NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 105

ตอนที่ 105

บทที่105 ความอัปยศของตู้เฟย

ตู้เฟยพยักหน้า: “ไม่หรอก เศรษฐีลึกลับกลับมาจากต่างประเทศ ไม่ค่อยจะคุ้นชินสักเท่าไหร่ เลยมักจะต้องหาคนมาร่วมงานด้วยไงล่ะ”

“แต่คนที่ร่วมงานด้วยนั้น ก็คือพ่อของฉัน” ตู้เฟยพูดขึ้นด้วยความพออกพอใจ

หลี่ฝางคิดขึ้นมาได้ว่าคำที่หลี่ต๋าคางพูดกับตัวเอง เมื่อคิดในใจ การร่วมมือกัน น่าจะเป็นเพราะทุ่นระเบิดที่ฝังไปของพ่อตัวเองแน่นอนเลย

“คุณชายอันดับหนึ่งของตงไห่เหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

“คุณหัวเราะอะไร?” ตู้เฟยขมวดคิ้วเป็นปม เมื่อรู้ว่าหลี่ฝางกำลังหัวเราะเยาะเขา

“หลี่ฝาง ฉันจะบอกคุณให้นะ ถ้าเกิดว่าพรุ่งนี้คุณไม่คุกเข่าให้ฉัน แล้วเรียกว่าคุณชาย ฉันจะไม่ยอมให้คุณได้มีชีวิตดีๆ อีกเลย” ตู้เฟยพูดขึ้นด้วยความอวดดี

ก่อนหน้านี้ เศรษฐีลึกลับประกาศออกไปแล้ว ว่าจะร่วมงานกับตู้ต้าไห่

เมื่อได้ยินข่าวนี้ ตู้ต้าไห่ก็ดีใจเป็นอย่างมาก

อันที่จริงก่อนหน้านี้ ตู้ต้าไห่ก็ได้ยินมาจากส้าวส้วย เกี่ยวกับแผนการลงทุนของเศรษฐีลึกลับ อีกอย่างเขายังเริ่มทำก่อน โดยการซื้อที่รอยๆ เอาไว้ เพื่อคลุมพื้นที่ของตึกการลงทุนนั้นทั้งหมด

ในวันนี้ ตู้ต้าไห่ลงทุนไปในตึกทั้งหมด เพราะเรื่องนี้ เขาเลยติดหนี้จำนวนมากที่มีดอกเบี้ยแพงอยู่กับธนาคาร

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เขายังกังวล กังวลว่าส้าวส้วยเล่นงานเขาแล้วหรือเปล่า แต่หลังจากที่เศรษฐีลึกลับประกาศออกไป เขาก็เหมือนรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นไปอีก จนวิ่งไปยืมเงินจากทุกที่ เพื่อการลงทุน

“พอแล้ว ฉันจะไปเอารถแล้ว ไม่อยากจะคุยอะไรกับพวกคุณให้มากความแล้ว” เมื่อตู้เฟยพูดจบ ก็ออกจากโรงพยาบาลไป

หลังจากหลี่หลงตายไป ตู้เฟยก็ขับปอร์เช่กลับมา แต่เมื่อเขาคิดได้ว่ารถคันนี้เคยถูกคนที่ตายไปแล้วขับมาก่อน เขารู้สึกไม่สบายใจ

เขาคิดสักพัก ก็เอารถปอร์เช่ไปขายที่ร้านรับซื้อรถมือสอง จากนั้นก็จองรถคันใหม่

“จริงสิ หยู่ซวน คุณซื้อรถหรือยัง?” หลี่ฝางถามออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร

“นี่ยังหาคันที่เหมาะไม่ได้ไง ฉันว่าจะซื้อเบนซ์มือสอง พ่อฉันก็ยอมรับแล้ว บอกว่าจะให้ฉันห้าหมื่น บวกกับเงินที่ฉันมีอยู่ในมืออีกแสนสาม ก็เพียงพอแล้ว”

“ถึงตอนนั้นขับเบนซ์ จะขับไปรับสาวหรือหาแฟนก็ง่ายดี ถ้าว่างๆ ก็เอาไปเป็นรถที่ใช้ตอนแต่งงานได้ หาเงินเข้ากระเป๋าได้อีกตั้งมากมาย” ถังหยู่ซวนพูดขึ้นพลางยิ้ม

“ซื้อมือสองทำไม!” หลี่ฝางพูดว่า: “ถ้าจะซื้อก็ซื้อมือหนึ่งเลย”

เมื่อออกจากโรงพยาบาล หลี่ฝางก็เรียกแท็กซี่ ก่อนจะไปที่ร้านเบนซ์4S

เมื่อลงจากรถ ก็เจอตู้เฟยกับบอดี้การ์ดสองคนของเขา

“ให้ตายเถอะ พวกคุณมากันได้อย่างไร?” ตู้เฟยมองหลี่ฝางกับถังหยู่ซวน ด้วยความงุนงง

“พวกเรามาซื้อรถ ไม่ได้หรือไง?” ถังหยู่ซวนพูดขึ้น

“หึๆ ก้ได้อยู่ แต่นี่มันร้านเบนซ์4S เห็นชัดหรือยัง?” ตู้เฟยชี้ไปที่ป้าย ก่อนจะพูดว่า: “พวกคุณซื้อไหวเหรอ?”

“ถึงจะซื้อไม่ได้ พวกเราก็มามองไม่ได้เหรอ?” หลี่ฝางมองบนใส่ตู้เฟย

“มาดูก็ได้ แต่เดี๋ยวก็มองตาย้อยหรอก!” ตู้เฟยมองหลี่ฝาง พลางหัวเราะหึๆ

หลังจากที่เดินเข้าไป ตู้เฟยก็ชี้ไปที่ที่นั่งพัก ก่อนจะพูดว่า: “บอกคุณสองคนให้นะ ในนี้มีเน็ตฟรี กาแฟฟรี เดี๋ยวตนเที่ยว ก็มีข้าวฟรีให้อีกด้วย”

“หลังจากนี้คุณสองคนก็ไม่ต้องซื้อข้าวแล้ว มากินข้าวที่นี่ทุกวันก็ได้” ตู้เฟยพูดจาเหน็บแนม

“ดูเหมือนว่าคุณจะมานั่งๆ นอนๆ ที่นี่บ่อยนะ ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมคุณถึงได้คุ้นเคยมากล่ะ?” หลี่ฝางพูดขึ้นพลางยิ้ม

“คุณ!”

ตู้เฟยกำลังจะโกรธ ในตอนนั้นเองก็มีสาวสวยเดินเข้ามา ก่อนจะเชิญเขาเข้าไป

“คุณชายตู้ รถของคุณมาถึงแล้ว ฉันพาคุณเข้าไปดูนะ” สาวสวยพูดขึ้น

ตู้เฟยเลิกคิ้วใส่หลี่ฝาง: “อยากจะมาดูรถหรูของฉันไหมล่ะ?”

หลี่ฝางคิดอยู่สักครู่ ก่อนจะเดินตามไป

“นี่เป็นรถE300ที่ใหม่ที่สุด รถเก๋งเล็ก” ถังหยู่ซวนแค่มองก็รู้แล้ว ในขณะเดียวกัน แววตาก็มีประกายของความอิจฉาออกมา

“คุณรูปหล่อรู้จักเลือกไม่เบาเลยนะ” สาวสวยที่ขายรถนั้นยิ้มให้ถังหยู่ซวน

“มันจนจะตายไป จะมากินๆ นอนๆ ที่ร้านของพวกคุณต่างหาก” ตู้เฟยเหน็บแนมต่อหน้าทุกคน: “คุณดูเสื้อผ้าที่เขาใส่สิ ของข้างทางทั้งนั้นเลย ดูเหมือนคนที่จะซื้อเบนซ์งั้นเหรอ?”

“ไม่เหมือน” สาวสวยที่ขายรถยิ้มพลางส่ายหัว ก่อนจะตอบกับตู้เฟย

“คนปกติที่จะซื้อเบนซ์ได้ ก็ต้องอายุพอประมาณแล้ว คนอายุน้อยๆ แบบนี้มีไม่กี่คนหรอกที่จะซื้อได้ นอกจากจะเหมือนกับคุณชายตู้ เกิดมาก็เป็นลูกของเศรษฐีแล้ว” สาวสวยที่ขายรถเริ่มเยินยอตู้เฟย

ตู้เฟยยิ้มเบาๆ ด้วยความภูมิใจ: “พูดได้ดี จริงด้วย เหมือนกับไอขี้แพ้นี่ ถึงจะพยายามสมบุกสมบันสักเท่าไหร่ ก็เกรงว่าจะซื้อได้แค่เบนซ์คันเล็กๆ เท่านั้น”

“หลี่ฝาง คุณคิดว่าคันนี้สวยไหม?ฉันคิดว่ามันสวยมากเลย” ถังหยู่ซวนไม่ได้สนใจตู้เฟย แต่กลับพูดกับหลี่ฝางว่า: “หรือไม่คุณก็ซื้อคันนี้สิ ฉันจะเป็นคนขับรถให้คุณเอง”

หลี่ฝางส่ายหัว พลางพูดว่า: “ไม่เอาหรอก มันน้อยเกินไปนะ”

“โม้เก่งจริงๆ เลย ซื้อไม่ไหวก็บอกซื้อไม่ไหวสิ ยังมาบอกว่ามันเล็กน้อยเกินไปอีกงั้นเหรอ?นี่มันรถสปอร์ตนะ คุณเข้าใจไหมเนี่ย!” ตู้เฟยกลอกตามองบนใส่หลี่ฝาง ด้วยความโกรธเล็กน้อย

“ไล่เขาสองคนออกไปได้ไหม ฉันเห็นแล้วรำคาญลูกตา!” ตู้เฟยมองสาวสวยที่ขายรถพลางพูดขึ้น

“ได้อยู่แล้ว”

สาวสวยที่ขายรถพยักหน้า ก่อนจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมา แล้วไล่หลี่ฝางกับถังหยู่ซวนออกไป

“ให้ตายเถอะ ฉันจะฟ้องร้องพวกเขา นี่มันการบริการอะไรกันเนี่ย!” หลังจากออกมา ถังหยู่ซวนก็พูดขึ้นด้วยความโกรธ

“ตาไม่ถึงเอง แถมยังมาคิดว่า พวกเราไม่มีปัญญาซื้ออีก” ถังหยู่ซวนหัวเราะด้วยความเย็นชาก่อนจะพูดว่า เขารู้ ว่าในบัตรของหลี่ฝางมีเงินกว่าสามล้านนะ

ในตอนนั้นเอง เมี๋ยวชุ่ยก็โทรเข้ามาพอดี

เมื่อโทรติด หลี่ฝางก็ถามขึ้น: “แม่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“เสี่ยวฝาง คุณออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม?” เมี๋ยวชุ่ยถามขึ้น

“ใช่” หลี่ฝางพยักหน้า

เมี๋ยวชุ่ยก็พูดว่า: “คุณออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ไปเอารถเลย ฉันคุยกับพ่อคุณแล้ว ว่าจะซื้อปอร์เช่ให้คุณ ไม่กี่วันก่อนรถมาถึงแล้ว แต่ไม่กล้าบอกคุณตรงๆ กลัวว่าจะใจร้อน แล้วรีบออกจากโรงพยาบาลไปเอารถ”

“อ๋อ” หลี่ฝางเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ แต่ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมาก

ถึงอย่างไร ตอนนี้ค่าตัวของหลี่ฝางก็ราคาหลายร้อยล้านแล้ว คงจะไม่ต้องมาตื่นเต้นเพียงเพราะรถราคายี่สิบล้านหรอก

หลังจากวางสายไป หลี่ฝางก็เดินไปทางตรงข้าม

“หลี่ฝาง คุณจะซื้อปอร์เช่เหรอ?” ถังหยู่ซวนถามขึ้น

“ไม่ได้จะมาซื้อ แต่พ่อแม่ฉันจองรถเอาไว้ให้ มาถึงแล้ว เลยให้ฉันไปเอาน่ะ” หลี่ฝางเองก็คิดไม่ถึง ว่าจะได้ปอร์เช่กับเบนซ์ที่ติดกันนี้

หลี่ฝางคิด ว่านี่เป็นรถของเถ้าแก่คนไหนหรือเปล่า?

เมื่อเข้าไปในร้านขายปอร์เช่โดยเฉพาะ หลี่ฝางได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี

หลี่ฝางยิ้มเบาๆ ด้วยความดีใจ: “การบริการของพวกคุณ ดีกว่าร้านเบนซ์อีก แถมยังสวยกว่าพวกเขาอีกด้วย”

“คุณก็ว่าเกินไป”

สาวสวยที่ขายรถยิ้ม ก่อนจะพูดว่า: “คุณชื่อหลี่ฝางใช่ไหม?”

พูดไป สาวขายรถก็หยิบแท็บเล็ตออกมา บนแท็บเล็ตนั้น เป็นรูปของหลี่ฝาง

“ไม่ได้ดูผิดใช่ไหม คุณคือเจ้าของรถปอร์เช่918” คขายรถพูดด้วยรอยยิ้ม

หลี่ฝางมีสีหน้าหนักใจ ที่แท้พ่อแม่ของตัวเองก็ส่งรูปให้ที่ร้านแล้ว ไม่น่าล่ะเมื่อตัวเองเดินเข้าไป ทุกคนก็มองเขาเหมือนกับว่าเขาเป็นตัวประหลาด

“ฉันเอง พาฉันไปเอารถเถอะ!” หลี่ฝางพยักหน้าเบาๆ

เมื่อมาอยู่หน้ารถของตัวเอง หลี่ฝางก็ถูกดึงดูดโดยเส้นและลาดลายของรถโดยทันที

หลี่ฝางถาม: “จริงสิ สาวสวย คันนี้ราคาเท่าไหร่เหรอ?”

“คันนี้ราคาสิบห้าล้าน แต่เพราะตอนนี้ในประเทศของขาดตลาด ตอนนี้ราคาในประเทศเลยขึ้นเป็นยี่สิบกว่าล้าน”

“มากกว่ายี่สิบล้านเหรอ?” ถังหยู่ซวนหายใจเข้าอย่างเยือกเย็น

“ให้ตายเถอะ นี่มันจะเป็นหนึ่งในรถสามเทพในตำนานที่เขาพูดกันหรือเปล่านะ?” ถังหยู่ซวนรู้สึกตื่นเต้นจนออกนอกหน้า จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปลูบดู

“ใช่แล้ว นี่คือหนึ่งในรถสามเทพในตำนานอย่างไรล่ะ” สาวสวยยิ้มก่อนจะ พูดว่า: “ไม่ใช่เพียงแค่ในตงไห่ เกรงว่าในเมืองเอก เองก็จะมีแค่คันเดียว”

“ให้ตายเถอะนี่มันสวยเกินไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย!”

ถังหยู่ซวนมองหลี่ฝางด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะถามขึ้น: “หลี่ฝาง ขอฉันลองขับหน่อยได้ไหม?”

“ได้อยู่แล้ว” หลี่ฝางพยักหน้า ก่อนจะมองสาวสวยพลางพูดว่า: “เอากุญแจให้เขาเถอะ”

ถังหยู่ซวนได้รับกุญแจ ก็ขับปอร์เช่918ออกไป

พอดี ที่ตู้เฟยก็ขับเบนซ์ของเขาออกมา เลยเห็นว่าถังหยู่ซวนขับวนอยู่ในสนาม เลยอดไม่ได้ที่จะเหน็บแนม: “นี่ ไอคนหน้าด้าน ไม่มีปัญญาซื้อ แล้วยังกล้ามาลองขับอีกเหรอ?”

“เดี๋ยวก่อน นี่มันปอร์เช่918ไม่ใช่เหรอ?” เมื่อมองดูดีๆ ตู้เฟยก็อึ้งไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท