NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 96

ตอนที่ 96

บทที่96 ลูกพี่หลินข่มขู่

สีหน้าไอ้หน้าหนวดตื่นตระหนกไป เขาถือจุดอ่อนของจางกงหมิงไว้ แต่ไม่มีของลูกพี่หลิน

ไอ้หน้าหนวดทำเป็นนิ่งสงบ จิบชา พูด: “ลูกพี่หลินยังมีงานอดิเรก ชอบกินเนื้อคนด้วย?”

“ผมก็แค่เปรียบเทียบน่ะ เนื้อเหม็นๆ บนตัวคุณ ถึงต้มสุกจนโรยผงเครื่องเทศหอมๆ ก็ยังกลัวว่าพวกสัตว์จะไม่กิน” ลูกพี่หลินพูดยิ้มๆ อย่างเย็นชา: “แต่ได้ยินว่าบนเขาชิงหยุนมีหมาป่าดุร้าย ไม่รู้ว่าพวกมันจะชอบเนื้อคุณไหม”

ไอ้หน้าหนวดไม่ตกใจ แต่พูด: “ในเมื่อลูกพี่หลินจะเอาเนื้อหนังของผมไปต้มแล้วป้อนหมาป่า งั้นก็ไปป้อนสิ”

“ทำไม คุณไม่กลัว?” ลูกพี่หลินถามยิ้มๆ

“ผมจะกลัวอะไร?พวกเราคือกลุ่มคนสิ้นหวัง พึ่งพาโชคชะตา” ไอ้หน้าหนวดพูดอย่างดูถูก: “แต่ภรรยาของหลานชายคุณต่างกัน เธอเกิดมาอย่างน่าทะนุถนอม แต่งงานอย่างมีคุณค่า”

“ให้เธอตายไปกับพวกเรา คุณทำใจได้เหรอ?” ไอ้หน้าหนวดเงยหน้ามองลูกพี่หลิน

“แน่นอนว่าไม่!” ลูกพี่หลินพูด: “ดังนั้นผมก็เลยให้คุณบอกเงื่อนไขไง!”

“พวกคุณเสนอหน้ามา อย่างมากก็แค่ต้องการเงิน ฆ่าคนไม่มีประโยชน์ต่อพวกคุณหรอก” ลูกพี่หลินถามนิ่งๆ : “พูดมาสิ พวกคุณต้องการเท่าไหร่?”

“เงื่อนไขผมพูดไปแล้ว”

ไอ้หน้าหนวดจ้องจางกงหมิง พูด: “ผมบอกแล้วไง คนอย่างผมไม่ชอบคนที่หลอกผมจากโต๊ะพนันที่สุด ใครก็ตามที่หลอกผม ผมจะตัดมือเขา”

“เงื่อนไขแรกของผม ก็คือมือข้างหนึ่งของหลานชายคุณจางกงหมิง”

ไอ้หน้าหนวดพูด: “แค่ทำเงื่อนไขนี้ให้ผมพอใจ แล้วพวกเราค่อยพูดเรื่องเงิน”

“แม่งเอ๊ย ตัดมือหลานชายของผม มีประโยชน์อะไรกับคุณ!” ลูกพี่หลินต่อว่าด้วยความโกรธ

เวลานี้ จางกงหมิงยกกริชมาอีกครั้ง แล้วจับแขนของตัวเองอีก ดีที่ลูกพี่หลินคิดไว้นานแล้ว เลยห้ามไว้ได้ก่อน

“ไอ้เด็กนี่!”

ลูกพี่หลินแย่งกริชในมือจางกงหมิงมา: “ในเมื่อคุณชอบยิงจื่อขนาดนั้น งั้นลุงก็จะทำให้คุณ”

“แค่มือข้างเดียว ไม่มีก็คือไม่มีสิ” ลูกพี่หลินพูดอย่างทำอะไรไม่ได้: “มือข้างหนึ่งแลกกับชีวิตภรรยาคุณ คิดแล้วก็คุ้มค่า”

ลูกพี่หลินพูด: “ช่างเถอะ คุณทำเองไม่ลงหรอก เดี๋ยวลุงช่วยคุณเอง”

“ลูกชาย ทนไว้นะ” ลูกพี่หลินพูดกับจางกงหมิง

ลูกพี่หลินพูดจบ ก็จะตัดมือ

แต่ตอนที่กริชปักลงไป จู่ๆ ลูกพี่หลินก็เคลื่อนไหวฝีเท้า กระโดดตัวขึ้นมา แทงไปที่ไอ้หน้าหนวด

ไอ้หน้าหนวดไม่ทันคิดว่า จะถูกเทคนิคการแสดงที่เหมือนจริงของลูกพี่หลินเมื่อกี๊หลอกโดยสิ้นเชิง

ไอ้หน้าหนวดหยิบกาน้ำชาร้อนๆ ขึ้นมา สาดไปที่ตัวลูกพี่หลินโดยตรง แต่น้ำร้อนแค่นั้น จะหยุดเสือตัวหนึ่งได้อย่างไรกัน?

ลูกพี่หลินเข้ามา แล้วเอากริชแทงไปที่ไหล่ไอ้หน้าหนวด

กริชครึ่งหนึ่งถูกแทงเข้าไป ไอ้หน้าหนวดทนความเจ็บไว้ หันไปมองลูกพี่หลิน: “ลูกพี่หลิน การแสดงของคุณเมื่อกี๊ แสดงได้ดีจริงๆ !”

“หึ ถ้าไม่หลอกคุณ ผมจะแอบโจมตีสำเร็จเหรอไง?”

ลูกพี่หลินหัวเราะ: “จากปุ่มด้านๆ ที่มือคุณแล้ว คงฝึกศิลปะการต่อสู้มาสินะ!”

“ดูคุณก็เป็นคนเจ้าเล่ห์มืออาชีพอยู่นะ ผมยังกลัวว่าจะจัดการคุณไม่ได้” ลูกพี่หลินเห็นคนมาไม่น้อย การเคลื่อนไหวของไอ้หน้าหนวดคนนี้ ไม่เหมือนกับเป็นคนเจ้าเล่ห์มือใหม่

จัดการกับคนแบบนี้ ชะล่าใจไม่ได้เด็ดขาด

“เอาเถอะ มือของหลานชายผมจะตัดไม่ได้ คุยเรื่องคืนเงินเถอะ หลานชายผมเอาเงินคุณไปเท่าไหร่?” ลูกพี่หลินถามอย่างเย็นชา

ไอ้หน้าหนวดหน้าหม่นหมองลง ไม่ส่งเสียงใดๆ

“ห่าเอ๊ย ยังจะเอามือของหลานชายผมให้ได้สินะ” ลูกพี่หลินออกแรง กริชก็แทงลงไปอีกครั้ง

“ผมจะบอกคุณให้นะ สายตาผมมีแต่หลายชายผมเท่านั้น หลานชายผมจะได้รับบาดเจ็บอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไม่งั้น ผมเอาคุณตายแน่”

“ถ้าคุณยังจะมายุ่งและลองดีกับผมล่ะก็ ผมจะเล่นงานคุณให้ถึงที่สุด”

“ยิงจื่อคือภรรยาของหลานผม ไม่ใช่ของผม ในใจผม ไม่สำคัญขนาดนั้น”

“ถ้าคุณยังบีบบังคับผม อย่างมากชีวิตของผู้หญิงคนนั้นก็จะเอาให้คุณ แต่ ครั้งนี้คุณพาพรรคพวกมาไม่น้อยเลย เพื่อนๆ ของคุณ รวมกับคุณแล้ว ตั้งหลายชีวิตมาทดแทนยิงจื่อ ผมว่าก็คุ้มค่าดี”

“ถึงพวกคุณต่างต้องพึ่งโชคชะตา งั้นถ้าโชคชะตาหลายคนนั้นรวมกันแล้ว ก็คุ้มค่ากับชีวิตของยิงจื่อ” ลูกพี่หลินพูดด้วยใบหน้าเย็นชา

“จางกงหมิง คุณเห็นด้วยกับที่ลุงคุณพูดไหม?” ไอ้หน้าหนวดยิ้มนิดๆ มองจางกงหมิง

ไอ้หน้าหนวดคนนี้ยิ่งดูยิ่งไม่ธรรมดา ถึงกริชจะแทงไปที่ไหล่เขาแล้ว เขากลับยังนิ่งได้

จางกงหมิงตาแดงทันที คอของเขาถูกลวก จนพูดไม่ออก

“ยุให้รำ ตำให้รั่วนี่” ลูกพี่หลินยิ้มอย่างเยือกเย็น: “คุณอยากตายใช่ไหม?”

“จางกงหมิง แค่ผมร้องตะโกนไปตรงข้ามนั่น ภรรยาของคุณก็หมดชีวิตแล้ว!” ไอ้หน้าหนวดมองจางกงหมิง พูดต่อ

จางกงหมิงร้อนใจสุดๆ อยากจะไปช่วยเธอทันที อยากช่วยไอ้หน้าหนวดที่อยู่ในเงื้อมมือลูกพี่หลิน

แต่พอเขามา ลูกพี่หลินกลับดึงกริชออก แทงไปที่คอไอ้หน้าหนวด: “ไอ้เด็กนี่ คุณหยุดเลยนะ!”

“ถ้าคุณก้าวไปอีก ผมจะฆ่าเขาทันที!” ลูกพี่หลินพูดอย่างเย็นชา

จางกงหมิงหยุดลงทันที เขาใช้มือทำสัญลักษณ์ ความหมายคืออย่า อย่า ขณะเดียวกันใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว

“เห้อ ไอ้เด็กคนนี้ คุณไร้ชีวิตชีวาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ลูกพี่หลินมองจางกงหมิงในตอนนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง

“ไสหัวไปข้างๆ ซะ” ลูกพี่หลินพูดด้วยความโกรธ

“ในเมื่อผมมาแล้ว งั้นเรื่องนี้ก็ให้ผมจัดการเถอะ วางใจเถอะ ยิงจื่อผมจะพยายามช่วยสุดกำลัง ถ้าช่วยไม่ได้ อย่าว่าลุงละกัน” ลูกพี่หลินพูดด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยว: “แต่ผมจะให้คนพวกนี้ฝังไปพร้อมยิงจื่อ!”

ลูกพี่หลินเอากริชจี้ไปที่ไอ้หน้าหนวด บังคับให้เขาเดินไปข้างหน้า ออกจากร้านชานี้ ลูกพี่หลินถาม: “ยิงจื่ออยู่ห้องไหน?”

ไอ้หน้าหนวดขมวดคิ้ว ไม่อยากพูด แต่เวลานี้ ลูกพี่หลินก็ใช้กริชจี้ไปที่คอของไอ้หน้าหนวด

ไอ้หน้าหนวดรู้สึกว่าคอตัวเองเย็น ในใจเริ่มกลัว

“วัยรุ่น ถึงผมไม่รู้จักคุณ แต่ผมว่าคุณน่าจะรู้จักผม ผมลูกพี่หลินเป็นนักเลงมาทั้งชีวิต เจอคนมาทุกประเภท มีประสบการณ์ไปทุกที่ อย่าว่าแต่ภรรยาของหลานชายเลย ถึงคุณเอาชีวิตของภรรยาผมมาขู่ผม ผมก็ทำคุณแบบนี้เช่นกัน!” ลูกพี่หลินพูดอย่างเย็นชา

“รีบพูดมาว่ายิงจื่ออยู่ห้องไหน ไม่งั้นตอนนี้ผมจะแทงคุณตายแน่” ลูกพี่หลินพูดเร่ง

ไอ้หน้าหนวดยื่นนิ้วไปหนึ่งนิ้ว ชี้ไปที่ห้องตรงข้าม

ลูกพี่หลินเดินเข้าไป แค่ทีหนึ่งก็เตะประตูห้องนั้นออก

เห็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งถูกจับไว้ที่นั่น กลุ่มผู้ชายนั่งด้านใน ดื่มชานิ่งๆ ลูกพี่หลินเตะประตูห้องออกเวลานั้น ก็มีคนเอามีดชี้ไปที่ ยิงจื่อ ภรรยาของจางกงหมิงทันที

“ลุงคะ!” ยิงจื่อก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้น เธออยู่กับจางกงหมิงมาหกปี และก็ผ่านเรื่องราวหนักๆ เจอปัญหาใหญ่ๆ มานับไม่ถ้วน

“ยิงจื่อ ไม่ต้องกลัว” ลูกพี่หลินพูดปลอบ

“โอเค ผมจะปล่อยคุณ” ลูกพี่หลินทิ้งกริชลง ดันไอ้หน้าหนวดเข้าไปในห้องชานี้

ลูกพี่หลินผิวปาก แล้วก็มีกลุ่มคนวิ่งเข้ามาทันที คนกลุ่มนี้ต่างถือมีด จ้องเขม็งไปที่กลุ่มของไอ้หน้าหนวด

“รีบๆ เถอะ คุณอยากได้เท่าไหร่?”

“ถ้าคุณยังพูดเหลวไหลห่าอะไรอีก ผมก็จะสั่งคำสั่งเดียว เอาพวกคุณทั้งแก๊งหั่นเป็นชิ้นๆ แน่!” ลูกพี่หลินจุดบุหรี่ให้ตัวเอง พูดอย่างเย็นชา

ไอ้หน้าหนวดมองลูกพี่หลิน สูดลมหายใจ

“ดูเหมือนมือของจางกงหมิง ผมคงจะหั่นออกไม่ได้แล้ว” ไอ้หน้าหนวดพูดอย่างผิดหวังหน่อยๆ

“ยังอยากจะหั่นมือของหลานชายผมอีกนะ คุณนี่ไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม” ลูกพี่หลินชี้ไปที่กลุ่มเพื่อนของไอ้หน้าหนวดด้านหลัง: “พวกเขาเป็นนักเลงกับคุณใช่ไหม?คุณไม่คิดถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงเพื่อนๆ พวกนี้ที่ช่วยคุณ”

“ถ้ายังกล้าคิดเรื่องมือของหลานชายผม ผมก็จะหั่นเพื่อนๆ พวกนี้ที่อยู่หลังคุณก่อน!” ลูกพี่หลินพูดอย่างเย็นชา

ไอ้หน้าหนวดขมวดคิ้ว มองลูกพี่หลินอย่างไร้เรี่ยวแรง พูด: “ผมต้องการสิบล้าน!”

“เท่าไหร่!” ลูกพี่หลินทำตาโตถามไป เหมือนว่าฟังไม่เข้าใจ

“ผมบอกว่าต้องการสิบล้าน!” ไอ้หน้าหนวดพูดอีกครั้ง: “อีกอย่างผมต้องการเงินสด”

“แม่งเอ๊ย!” ลูกพี่หลินทิ้งบุหรี่ไปที่พื้น หลังจากใช้เท้าเหยียบไปหลายทีก็พูด: “หั่นให้ผมให้หมดเลย!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท