NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 104

ตอนที่ 104

บทที่104 ตู้เฟยกลับมาแล้ว

หลังจากฟ้าสาง ร้านสโมบาร์ก็ถูกตำรวจปิดล้อมเพื่อตรวจค้น

“เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ในโรงพยาบาล หลี่ฝางมองถังหยู่ซวนก่อนจะถามขึ้น

ถังหยู่ซวนส่ายหัว: “ฉันรู้แค่ว่าหลี่หลงกับพี่เฉียง เมื่อคืนถูกฆ่าแล้ว จางกงหมิงน่าจะเป็นคนทำ”

“พี่หมิงงั้นเหรอ?เขาฆ่าหลี่หลงกับต้าเฉียงไปทำไม?” หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ

“หลี่ฝาง คุณว่าคนที่ลักพาตัวภรรยาของพี่หมิงไป หลี่หลงกับต้าเฉียงจะเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า?” ถังหยู่ซวนพูดว่า: “ฉันได้ยินเพื่อนร่วมงานของฉัน ในช่วงสุดท้าย ต้าเฉียงทำตัวลับล่อๆ เหมือนจะมีเรื่องอะไรสำคัญๆ ปิดบังอยู่”

“แถมยังใกล้ชิดกับหลี่เทียนอีก”

“พี่เฉียงเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น คืนนั้นที่บาร์ จางกงหมิงทำเขาขนาดนั้น เขาจะต้องแค้นแน่นอน”

ถังหยู่ซวนคิดฟุ้งซ่าน ก่อนจะพูดความจริงออกมา

หลี่ฝางคิดไป ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล

“ถ้าเกิดพวกเขาไม่ได้บงการอยู่เบื้องหลัง พี่หมิงเองก็คงไม่ลงมือร้ายแรงขนาดนั้น” หลี่ฝางคิดไปด้วยความกลัว

หลี่หลงกับต้าเฉียงยังมีชีวิตดีๆ อยู่เลย อยู่ๆ ก็มาตายแบบนี้

“แล้วตอนนี้พี่หมิงล่ะ เขาถูกตำรวจจับไปหรือเปล่า?” หลี่ฝางถามขึ้นด้วยความตึงเครียด

ถังหยู่ซวนส่ายหัว: “ฉันไปสืบมา เหมือนกับว่าเมื่อคืนพี่หมิงจะหนีไปแล้ว”

“พี่หมิงไม่ได้โง่ เขาฆ่าคนไป ก็ต้องหนีอยู่แล้ว” ถังหยู่ซวนพูด: “แต่เมื่อวานตำรวจไปจับคนหนึ่งได้ที่ร้านสโมบาร์ เหมือนกับว่าเขาจะเป็นลูกน้องของพี่หมิง เขาสารภาพชื่อคนร้ายจนหมด”

“ชายใส่ต่างหูคนนั้น หลี่ฝาง คุณน่าจะจำได้นะ?” ถังหยู่ซวนถามขึ้น

“เขาเหรอ?” หลี่ฝางเคยเจอหลายครั้งมาก เลยจำได้โดยปริยาย

หลี่ฝางพูดขึ้นด้วยความสงสัยว่า: “คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ขนาดนี้ แบกรับถึงสองชีวิตเอาไว้ด้วยกัน”

“นั่นสิ เกรงว่าเขาจะได้กินลูกปืนน่ะ” ถังหยู่ซวนถอนหายใจ: “สังคมในตอนนี้ คนที่จะซื่อสัตย์เหมือนกับชายที่ใส่ต่างหูเหลือน้อยมากแล้ว”

“คุณไม่ได้เป็นแบบนั้นเหรอ?” หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน: “เมื่อวานถือเงินอยู่ห้าล้าน คุณก็ไม่ได้หนีไปใช่ไหม?”

ถังหยู่ซวนส่ายหัว: “ฉันแค่ไม่ได้คดโกงอะไร แต่ชายที่ใส่ต่างหูนั่นซื่อสัตย์จริงๆ เพื่อพวกพ้อง ก็ยอมเอาชีวิตมาแลก”

“เห้อ”

หลี่ฝางถอนหายใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

วันต่อมา ก็เป็นวันธรรมดาๆ

พี่ชิงชิงหนีไปอีกแล้ว และก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหน

พี่หมิงออกไปแล้ว ถูกมู่เสี่ยวไป๋รับไป เพียงแต่หลี่ฝางยังรู้

เมื่อผ่านไปสิบกว่าวัน แผลที่ท้องของหลี่ฝาง ก็กลับมาดีขึ้นมาก

ในเวลาสิบกว่าวันนี้ อารมณ์ความรู้สึกของหลี่ฝางกับลู่หลุ่ย ก็ดีขึ้นไม่น้อยเลย

คะแนนสอบเข้ามหาลัยออกมาแล้ว หลี่ฝางไม่ได้สอบตั้งหลายวิชา คะแนนเลยออกมาเละเทะ ถ้าเกิดว่าจะพูดถึงการเลือกมหาลัย แม้แต่มหาลัยระดับสามก็ยังไม่เอาเขาเลย

แต่ทว่าหลี่ต๋าคางเองก็ไม่ได้สนใจแล้ว มหาลัยในเมืองเอกต่างๆ ก็ให้หลี่ฝางเป็นคนเลือก

แต่หลี่ฝาง กำลังรอลู่หลุ่ยเลือกอยู่ ลู่หลุ่ยไปที่มหาลัยไหน หลี่ฝางเองก็จะไปที่มหาลัยนั้น

ตอนที่ออกจากโทรพยาบาลนั้น ตู้เฟยเองก็มาด้วย

ด้านหลังของตู้เฟยมีบอดี้การ์ดสองคนตามมา

“แม่งเอ้ย ยังกล้ามาอีกเหรอ?” เมื่อเห็นตู้เฟย ถังหยู่ซวนก็เดินเข้าไปหาด้วยความเย็นชา

แต่ยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ตู้เฟย ก็ถูกบอดี้การ์ดขวางถังหยู่ซวนเอาไว้

“จะทำอะไร นี่มันเพื่อนของฉัน” ตู้เฟยดุออกไป จนบอดี้การ์ดสองคนนั้นถอยไป

จากนั้น ตู้เฟยยิ้ม พลางมองถังหยู่ซวนแล้วพูด: “ถังหยู่ซวน คุณไปอยู่กับพวกเกเรพวกนั้นมันหมายความว่าอย่างไรกัน มากับฉันดีกว่า ถ้าคุณไปกับฉัน คุณไม่ต้องทำอะไรเลย ฉันจะให้คุณเดือนละสามพัน เป็นไง?”

“บ้าเหรอ ถึงจะให้สามหมื่น ก็ไม่มีทางหักหลังหลี่ฝาง” ถังหยู่ซวนพูดเสียงเย็นชา

“โง่ฉิบหายเลย” ตู้เฟยมีสีหน้าจริงจังขึ้น

“ถังหยู่ซวน พ่อคุณเป็นคนส่งของใช่ไหม?” ตู้เฟยถาม

“คุณถามทำไม?” ถังหยู่ซวนถามขึ้นมา

“ไม่ทำไมหรอก ก็แค่ถามไปงั้นแหละ ยังดีที่เจ้าของของบริษัทนั้นมีสัมพันธ์ที่ดีต่อครอบครัวของฉัน อยากให้ฉันไปทักทายหน่อยไหม ให้เขาดูแลพ่อของคุณให้ดีๆ หน่อย?” ตู้เฟยพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“มีเรื่องอะไรคุณก็มาหาฉัน ถ้าเกิดคุณกล้ามาแตะต้องพ่อของฉัน ฉันจะฆ่าคุณให้ตายเลย!” ถังหยู่ซวนขู่ด้วยความเย็นชา

ตู้เฟยหัวเราะหึๆ โดยที่ไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย

“มา คุณเก่งมากก็มาฆ่าฉันสิ!” ตู้เฟยโบกมือให้ถังหยู่ซวน พลางพูดท้าทาย

ถังหยู่ซวนเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว รวมไปถึงการที่ตู้เฟยมาขู่เรื่องพ่อของถังหยู่ซวนแบบนี้ ถังหยู่ซวนจะไปทนไหวได้อย่างไร?

หลี่ฝางเข้าไปขวางไม่ทัน ถังหยู่ซวนก็ปรี่เข้าไป ก่อนจะกำหมัดเพื่อจะต่อยตู้เฟย

นี่มันเป็นกับดักหลุมพรางชัดๆ เลยนี่หน่า!

ตู้เฟยถอยออกก้าวหนึ่ง บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็เข้ามา ก่อนจะกดถังหยู่ซวนลงที่พื้น

“คุณจะฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ?มาสิ ลุกขึ้นมาฆ่าฉันสิ!”

ถังหยู่ซวนถูกบอดี้การ์ดกดเอาไว้ ตู้เฟยยืนอยู่บนปลายหัวของเขา ก่อนจะหยอกล้อ: “เมื่อครู่ยังเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?เข้ามาทำเก่งให้ฉันเห็นอีกทีสิ”

พูดไป ตู้เฟยก็เตะถังหยู่ซวนเข้าไปทีหนึ่ง

หลี่ฝางปรี่เข้ามา ระหว่างที่ตู้เฟยไม่ระวังตัว ก็ผลักเขาลง

“คุณทั้งสองยังยืนอึ้งอะไรอยู่ เข้าไปทำร้ายเขา!” ตู้เฟยล้มลงกับพื้น ก่อนจะตะโกนไปหาบอดี้การ์ดของตัวเอง

ในตอนนั้นเอง พยาบาลในโรงพยาบาลรีบวิ่งเข้ามา

“ทำอะไรน่ะ ถ้าจะตีกันก็ออกไปตีกันข้างนอก!” พี่พยาบาลพูดว่า: “ถ้าเกิดกล้ามามีเรื่องในนี้ ฉันจะแจ้งความนะ”

พูดจบ พี่พยาบาลก็ชี้ไปที่กล้องวงจรปิด: “โรงพยาบาลนี้มีกล้องวงจรปิดนะ”

“แม่ง เดี๋ยวออกไปค่อยเก็บกวาดให้สิ้นซาก!” ตู้เฟยชี้ไปที่หลี่ฝาง ก่อนจะพูดด้วยความเย็นชา

พยุงถังหยู่ซวนขึ้นมา จากนั้นหลี่ฝางพูดว่า: “วางใจเถอะ หมาตัวนี้มันเห่าได้อีกไม่นานหรอก”

หลี่ต๋าคางเคยสัญญากับหลี่ฝาง เมื่อเขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะทำให้ตระกูลตู้หายไปจากตงไห่

“หลี่ฝาง จางกงหมิงหนีไปแล้ว หลินชิงชิงก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีใครปกป้องคุณแล้ว”

ตู้เฟยมองหลี่ฝาง พลางยิ้มเย็นชาก่อนจะพูดว่า: “ตอนนี้ฉันอยากจะฆ่าคุณให้ตาย ให้ง่ายดายได้เหมือนเหยียบมดเลย”

“งั้นเหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะหึๆ ด้วยความไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่

“ยังต้องพูดอีกเหรอ เห็นบอดี้การ์ดสองคนของฉันหรือยัง?นี่เป็นนักศิลปะการต่อสู้ทั้งนั้นเลย รุมตีกันเข้ามาก็ไม่ใช่ปัญหา”

“ถ้าเกิดคุณกล้ามาแตะต้องฉัน ฉันจะให้บอดี้การ์ดของฉันทำให้มือคุณกลายเป็นท่อนๆ เลย เชื่อไหมล่ะ?” ตู้เฟยพูดขึ้น

“งั้นก็เรียกพวกเขาเข้ามาสิ!”

หลี่ฝางชี้ไปที่กล้องวงจรปิด พลางพูดว่า: “เดี๋ยวฉันจะฟ้องพวกเขาว่าทำร้ายร่างกาย อย่างน้อยก็สามารถทำให้พวกเขาติดคุกได้สามปี”

ตู้เฟยขมวดคิ้ว: “ช่างมันเถอะ วันนี้ฉันไม่ได้มาหาเรื่องคุณ”

“งั้นคุณมาที่นี่ทำไมกัน?” หลี่ฝางสอบถาม

“พรุ่งนี้ก็เป็นพิธีเรียนจบแล้ว ฉันได้ยินว่าคะแนนสอบคุณไม่ถึงสี่ร้อยด้วยซ้ำ แค่คะแนนสอบนี้ มหาลัยระดับสามยังไม่มองคุณเลยใช่ไหมล่ะ?”

ตู้เฟยยิ้มเบาๆ ด้วยความเจ้าเล่ห์: “ไม่อย่างนั้นก็เอาแบบนี้ พรุ่งนี้คุณไปที่งานวันเรียนจบ ให้คุณมาเรียกฉันว่าคุณปู่ต่อหน้าทุกคน แล้วก้มหัวให้ฉัน ฉันจะจัดให้คุณเข้าไปที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ ดีไหม?”

“ฉันจะบอกให้นะ สุ่ยมู่เป็นมหาลัยที่มีชื่อที่สุดของเมืองเอก” ตู้เฟยมองหลี่ฝางพูดเสนอ

“ยังจำได้เหรอ?” หลี่ฝางยิ้มด้วยความขมขื่นพลางส่ายหัว

วันนั้นตู้เฟยตบตีในห้องอย่างดุเดือด บังคับให้เขาเรียกว่าคุณปู่ ทำให้เขาหน้าซีดเผือดต่อหน้าเพื่อนๆ ในห้อง

คิดไม่ถึงว่าตู้เฟย ยังคิดอยู่ว่าจะเอาศักดิ์ศรีกลับมาอย่างไร

“เป็นอย่างไร สัญญาไหม?” ตู้เฟยมองหลี่ฝาง: “เรียนหนักมาสิบปี คุณไม่ได้ทำเพื่อสอบเข้ามหาลัยดีๆ เหรอ?”

“ในวันนี้ ฉันให้โอกาสที่ดีกับคุณขนาดนี้ คุณยังไม่คว้าเอาไว้อีกเหรอ?” ตู้เฟยถามขึ้น

“ถ้าเกิดว่าฉันจะไม่ผิด ตู้เฟย คุณถูกผู้อำนวยการไล่ออกแล้ว ดังนั้น ในการเรียนจบของห้อง คุณยังมีสิทธิ์จะเข้าร่วมงานอีกเหรอ?” หลี่ฝางส่ายหัวพูดด้วยรอยยิ้ม

“ฉันคิดไปคิดมา ใครจะกล้าไปกับฉัน?”

“ฉันจะบอกคุณให้นะ หลี่ฝาง พวกเราตระกูลตู้เดี๋ยวก็กลับมาได้แล้ว คุณควรจะได้ยินเรื่องของเศรษฐีลึกลับที่เอาเงินไปลงทุนในตงไห่กว่าหมื่นล้าน!”

“ได้ยินแล้ว มีอะไรเหรอ มันเกี่ยวอะไรกับคุณหรือเปล่า?” หลี่ฝางถามขึ้น

“หึๆ งั้นบอกคุณก็ได้ เศรษฐีลึกลับเซ็นต์สัญญาที่จะร่วมงานกับครอบครัวฉันแล้ว” ตู้เฟยพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชาว่า: “อีกไม่นานราคาขอพ่อของฉัน ก็จะพุ่งขึ้นเป็นสิบๆ เท่าแล้ว”

“ถึงตอนนั้น ฉันจะเป็นคุณชายอันดับหนึ่งของตงไห่!”

“แต่พ่อฉัน ก็สามารถเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดของตงไห่ได้!” ตู้เฟยพูดจบ ก็พูดเสริม: “แน่นอน นอกจากเศรษฐีลึกลับนั้นน่ะ”

“เศรษฐีลึกลับร่วมมือกับพ่อของคุณเหรอ?” หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม เศรษฐีลึกลับไม่ใช่ของพ่อตัวเองเหรอ?พ่อของตัวเองจะไปร่วมงานกับตู้ต้าไห่ได้อย่างไร?

แถมยังเซ็นต์สัญญากันอีก?

ทำอะไรลงไป?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท