดตามฉัน ฉันตั้งกฎเอาไว้แล้ว ข้อแรกคือคนแก่และเด็กห้ามไปโกง ถึงแม้ว่าพวกเราจะเป็นพวกใต้ดิน แต่เราก็มีกฎเกณฑ์เช่นกัน นายโกงแม้กระทั่งเด็กคนหนึ่ง ยังเป็นคนอยู่รึเปล่า?”

ลูกพี่หลี่ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง “ทำเองรับเองเถอะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ในใจของจางจื้อเหาก็เยียบเย็นลงสุดขีด

หลินชิงชิงขยิบตาให้เจ้าหัวแบน ความหมายคือให้เริ่มลงมือ

ในเมื่อลูกพี่หลี่พูดแบบนี้แล้ว อย่างนั้นหลินชิงชิงก็ไม่มีอะไรขัดข้องอีก

ในมือของเจ้าหัวแบน มีมีดเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น

“นายจะทำอะไร? ” เมื่อมองไปที่เจ้าหัวแบนที่เดินเข้ามาหาทีละก้าว จางจื้อเหา”ก็เหงื่อตก

“พี่ นี่จะเป็นเรื่องอะไรหรือเปล่า?” หลี่ฝางเห็นเจ้าหัวแบนเดินเข้าไปหาจางจื้อเหาพร้อมมีดที่อยู่ในมือ เขาก็รู้สึกกลัวอยู่บ้างเล็กน้อย

“ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไร พวกเรารู้จักขอบเขต” หลินชิงชิงกล่าวเบาๆ

เมื่อเห็นเจ้าหัวแบนที่ค่อยๆ เดินเข้ามาทีละก้าวๆ จางจื้อเหาก็ร้อนรนขึ้นมาแล้ว เขารีบหยิบประแจขึ้นมาและพุ่งไปที่เจ้าหัวแบน แต่เจ้าหัวแบนกลับแค่นหัวเราะ ในขณะที่จางจื้อเหากำลังจะเข้ามาใกล้ เขาก็หลบฉากทันที และแทง

มีดเข้าไปในท้องของจางจื้อเหา เลือดทีละหยดๆ ไหลออกมาจากท้องของจางจื้อเหาและตกลงที่พื้น

“พี่ นั้นคือขอบเขตที่พี่พูดถึงหรือ” หลี่ฝางกลืนน้ำลายและพูดไม่ออกอยู่บ้าง

“มีดเล่มนี้จะได้ทำให้เขาจำได้นานๆ สักหน่อย ใครใช้ให้เขาเลวขนาดนั้น รถคันนั้นแค่ชนไปหน่อย แต่กลับกล้าขอเงิน 80000จากนาย คนแบบนี้ มีอะไรน่าเห็นใจ” หลินชิงชิงกลอกตา

หลี่ฝางไม่ได้เห็นอกเห็นใจจางจื้อเหาแต่อย่างใด เขาแค่ไม่ชินกับฉากนองเลือดแบบนี้เท่านั้น

ลูกพี่หลี่เห็นก็ขมวดคิ้ว “ชิงชิง ยังไงอาเหาก็เป็นคนของฉัน เธอทำแบบนี้ มากเกินไปหรือเปล่า?”

“อาเหาก็แค่ทุบตีน้องชายของเธอ แต่เธอกลับแทงเขา หากอาเหาพิการขึ้นมาทำยังไง?” สีหน้าของลูกพี่หลี่มีร่องรอยของความโกรธขึ้นมา

“วางใจเถอะ พี่แปด คนของฉันลงมือมีขอบเขต มีดเมื่อครู่ แค่ให้บทเรียนกับเขาเท่านั้น ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไร”

“หากคุณคิดว่าทำเกินไป ฉันสามารถชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้เขาได้” หลินชิงชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ลูกพี่หลี่ส่ายหัวและพูดว่า “เอาเถอะ จากนี้ไปพวกเรายังต้องร่วมมือกันมากขึ้นในอนาคต อย่าให้นักเลงตัวเล็กๆ มาทำให้ต้องผิดใจกัน”

ลูกพี่หลี่พูดจบก็เข้าไปในรถและเอ่ยกับคนของตน “ไปเถอะ”

เจ้าหัวแบบเดินมายังหน้าหลินชิงชิง และมองไปที่ลูกพี่หลี่ที่กำลังจะจากไป เขาไม่เข้าใจอยู่บ้าง “พี่ชิงชิง วันนี้ลูกพี่หลี่ผิดปกติไปหน่อย เขาขึ้นชื่อเรื่องความขี้เหนียวเสียยิ่งกว่าอะไร เมื่อครู่เงิน 80000″หยวน เขากลับไม่เห็นมันอยู่ในสายตา?”

“ใช่ ฉันก็รู้สึกว่ามันผิดปกติอยู่หน่อย แต่ว่าไปก็ไม่แปลก ช่วงนี้ไม่รู้ทำไม ลูกพี่หลี่และพ่อของฉันสนิทกันมากพวกเขาเคยเป็นศัตรูกันมาก่อน แต่เมื่อกี้ลูกพี่หลี่บอกว่าเขาจะร่วมมือกับพ่อของฉัน หรือว่าข่าวลือจะจริง?”

“คุณหมายถึงข่าวลือเรื่องเศรษฐีลึกลับคนนั้นหรือ เจ้านายและลูกพี่หลี่ก็เชื่อด้วยหรือ?” เจ้าหัวแบนหัวเราะฮี่ๆ

หลี่ฝางยืนอยู่ข้างๆ พอได้ยินเรื่องเศรษฐีลึกลับ เขาก็สอดปาก “พี่ ข่าวลืออะไร บอกผมได้ไหม?”

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่ไม่สามารถพูดได้ เมื่อเร็วๆ ในตงไห่มีข่าวลือมาว่า เศรษฐีลึกลับที่กำลังจะกลับมาจากต่างประเทศต้องการจะลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านหยวนในการพัฒนาตงไห่”

“แค่ที่อย่างตงไห่ ไหนเลยมีจะมีมูลค่าการลงทุนได้ถึง 1 หมื่นล้านหยวน”เจ้าหัวแบนยังคงหัวเราะเบาๆ และไม่เชื่อคำบอกเล่าเลยแม้แต่น้อย

แต่เดิมหลินชิงชิงก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อเธอได้ยินว่าลูกพี่หลี่และพ่อของเธอกำลังจะร่วมมือกันเธอก็เชื่อในทันที

ไม่กี่วันมานี้ ลูกพี่หลี่และลูกพี่หลินมักเจอกันบ่อยครั้ง เนื้อหาของการประชุมคือการพูดคุยเกี่ยวกับวิธีหาเงินจากเศรษฐีลึกลับคนนั้น

การลงทุน1 หมื่นล้านหยวน หากสามารถได้รับส่วนแบ่งจากการลงทุนสักหน่อย ก็แทบจะนำมาซึ่งผลกำไรหลายสิบล้านแล้ว

หลี่ฝางได้ยินก็คิดในใจ เศรษฐีลึกลับ กลับมาจากต่างประเทศ หรือว่าจะเป็นคุณปู่ของเขา?

“พี่ เศรษฐีลึกลับคนนั้นชื่ออะไร” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย

“เศรษฐีลึกลับ ทำไมถึงเรียกเขาว่าเศรษฐีลึกลับ นั่นเพราะอีกฝ่ายลึกลับเกินไปไง เกี่ยวกับภูมิหลังของเขา พวกเราไม่รู้แม้แต่น้อย แม้กระทั่งนามสกุลยังไม่รู้ นับประสาอะไรกับชื่อของเขา” หลินชิงชิงยิ้ม

พูดไปมา รถพยาบาลก็มาถึงแล้วเช่นกัน จางจื้อเหาถูกหามขึ้นรถพยาบาลไป แต่หลี่ฝางยังคงกังวลเล็กน้อย “เขาจะไม่เรียกตำรวจใช่ไหม? หากเขาเรียกตำรวจขึ้นมา พวกเราทุกคนจะต้องถูกจับหรือเปล่า? ”

ทั้งหลินชิงชิงและเจ้าหัวแบนหัวเราะขึ้นเบา ๆ

“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จางจื้อเหาแบล็กเมล์นายก่อน หากฉันแทงเขาโดยไม่มีเหตุผลใดๆ เขาก็ไม่กล้าที่จะไปแจ้งตำรวจด้วยซ้ำ นอกจากว่าเขาไม่คิดจะอยู่ต่อแล้ว” เจ้าหัวแบนหัวเราะดูถูก

หลี่ฝางคิดแล้วก็เข้าใจขึ้นมา เจ้าหัวแบนเป็นคนของลูกพี่หลิน หากจางจื้อเหากล้าเรียกตำรวจ ตำรวจจับตัวเจ้าหัวแบน อย่างนั้นลูกพี่หลินจะไม่ส่งคนมาฆ่าเขาหรือ!

“เฮ้อ ครั้งนี้ต้องขอบคุณพวกคุณจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เงิน 80000 ของผมคงถูกโกงไปเปล่าๆ แล้ว คืนนี้ผมเป็นเจ้ามือ ให้พวกคุณเฮฮาเต็มที่เป็นไง?” หลี่ฝางคิดว่าอีกฝ่ายช่วยเขา เขาเองย่อมต้องตอบแทน

“ได้ ดูเหมือนจะมีบาร์เปิดใหม่พอดี ได้ข่าวว่าเป็นของเศรษฐีลึกลับคนนั้น พวกเราไปเที่ยวเล่นดูหน่อย” หลินชิงชิงตอบตกลงอย่างง่ายดาย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท