NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 61

ตอนที่ 61

บทที่ 61 หลี่หลง ต้องการลักพาตัวหลี่ต๋าคาง

หลี่ฝางลงจากรถ เดินผ่านถนนที่ขรุขระช่วงหนึ่ง ระหว่างทางเขาล้มลงกลางทาง หลังจากพยายามลุกขึ้นมาใหม่ หลี่ฝางก็เอ่ยค่อนแคะ

“ถนนพวกนี้มันอะไรกัน ทำไมถึงเดินยากเดินเย็นขนาดนี้”

“ใกล้ถึงแล้ว ถอดหน้ากากของนายออกมา” หนึ่งในนั้นกล่าวขึ้น

หลังจากถอดหน้ากาก หลี่ฝางก็มองไปรอบ ๆ

นี่คือภูเขาลูกหนึ่ง และคนเหล่านี้กำลังพาหลี่ฝางขึ้นภูเขาไป

“พี่ๆ ทั้งหลาย พวกคุณคิดจะทำอะไรกันแน่?” หากถูกพาขึ้นเขาไปจริงๆ อย่างนั้นก็อันตรายแน่แล้ว

หลี่ฝางจำภูเขาลูกนี้ได้ มันถูกคนท้องถิ่นเรียกว่าภูเขาเหลือง บนเขาไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการฆ่าคนและฝังศพ

“ขึ้นไปแล้วนายก็รู้เอง” หลี่ฝางจำชายหัวสกินเฮดผู้นี้ได้ ไม่กี่วันก่อนคนผู้นี้ร่วมมือกับตู้เฟยในการจับตัวเขา

“เร็วเข้า อย่าคิดหนี” ชายหัวสกินเฮดจ้องไปที่หลี่ฝาง

“ต่อให้ฉันอยากวิ่ง จะวิ่งยังไงได้ล่ะ” หลี่ฝางพูดไม่ออกเล็กน้อย ทั้งหน้าหลังล้วนมีคนจับตาดูเขาอยู่ นอกจากว่าตนเองจะบินได้ ต่อให้คิดหนีก็คงหนีไปไหนไม่รอด

เมื่อไปถึงบนยอดเขา หลี่ฝางก็เห็นวัดแห่งหนึ่ง

หลี่ฝางบ่นพึมพำ วัดนี่สร้างตอนไหนกัน ทำไมตอนเด็กๆ เขาไม่เคยเห็น?

“เข้าไป”

ชายหัวสกินเฮดเตะก้นของหลี่ฝาง ให้เขาเข้าไปด้านใน

“อ๊ะ!”

ทันทีที่หลี่ฝางเข้าไป เขาก็ร้องออกมาเสียงดัง

“ร้องอะไร ลองร้องขึ้นมาอีกฉันจะฆ่าแก” ชายหัวสกินเฮดเอ่ยกับหลี่ฝางอย่างเย็นชา

“ปล่อยให้เขาร้องไปเถอะ ในป่าเขาแบบนี้ ต่อให้ร้องจนคอแตก ก็ไม่มีใครได้ยินหรอก” ในเวลานั้นเองหลี่หลงก็เดินออกมา

หลี่ฝางกลืนน้ำลาย เขาไม่ได้ตั้งใจจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อกี้เขาตกใจจริงๆ

ในวัดแห่งนี้มีรูปปั้นอยู่ตรงกลาง อีกทั้งรูปปั้นนั้นมีหน้าตาคล้ายกับลูกพี่หลี่

ด้านหน้าของรูปปั้น มีโลงศพคริสทัลวางอยู่ ในนั้นวางศพของลูกพี่หลี่เอาไว้

ลูกพี่หลี่ที่ตายไปแล้วทั้งร่างขาวซีด บนตัวสวมชุดสวมชุดเสื้อคอจีน

นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ฝางได้ใกล้ชิดกับศพขนาดนี้

“คุกเข่า” หลี่หลงเดินเข้ามาและตะโกนใส่หลี่ฝาง

หลี่ฝางพยายามทำตัวให้สงบ “หลี่หลง นี่นายกำลังทำอะไรกันแน่?”

“คุกเข่าให้พ่อของฉันก่อนแล้วค่อยคุยกับฉัน” หลี่หลงกล่าวอย่างเย็นชา

อันที่จริงการคุกเข่าให้คนตายไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ประเด็นคือตนกับลูกพี่หลี่ไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันสักนิด ตนเองจึงคุกเข่าไม่ลง

แต่หลังจากลังเลชั่วครู่ หลี่ฝางก็ยังคุกเข่าลง

หลี่ฝางพูดซ้ำ “หลี่หลง นายพาฉันมาที่นี่ เพื่ออะไรกันแน่?”

“ฉันขอถามนาย นายให้จางกงหมิงยืมเงินไปใช่หรือไม่” หลี่หลงมองไปที่หลี่ฝางและเอ่ยถาม

หลี่ฝางตะลึงไปสักพัก หลี่หลงรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?

“แม่งเอ้ย ฉันกำลังต่อสู้กับจางกงหมิงอยู่ แกให้เงินมัน ก็เท่ากับให้ความช่วยเหลือยื่นอาวุธให้กับมันไม่ใช่หรือไง” หลี่หลงเข้ามาและเตะหลี่ฝางเข้าหนึ่งที จากนั้นจึงด่าต่อ “แกคิดอยากให้ฉันตายใช่ไหม!”

“นายจับตัวฉันมา ก็เพราะเรื่องนี้เนี่ยนะ?” หลี่ฝางพูดไม่ออกอยู่บ้าง ก็แค่เงิน 100000 หยวน จะสร้างอาวุธได้มากแค่ไหนกันเชียว

แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องเงิน อย่างนั้นหลี่ฝางก็ง่ายจะจัดการแล้ว

หลี่ฝางหัวเราะและเอ่ย “เอาอย่างนี้ นายปล่อยฉันไป ฉันให้นาย 100000” หยวนเหมือนกัน เป็นไง?”

“อย่าหัวเราะ” หลี่หลงจ้องหลี่ฝาง “ศพพ่อของฉันยังอยู่ที่นี่”

หลี่ฝางเก็บรอยยิ้ม จากนั้นจึงพูดอย่างเคร่งขรึม “หลี่หลง ฉันให้จางกงหมิงยืมเงิน 100000 หยวน และให้นายยืมเงิน 100000 หยวน เป็นไง?”

หลี่หลงขมวดคิ้ว และมองไปที่หลี่ฝางอย่างเย็นชา “แกมันไร้เดียงสาเกินไป แกคิดว่ามาถึงตรงนี้แล้ว เงิน 100,000 หยวนจะทำให้ฉันยอมง่ายๆ หรือไง?”

“คืนนั้นอยู่แถวๆบาร์ พี่น้องคนหนึ่งของฉันถูกชนจนพิการ อีกคนหนึ่งสมองได้รับการกระทบกระเทือน ส่วนอีกคนมีเลือดออกในกะโหลกจนเกือบตาย แค่ค่ารักษาพยาบาลของพวกเขาก็ไม่ต่ำกว่า 500000แล้ว” หลี่หลงตะคอกออกมา

“ค่ารักษาพยาบาลตู้เฟยไม่ได้เป็นคนออกหรือไง?” หลี่ฝางเอ่ยเสียงเบา เห็นชัดว่าหลี่หลงคนนี้คิดจะแบล็กเมล์ตัวเอง

“แต่พี่น้องของฉันแกเป็นคนทำร้าย”

“ทำไมถึงเป็นฉันที่ทำร้ายไปได้ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคนกลุ่มนั้นจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ นอกจากนี้ ไม่มีลูกหนี้ไหนเลยจะมีเจ้าหนี้ ในเมื่ออีกฝ่ายทิ้งข้อมูลติดต่อเอาไว้ อย่างนั้นฉันก็ควรจะไปหาพวกเขา” หลี่ฝางกลอกตาและเอ่ย

“เฮี้ยเอ้ย!” หลี่หลงเตะหลี่ฝางจนกลิ้ง

“หลี่ฝาง ฉันถามแกแค่ประโยคเดียว แกจะให้หรือไม่ให้?” หลี่หลงเอ่ยอย่างเย็นชา” ไม่ให้ฉันจะให้แกไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อฉัน!”

“จะมีห้าแสนให้แกที่ไหนกันล่ะ” หลี่ฝางส่ายหัวและพูด “ฉันถูกลอตเตอรี่ทั้งหมดก็แค่เพียง 500000 เท่านั้น”

“ตู้เฟยโง่ แล้วแกคิดว่าฉันโง่ด้วยหรือไง? ถ้าห้าแสนจริง แกจะกล้ากินอาหารมื้อละเป็นแสนหรือไง? อีกทั้งยังกล้าเปิดห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทอีก?”

“หลี่ฝาง ฉันตรวจสอบประวัติแกอย่างงถี่ถ้วนแล้ว แกไม่ได้ถูกกลอตเตอรี่ ป้ายพวกนั้นก็แค่ของปลอม แกให้เงินเถ้าแก่ร้านลอตเตอรี่ 2,000 หยวน เพื่อให้มาเล่นละครโง่ๆ ฉากนี้กับแก เพื่อหลอกเพื่อนร่วมชั้นโง่ๆ ของแกก็เท่านั้น”

“บ้านของแกในชุมชนหยุนหูก็จ่ายเงินเต็มจำนวน มูลค่ามากกว่าสองล้าน” หลี่หลงจ้องมองหลี่ฝางอย่างเย็นชา

ร่างกายของหลี่ฝางสั่นสะท้านชั่วขณะ เขาไม่คิดว่าหลี่หลงจะขุดเขาขึ้นมาได้สะอาดหมดจนขนาดนี้ แม้กระทั่งเรื่องบ้านยังสืบจนรู้

“ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ?” สายตาของหลี่หลงจับจ้องไปที่หลี่ฝางอย่างแน่นิ่ง

หลี่ฝางพยักหน้าและตอบรับ “ได้ อย่างนั้นค่ารักษาพยาบาลคนเหล่านั้นฉันออกเอง ห้าแสน ฉันให้!”

ในเมื่อเรื่องบ้านก็ถูกขุดออกมาแล้ว แสดงว่าไม่สามารถปกปิดต่อได้อีก หลี่ฝางคิดอยู่ในใจ ถือเสียว่าเงินห้าแสนนี่ก็เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติแล้วกัน

ยังไงเสียเงินห้าแสนสำหรับตนก็ไม่นับว่าเป็นอะไร

“อย่าเพิ่งรีบ พวกเรายังคิดบัญชีกันไม่เสร็จ” หลี่หลงกล่าวอย่างเย็นชา

“ยังมีบัญชีอะไรอีก?” หลี่ฝางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หลี่หลงด้วยความโมโห

“พี่น้องสองคนของฉันในย่านโคมแดง ถูกหวางเห้าแทง บัญชีนี้ คงต้องคิดกับนายแล้ว” หลี่หลงพูดช้าๆ

“ไม่ใช่เพราะนายชักนำพวกเขาไปที่นั่น หวางเห้าก็คงไม่โจมตีพวกเขา”

“พวกเขาเกือบเสียเลือดเสียชีวิต จะมาจ่ายแค่คนละสามหรือห้าแสนได้อย่างไร?”

คนละสามถึงห้าแสน สองคนก็ไม่ใช่เกือบล้านสองล้านหรือไง?

หลังจากได้ยินหลี่ฝางก็โกรธ “หลี่หลง อะไรๆ นายก็เอามาคิดที่ฉัน เงินของฉันไม่ใช่ว่าลมพัดมาให้สักหน่อย”

“อย่างนั้นเงินของแกมาจากไหนล่ะ? ถูกลอตเตอรี่?” หลี่หลงถามอย่างประชดประชัน

“มันเป็นเงินที่เถ้าแก่ของRecalling the pastให้ฉันมา” หลี่ฝางเอ่ย “ฉันบอกความจริงกับนายก็ได้ อันที่จริงพื้นที่ตรงRecalling the pastตรงนั้น ก่อนหน้านี้เป็นของฉัน”

“ถ้านายไม่เชื่อ ก็ลองหาคนไปตรวจสอบดูได้ว่า ฉันอยู่ที่นั่นตอนเด็กๆ หรือเปล่า” หลี่ฝางกล่าว

“ให้คนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้” หลี่หลงไม่เชื่อหลี่ฝางมากนัก เขาเงยหน้าขึ้นและพูดกับชายหัวสกินเฮดคนหนึ่ง

“ไปสืบได้เลย พ่อแม่ของฉันไปทำงานแชร์ลูกโซ่มานานถึงสามปี และติดหนี้อยู่ก้อนหนึ่ง แม้กระทั่งบ้านยังไม่กล้ากลับไป โชคดีที่ก่อนหน้านี้มีเศรษฐีลึกลับคนหนึ่งมาหาฉัน และบอกว่าจะซื้อที่ดินผืนนี้ ดังนั้นที่บ้านฉันถึงค่อยมีเงินขึ้นมา”

“ฉันไม่เพียงแค่จ่ายหนี้ให้พ่อแม่ แต่ยังซื้อห้องชุดในหยุนหูด้วย แต่ว่าตอนนี้เงินไม่ได้เหลือเยอะขนาดนั้นแล้ว” หลี่ฝางยักไหล่และเอ่ยต่อ “ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด ถ้านายไม่เชื่อก็ไปตรวจสอบดูได้”

“เศรษฐีนั่นให้นายไปเท่าไหร่?” หลี่หลงซักต่อ

“ให้ฉันมาทั้งหมด 3.5 ล้านหยวน นอกเหนือจากการซื้อบ้านแล้ว เงินส่วนใหญ่ใช้หมดไปกับการจ่ายหนี้สินที่มี แน่นอนว่า ยังมีอีกไม่น้อยที่ถูกฉันใช้ไป ตอนนี้บนตัวฉัน เหลือแค่ 600000 หยวนเท่านั้น”

หลี่ฝางเงยหน้าขึ้นมองหลี่หลง จากนั้นจึงเอ่ยขอร้อง “นายปล่อยฉันไป ฉันจะให้เงิน600000ทั้งหมดกับนาย เป็นไง?”

หลี่หลงส่ายหัว “อยากให้ฉันปล่อยแกไป ได้ แกจะต้องจ่ายเงิน1.5 ล้านหยวนคืนให้ฉัน”

“ฉันให้แกสองทาง แกเลือกเอง ทางแรกคือให้เงินฉันมาซะ ทางที่สองฉันจะส่งนายไปยังยมโลกอยู่เป็นเพื่อนพ่อฉัน ก่อนที่พ่อจะตายได้พ่ออยากจะฆ่าแกทิ้งแทบแย่ ฆ่าแกทิ้งก็เท่ากับการได้ทำตามความปรารถนาของพ่อ ” ลี่หลงกล่าวอย่างเย็นชา

หลี่ฝางมองไปที่ร่างของลูกพี่หลี่และตัวสั่นสะท้านขึ้นมา

“แต่ฉันจะไปหา 1.5 ล้านมาจากไหน? ” หลี่ฝางยังคงแสร้งทำตัวเลอะเลือนสับสน ในตอนนี้ เขายังไม่ได้กลัวจนเสียสติไป

“แกยังมีบ้านไม่ใช่หรือไง? โอนบ้านนั้นให้ฉัน แล้วเอาเงิน 600000 มาให้ฉัน” หลี่หลงมองไปที่หลี่ฝางด้วยรอยยิ้มน่ากลัว

“ไม่ใช่ 1.5 ล้านหรอกหรือไง? แค่บ้านหลังนั้นก็ราคาสองล้านแล้ว ทำไมนายยังมาขอเงินฉันอีก?” หลี่ฝางถึงกับพูดไม่ออก จิตใจของหลี่หลงช่างดำมืดจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง

“อย่ามาพูดจาไร้สาระกับฉัน!”

หลี่หลงหรี่ตาลงและมองไปที่หลี่ฝาง “ฉันถามแก พ่อของแกชื่อหลี่ต๋าคาง และแม่ของแกชื่อเมี๋ยวชุ่ยใช่หรือไม่?”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว “นายถามเรื่องนี้ไปทำไม

“ฉันแค่อยากจะบอกแกว่า ถ้าแกไม่ตอบ พวกมันก็จะมาอยู่ที่ตรงนี้กับแกด้วย” หลี่หลงขู่อยากเยือกเย็น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท