NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 100

ตอนที่ 100

บทที่100 ปีศาจที่ออกมาจากผับ

มู่เสี่ยวไป๋จ้องโหจื่ออยู่นาน: “คนคนนี้ใครน่ะ?ผมไม่เคยเห็นเขา”

“ผมกลับรู้สึกคุ้นๆ หน้า ลืมแล้วว่าเคยเจอที่ไหน” จางกงหมิงพิมพ์ในโทรศัพท์

มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างร้อนใจ: “ไม่ต้องสนว่าเขาคือใคร ชิงชิง ในที่สุดผมก็เจอคุณแล้ว หลายวันนี้คุณหนีไปไหนมา!”

“คุณหาฉันทำไม ฉันไม่ได้คิดคุณซะหน่อย” หลินชิงชิงกอดอก ขึ้นรถจะออกไป

ไม่ง่ายเลยที่มู่เสี่ยวไป๋เจอหลินชิงชิง จะให้เธอหนีไปง่ายๆ ได้อย่างไร?

“เงินนี่ไม่เอาแล้วใช่ไหม?งั้นผมเอากลับไปแล้วนะ” มู่เสี่ยวไป๋ถือเงิน เดินไปที่รถของตัวเอง

เวลานี้ ไอ้หน้าหนวดออกมาจากรถ เอาปืนจ่อไปที่หัวมู่เสี่ยวไป๋: “น้องชาย กุญแจรถ”

มู่เสี่ยวไป๋มองไอ้หน้าหนวดด้วยใบหน้าน่ากลัว: “ผมเป็นถึงคนของตระกูลมู่แห่งเมืองเอก”

“กุญแจรถ” ไอ้หน้าหนวดพูดซ้ำ

“คุณคงไม่คิดว่าในปืนไม่มีกระสุนหรอกนะ?” ไอ้หน้าหนวดหัวเราะช้าๆ ทำท่าเหนี่ยวไก

“เอามา!” มู่เสี่ยวไป๋รีบให้คนขับรถยื่นกุญแจรถไป

“พี่ชาย เอากุญแจรถให้แล้ว เอาปืนออกไปได้ยัง ถ้ากระสุน ……” มู่เสี่ยวไป๋กลืนน้ำลายด้วยความกลัว

“เอาเงินมาให้ผมด้วย” ไอ้หน้าหนวดหัวเราะ คิดไม่ถึงว่าจะได้รับโชคอย่างไม่ตั้งตัว

ทั้งหมดนี้ มีถึงสิบห้าล้าน มีเงินนี่ จะออกจากประเทศก็ย่อมได้

“คุณไม่ยอม?” ไอ้หน้าหนวดถามมู่เสี่ยวไป๋อย่างเย็นชา

“พี่ชาย ล้อกันเล่นหรือไง เทียบกับชีวิตแล้ว เงินก็เท่านั้นแหละ” มู่เสี่ยวไป๋คลายมือออกทันที เอาถุงวางไว้พื้น

ไอ้หน้าหนวดเอากุญแจรถให้ลูกน้องตัวเอง พูด: “พวกคุณขับรถคันนั้น เอาเงินไป”

โหจื่อมองทุกอย่างนี่ด้วยรอยยิ้ม ไม่ถือโอกาสหนี

ไอ้หน้าหนวดกลับไปที่รถ ยิ้มแล้วพูดกับโหจื่ออย่างพอใจ: “ผมคิดว่าคุณจะหนีไปแล้วซะอีก”

“พี่ชาย พี่มีปืน ผมจะกล้าหนีเหรอ?ถ้าผมหนี พี่เหนี่ยวไกใส่ผมจะทำไงครับ” โหจื่อพูดด้วยสีหน้ากลัวๆ : “อีกอย่าง พี่ดูขาผมสิ ตอนนี้ยังสั่นอยู่เลย จะให้ผมหนีไปไง!”

“ดูคุณขี้ขลาดขนาดนั้น ผู้ชายป่ะเนี่ย” ไอ้หน้าหนวดพูดด้วยใบหน้ารังเกียจ

“เมื่อไหร่จะปล่อยยิงจื่อ?” เวลานี้ ลูกพี่หลินเข้ามาถาม

ต้องบอกว่า ลูกพี่หลินกล้าสุดๆ ถึงไอ้หน้าหนวดถือปืนในมือ เขาก็ยังเดินเข้ามาด้วยมือเปล่า

“อีกยี่สิบนาที ถ้าคนของคุณไม่ตามมา ผมจะปล่อยเธอ” ไอ้หน้าหนวดพูด

“โอเค ผมเชื่อคุณ” ลูกพี่หลินมองไอ้หน้าหนวด: “ทางที่ดีอย่าหลอกผม ไม่งั้น ชีวิตครึ่งหลังของผมลูกพี่หลินจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น แค่ตามคุณให้ถึงที่สุดอย่างเดียว!”

ไอ้หน้าหนวดฟังเสร็จได้แต่ทำเสียงในลำคอใส่ ก็พูด: “ออกรถ!”

โหจื่อสตาร์ทรถ ขับออกไป

ส่วนบนหน้าลูกพี่หลิน ก็แสดงใบหน้าโหดร้าย: “ซุ่มโจมตีกันหรือยัง?”

“ลูกพี่ใหญ่ วางใจเถอะ ทุกสี่แยกมีคนแอบซุ่มไว้หมดแล้วครับ ไม่ว่าเขาหนีไปทางไหน ก็หลบพวกเราไม่พ้น”

“ก็แค่ กลุ่มนี้ถือว่าเจ๋งเลย ดันไม่ขับรถของตัวเอง แม่งเอ๊ย เครื่องติดตามก็ไร้ผล” ลูกน้องของลูกพี่หลินว่า

ลูกพี่หลินส่ายหน้า: “ไอ้หน้าหนวดคนนี้ มักทำให้ผมรู้สึกเป็นเดจาวู”

“อีกอย่าง เหมือนว่าเขาจะเข้าใจผมดี” ลูกพี่หลินรื้อฟื้นความจำไปอยู่นาน แต่ก็คิดอะไรไม่ออก

รถขับออกไปแค่ห้านาที จู่ๆ ไอ้หน้าหนวดก็พูด: “หยุดรถ เลี้ยวซ้าย”

“เข้าซอย?” โหจื่อถาม

“ใช่ เข้าไปในซอย” ไอ้หน้าหนวดพยักหน้า

โหจื่อทำตามที่กำชับ เข้าไปในซอยหนึ่ง ซอยนั้นลึกมาก มีมอเตอร์ไซค์เรียงราย

“คุณไปได้แล้ว”

ไอ้หน้าหนวดชี้ไปที่ซอย: “แต่รถต้องทิ้งไวนี่ รอพรุ่งนี้ค่อยมาขับใหม่”

“ทำไม?”

“เพราะว่านี่!” ไอ้หน้าหนวดไม่อยากอธิบาย ยื่นมือจะหยิบปืนทำให้โหจื่อตกใจ

ทันใดนั้น สีหน้าไอ้หน้าหนวดก็เปลี่ยน

เกิดอะไรขึ้น ปืนล่ะ?

ทำไมปืนหายไป?

“คุณหามันอยู่เหรอ?” ในมือของโหจื่อมีปืนอันหนึ่ง

“ทำไมไปอยู่ที่มือคุณล่ะ?” ไอ้หน้าหนวดมองโหจื่ออย่างหวาดกลัว พูดเสียงเยือกเย็น: “คืนผมมา”

“โอเค ให้คุณ”

โหจื่อถือปืน ส่งไปทางไอ้หน้าหนวด ไอ้หน้าหนวดแปลกใจหน่อยๆ ยื่นมือไปแย่ง

แค่ได้ยินเสียงปัง โหจื่อก็เหนี่ยวไก กระสุนยิงไปที่ไหล่ไอ้หน้าหนวด

พวกของไอ้หน้าหนวด หยิบมีดออกมาทันที มองโหจื่ออย่างเย็นชา

ไอ้หน้าหนวดกัดฟัน ทนความเจ็บ พูด: “คุณคือคนของลูกพี่หลิน?”

“ไม่ใช่” โหจื่อส่ายหน้า

“งั้นคุณก็คือคนของจางกงหมิง” ไอ้หน้าหนวดกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว

“ก็ไม่ใช่อีก” โหจื่อส่ายหน้าอีกครั้ง

“งั้นคุณเป็นใคร?” ไอ้หน้าหนวดขมวดคิ้ว

“ผมไม่ใช่ใครทั้งนั้น คุณไม่ได้อยากให้ผมเอาปืนคืนคุณหรอกเหรอ?ผมเอากระสุนคืนคุณก่อน แล้วค่อยเอาปืนคืน” โหจื่อหัวเราะพูด: “คุณว่าแบบนี้ได้ไหม?”

“นี่น้องชาย อย่าหยอกผมอีกเลย ในเมื่อคุณไม่ใช่คนของลูกพี่หลิน และก็ไม่ใช่คนของจางกงหมิง งั้นแบบนี้ดีกว่า พวกเราเอาเงินแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง เป็นไง?”

ไอ้หน้าหนวดพูดล่อ: “แน่นอน ถ้าผู้หญิงคนนี้คุณชอบ ผมก็ให้”

“คุณนี่ใจกว้างจริงๆ ทั้งให้เงินทั้งให้คน ถามความเห็นเขายังล่ะ?” โหจื่อกลอกตาใส่ไอ้หน้าหนวด พูดอย่างหมดคำพูด

“ไงน้องชายสรุปว่าคิดยังไงกันแน่?” ไอ้หน้าหนวดพูด: “ในตลับมีแค่กระสุนสองนัด คุณเหนี่ยวไปแล้วนัดหนึ่ง ยังเหลืออีกนัด ส่วนด้านผมมีถึงเจ็ดแปดคนนะ”

“เหรอ?มีแค่กระสุนลูกเดียวเหรอ?”

โหจื่อพูดจบ ก็เหนี่ยวไปนัดหนึ่งที่ไหล่อีกข้างของไอ้หน้าหนวด。

ตอนนี้ ทุกคนต่างเคลื่อนไหวเพื่อก่อการร้าย ไอ้หน้าหนวดเจ็บจบหน้ามีเหงื่อไหล ไหล่ของเขานี้ เดิมทีถูกลูกพี่หลินแทงไปแล้ว แล้วเมื่อกี๊ โหจื่อยิงเขาไปอีกนัดหนึ่ง แล้วยังยิงไปที่พื้นอีก

แม่งเอ๊ย นี่จงใจสินะ?

“โอเค ตอนนี้ผมไม่มีกระสุนแล้ว” โหจื่อยักไหล่ พูด: “พวกคุณมาหั่นผมสิ”

“ไป!” ไอ้หน้าหนวดมองโหจื่ออย่างเย็นชา ตะโกนออกไป

เพื่อนที่อยู่ด้านหลังเขาขยับ โหจื่อก็เหนี่ยวไกอีกครั้ง ยิงไปที่ขา

“คุณไม่ซื่อตรงเลยนะ ไม่ได้บอกเหรอว่าในปืนมีแค่สองลูกล่ะ?ทำไมยังมีอีกล่ะ”

โหจื่อยิงไป ทุกคนก็ไม่กล้าขยับแล้ว แล้วก็มองออกกันทันทีว่า ฝีมือปืนของโหจื่อไม่เลว

สองนัดก่อน ยิงไปที่ไหล่ไอ้หน้าหนวดอย่างไม่เข้าข้างใคร นอกจากบอกได้ว่าฝีมือเหนี่ยวไกของโหจื่อนั้นแม่นแล้ว ยังบอกได้ว่าเขาไม่มีหัวใจแห่งนักฆ่า

“น้องชาย เงินคนละครึ่ง ปล่อยพวกเราเถอะ” ไอ้หน้าหนวดพูพดอย่างผิดหวัง เขารู้ ว่าตัวเองขอร้องโหจื่อไม่อยู่

“เงินผมต้องการหมด” โหจื่อพูด

“น้องชาย คุณจะโลภไปแล้ว นี่คือเงินที่พวกเราเกือบเสี่ยงชีวิตมากว่าจะได้นะ!” ไอ้หน้าหนวดมองโหจื่ออย่างเยือกเย็น: “ให้คุณครึ่งหนึ่ง ก็ไม่เลวแล้ว”

“ถ้าคุณไม่ยอม ผมก็จะฆ่าคุณทั้งหมด ถึงตอนนั้น เงินก็ต้องคืนผมด้วย ไม่ใช่เหรอ?” โหจื่อพูดหัวเราะ

“ห่าเราทั้งหมด?ฝันหวานหรือไง คุณมีแค่หนึ่งปืน แต่ผมมีพรรคพวกตั้งมากมาย” ไอ้หน้าหนวดพูด

“นี่น่าจะเป็นปืนรุ่นP229ของเยอรมันสินะ อันหนึ่งใส่กระสุนได้สิบสองนัด พวกคุณทั้งหมดเก้าคน ผมใช้ไปแล้วสามนัด ตอนนี้เหลือเก้านัด พอดีกับพวกคุณเก้าเลย” โหจื่อพูดนิ่งๆ

“แล้วเรื่องอะไรที่คุณต้องคิดว่ากระสุนในตลับนั้นเต็มล่ะ” ไอ้หน้าหนวดขมวดคิ้ว

“ผมไม่รู้ ผมแค่กำลังเดิมพัน เดิมพันว่ามีกี่นัด ที่ผมเหนี่ยวไกเมื่อกี๊คุณก็เห็นแล้วนี่ นี่มีกระสุนกี่นัดนะ ผมก็ยิงระเบิดได้เท่านั้น ไม่งั้น พวกเรามาเล่นไหมล่ะ?” โหจื่อยิ้มออกมา

ปีศาจ!

นี่มันต้องปีศาจแน่ !

กระสุนในตลับเต็ม ไอ้หน้าหนวดไม่กล้าเดิมพัน ถ้าเดิมพัน เขาต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยแน่ เขาแพ้ไม่ได้ เพราะถ้าแพ้แล้ว ชีวิตเพื่อนๆ เขาทั้งหมด ก็จะไม่มี

“เงินทั้งหมดเอาคืนคุณเลย” ไอ้หน้าหนวดพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง

“แบบนี้ถูกไหม” โหจื่อยิ้มอย่างพอใจ เอาถุงเงินทั้งหมดวางไว้บนรถ

พอวางเงินเสร็จ โหจื่อเดินไปตรงหน้ายิงจื่อ

“น้องชาย คุณมีเงินตั้งมากขนาดนั้น ไม่ต้องเอาผู้หญิงไปหรอก ทิ้งเธอให้ผมเถอะนะ” ไอ้หน้าหนวดขอร้อง

โหจื่อหัวเราะ พูด: “อย่าเข้าใจผิด ผมไม่มีทางพาเธอไป”

“สาวสวย เหนี่ยวไกเป็นไหม?ถ้าไม่เป็น ผมช่วยสอนคุณได้” โหจื่อเอาปืนใส่มือยิงจื่อ พูดด้วยรอยยิ้มหม่นๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท