NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 34

ตอนที่ 34

บทที่34 หลิวเฉียวเฉียวโดนตบ

“หลี่ฝาง คุณหมายถึงกุญแจรถอะไรเหรอ?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถามขึ้น

“กุญแจรถปอร์เช่ไง ที่เมื่อกี้ฉันไป ก็เพื่อไปเอากุญแจรถกับตู้เฟย” หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วกล่าว

“รถปอร์เช่คันนั้นที่ตู้เฟยขับไปที่โรงเรียนในวันนี้ เป็นของคุณเหรอ?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองไปที่หลี่ฝางด้วยสีหน้าที่งุนงง

“ไม่ใช่ รถปอร์เช่คันนั้นเป็นของเขา” หลี่ฝางยิ้ม และรู้ว่าหลี่เสี่ยวเสี่ยวเข้าใจผิด

“แต่ว่า ตู้เฟยจะเอารถปอร์เช่ของเขาให้ฉันในไม่ช้านี้แล้ว” หลี่ฝางยิ้ม และกล่าว

“หลี่ฝาง คุณกำลังสับสนอยู่ใช่หรือเปล่า เป็นไปได้อย่างไรที่ตู้เฟยจะเอารถปอร์เช่ของเขาให้คุณ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองไปที่หลี่ฝางด้วยสายตาที่มองบน และคิดว่าเขาดื่มมากเกินไป

“ไม่เชื่อก็คอยดูแล้วกัน” หลี่ฝางนั้นมีความมั่นใจสูงมาก และในมือของเขาก็ถือหลักฐานที่ตู้เฟยทำผิดอีกด้วย

อันหนึ่งคือเข้าคุก และอีกอันคือให้รถ หลี่ฝางเชื่อว่าตู้เฟยนั้นไม่โง่จนถึงขั้นเลือกเข้าคุกอย่างแน่นอน

หลี่ฝางกำลังครุ่นคิด ว่าตัวเองนั้นจะเดินไปที่พวกเขาอีกครั้งหรือเปล่า เพื่อเดินไปเอากุญแจรถกลับมา?

หลี่ฝางลังเลไปชั่วขณะ แล้วตัดสินใจไปเอา ที่นี่เป็นถิ่นของตัวเอง แล้วตัวเองยังมีอะไรต้องกลัวอีกล่ะ?

และผลสุดท้ายเมื่อตู้เฟยเห็นหลี่ฝางเดินมา ก็รีบเอากุญแจรถปอร์เช่ยัดไปในมือของหลี่หลงอย่างรวดเร็ว

หลี่หลงผงะไปชั่วขณะ: “ตู้เฟย นี่คุณหมายความว่าอย่างไร คุณจะเอารถของคุณให้ฉันเหรอ?”

“พี่หลง ฉันแค่ยืมให้พี่ขับเล่นสองวันเท่านั้น ช่วงสองสามวันนี้ฉันไม่สะดวก เดี๋ยวรอให้ฉันสะดวกแล้ว ฉันค่อยไปเอากับพี่ ได้หรือเปล่า?” ตู้เฟยถามขึ้น

“แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว” หลี่หลงตอบตกลงอย่างมีความสุข: “เมื่อก่อนฉันขับไปจีบสาวบ่อย ๆ รถคันนี้เป็นเครื่องมือพิเศษในการจีบสาวเลยนะ เรื่องนัดผู้หญิงออกเดต นัดทีไรใช้ถุงยางหนึ่งกล่องทุกที”

โจวเจ๋มองไปที่หลี่หลงด้วยสายตาที่มองบน: “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณขับรถของฉันไปรับสาวๆ ออกเดต ฉันจะขายมันให้ตู้เฟยต่อในราคาที่ถูกเหรอ?”

“คราวก่อนฉันจอดซื้อบุหรี่อยู่ข้างทาง และตอนที่ฉันกลับมากระจกรถก็ถูกคนอื่นพังจนแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว ฉันถามเขาว่าพังรถของฉันทำไม คนนั้นตอกมาว่ารถปอร์เช่คันนี้แหละ ที่ไปนอนกับภรรยาของเขา เฮ้อ ดีนะที่ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว มิฉะนั้นฉันต้องโดนทุบตีแน่” โจ๋วเจ๋กล่าว

“ฮ่าฮ่า ใครให้คุณไม่ไปเรียนซ่านโฉ่วกับฉันล่ะ ถ้าคุณซ่านโฉ่วเป็นนะ ใครจะกล้ามาพังรถของคุณ” หลี่หลงตบไปที่หน้าอกของตัวเอง แล้วกล่าว: “อย่างฉันนิ ถ้าสามีของพวกเธอมาหาเรื่องฉันล่ะก็ ฉันจะตีจนพวกเขาเข้าโรงพยาบาลโดยตรงเลย”

“ตัวเองไม่ดูภรรยาของตัวเองให้ดีเอง ยังจะมาโทษฉันอีก?” หลี่หลงตะคอกและยิ้มแล้วกล่าว

“หลี่หลง ทำไมคุณถึงชอบนอนผู้หญิงที่มีสามีแล้ว ผู้หญิงที่มีสามีแล้วมันดีกว่านักเรียกตรงไหน” ส้งเสียงมองไปที่หลี่หลง แล้วส่ายหัว: “นักเรียนน่ะนอกจากจะทำตัวไม่เป็นระเบียบหลังจากนอนแล้ว อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”

“นอนเบื่อแล้วก็ดึงเข้าบัญชีดำโดยตรงเลย ง่ายนิดเดียว” ส้งเสียงกล่าว

“เมื่อก่อนฉันนอนกับเด็กผู้หญิงทุกวัน และนอนจนเบื่อมานานแล้ว ตอนนี้น่ะ ฉันชอบหญิงสาวที่มีสามีแล้ว และเมื่อเวลาที่หญิงสาวที่มีสามีแล้วขึ้นเตียงนะ รู้งานที่สุดแล้ว”

“อย่างเด็กนักเรียนแบบนี้น่ะ คุณโยนพวกเธอขึ้นเตียงแล้ว อย่างกับศพเลย ไม่มีความหมายอะไรเลย” หลี่หลงชี้ไปที่หลิวเฉียวเฉียว และส่ายหัวอย่างไม่มีความสนใจในตัวเธอ

หลิวเฉียวเฉียวขมวดคิ้วอย่างหนัก และรู้สึกโกรธเล็กน้อย

“ดูๆๆ แค่พูดเธอสองสามคำก็โกรธแล้ว ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้” หลี่หลงยิ่งดูหมิ่นมากขึ้น

“คุณว่าใครเป็นศพ พูดจาอะไรของคุณตอนกลางคืนเนี่ย พูดให้มันมงคลหน่อยไม่ได้หรือไง” หลิวเฉียวเฉียวทนไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงขมวดคิ้วแล้วกล่าว

“ฉันว่าแกแค่สองสามคำ แกก็ไม่พอใจแล้วเหรอ?”

หลี่หลงมองไปที่หลิวเฉียวเฉียวอย่างเย็นชา และหลิวเฉียวเฉียวเองก็มองหลี่หลงอย่างเย็นชาเช่นกัน และเมื่อพวกเขาสบตาซึ่งกันและกัน หลี่หลงก็หยิบไวน์ขึ้นมา แล้วเทลงไปที่บนศีรษะของหลิวเฉียวเฉียว: “แกลองจ้องฉันอีกครั้งดู!”

“เฉียวเฉียว!” เซี่ยลู่รีบดึงหลิวเฉียวเฉียวทันที เพราะกลัวว่าจะทำให้หลี่หลงขุ่นเคือง

“แม่งเอ้ย ยังจ้องอีก!” หลี่หลงเห็นว่าหลิวเฉียวเฉียวยังคงจ้องมองเขาด้วยความโกรธ จึงลุกขึ้นยืนแล้วตบไปที่ใบหน้าของหลิวเฉียวเฉียว

“ถ้ายังจ้องฉันอีก ฉันก็จะตบแกอีก!” หลี่หลงชี้ไปที่จมูกของหลิวเฉียวเฉียว และกล่าวอย่างเย็นชา

หลังจากที่หลิวเฉียวเฉียวโดนตบ เธอก็ร้องไห้ออกมาทันที

“ฉันเกลียดการร้องไห้ที่สุดเลย กลั้นน้ำตาของแกกลับไปเดี๋ยวนี้ ถ้าแกยังร้องไห้อีกล่ะก็ฉันจะควักลูกตาของแกออกมา!” หลี่หลงตะคอกพูดขึ้นอย่างเสียงดัง

“พี่หลง คุณใจเย็นก่อน เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับฉัน ไม่รู้อะไร คุณอย่าถือสาอะไรกับเธอเลย” ตู้เฟยเองก็รีบลุกขึ้นยืน แล้วช่วยหลิวเฉียวเฉียวคลี่คลายสถานการณ์

“มา เราดื่มไวน์กัน” ตู้เฟยยกไวน์ขึ้นมา แล้วยื่นไปให้หลี่หลง

“ดื่มเชี้ยไรดื่ม อารมณ์ที่อยากดื่มไวน์ถูกอีดอกคนนี้รบกวนไปหมดแล้ว” หลี่หลงยังคงรู้สึกโกรธ และยังอยากตีหลิวเฉียวเฉียวอีก แต่กลับถูกคนอื่นห้ามเอาไว้

“เชี้ย บอกว่าแกเป็นศพแล้วมันใส่ร้ายแกเหรอ?ถ้าแกรู้สึกว่าโดนใส่ร้าย คืนนี้ก็ไปเปิดห้องกับฉัน แล้วแกก็พิสูจน์ให้ฉันดูสิ ว่าแกไม่ใช่ศพ” หลังจากนั่งลง หลี่หลงยังคงไม่ปล่อยหลิวเฉียวเฉียว

หลิวเฉียวเฉียวตกตะลึงจนไม่กล้าพูดอะไร และได้แต่ก้มศีรษะอยู่

“หลี่หลง ให้หน้าฉันหน่อย สาวน้อยคนนี้ฉันเป็นคนเรียกมาเอง เธอเป็นคนที่ส้งเสียงโปรดปรานนะ คุณก็ถือว่าให้เกียรติฉันกับส้งเสียงนะ อย่ารังแกเธออีกเลย” โจวเจ๋เดินมาตบไหล่ของหลี่หลง แล้วกล่าว

“ในเมื่อพี่เสียงโปรดปรานเธอมาก่อนหน้านี้ ถ้าอย่างงั้นฉันก็ไม่แย่งกับพี่ละ” หลี่หลงส่งยิ้มไปที่ส้งเสียง และในที่สุดความรู้สึกโกรธของเขาก็ลดลง

ด้วยการโมโหโทสะของหลี่หลง ไม่เพียงแต่หลิวเฉียวเฉียวเท่านั้นที่ไม่กล้าพูดอะไร แม้แต่จางเชี่ยนและเซี่ยลู่เองก็ตกตะลึงเช่นกัน และบรรยากาศในห้องโถงวีไอพีก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมาทันที

หลี่ฝางมองไปที่หลิวเฉียวเฉียวอย่างเห็นใจ แต่ไม่ได้พูดอะไร

หลี่ฝางครุ่นคิดในใจ:

ในเมื่อรถปอร์เช่อยู่ในกำมือของหลี่หลง งั้นคืนนี้ตัวเขาเองก็คงจะเอามันมาไม่ได้แล้ว

ไอ้เหี้ยตู้เฟย ก็ค่อนข้างฉลาดดีนิ รู้ว่าถ้าปอร์เช่อยู่ในมือของเขาต้องถูกฉันแย่งไปอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงยืมให้หลี่หลงขับสองสามวัน!

หลี่ฝางเดินกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง และในขณะนี้หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็พูดขึ้นว่า: “หลี่ฝาง เรากลับไปก่อนนะ หลุ่ยหลุ่ยไม่อยากเล่นต่อแล้ว”

“ได้”

“ถังหยู่ซวน คุณไม่ไปส่งเราเหรอ?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวยืนขึ้น แล้วเตะไปที่ถังหยู่ซวน

ถังหยู่ซวนนอนอยู่บนโซฟา: “เสี่ยวเสี่ยว ฉันดื่มไปเยอะ คุณดูสภาพฉันแบบนี้ ยังสามารถขับรถได้เหรอ?และต่อให้ฉันขับได้ แล้วคุณสองคนจะกล้านั่งหรือเปล่า?”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวยกมือขึ้นมาและชูนิ้วกลางไปที่ถังหยู่ซวน และพูดขึ้นอย่างไม่มีทางเลือกอื่นว่า: “เอาเถอะ ฉันกับหลุ่ยหลุ่ยเรียกแท็กซี่กลับไปเอง นั่งรถของคุณน่ะ พวกเราไม่ไว้ใจจริง ๆ”

“พวกคุณเล่นต่อ เรากลับก่อนละ”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวกล่าวทักทายเสร็จ ก็เดินออกจากบาร์พร้อมกับลู่หลุ่ย

หลังจากที่พวกเธอเดินจากไป ถังหยู่ซวนก็รีบลุกขึ้นนั่งทันที: “มา พี่ ดื่ม”

“คุณไม่ใช่ดื่มไปเยอะเหรอ?” หลี่ฝางยิ้มอย่างเงียบๆ

“ตามคำพูดที่พูดไว้ พบคนรู้ใจดื่มไวน์พันจอกก็ว่าน้อย และฉันแค่เห็นคุณก็รู้สึกว่าคุณเป็นคนสนิทในชีวิตของฉัน” ถังหยู่ซวนยิ้มและกล่าว

หลังจากดื่มกับถังหยู่ซวนไปหลายแก้ว หลี่ฝางก็นั่งลงที่ตรงหน้าของหลินชิงชิง แล้วถามขึ้น: “พี่ พี่คุยกับลูกชายของลูกพี่หลี่ในเมื่อกี้นี้ คำที่ว่าสันติภาพกับต่อสู้ หมายความว่าอะไรเหรอ ?”

ไม่รอให้หลินชิงชิงพูด ถังหยู่ซวนก็รีบพูดขึ้นมาก่อนว่า: “โง่จังเลยคุณ แม้แต่อันนี้ก็ไม่รู้ ฉันจะเล่าให้คุณฟังเอง”

“ความหมายของสันติภาพก็คือ ถ้าฝ่ายหนึ่งออกเงื่อนไขมา แล้วอีกฝ่ายยอมรับและตกลง ทั้งสองฝ่ายก็จบอย่างสงบสุข และวิธีแบบนี้น่ะ ไม่ใช้กำลัง ดังนั้นจึงเรียกว่าสันติภาพ”

“ส่วนความหมายของต่อสู้ ก็ง่ายกว่าละ ก็คือทั้งสองฝ่ายนัดเวลาและสถานที่มา และพาจำนวนคนไปเท่ากัน แล้วทั้งสองฝ่ายก็มาต่อสู้กับในแบบPK แต่ว่าไม่สามารถใช้มีด และปืนได้ มิฉะนั้น จะถือว่าผิดกฎ”

“นี่เป็นกฎของตงไห่ของเรา เป็นกฎที่ถูกกำหนดขึ้นด้วยลูกพี่หลี่และลูกพี่หลินในหลายปีก่อนหน้านี้”

หลังจากถังหยู่ซวนพูดจบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป และเขาก็มองไปที่หลินชิงชิงด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง: “เดี๋ยวก่อน พี่ชิงชิง ฟังจากความหมายของหลี่ฝางในเมื่อกี้นี้ หมายความว่าพี่จะนัดต่อสู้กับหลี่หลงเหรอ?”

“ใช่ ทำไมเหรอ?” หลินชิงชิงเอ่ยเบาๆ

“เชี้ย พาฉันไปด้วยคนหนึ่งได้หรือเปล่า” ถังหยู่ซวนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

หลี่ฝางยิ้ม แล้วตบไปที่ไหล่ของถังหยู่ซวน: “นี่ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว ยังคิดที่จะแก้แค้นเขาอยู่อีกเหรอ”

“แน่นอน ลูกผู้ชายล้างแค้น สิบปีก็ไม่สาย แต่ไม่คิดว่าฉันรอไปแค่สามปี โอกาสที่ฉันจะแก้แค้นก็มาถึงแล้ว” ถังหยู่ซวนรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายของเขานั้นกำลังจะลุกเป็นไฟ ที่เต็มไปที่พลัง

“ร่างกายเล็ก ๆ อย่างคุณน่ะเหรอ คงจะไม่ได้” หลินชิงชิงมองถังหยู่ซวนขึ้นลง และส่ายหัวอย่างดูถูก

“พี่ พี่ก็ให้เขาไปเถอะ ดูท่าทางที่ตื่นเต้นของเขาสิ ไปแล้วเขาต้องสู้ตายเพื่อคุณแน่” หลี่ฝางกล่าวโน้มน้าว

“ฉันไม่ต้องการคนที่สู้ตายเพื่อฉัน แต่ฉันต้องการคนที่มีความสามารถ” หลินชิงชิงกล่าวเบาๆ

พูดจบ หลินชิงชิงก็ตบไปที่ไหล่ของเจ้าหัวแบน: “คุณลองทดสอบเขาดู”

เจ้าหัวแบนพยักหน้าตอบรับ แล้วเรียกตัวถังหยู่ซวนออกไปด้านนอก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน