NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 76

ตอนที่ 76

บทที่76 ผมเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆ

แป๊บเดียวหลี่ฝางและคนอื่นๆ ก็มาถึงที่โรงพยาบาลประชาชนอันดับหนึ่งตงไห่

เห็นลู่หลุ่ย พี่พยาบาลก็รีบเข้ามาต้อนรับ: “หลุ่ยหลุ่ย คุณมาสักที คุณรีบไปโน้มน้าวพ่อคุณเถอะ เขาจะออกจากโรงพยาบาลให้ได้”

“เห้อ พ่อฉันนี่ไม่ทำให้คนอดห่วงได้เลยจริงๆ” ลู่หลุ่ยถอนหายใจ

“เขาเป็นห่วงคุณ เพื่อให้คุณได้ดี คุณบอกคุณจะไประดมเงินให้เขา ทำให้เขาตกใจมาก เขาบอกว่าคุณแค่เด็กคนหนึ่ง จะไปหาเงินตั้งมากมายขนาดนั้นได้ไง?” พี่พยาบาลส่ายหน้ายิ้มแหยๆ : “เขากลัวว่าคุณจะหลงผิด เลยต้องไปหาคุณให้ได้”

“ลู่หลุ่ย คุณไปดูพ่อคุณเถอะ ผมจะไปจ่ายเงินเอง” หลี่ฝางพูด

ลู่หลุ่ยมองหลี่ฝางด้วยสายตาสับสน พยักหน้า

ในสายตาของลู่หลุ่ย หลี่ฝางแปลกมากไป จู่ๆ ก็มาช่วยเธอแบบนี้ เธอเกรงใจหน่อยๆ

แต่เรื่องเกี่ยวข้องกับชีวิตของพ่อ เธอปฏิเสธก็ไม่ได้อีก

“หลุ่ยหลุ่ยนะ คุณไประดมเงินได้มาจริงๆ เหรอ?ถ้าระดมเงินได้ งั้นก็รีบให้พ่อไปผ่าตัดเลย โรคของพ่อคุณรุนแรงมากขึ้น ตอนกลางวันเช็คอาการเขาแล้ว พวกเราพบว่าอวัยวะหลายส่วนของเขาล้มเหลว ถ้าไม่ผ่าตัดอีกล่ะก็ กลัวว่าจะต้องวิกฤตจริงๆ” พี่พยาบาลพูดด้วยความเป็นห่วง

หลี่ฝางถามพี่พยาบาล: “ขอถามหน่อยครับ ไปชำระเงินที่ไหน?”

“ไป ฉันจะพาคุณไปเอง”

หลี่ฝางตามพี่พยาบาลไปที่ชำระเงิน หลี่ฝางเอาบัตรมาถาม: “พี่ พ่อของลู่หลุ่ยต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ครับ?”

“อาการป่วยของพ่อเธอค่อนข้างรุนแรง มีการติดเชื้อในปอด อวัยวะหลายส่วนก็ล้มเหลว กลัวว่าอย่างน้อยก็น่าจะสามแสนได้” พี่พยาบาลขมวดคิ้วพูด

“เห้อ ค่าผ่าตัดมหาศาลแบบนี้สำหรับหลายๆ ครอบครัวแล้ว เท่ากับความหายนะอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”

พี่พยาบาลพูดอยู่นั้น หลี่ฝางก็พูดกับพนักงานเก็บเงินไปด้วย: “งั้นก็ช่วยรูดให้ผมไปห้าแสนละกันครับ”

“รูดห้าแสน?” พนักงานเก็บเงินกับพี่พยาบาลเกือบจะตะลึงไปพร้อมกัน

เด็กคนนี้ พออ้าปากก็พูดว่าจะรูดไปห้าแสน ทั้งสองไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก

“ห้าแสนน่าจะพอ ถ้าพวกคุณว่าไม่พอ งั้นก็รูดไปหกแสนก็ได้ครับ” หลี่ฝางพูดด้วยใบหน้านิ่ง

“ชายหนุ่ม บัตรคุณมีเงินตั้งมากมายขนาดนั้นเชียว?” พนักงานเก็บเงินหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ค่อยเชื่อนัก

“คุณรูดดูก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ

หลี่ฝางใส่รหัสผ่านอย่างเชี่ยวชาญ บนเครื่องรูดบัตรก็โชว์ว่าชำระเงินเรียบร้อย

“ชายหนุ่ม ดูไม่ออกเลย ว่าคุณรวยจริงๆ” พนักงานเก็บเงินมองหลี่ฝางอยู่อย่างนั้น

พยาบาลสาวก็ยิ่งตะลึงมากขึ้น: “ฉันคิดว่าคุณจะจ่ายแค่สองสามหมื่น คิดไม่ถึงว่าจะจ่ายมากขนาดนั้น”

“คุณคือแฟนของหลุ่ยหลุ่ยเหรอ?” พี่พยาบาลถาม

“เปล่าครับ พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น” หลี่ฝางตอบ

“น้องชาย หลอกกันหรือไง เพื่อนทั่วไป แต่คุณช่วยหลุ่ยหลุ่ยจ่ายไปห้าแสนเนี่ยนะ?” พี่พยาบาลกลอกตาใส่หลี่ฝาง ชัดเจนว่าไม่เชื่อ

“หลุ่ยหลุ่ยเป็นผู้หญิงที่ดี ต่อไปคุณคบกับเธอ ก็อย่าทำไม่ดีใส่เธอล่ะ”

“ทายาทเศรษฐีที่ครอบครัวรวยแบบคุณนี้ ใจง่ายที่สุดแล้ว” พี่พยาบาลทำเสียงฮึดฮัด

“พี่ ใจง่ายเหมือนจะเปรียบกับผู้หญิงนะ” หลี่ฝางพูดไม่ออก

“ผมเข้าใจ ความหมายของคุณคือบอกว่าคนรวยแบบพวกเราเจ้าชู้” หลี่ฝางส่ายหน้า พูด: “แต่ลู่หลุ่ยไม่ใช่แฟนผมจริงๆ”

“พี่ พี่นี่คิดมากไปแล้วจริงๆ”

พูดไป หลี่ฝางตามพี่พยาบาลมาที่หน้าห้องของพ่อลู่หลุ่ย

“หลุ่ยหลุ่ย พวกเราไม่ต้องรักษาหรอก ค่าผ่าตัดของพ่อตั้งสามแสนกว่า แม่ลูกไม่อยู่แล้ว เงินที่พ่อทำงานมาหลายปีนี้ ก็จะถูกค่ารักษาโรคนี้ใช้ไปหมด แล้วต่อไปลูกจะทำไงล่ะ?”

“พ่อ เงินฉันยืมมาได้แล้ว พ่ออย่าเป็นห่วงเรื่องเงินเลย พ่ออยู่รักษาตัวที่นี่แบบสบายใจเถอะ อย่าเอาแค่คิดเรื่องออกจากโรงพยาบาลเลย แม่ไม่อยู่แล้ว ถ้าพ่อก็ไม่อยู่อีกคน พ่ออยากให้ฉันอยู่คนเดียวบนโลกนี้เหรอไง?” ลู่หลุ่ยกลอกตาใส่พ่อตัวเอง

สีหน้าของพ่อลู่หลุ่ยเธอหม่นลงทันที: “หลุ่ยหลุ่ย ลูกคิดว่าพ่อไม่อยากอยู่บนโลกนี้กับลูกเหรอ?แค่ติดที่ค่ารักษาสามแสน ถึงเราจะเอาบ้านไปขาย อย่างมากก็ขายได้แค่ไม่กี่แสน ไม่กี่แสนที่เหลือ พวกเราจะไปเอาจากไหนล่ะ?”

“ตอนนี้ญาติของพวกเรา เห็นเบอร์พวกเราแค่รับก็ยังไม่อยากจะรับเลย ยืมเงินยิ่งอย่าไปพูดถึงเลย”

“ลูกอย่าคิดว่าพ่อไม่รู้ ลูกบอกว่าไปยืมเงิน คงไม่ใช่ว่าฟังยัยเด็กเสี่ยวเสี่ยวนั่น แล้วไปขายตัวใช่ไหม!”

“หลุ่ยหลุ่ย พ่อจะบอกให้นะ ถึงพ่อตาย ก็ไม่อาจมองลูกทำตัวเสื่อมโทรมได้ ลูกเข้าไปใจไหม?ถ้าลูกกล้าไปขายตัว พ่อก็จะตายตรงหน้าลูก” พ่อของลู่หลุ่ยพูด

“ผมลู่เฉิงไม่ใช่อย่างไอ้คนระยำหลี่ซื่อหรงนั่น เพื่อให้ลูกชายตัวเองแต่งงาน ก็ให้ลูกสาวตัวเองไปขายตัว!” พ่อของลู่หลุ่ยพูดอย่างหนักแน่น

“พ่อ พ่ออย่าเอาแต่พูดเรื่องนั้นได้ไหม เรื่องของเสี่ยวเสี่ยวก็ผ่านไปหลายปีแล้ว พ่อรีบลืมซะเถอะ” ลู่หลุ่ยพูด

“พ่อแค่บอกลูก ลูกห้ามไปเดินเส้นทางอย่างเสี่ยวเสี่ยวนั่นเด็ดขาด” ลู่เฉิงมองลูกสาวตัวเองด้วยใบหน้าเป็นห่วง กลัวว่าลูกสาวตัวเองจะหลงผิด

“พ่อวางใจก็ดี ร่างกายของลูกสาวพ่อยังสะอาดอยู่ เงินนั่นฉันยืมมาจากเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนฉันเป็นทายาทเศรษฐี”

“ทายาทเศรษฐี?ถึงเป็นทายาทเศรษฐี ก็ไม่มีทางให้ลูกยืมสามแสนโดยไม่มีเหตุผลแน่ๆ หลุ่ยหลุ่ยนะ ลูกอย่ารับปากใครอะไรมั่วๆ เพียงเพราะว่าค่าผ่าตัดของพ่อล่ะ” ลู่เฉิงพูดอย่างไม่วางใจ

“เปล่า เขาไม่ได้เสนอเงื่อนไขอะไรให้ฉัน ก็ให้ฉันยืมเลย”

“งั้นก็ถือว่าลูกได้เจอคนดีแล้ว แล้วคนนั้นอยู่ไหนซะล่ะ ลูกเรียกเขามาให้พ่อดูหน่อยสิ ยังไงพ่อก็ไม่เชื่อว่าจะมีคนดีขนาดนั้นนะ?” ลู่เฉิงทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ ดูออกชัดเจนว่าไม่เชื่อที่ลูกสาวตัวเองพูด

แล้วเวลานี้ หลี่ฝางตามพี่พยาบาลเข้าไปในห้องคนไข้

“เขามาแล้ว” ลู่หลุ่ยพูด: “พ่อ เขาคือเพื่อนที่โรงเรียนที่เป็นทายาทเศรษฐีคนนั้นที่ฉันบอก”

“เขาคือทายาทเศรษฐีเหรอ ดูท่าทางเขาแล้ว ไม่เหมือนเลยสักนิด” ลู่เฉิงส่ายหน้า: “ทายาทเศรษฐีไม่ใช่อย่างเขานี้ หลุ่ยหลุ่ย หาเพื่อนที่โรงเรียนมาหลอกพ่อเฉยๆ ใช่ไหมเนี่ย”

หลี่ฝางหัวเราะ นั่งตรงหน้าลู่เฉิง: “ลุงครับ งั้นคุณพูดมา ทายาทเศรษฐีนี้ควรจะเป็นยังไงครับ?”

ลู่เฉิงคิดอยู่นาน จึงพูด: “ผมก็พูดไม่ถูก แต่ไม่ใช่อย่างคุณแน่ ตัวตนของพวกเขาต่างสูงส่งทั้งนั้น ไม่เหมือนคุณ ดูเข้าถึงง่ายมาก”

“อาจจะเป็นเพราะว่าทายาทเศรษฐีอย่างผมนี้ค่อนข้างนอกคอกละกัน” หลี่ฝางหัวเราะเบาๆ

“ชายหนุ่ม อย่ามาเสแสร้งกับลุงเลย ลุงมองออก คุณก็แค่เด็กดีคนหนึ่ง มาแสดงละครเป็นเพื่อนหลุ่ยหลุ่ยดึกดื่นขนาดนี้ ก็เพื่อช่วยชีวิตของลุง แต่ชีวิตลุงนี้ไม่คุ้มค่ากับสามแสนหรอก พวกคุณอย่าเปลืองแรงกันเลย”

ลู่เฉิงพูดจบ พี่พยาบาลจึงพูด: “ฉันจะบอกให้นะคะลุงครั้งนี้ลุงมองผิดคนแล้วค่ะ ชายหนุ่มคนนี้เป็นทายาทเศรษฐีจริงๆ ค่ะ”

“คุณดูสิ เขาเพิ่งจ่ายค่ารักษาห้าแสนให้คุณ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า พวกเราก็จะจัดเตรียมผ่าตัดให้คุณ” พี่พยาบาลเอาใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลให้ลู่เฉิง

ลู่เฉิงรับไปดู แล้วยืนขึ้นทันที เขาทำแก้วน้ำในมือตกไปที่ขาของลู่หลุ่ยแรงๆ : “ยัยลูกสาวอกตัญญู อยากจะทำให้พ่ออกแตกตายใช่ไหม!”

“กล้าดียังไงฮะ พ่อพูดทำไมลูกไม่ฟังเลย พ่อไม่ให้ลูกไปขาย ลูกก็ยังไปขาย แล้วลูกจะให้พ่อไปเผชิญหน้ากับแม่ของลูกที่ตายไปแล้วได้ไง ลูก……”

ลู่เฉิงโมโหมาก จนล้มไปที่พื้นทันที

“พ่อ พ่อ!” ลู่หลุ่ยวิ่งเข้ามา ประคองแขนของลู่เฉิง แล้วร้องไห้

“พ่อ พ่อฟื้นสิ พ่อฟื้นนะ ลูกสาวพ่อไม่ได้ไปขาย” ลู่หลุ่ยร้องไห้ไปพูดไป

“ประคองคุณลุงไปที่เตียงก่อน” หลี่ฝางก็ยื่นมือช่วย พาลู่เฉิงไปบนเตียงกับลู่หลุ่ย

แป๊บเดียวหมอก็รีบมา ลู่เฉิงก็ฟื้น

ลู่เฉิงเอาใบค่ารักษาฉีกเป็นสองท่อน พูดด้วยความโมโห: “เงินนี่สกปรก ผมไม่มีทางใช้เงินนี้มาเป็นค่าผัดตัดผมได้”

“ถึงตาย ผมก็ไม่เอาเงินขายตัวของลูกสาวไปผ่าตัด!” ลู่เฉิงกัดฟันพูด

“พ่อ พ่อพูดอะไรเหลวไหลน่ะ” ลู่หลุ่ยทั้งอายและรำคาญ

ส่วนตอนนี้ หลี่ฝางก็เริ่มร้อนใจแล้ว

“ลุง ถ้าผมพิสูจน์ได้ว่าตัวเองคือทายาทเศรษฐี งั้นลุงจะยอมผ่าตัดใช่ไหมครับ?” หลี่ฝางคิด แล้วพูด

“ชายหนุ่ม อย่าแสดงเลย”

“ลุงครับ ผมไม่ได้แสดง ผมเป็นทายาทเศรษฐีจริงครับ ถ้าลุงไม่เชื่อ ผมพิสูจน์ได้” หลี่ฝางยิ้มบางๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท