NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 26

ตอนที่ 26

บทที่26 ลงโทษตู้เฟย

“ครูใหญ่ ผมไม่ค่อยเข้าใจที่ครูใหญ่พูด คุณพูดให้เข้าใจกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ” ครูประจำชั้นของหลี่ฝางตะลึง ถามเบาๆ

ที่จริงไม่ใช่เขาไม่เข้าใจ ความหมายของครูใหญ่ชัดเจนมากแล้ว ก็คือให้เขาพูดโกหกปิดบังหลี่ฝาง

ที่เขาไม่เข้าใจคือ ทำไมครูใหญ่ก็ช่วยหลี่ฝาง!

“งั้นผมถามคุณ อีกแป๊บก็จะคัดเลือกครูดีเด่นแล้ว โควตานี้ก็ไม่มาก คุณไม่อยากได้แล้ว?” ครูใหญ่มองครูประจำชั้นของหลี่ฝางแวบหนึ่ง แล้วส่งสายตาให้

“ครูใหญ่ ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวตำรวจมา ผมรู้ว่าควรพูดอย่างไร” ครูประจำชั้นของหลี่ฝางพยักหน้าทันที ที่เขาแคร์สุดตอนนี้ ก็คือใบรับรองว่าเป็นครูดีเด่น

และไม่ว่าให้ใคร ไม่ใช่เรื่องของครูใหญ่หรือไง?

ส่วนทำไมครูใหญ่ช่วยหลี่ฝาง ทำไมยืนข้างหลี่ฝาง ก็ไม่สนแล้ว

ตัวเองแค่สนใจส่วนที่ทำตามครูใหญ่สั่งให้ทำก็พอ

ที่อยู่ตรงหน้าห้องพักครูเมื่อครู่ เดิมทีตู้เฟยอยากให้ครูใหญ่ไล่หลี่ฝางออก แต่ตอนนี้ดูแล้ว ครูใหญ่ไม่ได้คิดจะไล่หลี่ฝางออกเลย ตู้เฟยก็ไม่ได้ตามรังควานครูใหญ่ต่อ

ยังไงที่นี่ก็คือมัธยมตงไห่ ในโรงเรียนนี้ ครูใหญ่ใหญ่ที่สุด

เซี่ยลู่ก็ได้ยินคำพูดของครูใหญ่ เธอไม่ค่อยพอใจ: “ตู้เฟย คุณไม่ได้บอกเหรอว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครูใหญ่แล้วน่ะ?ทำไมที่ครูใหญ่พูดเมื่อกี๊ เขาจะช่วยหลี่ฝาง นี่มันอะไรกันแน่”

เกิดเรื่องใหญ่โตจนน่าขันขนาดนี้ ตู้เฟยก็ละอายหน่อยๆ : “อะไรกันเนี่ย ทำไมจู่ๆ ครูใหญ่ก็อยู่ฝั่งหลี่ฝาง”

ตู้เฟยคิดอยู่นาน ก็คิดได้ความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง: “จะต้องเป็นหลี่ฝางโทรหาพี่เขาแน่”

“คุณหมายถึงลูกสาวลูกพี่หลิน?”

“นอกจากเธอ จะมีใครได้อีก จะต้องเป็นหลี่ฝางไปหาหลินชิงชิงแน่ แล้วหลินชิงชิงหาครูใหญ่” ตู้เฟยพูดอย่างเด็ดเดี่ยว

เซี่ยลู่ขมวดคิ้ว: “หลี่ฝางรู้จักพี่สาวคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเมื่อก่อนไม่เคยได้ยิน”

“ไม่ใช่ที่กินข้าวเมื่อหลายวันก่อนหรอกเหรอ?เมื่อวานผมเรียกคนมาถาม คืนนั้นที่พวกเรากินข้าวกัน พี่ชายฝั่งพ่อของหลินชิงชิงคนหนึ่ง

จัดงานแต่งที่นั่นพอดี งานเลี้ยงจองเกินมาสามโต๊ะ ตามกฎของLotusงานเลี้ยงแต่งงานจองแล้วก็ต้องจ่ายเงิน เวลานั้นหลินชิงชิงเจอหลี่ฝาง หลี่ฝางช่วยเหลือหลินชิงชิงโดยรับสามโต๊ะงานแต่งนั้น ช่วยพี่ชายฝั่งพ่อของหลินชิงชิงประหยัดไปหมื่นกว่า”

“เขาสองคนก็เลยรู้จักกัน” ตู้เฟยคิดในใจ มิตรภาพของหลินชิงชิงกับหลี่ฝางยังสู้ความสัมพันธ์ของพ่อตัวเองกับลูกพี่หลินไม่ได้

“ไม่น่าล่ะคืนนั้นหลี่ฝางใจกว้างขนาดนั้น จองอาหารมาตรฐานสามพันสามร้อยแปดสิบ ที่แท้ก็เป็นของคนอื่น” เซี่ยลู่ยิ้มเย้ยหยัน

แล้วรออีกสักพัก สายของตู้เฟยก็ดังขึ้นมา

“เพื่อนผมมาแล้ว ผมไปรับเขาก่อน” ตู้เฟยมีสีหน้าดีใจ ลงบันไดไป รับตำรวจหนุ่มสองคนในเครื่องแบบขึ้นมา

ระหว่างทางนั้น ตู้เฟยก็พูดกรอกหูใส่เกินความจริง แล้วยังเอาเรื่องที่ฟันตัวเองหลุดพูดออกมา

“คุณบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ก็สามารถพิจารณาคดีได้”

“ถึงตอนนั้นคุณฟ้องร้องเขาได้”

เพื่อนตำรวจของตู้เฟยคนนี้ชื่อหลิวเทา ถึงจะทำอาชีพนี้ไม่นาน แต่รู้จักกฎหมายอย่างดี

“เดี๋ยวคุณกลับไปกับผมหน่อย ผมจะพาคุณไปตรวจนิติวิทยา เขาได้ติดคุกอยู่หลายปีแน่” หลิวเทาโอบไหล่ตู้เฟย ตบลงไป

“พี่เทา ที่จริงซี่นี้ก็เป็นฟันผุผม ควรจะหลุดอยู่แล้ว” มุมปากตู้เฟยมีรอยยิ้มชั่วร้าย เขาก็รู้ว่าทางนิติวิทยา บางคนทำร้ายอีกฝ่าย ก็มักจะทำการปลอมแปลงของนิติวิทยา

เหมือนหลี่ฝางไม่มีอำนาจใดๆ ถึงตัวเองจะทำการปลอมแปลง แต่อีกฝ่ายก็ค้นไม่เจอ

“คุณบอกว่าหัวขโมยนั่นขโมยนาฬิกาของคุณไป โทรศัพท์สองเครื่อง รวมแล้วเกินแสนใช่ไหม ใช่ไหม?” หลิวเทาถาม

“ใช่ แค่นาฬิกาRolexของผมอย่างเดียวก็แปดหมื่นกว่าละ ถ้าคุณต้องการใบรับรอง ผมกลับบ้านไปเอาใบเสร็จกับคุณได้” ตู้เฟยพูดทันที

“ได้ ถึงตอนนั้นเอาใบเสร็จออกมา ดูแล้ว น่าจะถูกตัดสินติดคุกสามถึงห้าปี”

ได้ยินว่าสามถึงห้าปี ใบหน้าของตู้เฟยก็ไม่ค่อยพอใจ

“ผมคิดว่าจะได้ถึงสิบ แปดปีอะไรพวกนี้ซะอีก” ตู้เฟยพึมพำ

“เด็กคนนี้แค้นไรกับคุณนักหนา ถึงได้แค้นเขาขนาดนั้น สามถึงห้าปียังไม่พอ?” หลิวเทาถอนหายใจ พูด: “อยู่ข้างในสามถึงห้าปี ก็น่าจะล้าหลังไปหมดแล้ว”

“ใช่สิ ผมเห็นมีรปอร์เช่คันหนึ่งจอดที่ลานจอดรถโรงเรียนพวกคุณน่ะ ครูคนนั้นไฮโซจัง ขับรถดีแบบนั้นมาสอน” จู่ๆ หลิวเทาก็ถาม

ใบหน้าตู้เฟยภูมิใจเล็กน้อย: “พี่เทา รถนั่นของผม”

“งั้นคุณก็รวยจริงๆ เลยนะ” หลิวเทาพูดอย่างอิจฉา

พวกเขาพูดคุยกันจนมาที่หน้าออฟฟิศ พอเข้ามา สีหน้าหลิวเทาก็บึ้งตึงขึ้น: “ใครเพิ่งแจ้งความ?”

“ตำรวจครับ ผมแจ้งเอง” ตู้เฟยยกมือขึ้น

ทั้งสองตอบโต้กัน ทำเหมือนไม่รู้จักกัน แป๊บเดียว หลิวเทาก็ไปตรงหน้าหลี่ฝาง อยากจะรวบเขาไป

“เดี๋ยวก่อน!”

เวลานี้จู่ๆ ครูใหญ่ก็ยืนขึ้น หยิบโทรศัพท์เดินเข้ามา: “ตำรวจ คุณเข้าใจผิดแล้ว ที่ขโมยของไม่ใช่หลี่ฝาง”

“ไม่ใช่เขา?”

“ใช่ หลี่ฝางเป็นนักเรียนดีเด่นทั้งนิสัยและผลการเรียนของโรงเรียนเรา จะขโมยของคนอื่นมาได้ไง?คนที่ขโมยจริงๆ เป็นนักเรียนอีกคน ชื่อจางเสี่ยวเฟิง คุณดูสิ ทางผมมีคลิปวงจรปิด” ครูใหญ่เอากล้องวงจรปิดให้หลิวเทาดู

หลิวเทาดูจบ สีหน้าก็ละอายใจเล็กน้อย: “งั้นจางเสี่ยวเฟิงคนนั้นอยู่ไหน?”

“เรียนในห้องเรียน พวกคุณไปจับเขาสิ” ครูใหญ่พูดอย่างไร้อารมณ์

ตอนครูใหญ่เอาคลิปออกมาตอนนั้น สีหน้าตู้เฟยก็เปลี่ยนทันที

เป็นเขาที่ให้จางเสี่ยวเฟิงแอบเอาRolexใส่ในโต๊ะของหลี่ฝาง ถ้าจางเสี่ยวเฟิงถูกจับ งั้นถ้าเขาสารภาพเขาออกมา

แบบนั้นก็ไม่จบเห่เลยหรือไง?

ตู้เฟยตื่นตระหนก รีบไปขวางทางหลิวเทาไว้: “พี่เทา……ไม่สิ ตำรวจครับ จางเสี่ยวเฟิงคือเพื่อนของพวกเรา ผมว่าต้องเข้าใจผิดแน่นอน”

“เข้าใจผิด?” หลี่ฝางยื่นขึ้นมาอย่างเยือกเย็น: “ตอนนี้หลักฐานก็มีแล้ว ชัดเจนว่าคุณกับจางเสี่ยวเฟิงร่วมกันใส่ร้ายผม อยากให้ผมเข้าคุก นี่มันเรียกว่าใส่ร้าย ไม่เรียกว่าเข้าใจผิด เข้าใจไหม?”

“หลี่ฝาง อย่าภูมิใจไปหน่อยเลย ถึงคุณไม่ได้ขโมยนาฬิกาผม งั้นโทรศัพท์ที่คุณขโมยของผมกับเซี่ยลู่ล่ะ ครูประจำชั้นหาเจอจากตัวคุณเองเลย โทรศัพท์คุณจะอธิบายยังไง?” ตู้เฟยมองหลี่ฝางด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น คิดในใจ ถึงคุณจะหลุดจากผู้ต้องสงสัยของนาฬิกาได้ งั้นโทรศัพท์ล่ะ?

โทรศัพท์จะสลัดออกไม่ได้

ตอนนี้ครูใหญ่ก็ไอขึ้นมา ครูประจำชั้นของหลี่ฝางยืนออกมาทันที: “ตู้เฟย ครูลืมบอกคุณไป โทรศัพท์สองเครื่องนั้น ไม่ได้เจอจากตัวหลี่ฝาง แต่หลี่ฝางเอามาให้ครูเอง”

“ครู……”

จู่ๆ ครูประจำชั้นก็เปลี่ยนคำพูด ตู้เฟยตะลึงสุดๆ

เดิมทีเขาจะใส่ร้ายหลี่ฝาง แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับตาลปัตร ไม่ใช่แค่หลักฐานทั้งหมดเท่านั้น พยายานก็ถูกล้างหมด แม้แต่ตัวเองก็ด้วย

เวลานี้ตำรวจอีกคนได้รับสาย พอฟังเสร็จ เขาวิ่งไปตรงหน้าหลิวเทา: “พี่เทา ด้านบนให้พวกเรากลับไป”

“กลับไป?ทำไม มีคดีสำคัญรอพวกเราเหรอ” หลิวเทาถามอย่างแปลกใจ

“ไม่ใช่ ฝ่ายด้านบนโทรมา บอกว่า ไม่ว่าอย่างไร ก็จับนักเรียนที่ชื่อหลี่ฝางไม่ได้ ให้พวกเรารีบแยกย้าย”

หลิวเทาพูดจบ ก็มองหลี่ฝางด้วยความสับสน

เขาไม่ค่อยเข้าใจ นักเรียนปอปลายธรรมดาคนนี้ดูแล้วเหมือนไม่พิเศษใดๆ ทำไมมีอำนาจอยู่เบื้องหลังมากขนาดนั้น ถึงได้ให้ฝ่ายด้านบนโทรมาด้วยตัวเอง

“งั้นเราก็แยกย้ายกันเถอะ” หลิวเทาโบกมือ แล้วก็ไป

คำแนะนำจากด้านบนตอนนี้ดูเหมือนจะซ้ำซ้อนหน่อย ตอนนี้หลี่ฝางหลุดจากผู้ต้องสงสัย ถ้าอยู่ต่อไป สืบต่อไป กลัวว่าคนที่ซวยจะเป็นตู้เฟยกับจางเสี่ยวเฟิง

“เสี่ยวฝาง เรื่องนี้ คุณจะจัดการอย่างไร?” เวลานี้ หลี่ต๋าคางถาม

ตอนนี้ความจริงของเรื่องลอยอยู่เหนือน้ำ หลี่ฝางถูกใส่ร้าย ส่วนคนที่ใส่ร้ายเขา ก็คือตู้เฟยกับจางเสี่ยวเฟิง

หลี่ต๋าคางยืนอยู่ด้านหลังหลี่ฝาง เหมือนกับยักษ์

ตู้เฟยถูกหลี่ฝางกับพ่อหลี่ต๋าคางสองคนพ่อลูกจ้องเขม็ง ก็อดไม่ได้ที่จะสั่น

“ตู้เฟย ปอร์เช่ของคุณคันนั้นสวยมาก เอามาให้ผมได้ไหม?” ผ่านไปอยู่นาน หลี่ฝางจึงพูด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท