NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 47

ตอนที่ 47

บทที่47 คนที่ช่วยหลี่ฝาง

“จับเขามาให้ผม!”

ตู้เฟยยื่นมือไป ผู้ชายล่ำๆ สองคนก็มาตรงหน้าหลี่ฝาง จับไหล่เขาไว้

“ผมบอกแล้วไง ฟ้ายังไม่มืด จะมีลูกค้ามาได้ไง จะต้องเป็นคุณไอ้น้องที่อยากจับปลาในน้ำขุ่น” ตู้เฟยมองหลี่ฝาง พูดขำๆ อย่างเยือกเย็น: “แล้วยังปิดประตูอีก นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการบอกหรือไง?”

“ห้องผุพังเก่าๆ ไม่กี่สิบห้องนี้ มีแค่ห้องนี้ล็อกแน่น แค่มองก็รู้แล้วว่ามีอะไร!” มุมปากตู้เฟยยกขึ้น เขาจับหลี่ฝางได้ ใบหน้าดูภูมิใจสุดๆ

“หลี่ฝาง ตกต่ำถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถึงได้มาหาผู้หญิงโสเภณีน่ะ” ตู้เฟยมองฮวนฮวนแวบหนึ่ง พูดหยอกกับหลี่ฝาง: “คุณไม่กลัวติดเอดส์หรือไง”

“ตู้เฟย คุณคิดว่าไง?” มองตู้เฟย สีหน้าหลี่ฝางก็หม่นลง

ตู้เฟยทำเสียงฮึดฮัดใส่ เดินไปทางหลี่ฝาง: “คุณทำให้ผมเสียหน้าต่อพวกนักเรียน ทำผมถูกครูใหญ่ไล่ออก ทำผมเสียเซี่ยลู่ไป หลี่ฝาง คุณทำร้ายผมจนน่าอนาถ!”

ในเวลาหนึ่งวัน หลี่ฝางทำให้ตู้เฟยสูญเสียทุกอย่าง ความน่าเคารพ การเรียน ความรัก

ดังนั้น ตู้เฟยจึงบ้าขึ้นมา หาหลี่ฝางให้เจออย่างไม่รู้สึกเสียดายใดๆ จะทำให้เขาสูญเสียไปด้วย!

“ทั้งหมดนี้คุณหาเรื่องเอง”

หลี่ฝางหัวเราะในลำคอ: “ถ้าคุณไม่มายั่วยุก่อน จะยั่วโมโหผมให้ได้ แล้วคุณจะเสียหน้าได้ไง ถ้าคุณไม่ให้ครูใหญ่ไล่ผมออก ผมก็ไม่ให้ครูใหญ่ไล่คุณออก ส่วนที่คุณเลิกกับเซี่ยลู่ เกี่ยวอะไรกับผมเหรอ?”

“ถ้าคุณไม่เอาคลิปผมกับจางเชี่ยนออกมา เซี่ยลู่จะเลิกกับผมเหรอ?” ตู้เฟยพูดด้วยความโมโห ยกแขนขึ้น ตบไปที่หน้าหลี่ฝาง

“ไอ้คนโง่!” ตู้เฟยมองหลี่ฝาง กัดฟันพูด

เวลานี้ แม่เล้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ตู้เฟยจู่ๆ ก็พูด

“พวกคุณเป็นอะไรกันเนี่ย ฉันจะบอกพวกคุณให้นะ ที่นี่มีพี่เห้าคุม” แม่เล้าพูด: “พวกคุณมาก่อเรื่องถิ่นฉัน ถือว่าไม่ไว้หน้าพี่เห้า”

“พี่เห้า?” ตู้เฟยขมวดคิ้ว: “ใครคือพี่เห้า”

คนหัวโล้นคนหนึ่งพูด: “พี่เฟย เขตไฟแดงนี้ คือสถานที่หนึ่งที่หวางเห้าดูแลครับ”

“เจ๋งกว่าพี่แปดเหรอ?” ตู้เฟยถาม

“แน่นอนว่าไม่เจ๋งเท่าพี่แปด” คนหัวโล้นส่ายหน้าพูด

“กลัวห่าไรล่ะ” ตู้เฟยมองแม่เล้าคนนั้น ยิ้มให้: “คุณรู้ไหมพวกเราคือใคร?”

“จะบอกคุณให้นะ อีกะหรี่ คนพวกนี้ ต่างเป็นคนของลูกพี่หลี่ พี่แปด!” ตู้เฟยพูดด้วยใบหน้าภูมิใจ

พูดจบ เขาก็ตบใส่หน้าแม่เล้า: “ไสหัวไป!”

แม่เล้าคนนี้ขมวดคิ้ว เธอทำธุรกิจนี้มา รู้จักคนในสังคมตั้งมากมาย ชื่อลูกพี่หลี่นี้ เธอได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน

ลูกพี่หลี่แห่งภาคตะวันออกเมือง ลูกพี่หลินแห่งภาคตะวันตกเมือง สองคนนี้ เป็นคนดังของตงไห่

แต่ หวางเห้าก็เป็นคนเรื่องเยอะ ที่เขตไฟแดง นี้ ก็เป็นแหล่งอเวจีของตงไห่ ไม่ใช่แค่ลูกพี่หลี่กับลูกพี่หลินที่แทรกแซงไม่ได้ แม้แต่ตำรวจก็เข้ามาจัดการไม่ได้

“แม่งเอ๊ย อีกะหรี่ เกือบทำให้ผมจับคนไม่ได้แล้ว!” มองแม่เล้า ตู้เฟยพูดอย่างเยือกเย็น

“พี่เฟย พวกเราไปจากนี่เถอะครับ” คนหัวโล้นคิด แล้วจึงพูด

“ทำไม?”

“ถึงหวางเห้าคนนี้จะไม่ใช่คนเจ๋งอะไร แต่พี่แปดไม่อยากปะทะกับเขานัก” คนหัวโล้นพูดแนะนำ: “พวกเราพาเจ้านี่ออกไปจากนี่ก่อนดีกว่า”

“ออกไปจากเขตไฟแดง ถึงพวกเราจะจัดการเจ้านี่ หวางเห้าก็ยุ่งไม่ได้” คนหัวโล้นพูด

ตู้เฟยมองหลี่ฝาง ทำเสียงฮึดฮัด: “งั้นก็ให้เจ้านี่มีชีวิตอยู่อีกสักหน่อย”

หลี่ฝางตกใจทันที ได้ยินความหมายของคำนี้ นี่จะฆ่าตัวเอง?

แต่คิดๆ ดู หลี่ฝางคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ อย่างมากก็ทำให้ตัวเองพิการแหละ ถึงถ้าหากก่อเรื่องจนถึงชีวิต ตู้เฟยเองก็มาแล้ว ก็เพียงพอที่จะเก็บเขาไว้

แต่ถ้าถูกทำให้พิการ หลี่ฝางก็รับไม่ได้

ไม่ง่ายเลยที่ตัวเองจะรู้ว่าตัวเองคือลูกเศรษฐี ชีวิตลูกเศรษฐีที่แท้จริงยังไม่ได้ใช้เลย ก็ต้องจบเห่แล้ว!

พอหลี่ฝางถูกพาไป ฮวนฮวนก็มองแม่เล้า: “เจ้านาย โทรหาพี่เห้าดีกว่าค่ะ”

“โทร โทรอยู่แล้ว ฉันทำงานที่นี่มาหลายปี ดันถูกเด็กตบใส่ได้” แม่เล้าโกรธจนกัดฟัน หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาหวางเห้า

หวางเห้ารับสาย ก็รีบมาที่เขตไฟแดง ทันที

สถานที่ทำงานของหวางเห้า ห่างจากเขตไฟแดงไม่กี่ร้อยเมตร แค่เขาร้องออกมา คนกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาทันที

“พี่ชายน้องชายทุกคน ทำงานกัน” หวางเห้าจุดบุหรี่ให้ตัวเอง รีบขับมอเตอร์ไซค์มา

ตู้เฟยยังไม่ทันพาหลี่ฝางไปจากเขตไฟแดง ก็ถูกคนของหวางเห้าล้อมไว้

“พี่เฟย นี่คือหวางเห้า” คนหัวโล้นพูด

หวางเห้านั่งบนมอเตอร์ไซค์ ในปากคีบบุหรี่ไว้ เขาสูบแรงๆ แล้วจึงถาม: “เมื่อกี๊ใครตบคนของผม?”

“พี่เห้า พวกเราคือคนของพี่แปด” คนหัวโล้นพูด

“ผมไม่สนว่าคุณคือใคร ผมถามคุณหน่อย เมื่อกี๊ใครตบคนของผม ใช่คุณไหม?” มองไปที่คนผมทรงรองทรง หวางเห้าถามอย่างเยือกเย็น

“ไม่ใช่ผมครับ” คนผมทรงรองทรงเคยได้ยินเรื่องนิสัยของหวางเห้า เลยไม่กล้ายั่วยุอารมณ์มากขึ้น

หวางเห้าลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์ เอาบุหรี่ทิ้งที่พื้น แล้วใช้เท้าเหยียบ เงยหน้าพูดอย่างเยือกเย็น: “ดูเหมือนว่าพวกคุณจะเป็นใบ้กันหมดนะ!”

“ผมถามพวกคุณอยู่นะ เมื่อกี๊ใครตบคนของผม ยืนออกมา!”

“ไม่พูดผมเล่นงานคุณทั้งหมดแน่!”

หวางเห้าพูดจบ คนด้านหลังเขาก็เอาไม้เบสบอลออกมา กุมไว้ที่มือ

“ผมเอง พี่เห้า”

ตู้เฟยลังเลเล็กน้อย เดินไปด้านหน้า: “พี่เห้า วันนี้ผมมาจัดการธุระให้พี่แปดครับ”

ตู้เฟยคิดว่าตัวเองเอาชื่อลูกพี่หลี่ออกมา ก็จะรอด ยังไงที่นี่ก็คือเขตภาคตะวันออกเมือง เป็นถิ่นของลูกพี่หลี่ ถึงหวางเห้าเจ๋งแค่ไหน ก็คงไม่กล้าหักหน้าลูกพี่หลี่หรอกมั้ง?

“ห่าเอ๊ย!”

หวางเห้ายื่นขาออกไป ถีบตู้เฟยออกไป: “คนของผมคุณยังกล้าทำร้าย ไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม!”

“อย่าบอกว่าเป็นคนของลูกพี่หลี่ ถึงลูกพี่หลี่ทำคนของผม ผมก็ไม่ปล่อยไว้!” หวางเห้าพูดอย่างเยือกเย็น: “ผมดูแลที่อเวจีแห่งนี้คนเดียว นอกจากผม ใครก็มายุ่มย่ามที่นี่ไม่ได้ เข้าใจไหม?”

“เข้าใจครับ เข้าใจครับ”

ตู้เฟยลุกขึ้นจากพื้น กลัวขึ้นมาทันที

เขาไม่คิดว่า หวางเห้าจะกล้าหาญขนาดนี้ แม้แต่หน้าลูกพี่หลี่ก็ไม่ไว้

“มือที่ตบเมื่อกี๊?” มองตู้เฟย หวางเห้าถาม: “มือซ้ายหรือขวา?”

“พี่เห้า คนนี้เป็นถึงลูกชายของตู้ต้าไห่ ชื่อตู้ต้าไห่คุณน่าจะเคยได้ยินนะครับ เขาคือนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงของตงไห่เรา!” คนหัวโล้นรีบพูดทันที

“แม่งเอ๊ย ที่แท้ก็ลูกชายตู้ต้าไห่ โลกกลมจริงๆ เลย!”

รอยยิ้มมุมปากของหวางเห้าหม่นลงทันที: “ผมกำลังเตรียมไปคิดบัญชีที่บ้านคุณพอดี ไม่คิดว่าเนี่ยกลับมาหาถึงถิ่น”

“จับเขาไป ให้ตู้ต้าไห่มาไถ่ไป” หวางเห้าโบกมือ คนสองคนก็เข้ามาแล้วดึงตู้เฟยไป

ตู้เฟยขอร้องคนหัวโล้น แต่คนหัวโล้นขอร้องเขายังไง นอกจากลูกพี่หลี่ของตัวเองพาคนมา ไม่งั้น ใครก็ช่วยเขาไม่ได้

“พี่เห้า พี่มีเรื่องอะไรกับตู้ต้าไห่เหรอ” คนหัวโล้นขมวดคิ้วถาม

“ใช่ มันมาใช้บริการผู้หญิงโสเภณีที่นี่แล้วไม่ให้เงิน” หวางเห้าหัวเราะในลำคอ ชัดเจนว่าไม่ได้พูดความจริง

คนหัวโล้นคิด ตัดสินใจกลับไปแล้วค่อยพูด

ตอนที่เขาหมุนตัวจะไปนั้น หวางเห้าชี้ไปที่หลีฝางแล้วพูด: “รอก่อน เด็กนี่ทิ้งไว้ให้ผม!”

“พี่เห้า เด็กคนนี้เป็นคนที่พี่แปดระบุชื่อต้องการลากตัวไป” คนหัวโล้นขมวดคิ้ว: “ถ้าเอาเขากลับไป พี่แปดจะต้องโมโหแน่”

“ลูกพี่หลี่โมโหแล้วเกี่ยวอะไรกับผม หวางเห้าพูดอย่างเหยียดหยาม: “ผมรู้แค่ว่า ไอ้หนุ่มนี่คือลูกค้าของผม ลูกค้าคืออะไรนะ คือพระเจ้า คือพ่อแม่ที่ให้ข้าวให้น้ำเรา”

“ในเมื่อเขาตั้งใจมาเสพสุขที่นี่ งั้นผมก็ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของเขา”

หวางเห้าพูดอย่างเย็นชา: “เมื่อกี๊พวกคุณรังควานลูกค้าผม ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่หน้าลูกพี่หลี่ ผมคงจัดการพวกคุณทั้งหมดแล้ว”

คนหัวโล้นลังเลเล็กน้อย เขาจ้องหวางเห้า มองอยู่นาน

“ทำไม อยากให้ผมจัดการคุณงั้นเหรอ?” หวางเห้ากำหมัดแน่น สายตาก็กลายเป็นดุร้ายขึ้นมา

“ทุกคน จัดการ!” หวางเห้าร้องตะโกน คนข้างหลังเขา ก็ถือไม้เข้ามาใกล้ทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท