NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 94

ตอนที่ 94

บทที่94 จางกงหมิงบ้าไปแล้ว

“อ้าปากพูดก็ว่าเกิดเรื่องเลยนะ ตกใจหมด!”

จางกงหมิงด่าไปชุดหนึ่ง จึงถาม: “พูดมา เกิดเรื่องอะไร?”

“มีคนมาบุกถิ่นเรา ถิ่นของพวกเรา ถูกพวกเขาทุบตีหมด” ปลายสายพูด

“ห่า พวกคุณทำห่าอะไรล่ะ มีคนมาทุบตีถิ่นของพวกเรา จัดการพวกเขาก็จบแล้วไหม” จางกงหมิงถาม: “ทำไม จัดการพวกมันไม่ได้?”

“ไม่ใช่จัดการไม่ได้ แต่ซ้ออยู่ในมือพวกมัน”

“ภรรยาผม?” จางกงหมิงมีใบหน้าหม่นลง จากนั้นมือก็สั่น: “บอกพวกเขาว่าอย่าทำอะไรภรรยาผม ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้!”

“พี่ ทำไมเหรอ?” หลินชิงชิงถาม

“มีคนจับซ้อ แล้วยังทำลายถิ่นของผม” จางกงหมิงสีหน้าดูไม่ดี ตื่นตระหนกชัดเจน

“ใครกล้าขนาดนั้นเชียว กล้าจับซ้อ” หลินชิงชิงขมวดคิ้ว

ตอนนี้ตงไห่มีสองอิทธิพลใหญ่ คนหนึ่งคือลูกพี่หลิน อีกคนคือจางกงหมิง ส่วนลูกพี่หลินนั่นก็คือลุงของจางกงหมิง พูดตรงๆ ในตงไห่ต่างเป็นของตระกูลพวกเขา

ตงไห่นี่ใครยังกล้ายุ่งกับจางกงหมิง?

“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใคร ผมต้องรีบกลับไป!”

จางกงหมิงหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาภรรยาตัวเอง แต่โทรไม่ติด

“แม่งเอ๊ย ดูเหมือนจะเกิดเรื่องจริงๆ !”

“แม่งเอ๊ย ไอ้สวะที่ไหนเนี่ย ไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม!” จางกงหมิงกำหมัดขึ้นมา แล้วปล่อยลงไปที่กำแพง

มองออกว่า จางกงหมิงในตอนนี้โมโหสุดๆ

จางกงหมิงวิ่งออกไปจากโรงพยาบาล หลี่ฝางมองสภาพของจางกงหมิงไม่ค่อยปกติ ก็พูด: “พี่ ดูเหมือนพี่หมิงจะเสียสติ”

“ปกติพี่ชายฉันใจเย็นมาก คิดไม่ถึงว่าจะมีด้านที่ไร้สติ” หลินชิงชิงขมวดคิ้ว: “ฉันต้องโทรหาพ่อ”

หลินชิงชิงรู้ ว่าคนนี้กล้าจับภรรยาของจางกงหมิงจะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ตัวเองตามไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ได้แต่โทรหาพ่อ

“เจ้าหัวแบนล่ะ ทำไมเขาไม่มา?ถ้าเขาอยู่กับจางกงหมิงได้ ผมก็จะวางใจหน่อย” มองจางกงหมิงที่เพิ่งลุยออกไป แทบจะเหมือนคนบ้า

ภายใต้ท่าทีแบบนี้ ง่ายที่จะติดกับที่คนอื่นตั้งไว้ อันตรายสุดๆ

ในใจของหลี่ฝาง เจ้าหัวแบนคือคนที่สุดยอดมากๆ ถ้าเขาอยู่กับจางกงหมิง จางกงหมิงจะปลอดภัยแน่ๆ

เมื่อก่อนเจ้าหัวแบนคอยตามหลินชิงชิงทุกวัน วันนี้ทำไมไม่มาด้วย

หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ: “เจ้าหัวแบนป่วยเหรอ?”

“เขาตายแล้ว” หลินชิงชิงพูดอย่างเซ็งๆ

“ตายแล้ว เป็นไปได้ไง เจ้าหัวแบนยังวัยรุ่นขนาดนั้น ฝีมือก็ดีขนาดนั้น ทำไมตายได้?” หลี่ฝางอ้าปากค้างอย่างตกใจ

“ฉันล้อเล่น” หลินชิงชิงหมดคำพูด: “นี่คุณก็เชื่อเหรอ”

เวลานี้โทรศัพท์ของลูกพี่หลินก็ดังขึ้น

“โอ้โห ลูกสาวที่รักของพ่อ วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกเหรอ?ทำไมลูกโทรหาพ่อก่อน” ลูกพี่หลินปลื้มใจหน่อยๆ

“พอแล้ว อย่าเยอะน่า เกิดเรื่องแล้ว” หลินชิงชิงพูด

“เกิดเรื่องเหรอ?เกิดเรื่องอะไร?” ลูกพี่หลินตื่นตระหนก: “ทำไม เจอปัญหาอะไรข้างนอกอีก?มีเด็กที่ไหนมารังลูก ลูกบอกพ่อเลย พ่อจะให้คนไปเอาเขาตาย”

“คนที่รังแกฉันคือมู่เสี่ยวไป๋ พ่อไปจัดการเขาให้ตายสิ” หลินชิงชิงพูด

“ชิงชิงนะ ลูกอย่าวุ่นวายสิ นี่เป็นถึงสามีในอนาคตที่พ่อเลือกให้ เขาจะรังแกลูกได้ไง เขารักลูกจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว” ลูกพี่หลินพูดขำๆ

“ไม่ต่อกรกับพ่อละ ฉันจะบอกให้นะ ภรรยาของพี่หมิงถูกคนจับตัวไป พ่อรีบไปสืบสิว่าใครทำ” หลินชิงชิงไม่พูดเหลวไหลต่อ เธอพูดตรงๆ

“มีเรื่องนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ ไม่มั้ง ใครจะกล้าขนาดนั้น กล้าแตะต้องภรรยาของหมิงหมิง นี่ไม่ใช่ว่าหาเรื่องตายหรอกเหรอ?”

ลูกพี่หลินขมวดคิ้ว พูด: “โอเค พ่อจะให้คนไปสืบ”

“ใช่สิ ลูกสาว ลูกจะกลับบ้านเมื่อไหร่”

ลูกพี่หลินถามจบ ปลายสายก็มีเสียงบ่นอุบอิบ

“เห้อ เด็กสาวคนนี้ พ่อหาสามีให้ดีตั้งขนาดไหน ทำไมไม่รู้จักตอบแทนพระคุณ” หลังจากลูกพี่หลินบ่นพึมพำก็วางสาย แล้วจึงเรียกพวกลูกน้องของตัวเองมา

“ไปสืบเอา ว่าช่วงนี้หลานชายผมได้ไปทำอะไรใครไว้ไหม?” ลูกพี่หลินถาม

“ไม่ต้องสืบแล้ว ลูกพี่ใหญ่ ได้ข่าวมาแล้ว เป็นคนนอกพื้นที่” ผู้ชายผมยาวคนหนึ่งพูด: “ลูกพี่ใหญ่ พวกเราต้องไปช่วยไหม”

“อย่าพูดเหลวไหลได้ไหม นั่นเป็นภรรยาหลานชายผม เธอถูกจับไป ผมเป็นลุง ไม่ช่วยไม่ได้เหรอ?”

“รีบเตรียมรถให้ผม ให้พวกเพื่อนๆ ไปฆ่า”

“แม่งเอ้ย กลุ่มคนนอกพื้นที่พวกนี้ กล้าจริงๆ เลยนะ นี่ไม่ใช่ว่ากระตุกหางเสือเหรอ?” ลูกพี่หลินทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ

……

พอหลินชิงชิงวางสาย คิ้วก็ขมวด: “แค่คนคนเดียวซวยไปทั้งครอบครัว ผู้ชายคนนี้มีความแค้นอะไรกับพี่ชายฉันกันแน่?”

หลี่ฝางก็รู้สึกแปลกๆ : “เรื่องนี้เกินไปแล้วจริงๆ”

“เรื่องจบ กลัวว่าพี่หมิงจะต้องเอาพวกเขาตาย” หลี่ฝางรู้สึกว่าเรื่องนี้จางกงหมิงจะต้องทำแน่

ไม่นานนัก ถังหยู่ซวนก็มา พอเขามา หลินชิงชิงก็นั่งไม่อยู่: “โทรหาพี่ชายฉันไม่ติด ฉันต้องไปดู ดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“พี่ พี่ไปเถอะ” หลี่ฝางพยักหน้าพูด

พอหลินชิงชิงไป ถังหยู่ซวนก็ถาม: “เสี่ยวฝาง พี่หมิงเกิดเรื่องเหรอ?”

“คุณรู้ได้ไง?” หลี่ฝางถาม

“เมื่อกี๊ที่ผมมา เห็นหลายร้านที่ปู๋เย่เฉินถูกทุบตี ผมคิดในใจ นั่นไม่ใช่ถิ่นของพี่หมิงเหรอ?ใครกันกล้าขนาดนั้น แม้แต่ถิ่นของพี่หมิงยังกล้าแตะต้อง”

“พอดีว่าผมมีเพื่อนๆ อยู่ตรงนั้นพอดี บอกว่าเช้าวันนี้มีกลุ่มคนนอกพื้นที่มา แล้วพุ่งมาที่พี่หมิง”

“เหมือนว่าพี่หมิงหลอกพวกเขาไปหลายล้าน ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า”

“ร้ายล้านขึ้น?” หลี่ฝางกัดฟัน ไม่น่าล่ะอีกฝ่ายโหดขนาดนั้น แม้แต่ภรรยาของจางกงหมิงก็กล้าจับไป

“คุณยังรู้อะไรมาอีก?”

“ไม่มีแล้ว” ถังหยู่ซวนส่ายหน้า พูด: “ผมรู้แค่ว่ากลุ่มนั้นยังไม่ไป”

“กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ” ถังหยู่ซวนยืนยัน

จางกงหมิงออกมาจากโรงพยาบาล ขับรถไปที่ปู๋เย่เฉิน รถวิ่งไปอย่างอุตลุดตลอดทาง ชนรถไปหลายคัน ไฟแดงไฟเขียวอะไร จางกงหมิงก็ไม่สน

ตำรวจจราจรตามรถของจางกงหมิง สุดท้ายก็มีตำรวจคนหนึ่งจำได้ว่านี่คือรถของจางกงหมิง จึงหยุดลง

พอจางกงหมิงกลับไปที่ปู๋เย่เฉิน ก็มาที่ร้านชาร้านหนึ่ง

ในร้านชา ไอ้หน้าหนวดคนหนึ่งนั่งจิบชาสบายๆ ด้วยท่าทางสงบนิ่ง

“ภรรยาผมละ!” จางกงหมิงเข้าไป จับคอเสื้อไอ้หน้าหนวดไว้ ถามอย่างเย็นชา

ไอ้หน้าหนวดยิ้ม มองจางกงหมิง: “ภรรยาคุณอยู่ตรงหน้านั่น”

“ห่า!” จางกงหมิงปล่อยไอ้หน้าหนวด หันไปก็คือตรงข้ามนั้น

แต่เขาเพิ่งลุกขึ้น ไอ้หน้าหนวดก็พูด: “หยุด ถ้าคุณกล้าออกไปจากห้องนี้ ผมจะฆ่าภรรยาคุณทันที!”

“คุณพูดอะไร?!” จางกงหมิงหันไปมองไอ้หน้าหนวด ใบหน้าดุดัน: “ถ้าคุณกล้าแตะต้องภรรยาผมแม้แต่เส้นผมเดียว ผมจะให้คุณทั้งหมดตายที่นี่ คุณเชื่อไหม?”

“เชื่อ เชื่อแน่นอน” ไอ้หน้าหนวดไม่กลัววสักนิด หลับใจเย็นผิดปกติ: “จางกงหมิงเป็นถึงลูกพี่ใหญ่ของเขตเมืองตะวันออก นี่คือก็ยังเป็นเขตเมืองตะวันออก ถิ่นของคุณ”

“ข้างล่างร้านชานี้ ต่างก็เป็นคนของคุณ”

“ถ้าคุณจะให้พวกเราตาย แค่พูดคำเดียวก็ได้แล้ว”

ไอ้หน้าหนวดมองจางกงหมิง พูด: “ก็แค่ ถ้าพวกเราตาย ภรรยาของคุณก็ต้องตายไปกับพวกเราด้วย”

“ทำใจได้ไหมถ้าภรรยาคุณตาย?” ไอ้หน้าหนวดยิ้มนิดๆ

จางกงหมิงตะลึง ตะลึงอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับ

ภรรยาของจางกงหมิง คือจุดอ่อนของเขา ไอ้หน้าหนวดทำแบบนี้ เท่ากับจับจุดอ่อนของจางกงหมิง

จางกงหมิงไม่รู้จะทำอย่างไรทันที

“พี่หน้าหนวด มีอะไรก็มาจัดการผม ทำไมต้องจัดการภรรยาผมด้วย!”

“ไม่ว่าคุณจะเอาเงิน หรือว่าชีวิต ผมให้ได้หมด”

“ขอร้องล่ะปล่อยภรรยาผมเถอะ!” สีหน้าจางกงหมิงมองไอ้หน้าหนวดอย่างหมดหวัง

ไอ้หน้าหนวดดื่มชาไปอึกหนึ่ง มองจางกงหมิง สักพักเขาจึงพูด: “จางกงหมิง คุณกล้าจริงๆ เลยนะ กล้าติดเงินพวกเรา แล้วยังติดถึงสองล้านกว่า ผิวขาวขนาดนั้น ทำไมใจถึงได้ดำขนาดนั้น!”

สีหน้าจางกงหมิงเปลี่ยน มองไอ้หน้าหนวด ไอ้หน้าหนวดตบมือ ผู้ชายที่ตัวเต็มไปด้วยเลือดก็ถูกพาเข้ามา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท