NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 81

ตอนที่ 81

บทที่81 จางกงหมิงถูกใส่ร้าย

วันนั้นที่ภูเขา หลี่หลงถูกจางกงหมิงทำให้ตกใจกลัวมาก ตอนนั้นจางกงหมิงให้เวลาเขาหนึ่งวัน ให้เขาไปจากตงไห่

แต่หลี่หลงไม่ได้ไปไหน ได้แต่เอาถิ่นเกือบทั้งหมดให้จางกงหมิง

และแบบนี้ ยุคของลูกพี่หลี่แห่งเขตเมืองตะวันออกก็ถูกพลิกกลับโดยสิ้นเชิง จางกงหมิงกลายเป็นคนที่เจ๋งที่สุดของเขตเมืองตะวันออก

กลางดึกรับสายของพี่เฉียง หลี่หลงไม่ค่อยพอใจนัก: “ห่าเอ๊ย ใครน่ะ ดึกดื่นขนาดนี้ยังโทรมา?”

“หลี่หลง ผมคือพี่เฉียงของคุณ” พี่เฉียงพูดเสียงหม่น

หลี่หลงคิดสักพักจึงถาม: “พี่เฉียงที่เปิดร้านซ่อม?”

“ถึงว่าความจำดีนี่”

“พี่เฉียง คุณโทรหาผมเพราะมีเรื่องอะไรใช่ไหม?ผมไม่ได้ทำให้คุณขุ่นเคืองนี่” สามปีก่อนหลี่หลงพูดพี่เฉียงทำร้าย จนตอนนี้ก็ยังฝังอยู่ในใจ

“หลี่หลง ผมถามคุณ คุณอยากแก้แค้นให้พ่อคุณไหม” พี่เฉียงพูดเปิดประเด็น

“อยากสิ แน่นอนว่าอยาก ตอนนี้ผมคิดเรื่องนี้ทุกวัน” หลี่หลงพูดอย่างร้อนใจ

“พี่เฉียง คุณรู้ไหมใครเป็นฆาตกร?”

“คุยโทรศัพท์ไม่สะดวก พวกเรานัดคุยกันดีกว่า คุณมาหาผมที่นี่ หรือว่าให้ผมไปหา?” พี่เฉียงถาม

“พี่เฉียง ผมอยู่ที่ร้านสโมบาร์งั้นพี่มาดีกว่า” หลี่หลงพูด

“ไอ้เด็กนี่ นี่ไม่วางใจพี่เฉียงสินะ” พี่เฉียงหัวเราะ เริ่มยืนขึ้น

เวลานี้พี่เฉียงสร่างเมาไปครึ่งหนึ่ง ก็ขับรถไปร้านสโมบาร์เอง

ร้านสโมบาร์คือไนต์คลับแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในตงไห่ ไม่เหมือนกับ Recalling the past ค่าใช้จ่ายที่นี่ค่อนข้างทั่วๆ ไป และการจัดการของที่นี่ก็ค่อนข้างวุ่นวาย มีเสพยา วางยา มีความสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืน แล้วก็ยังมีการอุ้มผู้หญิง ซึ่งมักจะเจอที่นี่

เมื่อก่อนเป็นธุรกิจของลูกพี่หลี่ ลูกพี่หลี่ตายแล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็นของหลี่หลง

หลี่หลงวางสาย เรียกไอ้หัวสกินเฮดมา: “เรียกให้พวกเพื่อนๆ มุ่งมั่นกันหน่อย อีกเดี๋ยวพี่เฉียงจะมา”

“พี่เฉียง พี่เฉียงไหนครับ?” ไอ้หัวสกินเฮดถาม

“ตงไห่ที่ทำให้ผมหลี่หลงเรียกว่าพี่เฉียงได้ จะมีใครได้อีก?” หลี่หลงกลอกตาใส่ไอ้หัวสกินเฮด: “แน่นอนว่าพี่เฉียงร้านซ่อมรถนั่น”

“ก็เขานั่นแหละ เขามาทำไม” ไอ้หัวสกินเฮดถาม

“ยังไม่แน่ใจ” หลี่หลงชักสีหน้าพูด: “เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อผม เหมือนว่าเขาจะรู้ตัวฆาตกร”

“ไม่มั้ง พวกเราตรวจสอบมาตั้งนาน ก็ไม่ได้เบาะแสอะไร แล้วเขาจะรู้ได้ไง” ไอ้หัวสกินเฮดพูดเสียงเบา น้ำเสียงมีความสงสัย

หลี่หลงถาม: “ห้อง888นี้มีคนจองไหม?”

ไอ้หัวสกินเฮดส่ายหน้า พูด: “ตั้งแต่ที่Recalling the pastเปิด ชั้นวีไอพีของเราก็แทบจะไม่มีแขกอยู่แล้ว”

หลี่หลงกร่นด่าไป แล้วก็ขึ้นไปที่ชั้นวีไอพี

“สักพักพี่เฉียงจะมา คุณเรียกเขามา888ก็พอแล้ว” หลี่หลงกำชับเสร็จก็ขึ้นไป

ส่วนพี่เฉียงก็มาถึงร้านสโมบาร์ในไม่ช้า

ไอ้หัวสกินเฮดเห็นพี่เฉียง ก็เข้าไปต้อนรับ: “พี่เฉียง เจ้านายขึ้นไปรอคุณข้างบนตั้งนานแล้วครับ”

“นานห่าอะไรล่ะ พวกเราเพิ่งวางสายไปแค่สิบนาที” พี่เฉียงกลอกตาใส่ไอ้หัวสกินเฮด แล้วก็ต่อว่าไป

ด่าเสร็จ พี่เฉียงก็ขึ้นไปข้างบน

สถานที่นี้ พี่เฉียงมาบ่อย เลยคุ้นเคยมาก มาที่ห้องวีไอพี ก็หาหลี่หลงเจอ บนใบหน้าพี่เฉียงมีรอยยิ้มสับสนปรากฏ

ที่จริงระหว่างทางที่มา พี่เฉียงก็คิดดีแล้วจึงมา ลูกพี่หลี่ไม่ได้ถูกจางกงหมิงทำแน่

คนที่จัดการลูกพี่หลี่ จะต้องเป็นสุดยอดฝีมือ ลูกน้องของจางกงหมิง ไม่มีสุดยอดฝีมือเช่นนั้น

แต่ถึงไม่เป็นอย่างนั้น ก็สามารถโยนความผิดให้ได้นี่

“พี่เฉียง นั่ง” หลี่หลงชงชาหลงจิ่งชั้นดีให้พี่เฉียง

“พี่เฉียง พี่ดื่มเหล้าไปมากแค่ไหนกันเนี่ย” นั่งตรงหน้าพี่เฉียง หลี่หลงได้กลิ่นแอลกอฮอล์แรงๆ

“อารมณ์ไม่ดี เลยไปดื่มกับเพื่อนน่ะ” พี่เฉียงโกหกไป

“พี่เฉียง ใครกันไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้าทำให้พี่เฉียงเคือง” หลี่หลงยิ้มบางๆ

หลี่หลงรู้ตำแหน่งสังคมของพี่เฉียง เขาเข้ามานานมาก พวกนักเลงในตงไห่ทั้งใหญ่หรือโต ต่างรู้จักเขา แล้วก็ไว้หน้าเขาทั้งนั้น

รวมถึงพ่อตัวเองที่เสียไป แล้วก็ลูกพี่หลิน

“อย่างที่คุณบอก ใครจะกล้าทำผมเคือง ที่ผมอารมณ์ไม่ดี ไม่ใช่ว่าเพราะพ่อของคุณเสียเหรอ?”

พี่เฉียงทำเป็นถอนหายใจ ทำเป็นเสียใจ: “ตอนนั้นผมกับพ่อคุณก็อยู่ในสังคมนักเลงด้วยกัน พูดถึงแล้ว เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีของผม แต่ตอนนี้ เขากลับถูกฆาตกรรมโดยคนชั่วร้าย”

หลี่หลงก็ไม่ใช่คนโง่ แวบเดียวเขาก็มองออกแล้วว่าพี่เฉียงเสแสร้ง แม่เอ๊ยคงดูงิ้วมากไปสินะฆาตกรชั่วร้าย?

ในใจหลี่หลงพูดด้วยความเกลียดชัง:ถ้ายังจำเรื่องราวความเป็นเพื่อนในตอนนั้นได้อยู่จริง งั้นทำไมงานศพพ่อผม ถึงไม่เห็นหัวคุณเลยล่ะ?

หลี่หลงไม่แฉพี่เฉียง แต่ถาม: “คนชั่วร้าย?พี่เฉียง คุณรู้ใช่ไหมว่าคนชั่วร้ายนั่นใคร?”

“หลี่หลง คุณโง่หรือเปล่าเนี่ย ฆาตกรคนนี้คือใคร คุณหลับตาคิดดูก็น่าจะคิดได้นะ?” พี่เฉียงกลอกตาใส่หลี่หลง

“คุณหมายถึงจางกงหมิง?” หลี่หลงขมวดคิ้ว สีหน้าซีเรียวยิ่งขึ้น

“นอกจากจางกงหมิงยังจะมีใครได้อีก?คุณลองนึกดู พ่อคุณตาย จางกงหมิงได้ถูกควบคุมตัวไปใช่ไหม”

“พี่เฉียง การตายพ่อผม เกี่ยวข้องกับการถูกควบคุมตัวของจางกงหมิง?” หลี่หลงถามอย่างสงสัย

“ไร้สาระน่า นี่ต้องเกี่ยวข้องแน่ๆ หม่าเทียนเลยจับจางกงหมิงไป หนึ่งก็เพื่อปกป้องเขา สองเพื่อลบล้างความน่าสงสัยของเขา เรื่องพ่อคุณตายแพร่ออกไป คนที่น่าสงสัยที่สุดก็ต้องเป็นเขาจางกงหมิงไหมล่ะ?ตอนที่ทุกคนต่างสงสัยจางกงหมิง จู่ๆ ทุกคนก็รู้ ตอนนี้จางกงหมิงกำลังดูสถานที่กักกัน ความสงสัยของจางกงหมิงนี้ ไม่ใช่ว่าแค่พริบตาเดียวก็ชำระล้างออกไปหมดแล้วเหรอ?”

หลี่หลงคิด พี่เฉียงพูดก็พอมีเหตุผล

“จากนั้น จางกงหมิงนั่นออกมาจากสถานกักกัน ก็พาคนของตัวเองไปแย่งถิ่นพ่อคุณทันที หรือนี่ไม่ใช่แผนที่วางไว้นานแล้ว?”

สีหน้าของหลี่หลงหม่นลงทันที: “พี่เฉียง คุณมีหลักฐานไหม?”

“ถ้าไม่มีหลักฐาน ผมจะนัดคุณมาดึกๆ ดื่นๆ เหรอ!” พี่เฉียงพูดอย่างเย็นชา: “วันนี้ดื่มเหล้าที่ผับ ผมได้ยินเพื่อนของจางกงหมิงพูดเองกับหู ว่าเป็นจางกงหมิงส่งคนไปจัดการพ่อคุณ”

“อีกอย่างข้างกายพ่อคุณ ก็มีสายลับของพวกเขา นี่คุณน่าจะรู้นะ?” พี่เฉียงพูดอีกครั้ง

“คุณหมายถึงเหล่าเมาเหรอ” สีหน้าหลี่หลงดูแย่ลงเล็กน้อย: “เขาอยู่กับพ่อผมมาห้าหกปีแล้ว คิดไม่ถึงจริงๆ เขาเป็นถึงคนของลูกพี่หลิน”

“ลูกพี่หลินคนนี้กับจางกงหมิงเป็นญาติกัน สายลับของลูกพี่หลิน ไม่เท่ากับเป็นสายลับของจางกงหมิงเหรอ?”

“คุณบอกว่าพ่อคุณถูกฆ่าในสถานที่ของตัวเอง แล้วยังไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ถ้าไม่มีการวางแผน ไม่มีสายลับภายใน ฆาตกรจะทำสำเร็จไหม?” พี่เฉียงพูดเตือน

สีหน้าของหลี่หลงยิ่งแย่มากขึ้น

ถึงแม้หลี่หลงจะขี้ขลาดต่อหน้าจางกงหมิง แต่ถ้าเป็นจางกงหมิงฆ่าลูกพี่หลี่จริงๆ หลี่หลงไม่ปล่อยเขาแน่

ถึงจะช่วยชีวิตตัวเองไว้ หลี่หลงก็ต้องแก้แค้นเพื่อพ่อแท้ๆ ของตัวเอง

“พี่เฉียง ความสัมพันธ์เรื่องนี้ใหญ่มาก คุณแน่ใจว่าไม่ได้ฟังผิด?” หลี่หลงถามด้วยสีหน้าซีเรียส

“หลี่หลง ผมสาบานได้เลย ถ้าที่ผมพูดเมื่อกี๊ไม่ใช่เรื่องจริง ขอให้รถชนตาย!” พี่เฉียงเพื่อให้ หลี่หลงเชื่อตัวเอง ก็เริ่มพ่นคำสาบาน

“พี่เฉียง คุณต้องการอะไร?” หลี่หลงถามอย่างครุ่นคิด

หลี่หลงรู้ ไม่มีอะไรพี่เฉียงไม่มีทางวิ่งมาบอกตัวเองที่นี่แน่

“พี่เฉียง คุณคงไม่ใช่ว่าอยากยุให้ผมกับจางกงหมิงไม่ถูกกัน จากนั้นก็ใช้ประโยชน์จากมันหรอกนะ?” หลี่หลงหันหน้าไปมองพี่เฉียงอย่างเย็นชา

พี่เฉียงหัวเราะอย่างใจเย็น: “หลี่หลง คุณดูถูกผมไปแล้ว ตอนนั้นหลังจากเข้าคุก ผมก็ไม่ค่อยใส่ใจการต่อสู้ยุทธภพนัก ถ้าผมอยากได้ถิ่นนี้จริงๆ คุณคิดว่าหลายปีมานี้ผมจะเปิดร้านซ่อมรถนั้นอย่างเงียบๆ เหรอ?”

“ผมตั้งใจมาบอกความจริงกับคุณ เพราะหนึ่งเห็นแก่ความรู้สึกของผมที่มีต่อลูกพี่หลี่พ่อคุณในอดีต สองเพราะว่าผมไม่ชอบใจนักกับความเย่อหยิ่งของจางกงหมิง”

“หลี่หลง เขตเมืองตะวันออกคือถิ่นพ่อคุณ ถึงจางกงหมิงไม่ใช่ฆาตกรฆ่าพ่อคุณ คุณก็จะอยากเห็นเขตเมืองตะวันออกตกไปอยู่ในมือคนนอกกับตาเหรอ?” พี่เฉียงพูดยุยงต่อ

“ผมไม่ยอม แต่ไม่ยอมแล้วจะมีทางไหนล่ะ จางกงหมิงอยากได้อะไรก็ได้ทั้งนั้น อีกอย่างเบื้องหลังยังมีลูกพี่หลินสนับสนุนเขา พ่อผมตาย นอกจากเป็นเพื่อนเขามาหลายปี ส่วนมากคนก็มองจางกงหมิงดี เข้าใกล้กับเขา” หลี่หลงขมวดคิ้ว พูด: “อีกอย่าง ไม่ว่าวิธีการหรือว่าประสบการณ์ที่ต้องเร่ร่อนไปนู่นนี่ ผมไม่ใช่ศัตรูจางกงหมิง จะสู้กับเขาได้ไง?”

“ถ้าผมช่วยคุณล่ะ?” มุมปากพี่เฉียงมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท