NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 63

ตอนที่ 63

บทที่ 63 ของขวัญวันเกิดของหลิวเฉียวเฉียว

หลี่ฝางคิดในใจว่า ชายหัวสกินเฮดรู้ว่าเขามีเงินมากขนาดนั้น จะเพ่งเล็งมาที่ตนเองหรือไม่นะ!

ช่างเถอะ ออกจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน

หลังจากฉีกสัญญาอสังหาริมทรัพย์ออก หลี่ฝางก็เดินเข้ามาหาหลี่หลง “ฉันไม่ต้องการเงินหนึ่งล้านนั่นแล้ว แต่ฉันแค่หวังว่านายจะไม่แตะต้องพ่อแม่ของฉันอีก”

ตอนนั้นเองหลี่หลงถึงค่อยฟื้นขึ้นมา เขามองไปที่หลี่ฝางด้วยความตกตะลึง “นี่แกมีเงินอยู่เท่าไหร่กันแน่วะเนี่ย เงินหนึ่งล้านก็ไม่เอาแล้ว”

“นายจะสนทำไมว่าฉันมีเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเงินล้านหยวนนี้ฉันให้แก จากนี้ไปความแค้นครั้งก่อนของเราให้จบลง”

หลี่ฝางพูดจบและจ้องไปที่หลี่หลง “ถ้านายไม่เห็นด้วย ฉันจะเรียกว่าพี่หมิง”

“อย่า อย่า ฉันเห็นด้วย” หลี่หลงรีบพูดขึ้นทันที ดูเหมือนว่าจางกงหมิงจะทิ้งเงามืดเอาไว้ครั้งใหญ่ในใจของหลี่หลง

เซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียวที่เดินลงมาจากบน หลี่ฝางเอ่ยอย่างซาบซึ้ง “ครั้งนี้ขอบคุณพวกเธอทั้งสอง”

“อย่าขอบคุณปากเปล่าสิ นายต้องลงมือทำอะไรสักหน่อย” เซี่ยลู่กล่าวด้วยรอยยิ้มหยี

“เธออยากให้ฉันทำอะไร คิดจะให้ฉันใช้ตัวตอบแทนหรือ” หลี่ฝางหัวเราะและพูดติดตลก

“บ้า” เซี่ยลู่เอ่ย “ท้องฟ้ามืดแล้ว นายเลี้ยงพวกเราสักมื้อแล้วกัน”

หลี่ฝางตอบรับ อย่างนั้นก็ไปที่lotusก็ได้แล้ว

ระหว่างทาง จางกงหมิงยังหันไปถามหลี่ฝางว่า “ไอ้หลี่หลงเจ้าสวะนั่นจับนายไปทำไมกัน?”

“ไม่ใช่เพราะคุณหรือไง” หลี่ฝางกลอกตาใส่จางกงหมิง เขาเอ่ย “ไม่รู้เหมือนกันว่าหลี่หลงไปได้ยินใครพูดมา แต่ที่เขาจับผมไปก็เพราะคุณ”

“เขาบอกว่าคุณสองคนกำลังต่อสู้กัน ผมให้คุณยืมเงิน ก็เท่ากับช่วยคุณเอาชนะเขา” หลี่ฝางกล่าวอย่างไร้เดียงสา

“ดูเหมือนว่าคนของฉันก็ไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่” จางกงหมิงเผยรอยยิ้มซับซ้อน เขายืมเงินในตอนเช้า ตกบ่ายหลี่หลงก็รู้เรื่องนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่ามีสายลับอยู่รอบตัวเขา

“พี่ พี่ยืมเงินเสี่ยวฝางทำไม” หลังจากหลินชิงชิงได้ยิน ก็จ้องไปที่จางกงหมิง “พี่ไม่ได้ไม่มีเงินสักหน่อย”

“ยังไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ของเธอหรือไง? ชายหนุ่มไม่ควรแต่งงานเลยจริงๆ พอแต่งแล้ว เงินก็ถูกเมียจ้องเอาไว้แน่น สักแดงเดียวยังใช้มั่วซั่วไม่ได้” จางกงหมิงถอนหายใจ

พอประโยคนี้เอ่ยขึ้น เซี่ยลู่และหลินชิงชิงก็แสดงความไม่เห็นด้วยในทันที และเริ่มถกเถียงกับจางกงหมิง

หลังจากมาถึงที่Lotus หลี่ฝางก็จองห้องส่วนตัวเอาไว้ ในขณะที่เขากำลังจะสั่งอาหาร กลับเห็นร่างที่คุ้นเคยขึ้น

หลิวเฉียวเฉียวเองก็เห็นเช่นกันและหยุดเซี่ยลู่เอาไว้ “เซี่ยลู่ เธอดูเร็ว นั่นไม่ใช่หลี่เสี่ยวเสี่ยวหรือไง?”

“ยังมีชายชราคนนั้นอีก” หลิวเฉียวเฉียวตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

เซี่ยลู่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและถ่ายภาพเอาไว้ ในขณะที่คิดจะส่งเข้าไปในฟอรัมของมหาวิทยาลัย หลี่ฝางก็หยุดเธอเอาไว้ก่อน “ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนกลางวันไปแล้วหรือไง หลี่เสี่ยวเสี่ยวบอกแล้ว หากเธอไปหาเรื่องอีก ครั้งนี้เธอจะถกกางเกงเธอแน่”

“กลัวอะไร ฉันจะใช้บัญชีอื่นส่งมัน” เซี่ยลู่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“บัญชีอื่นก็อย่าใช้เลย ส่งไปทำไม ใส่ร้ายไปแล้วเธอได้อะไร?” หลี่ฝางถาม

“ฉันสนุก ฉันมีความสุข ไม่ได้หรือไง? ทำไมนายต้องปกป้องเธอด้วย เธอไม่ใช่แฟนนายสักหน่อย” เซี่ยลู่เมื่อเห็นว่าหลี่ฝางปกป้องหลี่เสี่ยวเสี่ยวก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ก่อนจะส่งออกไปยังใช้คำพูดใส่ร้ายหลี่เสี่ยวเสี่ยวอย่างร้ายกาจเข้าไปหลายคำ

“หลี่เสี่ยวเสี่ยวช่างต่ำเสียจริง ขนาดคนแก่ขนาดนั้นยังไปอยู่เป็นเพื่อนได้ แค่คิดก็สะอิดสะเอียนจะแย่” เซี่ยลู่กล่าวอย่างดูถูก

หลิวเฉียวเฉียวพยักหน้าเห็นด้วย

หลี่ฝางเองก็ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ ตอนบ่ายยังมาอธิบายกับตัวเองอยู่เลย ผลคือตกดึกกลับมาออกเดทกับชายชรา

ในมื้อค่ำ หลี่ฝางโมโหขึ้นมา และบล็อก wechat ของหลี่เสี่ยวเสี่ยวทันที

โพสต์ของเซี่ยลู่ดึงดูดคนไม่น้อย หัวข้อคือ หญิงร่านจากโรงเรียนมัธยมตงไห่หมายเลขหนึ่งถูกชายแก่วัยเจ็ดสิบเลี้ยงดู มีรูปประกอบชัดเจน

คืนนั้นกระทู้นี้โด่งดังขึ้นมาอย่างยิ่ง เมื่อหลี่เสี่ยวเสี่ยวเห็นเข้าก็แทบจะบ้าคลั่งขึ้นมา

แต่หลี่เสี่ยวเสี่ยวไม่รู้ว่าเป็นเซี่ยลู่ที่ทำ

เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่เสี่ยวเสี่ยวมาหาหลี่ฝางและเอ่ยขึ้น “ทำไมนายถึงบล็อก wechat ของฉัน”

“ตัวเองทำอะไรลงไป เธอรู้ดี” หลี่ฝางหัวเราะ “จะต้องให้ฉันพูดไหม? ”

“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิด ฉันอธิบายได้”หลี่เสี่ยวเสี่ยวรีบเอ่ยอย่างร้อนรน “คนอื่นจะเข้าใจผิดยังไง ฉันไม่สนใจ แต่นายไม่ได้”

“ทำไมฉันทำไม่ได้?” หลี่ฝางหัวเราะ

“ยังไงก็ตาม นายห้ามเข้าใจฉันผิด”

“อย่างนั้นเธอก็อธิบายให้ฉันฟังเถอะ อย่าบอกว่าชายชรานั่นเป็นพ่อของเธอล่ะ ฉันไม่เชื่อ เมื่อคืนฉันก็อยู่ที่Lotus และเห็นชายชราคนนั้นลูบก้นของเธอด้วยตาของฉันเอง” หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชา

“เมื่อคืนนายอยู่ที่Lotusอย่างนั้นกระทู้นั้นนายเป็นทำตั้งหรือ?” สีหน้าของหลี่เสี่ยวเสี่ยวเปลี่ยนไป และมองหลี่ฝางอย่างสงสัย

“ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น” หลี่ฝางส่ายหัว

“อย่างนั้นเป็นใคร นายต้องรู้แน่ใช่ไหม? บอกฉันมา ฉันจะไปฆ่ามัน” หลี่เสี่ยวเสี่ยวเอ่ยอย่างโมโห

หลี่ฝางส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “เธอไม่ได้จะอธิบายกับฉันหรอกหรือไง? มา อธิบายมาสิ ชายชรานั่นเป็นใคร?”

“เขา…..เขา….ตอนนี้ฉันไม่สามารถอธิบายให้นายฟังได้ชัดเจน เอาแบบนี้ หลังเลิกเรียนฉันจะอธิบายให้นายฟัง” หลี่เสี่ยวเสี่ยวเอ่ย

หลี่ฝางยิ้ม ในใจคิดว่า เห็นทีหลี่เสี่ยวเสี่ยวคงยังไม่ได้หาเหตุผลที่ดีเอาไว้ล่วงหน้า

“แต่ฉันมีเวลาไม่มากในตอนเย็น ฉันต้องไปฉลองวันเกิดของคนอื่น” หลี่ฝางกล่าว

วันนี้เป็นวันเกิดของหลิวเฉียวเฉียว ตอนเที่ยง เซี่ยลู่นัดหลี่ฝางออกไปเพื่อช้อปปิ้งซื้อของขวัญด้วยกัน

ตอนจ่ายเงิน หลี่ฝางก็นึกขึ้นได้ว่า “ฉันได้ยินหลิวเฉียวเฉียวพูดว่า เมื่อวานตอนที่เธอตามหาพี่สาวฉัน ถูกคนหลอกเงินไป 1,000หยวน นั่นเป็นความจริงหรือ?”

“เฉียวเฉียวบอกคุณเมื่อไหร่?” เซี่ยลู่แสร้งทำเป็นว่าเธอไม่รู้ แต่อันที่จริงเธอวางแผนไว้

เธอรู้สึกอายที่จะเอ่ยปากขอให้หลี่ฝางให้เงินกับเธอ ดังนั้นจึงจงใจให้เฉียวเฉียวเอ่ยให้เขาฟัง

หลี่ฝางรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาจริงๆ “เมื่อคืนเธอบอกกับฉัน ฉันส่งข้อความให้เธอ เธอก็ไม่ตอบกลับ”

“ฉันน่าจะหลับไป”

“ฉันจะโอนเงินให้เธอเดี๋ยวนี้” หลี่ฝางกดโอนเงิน เซี่ยลู่พูดอยู่หลายครั้งว่าไม่เป็นไร

“โอนไปแล้ว” หลี่ฝางยิ้ม

“เอ๊ะ นายโอนมาทำไมตั้งหมื่นหนึ่ง” เซี่ยลู่เมื่อเห็นเงินที่โอนเข้ามา ในใจก็ตื่นรัว

ตอนที่เธออยู่กับตู้เฟย ตู้เฟยอย่างมากก็ให้เธอแค่ 520 เท่านั้น เธอไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน

“สงสัยจะใส่เลขศูนย์เกินไปน่ะ ฉันตาลายไป” เห็นชัดว่าหลี่ฝางตั้งใจ

“ที่เกินไปถือว่าตอบแทนเธอเป็นพิเศษ” หลี่ฝางกล่าว

เซี่ยลู่ดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น กลับเป็นหลี่ฝางที่ยังคงสงบนิ่ง ครั้งนี้ที่เขารอดมาจากหลี่หลงได้ ต้องขอบคุณเซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียวจริงๆ

“ฉันจะต้องให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับหลิวเฉียวเฉียวสักหน่อย” หลี่ฝางคิด

แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ หลี่ฝางก็คิดไม่ออกว่าจะมอบของขวัญอะไรให้เธอดี สร้อยเพชร? แบบนั้นแพงไปหน่อย สักไม่กี่พันหยวนก็โอเคแล้ว

พอดีกับที่เขาและเซี่ยลู่เดินผ่านร้านเครื่องประดับ หลี่ฝางจึงเดินเข้าไป

เมื่อเข้าไป หลี่ฝางก็เห็นโจวเจ๋และจางเชี่ยนอยู่ที่นี่ด้วย ตอนนี้จางเชี่ยนกำลังลองสร้อยคอ เมื่อเห็นเซี่ยลู่มองเห็นเธอเข้าก็ขมวดคิ้ว

“ทำไมผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้ก็อยู่ที่นี่?”

“หรือพวกเราไปกันเถอะ” หลี่ฝางกล่าว

“ไม่ หากพวกเราไป พวกเขาจะต้องคิดไปว่าพวกเรากลัวพวกเขาแน่” เซี่ยลู่ก้าวเท้าเข้าไปหาจางเชี่ยน

“เซี่ยลู่ ทำไมเป็นเธอ? เธอดูสิสร้อยคอบนคอของฉันสวนไหม? ” จางเชี่ยนเห็นเซี่ยลู่ก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มราวกับว่าทั้งสองไม่มีความขัดแย้งกันเลยแม้แต่น้อย

“สร้อยก็สวยดี แต่คนน่าเกลียดเกินไป” เซี่ยลู่แค่นเสียง จากนั้นจึงพูดอย่างขยะแขยง

“บริกร สร้อยที่เธอใส่อยู่เท่าไหร่ ฉันจะซื้อ”เซี่ยลู่ชี้ไปที่สร้อยที่คอของจางเชี่ยนและเอ่ยขึ้น

“ฮ่าฮ่า เซี่ยลู่ เธอจะมาอวดอะไรกับฉันเนี่ย สร้อยเส้นนี้ราคา 36000 เธอซื้อไหวหรือ?” จางเชี่ยนหัวเราะคิกคัก และมองเซี่ยลู่อย่างเหยียดหยาม

“เธอคิดว่าตู้เฟยยังเป็นแฟนของเธอหรือไง จะมาเล่นแง่ข่มอะไรฉัน” จางเชี่ยนพูดจบก็ถอดสร้อยคอออก

อันที่จริงโจวเจ๋เองก็ไม่เต็มใจที่จะซื้อให้เธอ เธอก็แค่ลองมันดูเท่านั้นเอง

เมื่อได้ยินราคา เซี่ยลู่ก็ขมวดคิ้ว เธอไม่คิดมาก่อนว่าสร้อยเส้นนี้จะแพงขนาดนี้ เธอยังคิดไปว่ามันคงไม่กี่พันหยวนเท่านั้น

“เธออยากซื้อไม่ใช่หรือ ไปจ่ายเงินสิ” จางเชี่ยนมองไปที่เซี่ยลู่ด้วยสีหน้าสมใจ

“ซื้อไม่ไหวก็อย่ามาทำอวดเก่งตรงนี้”

ในเวลานั้นเอง หลี่ฝางเห็นคิวอาร์โค้ดของ Alipay และสแกนเพื่อจ่ายเงิน36000ทันที

หลังจากสแกนเสร็จ หลี่ฝางก็มองไปที่สาวงามที่ขายจิวเวลรี่ “สร้อยคอเส้นนี้ช่วยจัดการขึ้นมาให้ผมหน่อย?”

“เหอะ พวกขี้โม้อีกคนมาอีกแล้ว” จางเชี่ยนมองไปที่หลี่ฝางด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท