NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 50

ตอนที่ 50

บทที่50 หลี่ฝางไปหาที่ผับให้ช่วย

ทั้งตงไห่ คนที่กล้าขู่ลูกพี่หลี่ นับด้วยมือแล้ว และหวางเห้า เป็นหนึ่งในนั้น

ลูกพี่หลี่จ้องหวางเห้า ใบหน้าพร้อมฆ่า: “หวางเห้า คุณคิดวาผมไม่กล้าจัดการคุณ หรือว่าจัดการคุณไม่ได้?”

จากความแข็งแรงตอนนี้ของลูกพี่หลี่ ทำหวางเห้าให้ตาย ง่ายเหมือนพลิกมือ

ถึงยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแล้ว องการไม่เหมือนกับเมื่อสิบกว่าปีก่อน เต็มไปด้วยเรื่องตบตีฆ่ากัน แต่เลือดของลูกพี่หลี่ยังอยู่ เขาจะปล่อยให้หวางเห้าบีบบังคับบ่อยๆ แบบนี้ไปง่ายๆ ได้ไง

“พี่แปด ผมรู้ว่าคุณกล้า และก็ทำได้ ก็แค่เล่นด้วยไม่ได้!”

หวางเห้ายิ้มนิดๆ : “คำนี้ว่าไว้ดีมาก เท้าเปล่าไม่กลัวต้องสวมรองเท้า ตอนนี้คุณสวมรองเท้า ผมยังเท้าเปล่าอยู่เลย”

“ถึงคุณมีความเป็นไปได้สิบเปอร์เซ็นต์ที่จะอยู่ในเงื้อมมือผม คุณก็แพ้ไม่ไหวหรอก” หวางเห้ายักไหล่ มองด้านหลังตัวเอง: “แต่เพื่อนๆ ผมกลุ่มนี้ อยู่กับผม ต่างแพ้ได้”

“คุณ!” ลูกพี่หลี่กัดฟัน มองหวางเห้า: “หวางเห้า อย่ามาขู่ผมนะ!”

“พี่แปด ผมไม่ได้ขู่ ผมแค่บอกคุณ ที่นี่คือถิ่นผม ต่อไปไม่ว่าพี่ทำอะไรที่เขตไฟแดง ทักทายผมหน่อย หากแบบนั้น ผมก็จะทำให้พี่สะดวก” หวางเห้าส่ายหน้า: “แต่ถ้าไม่ทักบอกผมสักคำ ก็อย่าโทษว่าผมไม่เกรงใจละกัน”

“พี่แปด คุณมาคนเดียว แล้วยังเอาผมเป็นเพื่อน ไม่เคยคิดจะสู้กับผม ผมก็รู้ ผมหวางเห้าก็จะอ่อนข้อให้ ในเมื่อคุณไม่ได้คิดจะแข็งใส่ผม งั้นผมก็จะปล่อยคน ก็แค่ อย่ามีครั้งต่อไป” หวางเห้ายิ้ม เปิดประตูห้องเล็ก

คนหัวโล้นและคนอื่นออกมา มองหวางเห้าอย่างดุร้าย

“พี่แปด หวางเห้าเขา……”

คนหัวโล้นกำลังจะพูด ลูกพี่หลี่ก็ไอออกมา: “หุบปาก ยังขายหน้าไม่พอเหรอ?”

“พี่แปด ผมไม่ไปส่งคุณนะ” หวางเห้ายิ้ม: “ฟ้าก็ไม่สว่างแล้ว อีกเดี๋ยวก็ต้องกินข้าวเย็นแล้ว ร้านอาหารธรรมดาๆ ที่นี่ของผม น่าจะไม่ถูกปากคุณ งั้นผมคงไม่ต้องเชิญคุณนะ”

เวลานี้ ลูกพี่หลี่มองหลี่ฝาง พูดกับคนหัวโล้น: “เอาไอ้เด็กนี่ไป!”

คนหัวโล้นกำลังจะไปคว้าตัวหลี่ฝาง แต่หวางเห้ากลับหันไปทันที: “พี่แปด ทำไมความจำสั้นจัง”

“ผมเพิ่งเตือนพี่ไป เขตไฟแดง เป็นถิ่นของผม” หวางเห้าพูด

“หวางเห้า คุณคงไม่ปกป้องเด็กนี่หรอกนะ” ลูกพี่หลี่ถามอย่างเย็นชา

“ไม่ปิดบังพี่นะ พี่แปด เด็กคนนี้เป็นลูกค้าของเขตไฟแดง ในเมื่อเป็นแขกผม ผมก็ต้องปกป้องความปลอดภัยของเขา” หวางเห้าพูด

“หมายความว่า ออกจากเขตไฟแดง นี่ไป คุณก็จะไม่สนแล้ว ใช่ไหม?” ลูกพี่หลี่ถามต่อ

“ใช่ แค่พี่เหยียบออกจากเขตไฟแดง นี้ จะเป็นหรือตาย ก็ไม่เกี่ยวกับผม แต่ตอนนี้ ผมขอให้พี่แปดชูมือขึ้น ปล่อยเขาไปก่อน” หวางเห้าเลิกคิ้ว

“โอเค”

ลูกพี่หลี่พยักหน้า พาคนหัวโล้นออกไป

ตู้เฟยก็ขึ้นรถMaybachคันนั้น ออกไปจากเขตไฟแดง แต่ก่อนไป เขาก็จ้องหลี่ฝางเขม็ง

พวกเขาออกไป สีหน้าของหวางเห้า ก็ซีเรียสขึ้นทันที

“เรียกสาวๆ ทั้งหมด แล้วก็แม่เล้า มาหาผมที่นี่” หวางเห้าพูดอย่างรีบร้อน

“พี่เห้า ฟ้าจะมืดแล้ว ฟ้ามืด ธุรกิจของสาวๆ ก็จะยุ่งขึ้นมา เวลานี้เรียกรวมพวกเขา จะส่งผมต่อการทำงานไหม?” เพื่อนของหวางเห้าถาม

“วันนี้ไม่ต้องทำ” หวางเห้าขมวดคิ้ว พูด: “เรียกทุกคนออกมา พวกเราต้องไป”

“ไป?พวกเราไม่ได้บอกเหรอว่าเดือนหน้าค่อยไป?”

หวางเห้าส่ายหน้า: “ลูกพี่หลี่ตอบรับปากไปไวมาก อีกอย่างสายตาที่มองผมก็ผิดปกติ”

“มีความอยากฆ่า” เจ้าหัวแบนพูด

“ใช่ เขาจะฆ่าผม” สีหน้าของหวางเห้าซีเรียสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน: “ตอนนั้นที่ชกฝ่ายดำ ผมก็เคยเห็นสายตานี้มาก่อน หมายความว่าอีกฝ่ายจะฆ่าผมตาย”

“ดังนั้นผมต้องรีบไป ช้ากว่านี้ไปไม่ได้แน่” หวางเห้าพูด

“แม่งเอ๊ย!” หวางเห้าด่าแรงๆ

“พี่เห้า ขอโทษนะพี่ เหมือนผมจะทำให้พี่เหนื่อยเลย” หลี่ฝางมองหวางเห้า พูดอย่างเสียใจเล็กน้อย

“เจ้าโง่ คุณคิดว่าเพราะคุณอย่างเดียวหรือไง?” หวางเห้ายิ้มอักอ่วน พูด: “ลูกพี่หลี่จำจัดการผม เพราะว่าทองในมือผมต่างหาก”

“ทองคำพวกนี้มีมูลค่ากว่าสองล้าน คุณคิดว่าลูกพี่หลี่ไม่ใจเต้นเหรอ?เมื่อกี๊ตอนที่ตู้ต้าไห่เอาทองออกมา ลูกพี่หลี่ก็สนใจทองมาก”

“งั้นผมจะทำไง?” หลี่ฝางมองคนสองสามคนด้านนอกเขตไฟแดง เป็นลูกน้องของลูกพี่หลี่

“น้องชาย คุณทำให้ลูกพี่หลี่ขัดใจแล้ว จะหนีไปกับผมไหม ผมว่าคุณก็ดูดีใช้ได้นะ เอางี้ไหมพอผมเปิดอาบอบนวด ก็ไปทำงานเป็นกระหรี่ชายที่นั่น เป็นไง?” หวางเห้ามองหลี่ฝาง พูดหยอกใส่

หลินชิงชิงกลอกตาใส่หวางเห้า พูด: “ถึงน้องชายฉันจะไปเป็นโฮสต์ให้คุณไม่ได้ แต่ที่คุณพูดก็เป็นอีกทางหนึ่ง”

“หลี่ฝาง เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลินชิงชิงถาม: “เพื่อนๆ หลายคนของลูกพี่หลี่ บาดเจ็บเมื่อคืนแล้ว”

“ฉันได้ยินเรื่องซุบซิบ ว่าเป็นเพื่อนคุณทำ” หลินชิงชิงขมวดคิ้วพูด

หลี่ฝางเอาเรื่องเมื่อคืนเล่าให้หลินชิงชิงฟังหมด พอหลินชิงชิงได้ยิน สีหน้าก็ซีเรียส: “กลัวว่าครั้งนี้พี่ก็ช่วยคุณไม่ได้แล้ว”

“ลูกพี่หลี่มีเพื่อนถูกชนจนพิการ แล้วยังมีเลือดคลั่งในสมอง ถึงจะรอดจากวิกฤต แต่ก็ต้องเกิดผลข้างเคียงต่อไป”

“ลูกพี่หลี่พูดไปแล้ว จะเอาคืนให้เพื่อนตัวเอง เขายังหาคนนั้นไม่เจอ ก็ต้องเอาคืนคุณ” หลินชิงชิงพูดด้วยใบหน้าทำอะไรไม่ถูก: “พ่อฉันเพิ่งโทรมา บอกผมว่าไม่ต้องสนคุณ”

“เห้อ น้องชาย ขอโทษจริงๆ นะ ถึงฉันจะไม่ฟังพ่อฉัน แต่ไม่มีอำนาจของพ่อ ฉันก็ช่วยคุณไม่ได้ ไม่งั้น คุณไปกับหวางเห้าเถอะ” หลินชิงชิงพูด

เวลานี้ หลี่ฝางรู้สึกว่าหัวใจเยือกเย็นขึ้นมา

ตงไห่คนที่จะสู้กับลูกพี่หลี่ได้ มีแค่ลูกพี่หลินคนเดียว แต่ตอนนี้ลูกพี่หลินไม่ช่วยแน่ หลี่ฝางนั่นไม่รู้จริงๆ ว่าจะหาใครมาช่วย

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงได้ คนของหวางเห้าก็เก็บทุกอย่างเสร็จแล้ว

“เพื่อน คุณขัดใจลูกพี่หลี่แล้ว ตงไห่ไม่มีที่ของคุณอีกต่อไปแล้ว” หวางเห้าตบไหล่หลี่ฝาง พูด: “ไปกับผมเถอะ”

“คนของลูกพี่หลี่สามารถมาฆ่าได้ตลอดเวลา พวกเราต้องรีบ”

ฟ้ามืดแล้ว หวางเห้าส่งสายตาให้เพื่อนข้างหลังตัวเอง

ไม่ถึงหนึ่งนาที ลูกน้องสองคนที่เหลือไว้ของลูกพี่หลี่ล้มอยู่ที่พื้น อยู่ในกองเลือด

หลี่ฝางเห็นฉากนี้ก็ตกใจ ลูกน้องของหวางเห้า นั้นช่างโหดสุดๆ

“เป็นไงเพื่อน กลัวเหรอ?จะบอกให้นะ ถ้าคุณตกอยู่ในมือลูกพี่หลี่ จุดจบจะน่าเวทนากว่าเขาสองคนเยอะ แค่รถพยาบาลมาให้ทันเวลา สองคนนี้ไม่มีทางตาย แต่คุณต่างกัน คุณอยู่ในมือลูกพี่หลี่แล้ว โอกาสอยู่รอดช่างน้อยมาก” หวางเห้าพูด: “ถึงไม่ตาย แต่ก็อาจต้องนอนติดเตียงไปทั้งชีวิต”

หลี่ฝางกลืนน้ำลาย: “พี่เห้า ผมไปกับพี่เอง”

“ฉันกับเสี่ยวโจวไปส่งคุณเอง” สายตาที่หลินชิงชิงมองหลี่ฝางทำใจไม่ได้เล็กน้อย ในตามีน้ำตาคลอ

พอขึ้นรถหลินชิงชิง จู่ๆ หลี่ฝางก็คิดอะไรขึ้นมาได้

“พี่ ผมไม่ไปกับหวางเห้า คุณไปส่งผมที่Recalling the pastได้ไหม” รถเพิ่งออก หลี่ฝางก็คิดอะไรขึ้นมาได้

ไม่ใช่ว่าคุณแม่เมี๋ยวชุ่ยเคยทิ้งนามบัตรให้เหรอ?

แม่เคยบอกว่า เจ้าของนามบัตรนี้ จะช่วยคลายปัญหาทุกอย่างให้ ครั้งที่แล้วที่ไปผับ หลี่ฝางจึงพบว่า ที่แท้เจ้าของบัตรนี้ ก็คือผู้จัดการผับ

“ไปผับ?” หลินชิงชิงขมวดคิ้ว ถามอย่างสงสัย: “ไปทำอะไรที่ผับ?”

ส่วนเจ้าหัวแบนได้ยินคำนี้ มุมปากก็มีรอยยิ้ม กลับรถทันที พาหลี่ฝางไปส่งที่หน้าRecalling the past

มองหลี่ฝางเข้าไปในผับ เจ้าหัวแบนก็ยิ้ม: “ครั้งที่แล้วผมก็บอกแล้วไง ผับนี้เกี่ยวข้องกับเจ้าเด็กนี่อย่างลึกซึ้ง ตอนนี้ดูๆ แล้ว ผมน่าจะเดาไม่ผิด”

หลินชิงชิงยังคงไม่วางใจ ถามอย่างสงสัย: “ถึงหลี่ฝางรู้จักพวกเขา แต่พวกเขาจะจัดการลูกพี่หลี่ได้เหรอ?”

“พี่ชิง พี่วางใจเถอะน่า” เจ้าหัวแบนยิ้มอย่างมีเลศนัย เวลานี้ เขากลับเป็นห่วงลูกพี่หลี่แทน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท