NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 71

ตอนที่ 71

บทที่71 ศัตรูเก่าของหลี่ฝาง

หลี่ฝางโทรศัพท์หาหลิวเฉียวเฉียว บอกว่าตัวเองถึงแล้ว ถามว่าพวกเธออยู่ห้องไหนกัน

หลิวเฉียวเฉียวไม่ได้บอกเลขที่ห้อง แต่ก็ลงมาต้อนรับหลี่ฝางด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว

ตอนแรกหลิวเฉียวเฉียวนั้นยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แต่วินาทีที่เห็นหลี่เสี่ยวเสี่ยวนั้น สีหน้าของเขาก็แข็งทื่อทันที

หลิวเฉียวเฉียวกระซิบเบาๆ กับหลี่ฝางอยู่ข้างหน้าว่า “ทำไมแกถึงพาหลี่เสี่ยวเสี่ยวมาด้วยล่ะ”

“แกพูดเองไม่ใช่รึไง ว่าให้ฉันพาเพื่อนฉันมาด้วย ทำไมล่ะ ไม่ต้อนรับหรอ” หลี่ฝางถาม

“ไม่ใช่อย่างงั้นหรอก ฉันกับหลี่เสี่ยวเสี่ยวน่ะไม่ได้บาดหมางอะไรกัน ประเด็นก็คือฉันกลัวว่าเซี่ยลู่……พวกเขาสองคนไม่ถูกคอน่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอก เราแค่มากินอะไรนิดหน่อยเดี๋ยวก็กลับ” หลี่ฝางยิ้ม แล้วพูดว่า “เดี๋ยวเรามีธุระต่อน่ะ”

หลี่ฝางต้องไปโรงพยาบาลสักแป๊บ ช่วยพ่อของลู่หลุ่ยจ่ายค่าผ่าตัด

หลี่เสี่ยวเสี่ยวดูออกมาไม่เข้าท่า เลยพูดออกมาว่า “ไม่ต้อนรับหรอ ถ้าไม่ต้อนรับ งั้นเราก็กลับ”

“ไม่เอาหน่า มาก็มาแล้ว ขึ้นไปด้วยกันเถอะ ก็มีไม่กี่คน” หลิวเฉียวเฉียวเดินมาลากมือของหลี่เสี่ยวเสี่ยว แล้วบอกว่า “ถือว่ามาเป็นสีสันให้ฉันนะ”

“แบบนี้ค่อยถือว่าดีหน่อย” ตอนนี้หลี่เสี่ยวเสี่ยวถึงจะยิ้มออก

ตอนที่เข้าไปนั้น หลี่ฝางมองเห็นเงาของคนที่คุ้นเคยไม่น้อย คือเพื่อนสมัยมัธยมทั้งนั้น

ในนั้นมีชายคนหนึ่งชื่อว่าลู่ปิน เมื่อก่อนนั้นเป็นศัตรูของหลี่ฝาง ได้ยินมาว่าช่วงนี้พ่อแม่ทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จ รุ่งโรจน์มากในปีที่ผ่านมา

หลี่ฝางคิดในใจ ไม่ใช่สิ ลู่ปินกับหลิวเฉียวเฉียวไม่ได้สนิทอะไรกัน แล้วเขามาได้ยังไง

คราวนี้ หลิวเฉียวเฉียวก็ชี้มาที่หลี่ฝางแล้วพูดว่า “ทุกคนยังจำเขาได้กันไหม”

“นี่ไม่ใช่หลี่ฝางหรอ”

“หลิวเฉียวเฉียว เธออย่าบอกนะ ว่าแขกพิเศษที่เธอให้พวกเราตั้งหน้าตั้งตารอ ก็คือเขา” ลู่ปินพูดด้วยความไม่พอใจ

“ใช่ ในใจของฉัน หลี่ฝางคือแขกคนพิเศษ” หลิวเฉียวเฉียวพูดพร้อมหัวเราะ

“ผิดหวังจริงๆ ฉันคิดว่าแขกพิเศษจะเป็นตู้เฟยซะอีก”

“เซี่ยลู่ แฟนของเธอตู้เฟยจะมาถึงเมื่อไหร่น่ะ” ลู่ปินมองเซี่ยลู่แล้วถาม

สีหน้าของเซี่ยลู่ดูประหม่า “ฉันเลิกกับตู้เฟยแล้วน่ะ”

“เลิกกันแล้ว พระเจ้า พวกเธอเลิกกันแล้วทำไมไม่บอกฉันสักคำล่ะ ที่ฉันมาก็เพราะเขาเลยนะ” ลู่ปินพูดด้วยความผิดหวัง

บ้านของลู่ปินทำธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ส่วนตู้เฟยทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่ลู่ปินมางานวันเกิดของหลิวเฉียวเฉียวก็เพราะอยากทำความรู้จักกับตู้เฟย มาเสนอวัสดุก่อสร้างของตัวเอง

เซี่ยลู่รู้สึกโมโห “นายเป็นใครกัน ฉันกับตู้เฟยเลิกกันแล้วทำไมต้องบอกนายด้วย”

“เอาหน่า ฉันผิดไปแล้ว” ลู่ปินยอมรับผิดกับเซี่ยลู่ แล้วบอกว่า “เซี่ยลู่ เธอกับตู้เฟยน่าจะยังติดต่อกันอยู่ใช่ไหม นัดเขามากินข้าวด้วยกันหน่อยได้ไหม ฉันเลี้ยงเอง”

ตู้เฟยส่ายหัว “เราไม่ได้ติดต่อกันแล้ว”

“จะไม่ติดต่อกันได้ยังไง พวกเธอคบกันมาตั้งหลายปีไม่ใช่รึไง”

ลู่ปินรีบพูดขึ้นว่า “เซี่ยลู่ เธอคิดซะว่าช่วยฉันเถอะนะ ช่วงนี้ประเทศเราตรวจสอบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม วัสดุก่อสร้างของบ้านฉันค้างสต็อคเยอะมากขายไม่ออกเลย ฉันได้ยินมาว่าบ้านของตู้เฟยกำลังสร้างโครงการใหม่ ต้องการวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก เธอช่วยฉันหน่อยนะ ช่วยติดต่อให้ฉันหน่อยนะ……”

“วางใจได้นะ ถ้างานสำเร็จแล้ว จะมีผลดีกับเธอไม่น้อยเลยล่ะ”

หลิวเฉียวเฉียวขมวดคิ้ว พูดด้วยความหมดปัญญาว่า “เดี๋ยวฉันเอาเบอร์ของตู้เฟยให้นายเอง นายติดต่อเองเถอะ”

“ลู่ปินนายมายินดีกับงานวันเกิดของฉัน หรือว่าจะมาโปรโมทสินค้าวัสดุก่อสร้างของนายกันแน่” หลิวเฉียวเฉียวเริ่มรู้สึกไม่พอใจ

ในตอนนี้ลู่ปินเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นเห็นแก่ตัวเกินไป

“บริกร เสิร์ฟอาหารหน่อยครับ” ลู่ปินพูดไปหนึ่งคำ “เฉียวเฉียว เราคุยกันแล้วไง ว่ามื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง”

“ได้ นายอยากเลี้ยงก็เลี้ยงเลย ยังไงห้องนี้นายก็เป็นคนจองเอง” หลิวเฉียวเฉียวนั่งลงแล้วพูด

“ก็แค่อาหารมื้อเดียว จะเสียเงินเท่าไหร่กัน” ลู่ปินพูดอย่างสบายๆ

แล้วตอนนี้หลี่ฝางก็หัวเราะขึ้น นึกถึงบรรยากาศอาหารมื้อละแสนในคืนนั้น

ถ้าสถานการณ์นั้นเกิดขึ้นอีกล่ะก็ ไม่รู้ว่าลู่ปินจะร้องไห้ออกมาทันทีรึเปล่า

“หลี่ฝาง ได้ยินมาว่าไม่กี่ปีมานี้พ่อแม่นายหายตัวไปหรอ โดนคนอื่นหลอกไปเล่นแชร์ลูกโซ่หรอ”

“เห้อ หลายปีที่พวกท่านไม่อยู่ นายน่าจะลำบากแย่ ได้ยินมาว่าตอนไปโรงเรียน นายรับจ้างซื้อข้าวให้นักเรียน ซักถุงเท้าซักกางเกงในเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองใช่ไหม จริงรึเปล่า” ลู่ปินแกล้งพูดด้วยหน้าตาที่สงสัย

ถังหยู่ซวนลุกขึ้นทันที “พูดบ้าอะไรของนาย!”

“หยู่ซวน นั่งลง” หลี่ฝางลากถังหยู่ซวนนั่งลง

“เขาไม่ได้พูดอะไรผิด สามปีมานี้ ฉันผ่านชีวิตมาด้วยการพึ่งเงินจากการซักผ้าทำการบ้านให้รูมเมท” หลี่ฝางหัวเราะเยาะตัวเองแล้วบอกว่า “มันน่าอายใช่ไหมล่ะ เถ้าแก่ลู่”

“ซักเสื้อผ้า ทำการบ้านให้คนอื่นน่ะ ไม่น่าอายหรอก แต่ทำไมฉันถึงได้ยินว่านายตวงน้ำล้างเท้าให้คนอื่นล่ะ ทำไมล่ะ นายยังเป็นหมอนวดในหอพักอีกหรอ” ลู่ปินพูดเยาะเย้ย

“ไอ้เหี้ยนี่ มึงลองพูดอีกรอบสิ” ครั้งนี้ถังหยู่ซวนทนไม่ไหวแล้ว เลยชี้หน้าลู่ปินแล้วด่าออกมาทันที

“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน แกด่าใครห้ะ!” ลู่ปินจ้องถังหยู่ซวน มองอยู่นานแล้วพูดว่า “ฉันรู้จักแก นายเป็นเด็กล้างรถที่ต้าเฉียงไม่ใช่หรอ”

“ฉันสนิทกับต้าเฉียงเลยล่ะ นายเชื่อไหมว่าแค่ฉันโทรหาต้าเฉียงแค่สายเดียว นายก็จะถูกไล่ออกทันที” ลู่ปินพูดขู่

ถังหยู่ซวนหัวเราะอย่างเย็นชา “ได้ นายโทรสิ ฉันก็ไม่อยากทำพอดี”

ลู่ปินโทรศัพท์ไปสายนึง แค่แป๊บเดียว ถังหยู่ซวนก็ถูกไล่ออกแล้ว

ถังหยู่ซวนโมโหอีกแล้ว แต่โดนหลี่ฝางห้ามเขาไว้ “วันนี้เป็นงานวันเกิดเพื่อนฉัน อย่าทะเลาะกัน”

“งั้นเดี๋ยวค่อยจัดการเขาละกัน” ถังหยู่ซวนทนไม่ไหวแล้ว

“ทำไมล่ะ อยากจะต่อยฉันหรอ ไม่กลัวว่าต้าเฉียงจะมาจัดการนายหรอ” ลู่ปินพูดอย่างเหยียดหยาม

“ลู่ปิน นายหยุดพูดได้รึยัง” หลิวเฉียวเฉียวทนมองต่อไปไม่ไหว

และในตอนนี้ บริกรก็ขึ้นมา เขาจำหลี่ฝางได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มอง แล้วก็เอาเมนูยื่นให้เขา

หลี่ฝางกำลังจะเอาเมนูอาหารส่งให้หลิวเฉียวเฉียว ลู่ปินกลับพูดขึ้นว่า “หลี่ฝาง ในเมื่อหลิวเฉียวเฉียวบอกว่านายคือแขกพิเศษ งั้นนายเลือกอาหารเลยละกัน”

“คิดว่าทั้งชีวิตนี้คนอย่างนายคงจะไม่เคยมาโรงแรมห้าดาวแบบนี้หรอกมั้ง ถือว่าฉันเปิดโอกาสให้นาย ให้นายได้เป็นตัวเอก ดื่มด่ำสักหน่อย” หลี่ฝางหัวเราะ คืนเมนูให้กับบริกร “คุณยังจำที่ผมสั่งครั้งที่แล้วได้ไหมครับ”

“จำได้สิ จำได้อยู่แล้ว”

“เหมือนครั้งที่แล้ว” หลี่ฝางยิ้มอ่อนๆ แล้วพูด

“ไม่หรอกมั้ง หลี่ฝาง เมื่อก่อนนายเคยมากินข้าวที่นี่จริงๆ หรอ ฉันดูถูกนายเกินไปแล้วสิ” ลู่ปินมองหลี่ฝางด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ

“งานเลี้ยงรุ่นครั้งที่แล้ว ตู้เฟยเป็นคนเลี้ยง” หลี่ฝางยิ้มแล้วพูด

“ไม่ทราบว่าท่านคนอื่นจะดื่มอะไรดีคะ” บริกรถาม

“ครั้งที่แล้วพวกเธอดื่มอะไรกัน” ลู่ปินถามขึ้น

ยังไม่ทันได้รอให้บริกรตอบ ลู่ปินก็พูดขึ้นอีกว่า “ก็เหมือนครั้งที่แล้วที่พวกเธอดื่มก็ได้นะ”

หลี่ฝางถามไปประโยคหนึ่งด้วยความไม่เชื่อ “นายแน่ใจนะ”

“แน่นอน” ลู่ปินพยักหน้าโดยไม่ลังเล

และตอนนี้ เซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียวก็อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะขึ้นมา

“พวกเธอสองคนหัวเราะอะไร นึกว่าฉันไม่มีปัญญาเลี้ยงหรอ”

“ฉันจะบอกพวกเธอนะ ถึงแม่บ้านของฉันจะไม่รวยเท่าตู้เฟย แต่ตัวฉันเอง มีเงินเยอะกว่าตู้เฟยเยอะ”

“ถึงแม้ตอนที่เรียน ฉันจะเรียนได้ไม่ดี แต่เรียนดีแล้วได้อะไรล่ะ แกดูสังคมทุกวันนี้สิ นักเรียนมหาลัยเยอะแยะไป คนที่เรียนจบหรอ ยังหางานทำไม่ได้เลย และถึงจะหาได้ เงินเดือนของพวกเขาน่ะหมื่นเดียวจะถึงรึเปล่า”

ลู่ปินพูดอย่างเย็นชาว่า “ถึงแม้ฉันจะเรียนไม่จบม.ปลาย แต่ฉันก็มีพรสวรรค์ทางด้านธุรกิจนะ!”

“เห็นรถบีเอ็มสองคันที่อยู่หน้าประตูไหม นั่นฉันหาเงินซื้อเองนะ” ลู่ปินพูดอวด

พอได้ยินแล้ว สีหน้าของถังหยู่ซวนก็เปลี่ยนทันที ไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง รถบีเอ็มที่ชนนั้น เป็นของตานี่จริงๆ หรอ

หน้าประตูLotusก็มีบีเอ็มจอดอยู่ตั้งหลายคันแหนะ ไม่น่าจะบังเอิญขนาดนั้นนะ

หลิวเฉียวเฉียวอยากจะบอกกับลู่ปินตรงๆ แต่เห็นเขาโม้ขนาดนั้นแล้ว เลยทำได้แค่ไม่พูดอะไร

แอ็คไปเถอะ!

นายอวดให้มันสุดก็แล้วกัน

ตอแหล แน่นอนว่าต้องได้รับผลกรรม!

ครั้งที่แล้ว ก็เพราะตู้เฟยอวดรวยได้ไม่สุด จนทำให้พวกเขาต้องล้มละลายกันที่นี่

หลิวเฉียวเฉียวกับเซี่ยลู่ปรึกษากันสักพัก บอกว่าตอนที่เช็กบิลนั้น ต้องรีบหนีก่อน

“พวกเธอหัวเราะอะไรกัน ข้าวแค่มื้อเดียว สำหรับเถ้าแก่ลู่แล้วก็แค่ปรอยฝนเล็กๆ” หลี่ฝางคิดในใจ เดี๋ยวนายได้ร้องไห้แน่

“ใช่ อาหารแค่มื้อเดียวเอง สำหรับฉันมันก็แค่ปรอยฝน แต่วันนี้แค่ซวยหน่อย เจอคนขับโง่ขับรถFord มาชนท้ายรถบีเอ็มของฉันยุบไปทีนึง!”

“เหี้ยเอ้ย ให้ฉันจับมันได้ก่อนเถอะ จะเล่นงานให้เละเลย” ลู่ปินพูดอย่างโกรธแค้น

สีหน้าของถังหยู่ซวนดูตื่นตระหนก กลัวอะไรสิ่งนั้นก็มาจริงๆ ไม่คิดว่ารถบีเอ็มที่ตัวเองชนนั้น จะเป็นของลู่ปินจริงๆ!

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน