NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 37

ตอนที่ 37

บทที่ 37 ตัวตนของพนักงานคลับ

“เหี้ยเอ๊ย นั่นรถใคร!”

เขาด่าชุดใหญ่ เมื่อกำลังเตรียมจะวิ่งหนี รถกลับเร่งความเร็วขึ้น

เป็นรถเบนซ์G-Classคันหนึ่ง ที่มีแรงม้ามากพอ ที่จะเร่งความเร็วถึงร้อยไมล์ได้ในพริบตาเดียว รถคันดังกล่าวขับเข้ามาพุ่งชนคนของหลี่หลงโดยตรง

ตู้เฟยตกใจจนตัวสั่น: “พี่หลง ใครเป็นคนขับรถ?”

“คุณถามฉัน แล้วฉันจะถามใคร คุณบอกว่าหมอนี่ไม่มีใครหนุนหลังไม่ใช่เหรอ แล้วเบนซ์G-Classนี่มาจากไหน?” หลี่หลงมองเหยียดใส่ตู้เฟย สีหน้าน่าเกลียดเต็มที

“หรือว่าจะเป็นหลินชิงชิง?” ตู้เฟยเดาถาม

“หลินชิงชิงขับLand Rover!” หลี่หลงกัดฟันกรอด ตะโกน: “พี่น้อ รีบจับอาวุธ ไม่สนว่าคนบนรถจะเป็นใคร ฆ่ามันให้ฉัน!”

หลี่หลงนำหน้า ถือเอาไม้เบสบอลแล้ววิ่งเข้าไป

ในตอนนั้นเอง หัวโล้น ๆ ก็ยื่นโผล่ออกมาจากรถเบนซ์G-Class: “เจ้าหนุ่ม ยังจำฉันได้ไหม?”

หลี่ฝางมองหัวโล้นที่คุ้นเคย สีหน้าดีใจ: “พี่ใหญ่ ทำไมเป็นพี่!”

“กำลังออกมาก็เจอแกถูกตี เลยมาช่วยแกไง” คนหัวโล้นหัวเราะเหอ ๆ เปิดประตูรถแล้วลงมา

คนหัวโล้นมองกลุ่มคนท่าทางอันตรายของหลี่หลง ยิ้มออกมาเล็กน้อย: “เด็กเปรตพวกนี้ มันเหลือเกินจริง ๆ”

เมื่อคนหัวโล้นเรียก รถเบนซ์G-Classก็มีคนลงจากรถมาอีกสามคน

ในแง่ของจำนวนคน เห็นได้ชัดว่าฝั่งของคนหัวโล้นสู้ฝั่งของหลี่หลงไม่ได้

แต่ฝั่งของคนหัวโล้นล้วนดูสงบและใจเย็น คนหัวโล้นมองพี่ใหญ่ของตัวเองแล้วหัวเราะ “พี่หยวน พี่น้องพวกเรานานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ต่อยตี?”

“นานแล้ว”

“ใช่แล้ว อย่างน้อยก็หลายปีแล้ว ให้ตายสิ หมัดนี่ขึ้นสนิมหมดแล้ว!”

“วันนี้ก็ถือว่าเคาะสนิมหน่อยแล้วกัน!”

คนของหัวโล้นสีหน้าแสดงถึงความตื่นเต้น เข้าไปเผชิญหน้ากับคนของหลี่หลง

และในตอนนั้นเอง หลี่ฝางก็เข้าไปพยุงถังหยู่ซวนขึ้น: “โง่เง่า นายมันโง่จริง ๆ!”

“แค่นายคนเดียว จะขวางใครได้ฮะ?” หลี่ฝางมองบนใส่ถังหยู่ซวน ในใจนั้นกลับซาบซึ้งวุ่นวายไปหมด

ถังหยู่ซวนยิ้ม นอนในอ้อมแขนของหลี่ฝาง

มองการต่อสู้ที่วุ่นวายที่นี่ ถังหยู่ซวนถามขึ้น: “หลี่ฝาง นั่นคือพวกที่นั่งข้างพวกเราเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่แล้ว” หลี่ฝางพยักหน้า

“ทำไมพวกเขาถึงช่วยพวกเราล่ะ!” ถังหยู่ซวนถามอีกครั้ง

“ฉันก็ไม่รู้” หลี่ฝางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

“อาจจะเพราะฉันเคยเชิญพวกเขาดื่มเหล้า?” หลี่ฝางหัวเราะ นี่อาจเป็นการพูดคุยเพียงครั้งเดียวของตนกับพวกของคนหัวโล้นแล้ว

พวกของหลี่หลงในตอนเริ่มแรกพึ่งอาวุธในมือของตัวเอง ยังทำให้ได้เปรียบกว่าเล็กน้อย แต่ผ่านไปไม่นาน พวกของคนหัวโล้นก็แย่งเอาอาวุธของพวกเขาไปได้ สถานการณ์จึงเริ่มแย่ลง

พวกของคนหัวโล้นยิ่งสู้ยิ่งรุนแรง แต่ละคนราวกับเสือร้าย หลายคนลงมือดุเดือดรุนแรง ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย

มีคนโดนไม้เบสบอลฟาดเข้าที่หัว ล้มลงบนพื้นเลือดไหลออกตามหู

ไม่ถึงสามนาที พวกของหลี่หลง นอกจากตัวหลี่หลงแล้ว คนที่เหลือก็ล้มลงกันหมดแล้ว

คนหัวโล้นถุยน้ำลายปนเลือดลงบนพื้น มองหลี่หลงพลางพูด: “พี่หยวน หมอนี่ต่อสู้ได้ไม่เลวเลย หมัดเดียวก็ทำให้ฉันเลือดกบปากแล้ว”

พี่หยวนพยักหน้า พูดพลางหัวเราะ: “เมื่อฉันอายุเท่ามัน คงเหลือทนได้เป็นศัตรูกับมันจริง ๆ”

หลี่หลงเหลือเพียงแค่คนเดียวแล้ว เขาไม่กล้าสู้ต่อ พวกของคนหัวโล้นล้วนโหดเหี้ยม ตัวคนเดียวเขาไม่มีทางชนะ

หลี่หลงเป็นเพียงแค่แชมป์ซ่านโฉ่วรุ่นเยาวชน แต่พวกของหัวโล้นนั้น อายุน้อยที่สุดก็มีเลขสามแล้ว

หลี่หลงสีหน้ามืดครึ้ม มองพวกของคนหัวโล้นไม่กี่คนนั้น: “พวกคุณเป็นใคร ทำไมถึงช่วยหลี่ฝาง?”

“หลี่ฝาง ที่แท้เจ้าหนุ่มนี่คือหลี่ฝาง” คนหัวโล้นปราดตามองหลี่ฝาง หัวเราะเหอ ๆ

“พวกคุณแม้แต่ชื่อมันยังไม่รู้ ก็ยื่นมือมาช่วยมัน?” หลี่หลงสีหน้าเขียวคล้ำด้วยความโกรธ พูดไม่ออกเล็กน้อย

คนหัวโล้นหัวเราะเหอ ๆ เอ่ย: “เมื่อกี้ที่คลับ เจ้าหมอนี่ชวนฉันดื่มเหล้า พวกฉันเป็นติดหนี้น้ำใจเขา”

“ถ้าไม่ออกมาเห็นว่าเขากำลังมีปัญหาพอดี ก็เลยมาช่วย เอาน้ำใจมาคืน”

คนหัวโล้นพูดจบ หลี่หลงก็หัวเราะเสียงเย็น: “งั้นคุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”

“ฉันรู้ว่าคุณเป็นใครที่ไหนกัน ฉันไม่รู้จักคุณ แล้วยังตีคุณได้ด้วย?” หัวโล้นมองหลี่หลงราวกับมองคนโง่

“ฉันจะบอกคุณให้ ฉันเป็นถึงลูกชายของลูกพี่หลี่ คนที่คุณตีเมื้อกี้ ล้วนเป็นคนของพ่อฉัน” หลี่หลงพูดข่มเสียงเย็น: “นี่ที่คือเมืองตงไห่เขตเมืองตะวันออก เป็นเขตของพ่อฉัน กล้าตีคนในเขตของพ่อฉัน พวกคุณอยากตายหรืออย่างไร?”

“พ่อคุณคือลูกพี่หลี่?” คนหัวโล้นหัวเราะเหอ ๆ : “ลูกพี่หลี่เป็นใคร พวกฉันไม่รู้จัก หรือฉันจะถามพ่อคุณดี ว่ารู้จักเฉินเจียโล่ไหม?”

“เฉินเจียโล่คือชื่อของฉัน ถ้าหากต่อไปแกอยากแก้แค้น ก็ไปหาฉันที่เมืองเอก!”

คนหัวโล้นหัวเราะ พูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา: “ถ้าหากไม่กล้ามาหาฉัน ก็อย่าเสือกคุยโวต่อหน้าฉัน!”

“อ้างถึงคนนั้นคนนี้ต่อหน้าฉัน จะมีประโยชน์เหี้ยอะไร ออกมาระยำด้วยกันทั้งนั้น ถ้าแค่ชื่อคนคนหนึ่งยังทำให้ตกใจได้ ถ้าอย่างนั้นหลายปีที่ผ่านมาฉันก็ระยำมาเสียเปล่าน่ะสิ”

คนหัวโล้นพูดจบ ก็ใช้ไม่เบสบอลชี้หน้าหลี่หลง: “ฉันจะถามแก ยังจะสู้อีกไหม ถ้ายังจะสู้ก็มา ถ้าไม่สู้แล้ว พวกฉันก็จะไปแล้ว”

หลี่หลงกัดฟันกรอด คนที่เขาพามาด้วย ล้วนนอนกองกันอยู่บนพื้นแล้ว เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวที่ยังยืนอยู่

คนหัวโล้นถามประโยคนี้ เห็น ๆ อยู่ว่าแกล้งเขา เขาตัวคนเดียว จะสู้ได้อย่างไร!

“เฉินเจียโล่ คุณกล้ารอพ่อฉันมาหรือเปล่า!” หลี่หลงมองหัวโล้นแล้วด่ากราด

คนหัวโล้นวิ่งเข้าไปไม่กี่ก้าว ยกเท้าข้างหนึ่งกระโดดถีบหลี่หลง: “ไอ้เด็กเปรต คุณคิดว่าฉันโง่เหรอ คนที่มีฝีมือก็ยากที่จะจัดการกับเจ้าถิ่นได้หลักการแค่นี้คุณคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ!”

“ถ้าคุณบอกว่าแม่คุณจะมา ฉันถึงจะพิจารณาสักหน่อย” คนหัวโล้นเหลือบมองหลี่หลงแล้วกลับไปที่รถเบนซ์G-Classของตัวเอง

แต่ว่าคนหัวโล้นกลับไม่ได้กลับออกไปทันที แต่พูดกับหลี่ฝางแทน: “เจ้าหนุ่ม แกออกไปก่อนสิ”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพยุงถังหยู่ซวน

ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางก็นึกถึงใครอีกคนหนึ่ง หลิวเฉียวเฉียว

เขาหันหน้าไป มองหลิวเฉียวเฉียวที่นั่งยอง ๆ อยู่กับพื้น แล้วเอ่ยถามหนึ่งประโยค: “ต้องการไปกับพวกฉันไหม?”

หลิวเฉียวเฉียวได้ยินดังนั้น พยักหน้าอย่างแรง รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปข้างหน้าหลี่ฝาง

“เหี้ยเอ๊ย ผู้หญิงของฉัน!” ส้งเสียงมองหลิวเฉียวเฉียวที่วิ่งไป กัดฟันด่ากราด

เมื่อสักครู่หลิวเฉียวเฉียวถูกจับได้ว่าแอบแจ้งเบาะแสเตือนหลี่ฝาง หลี่หลงก็ต้องการจะเปลื้องผ้าเธอ ดีที่ส้งเสียงขัดขวางไว้ จึงทำให้หลิวเฉียวเฉียวปกป้องตัวเองไว้ได้

ส้งเสียงทำเป็นคนดีต่อหน้าหลิวเฉียวเฉียว จุดประสงค์เพื่อที่คืนนี้จะได้นอนกับเธอ แต่ใครจะคิดว่า ตอนที่หลี่ฝางกำลังจะออกไปกลับตะโกนเรียกเธอไปด้วย

ส้งเสียงอยากตะโกนเรียกหลิวเฉียวเฉียวกลับมามาก แต่คนของหัวโล้นหลายคนนั่งในรถจ้องเขาอยู่ เขาจะเอาที่ไหนมากล้าพูด!

รอจนพวกหลี่ฝางเรียกรถแท็กซี่ออกไปแล้ว คนหัวโล้นถึงจะสตาร์ตรถ

“เฮ้ย เจ้าหนุ่ม!” ตอนจะจากไป คนหัวโล้นก็ตะโกนเรียกหลี่หลง

หลี่หลงเงยหน้าขึ้น มองคนหัวโล้น

“ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ จำไว้ให้มาหาฉันที่เมืองเอก!” หัวโล้นโยนนามบัตรของตัวเองไว้ให้หลี่หลงหนึ่งใบ พูดยุแหย่: “ฉันต้อนรับคุณทุกเวลา”

พูดจบ คนหัวโล้นถึงเร่งความเร็วรถจากไป

“เฉินเจียโล่ ฉันไปแกแค้นคุณแน่” มองเบนซ์G-Classที่ไกลออกไป หลี่หลงกัดฟันพูด

หลี่หลงลุกขึ้น เดินไปข้างหน้าตู้เฟย เอ่ยถามสีหน้ามืดครึ้ม: “ตู้เฟย จะคิดบัญชีนี้อย่างไร?”

“พี่หลง พวกเรามีบัญชีอะไรกัน?” สีหน้าตู้เฟยซีดลงเล็กน้อย

หลี่หลงสีหน้าน่ากลัว ตบหน้าตู้เฟยไปหนึ่งครั้ง แรงตบแรงมาก ตบจนตู้เฟยเซไปหลายก้าว

“เหี้ยเอ๊ย ทำเป็นเลอะเลือนต่อหน้าฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะจัดการเรื่องให้คุณ คนของฉันจะเป็นแบบตอนนี้ไหม?” หลี่หลงชี้ไปที่กลุ่มคนบนพื้น: “บัญชีนี้ฉันไม่คิดที่คุณ หรือจะให้คิดที่ฉันเอง?”

คนที่โดนรถชนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติ คนที่เหลือก็บาดเจ็บกันทั้งหมด คนพวกนี้ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่หลี่หลงไม่กล้าแจ้งความ ให้ตำรวจไปจับคนหัวโล้น

ถึงแม้ว่าคนหัวโล้นจะชนคน แจ้งความแล้วคนหัวโล้นก็ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายนี้ แล้วถ้าแจ้งความจะพูดว่าอย่างไร บอกว่าตอนที่ตนเองกำลังจะตีขาคนอื่น แล้วถูกรถชน นั่นไม่ใช่โจรตะโกนให้จับโจรหรือไง?

ตู้เฟยแม้จะกลุ้มใจอย่างมาก กลับไม่กล้าพูดอะไรมาก เขาพยักหน้าให้หลี่หลง: “พี่หลง ค่ารักษาพยาบาลพวกเขาคิดที่ฉัน”

“มีแค่ค่ารักษาพยาบาล?” หลี่หลงสายตาอำมหิต

“ยังมีค่าทำขวัญ ค่าเลี้ยงดู…..ล้วนคิดที่ฉัน” ตู้เฟยไม่กล้าขัดใจหลี่หลง

……

ในตอนนั้นเอง ยอดตึกของRecalling the past มีเงาดำของร่างหนึ่งค่อย ๆ ลุกขึ้น เก็บปืนไรเฟิลขึ้นมา

เงาดำมองพวกของหลี่หลง ด้วยรอยยิ้มเย็นบนใบหน้า

ไม่นาน เขาก็ซ่อนปืนไรเฟิลเสร็จ เปลี่ยนเป็นชุดทำงานของตัวเอง กลับไปที่ชั้นล่างเพื่อเป็นพนักงานของคลับตนเอง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน