NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 53

ตอนที่ 53

บทที่ 53 พี่ชายของหลินชิงชิง (ลูกพี่ลูกน้อง)

“หลี่ฝาง นายอยากจะให้พวกเราหัวเราะตายเหรอ”

เสียงหัวเราะดังขึ้น จางเชี่ยนหัวเราะจนตัวงอ คนอื่นก็ได้หัวเราะตามกัน

หลี่ฝางโกรธแล้ว ก็ด่าหยาบคาย: “หัวเราะหาแม่มึงเหรอ”

“หลี่ฝาง นายโม้ให้มันน้อยๆหน่อยได้ป่ะ หากนายโม้ว่าบาร์นี้เป็นของญาตินาย พวกเรายังพอจะเชื่อ นายโม้ว่าเป็นของนาย ใครจะไปเชื่อ?” จางเชี่ยนหัวเราะกล่าว

“ครั้งหน้าหากจะโม้อย่าลือเปลี่ยนชุดก่อนนะ” โจวเจ๋ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าว

“ใช่ไง เสื้อพนักงานบนตัวนายและเมนูเหล้าในมือนาย ก็ได้แสดงฐานะของนายแล้ว” จางเชี่ยนหัวเราะแล้วส่ายหัว

ผู้หญิงที่มากับตู้เฟยก็ส่ายหัวเหมือนกัน มองหลี่ฝางอย่างดูแคลนแล้วกล่าว: “นายนี้ดูแล้วก็อายุยังน้อย ทำไมถึงขี้โม้จัง ฉันได้ยินมาว่าบาร์เหล่าแห่งนี้ใช้เงินลงทุนไปสองพันกว่าล้าน เจ้าของบาร์เหล้าแห่งนี้ ต้องมีเงินขนาดไหนกัน”

สามารถทุ่มสองพันล้านในการเปิดบาร์เหล้า ฐานะอย่างเขา ไม่กล้าที่จะคิดเลย

โจวเจ๋โทรไปหาหลี่หลง แจ้งข่าวที่หลี่ฝางอยู่ในบาร์เหล้าให้เขา

หลังจากที่โทรเสร็จ โจวเจ๋ก็หัวเราะอย่างดูถูก: “ไม่ต้องเรียกผู้จัดการนายมาแล้ว เรื่องที่นายด่าฉันเมื่อกี้ พวกเราที่มีวุฒิภาวะมากว่าไม่ถือสาเอาความ ไม่ถือสานายแล้ว”

“พี่เจ๋ช่างใจกว้างเหลือเกิน” จางเชี่ยนที่พิงอยู่ตรงอกของโจวเจ๋กล่าว

“ไปถือสาคนที่ใกล้ตายทำไมละ?” โจวเจ๋หัวเราะกล่าว

หลี่ฝางรู้ หลี่หลงไม่นานก็จะมาถึงแล้ว

หลี่ฝางหันหลังจากไป กำลังที่จะขึ้นชั้นบนเพื่อไปหาผู้จัดการนั้น ก็เห็นเซี่ยลู่กับตู้เฟยกระชากลากถูกันอยู่

“นายปล่อยฉัน!”

เซี่ยลู่ใช้แรงในการต่อต้าน: “ตู้เฟย แม่งเอ๊ยปล่อยมือนะ ฉันเลิกกับนายไปแล้ว”

“เลิกเหี้ยอะไรละ ฉันไม่ยอมเลิก!” ตู้เฟยกระชากเซี่ยลู่: “ไป ไปดื่มกับฉัน!”

“ปล่อยเธอ!” หลี่ฝางเดินเข้าไป ยืนอยู่ตรงหน้าของตู้เฟย พูดอย่างจริงจัง

“เหี้ยเอ๊ย เป็นนายอีกแล้วเหรอ หลี่ฝาง! เห็นหลี่ฝาง สีหน้าของตู้เฟยก็ดุร้ายขึ้นมาทันที

“มาเป็นบริกรอยู่ที่ Recalling the pastเหรอ!” ตู้เฟยมองแล้วหัวเราะ: “ก็แค่พนักงานบริการ นายมาตะคอกฉันทำไม!”

“งั้นฉันไม่ตะคอกก็ได้”

หลี่ฝางพูดจบ ยกเท้าขึ้นถีบตู้เฟยล้มลงบนโต๊ะ: “ฉันลงไม้ลงมือกับนายแทนละกัน?”

วันนี้ตู้เฟยบีบหลี่ฝางไปถึงเขตไฟแดง อีกทั้งยังทำร้ายเขาด้วย แค้นนี้หลี่ฝางยังจำได้อยู่

หนึ่งที สองที!

หลี่ฝางใช้เท้ากระทืบไปที่ร่างของตู้เฟย กระทืบจนเขาร้องของความช่วยเหลือ

“เหี้ย ตู้เฟยถูกทำร้าย!” ได้ยินเสียงตู้เฟยร้องให้ช่วย โจวเจ๋และส้งเสียงก็รีบวิ่งเข้าไป

พวกเขาวิ่งมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร หลี่ฝางยังคงใช้แรงกระทืบตู้เฟยต่อ ตู้เฟยหดตัวอยู่บนโต๊ะ กุมหัวเอาไว้ น่าสมเพชมาก

“นี่เหรอคือวิธีบริการของบาร์เหล้าแห่งนี้?” โจวเจ๋กัดฟัน มองหลี่ฝางอย่างเย็นชา

“ทำไม มีปัญหาเหรอ?” หลี่ฝางหันหน้ากลับไป หัวเราะกล่าว

ส้งเสียงวิ่งไปที่โต๊ะแคชเชียร์ ได้เรียกชายวัยกลางคนท่านหนึ่งเข้ามา เขาเป็นการเงินของที่นี่ ก็เป็นคนที่ดูแลที่นี่ด้วย

“ดูสิ คุณดูสิ นี่เหรอคือบริกรของพวกคุณ”

“พวกเราเป็นแขกวีไอพีของบาร์ของพวกคุณ พวกคุณดูแลแขกวีไอพีแบบนี้เหรอ?”

ชายวัยกลางคนคนนี้แซ่เฉียน หลี่ฝางเรียกเขาว่าลุงเฉียน

“ลุงเฉียน ลุงมาแล้วเหรอ” หลี่ฝางมองไปที่ลุงเฉียน ยิ้มๆ

“เสี่ยวฝาง ทำไมนายทำร้ายลูกค้าล่ะ?” ลุงเฉียนขมวดคิ้วถาม โดนบ่นไปหนึ่งประโยค

“ลุงเฉียน มันเป็นแบบนี้ นายคนนี้มันลวนลามลูกค้าผู้หญิงในบาร์เรา ดังนั้นผมจึงได้ลงมือทำร้ายเขา” หลี่ฝางอธิบายอย่างยิ้มๆ

ที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ลุงเฉียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“อย่ามั่ว เธอเป็นแฟนฉัน!” ตู้เฟยลุกขึ้นจากโต๊ะเหล้า แล้วกล่าว

“เซี่ยลู่ เขาเป็นแฟนเธอเหรอ?” หลี่ฝางหันหน้าไปถามเซี่ยลู่

เซี่ยลู่มองตู้เฟยอย่างไม่แยแส: “นายเป็นใครกัน จำคนผิดแล้วมั้ง? ใครเป็นแฟนนาย!”

“ได้ยินแล้วใช่ป่ะ คนเขาไม่รู้จักนายสักหน่อย” หลี่ฝางหัวเราะขึ้นมาทันที

ตู้เฟยกัดไฟไว้ เดินไปตรงหน้าของลุงเฉียน: “ผมคิดว่าคุณน่าจะจำพวกเราได้นะ พวกเราสมัครเมมเบอร์วีไอพีกับที่นี่ ตอนนี้เมมเบอร์วีไอพีถูกบริกรทำร้าย ทางคุณต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเมมเบอร์วีไอพีหน่อยมั้ย?”

ลุงเฉียนยิ้มๆ : “รับผิดชอบเหรอ?”

“งั้นก็ยกเลิกเมมเบอร์วีไอพีของพวกคุณละกัน” ลุงเฉียนยิ้มอย่างเรียบเฉย แล้วกล่าว

“นี่เป็นความรับผิดชอบที่คุณให้กับพวกเราเหรอ?” ใบหน้าของตู้เฟยเต็มไปด้วยความโกรธ ลุงเฉียนแสดงออกอย่างไม่แยแส

“แล้วคุณต้องการความรับผิดชอบยังไง? คุณลวนลามผู้หญิง ตามหลักต้องแจ้งความจับคุณ บัดนี้พนักงานของผมแค่ทำร้ายคุณ ถือว่าดีกับคุณมากแล้ว”

“จะมาเที่ยว ก็เที่ยวกันดีๆ หน่อย หากไม่อยากเที่ยว ก็ไสหัวไป”

“ร้าน Recalling the pastไม่ขาดลูกค้าอย่างพวกคุณ” ลุงเฉียนพูดอย่างเฉียบขาด

“แม่ง นี่มันบริการห่าอะไรวะ พวกเราไป!” ตู้เฟยสบถคำหยาบ

เวลานี้โจวเจ๋ได้กล่าวขึ้น: “อีกสักพักหลี่หลงก็จะมา เมื่อกี้ฉันบอกเขาแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างทางแล้ว”

“พี่หลงจะมา?” ตู้เฟยหัวเราะดีใจ เหลือบมองไปทางหลี่ฝาง แสดงรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา

“ใช่ ไม่เพียงแต่พี่หลงที่มา ลูกพี่หลี่ก็อาจจะมาด้วย” โจวเจ๋พูดขึ้นอีก

“เยี่ยมไปเลย งั้นพวกเราไม่ไปแล้ว รอละครสดดูดีกว่า” จู่ๆ ตู้เฟยก็อารมณ์ดีขึ้นมามาก

หลังจากตู้เฟยและพวกได้กลับไปที่โต๊ะของตัวเอง สีหน้าของหลี่ฝางก็ดูแย่ขึ้นมาทันที

ลูกพี่หลี่เป็นขาใหญ่ของภาคตะวันออกเมือง เขามีความสามารถมาก แต่บาร์เหล้าแห่งนี้ มีคนไม่ถึงยี่สิบคน หากลูกพี่หลี่มา จะรับมือได้ไหม?

เวลานี้ เซี่ยลู่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นพูดกับหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง เมื่อกี้รบกวนนายแล้ว”

หลี่ฝางพยักหน้า: “เรื่องเล็กน้อย”

“หากพวกตู้เฟยมาหาเรื่องเธออีก อย่าลืมโทรหาฉัน ฉันไปทำงานก่อนละ” หลี่ฝางพูดจบก็เดินจากไป

หลี่ฝางมาถึงตรงหน้าโต๊ะแคชเชียร์ นั่งลงข้างกายลุงเฉียน

“เป็นไง เถ้าแก่ การแสดงออกของผมเมื่อกี้ คุณพอใจมั้ย?” ลุงเฉียนหัวเราะแฮ่ๆ

“ธรรมดา” หลี่ฝางพูดแบบไม่ค่อยพอใจ: “ลุงน่าจะไล่พวกมันออกไปให้หมด”

“เถ้าแก่ พวกเราทำการค้ากันนะครับ จะไล่แขกได้อย่างไรกัน บาร์เราเพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่วัน เจ้าโง่พวกนี้ก็ใช้จ่ายที่ร้านเราหลายแสนแล้ว พวกเขาเป็นต้นเงินต้นทองของพวกเรานะ” ลุงเฉียนหัวเราะกล่าว

“ลุงเฉียน ทำไมโทรศัพท์ของผู้จัดการจึงโทรไม่ติด?” หลี่ฝางเอ่ยปากถาม

“เขาเหรอ ไม่ได้อยู่ในร้าน ออกไปแล้ว” ลุงเฉียนกล่าว

“ส้าวส้วยบอกว่านอนพักอยู่ชั้นบนไง?” หลี่ฝางขมวดคิ้วขึ้นมา

“ไอ้เวรส้าวส้วยมันหลอกคุณ” ลุงเฉียนหัวเราะกล่าว: “ผู้จัดการออกไปหลายวันแล้ว ตอนนี้ในบาร์มีผมที่คอยดูแล”

“ทำไม หาผู้จัดการมีธุระอะไร?” ลุงเฉียนถาม

“ลูกพี่หลี่จะมา” หลี่ฝางคิ้วขมวดเข้าหากันแล้วกล่าว

“ลูกพี่หลี่? คุณหมายถึงขาใหญ่ภาคตะวันออกเมือง ในเมื่อเขาจะมา ก็ให้เขามาสิ ทำไม เขากล้าที่จะมาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่เหรอ?” ลุงเฉียนพูดอย่างหยามๆ

“ลุงเฉียน ผมถามลุงหน่อยนะ หากลูกพี่หลี่กล้ามาก่อความวุ่นวายที่บาร์ เราจะเอาเขาอยู่มั้ย?” หลี่ฝางถามอย่างซีเรียส

ลุงเฉียนส่ายหัว แล้วกล่าว: “เอาไม่อยู่”

“เอาไม่อยู่?” หลี่ฝางคิดในใจแย่แล้ว จะอาศัยจังหวะที่ลูกพี่หลี่ยังมาไม่ถึง หนีไปเสียก่อน

“ทำไมต้องเอาเขาอยู่ หากเขากล้าที่จะมาก่อเรื่องที่ Recalling the past ก็จะเก็บมันซะเลย” ลุงเฉียนกระซิบเบาๆ

แม่งเอ๊ย พนักงานใน Recalling the past แต่ละคนขี้โม้เก่งกันทั้งนั้น อีกอย่างเวลาโม้ขึ้นมา หน้าก็ไม่เปลี่ยนสีเลย

พ่อตัวเองไปจ้างคนพวกนี้มาจากนั้นกัน จ้างมาจากโรงเรียนขี้โม้เหรอ?

หลี่ฝางยอมจำนนอย่างสิ้นเชิง

ไม่นานนัก หลินชิงชิงก็ได้มาถึง ครั้งนี้ เธอได้พาคนมามากมาย

“พี่ พี่มาได้ไง?” หลี่ฝางเดินไปต้อนรับ ยิ้มแล้วถาม

“พี่มาปกป้องนายไง” หลินชิงชิงยิ้มๆ จากนั้นก็ได้ดึงตัวผู้ชายคนหนึ่งมา ก็กล่าวขึ้น: “แนะนำให้นายรู้จักหน่อย พี่ชายพี่เอง (ลูกพี่ลูกน้อง) จางกงหมิง”

“สวัสดีครับพี่หมิง”

“น้องชาย ครั้งที่แล้วที่นายช่วยพี่ครั้งใหญ่ พี่ยังไม่ทันได้ขอบคุณนายเลย” จางกงหมิงกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“เสี่ยวฝาง คนเหล่านี้ล้วนเป็นเพื่อนของพี่ชายพี่ ขอเพียงมีคนมาแตะต้องนาย พวกเขาก็จะออกมาปกป้องนายเอง” หลินชิงชิงกล่าว

“ชิงชิงพูดไม่ผิด หากลูกพี่หลี่กล้าที่จะมาหาเรื่องนาย พี่คนแรกที่จะไม่ยอม!” จางกงหมิงหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วกล่าว: “ไอ้แก่คนนี้ช่างหน้าไม่อายจริงๆ มารังแกเด็กน้อย เย็ดแม่เอ๊ย!”

“พี่หมิง พี่ไม่กลัวลูกพี่หลี่เหรอ?” หลี่ฝางถามไปหนึ่งประโยค

“กลัวมันเหี้ยไร น้าของพี่กลัวมัน แต่พี่ไม่กลัวมัน” จางกงหมิงหัวเราะอย่างเหยียดหยาม

“พี่อยากเก็บมันตั้งนานแล้ว แล้วเป็นขาใหญ่ของภาคตะวันออกเมืองแทน” จางกงหมิงกล่าว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท