NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 109

ตอนที่ 109

บทที่109 แฟนเก่าของถังหยู่ซวน

“ทำไมต้องรอให้ถึงเที่ยงของวันพรุ่งนี้ด้วยล่ะ?” หลี่ต๋าคางถามด้วยความสงสัย

“ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม” หลี่ฝางทิ้งความสงสัยเอาไว้ ก่อนจะลงจากตึกไป

เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์Recalling the past หลี่ฝางให้ลุงเฉียนเรียกทุกคนมารวมตัว

หลังจากที่คนครบแล้ว หลี่ฝางก็ตบบ่าของถังหยู่ซวน พลางพูดว่า: “ฉันจะประกาศเรื่องหนึ่ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาคือผู้จัดการของRecalling the past”

“เขาชื่อถังหยู่ซวน เป็นพี่น้องของฉันเอง!”

ถังหยู่ซวนเพิ่งจะดื่มน้ำไป เมื่อได้ยินคำนี้ ก็สำลักน้ำออกมา

“หลี่ฝาง คุณกำลังล้อเล่นกับฉันอยู่หรือเปล่า?” ถังหยู่ซวนเงยหน้าขึ้น ก่อนจะมองหลี่ฝางด้วยความตะลึงงัน

“ทำไม คุณไม่อยากทำเหรอ?”

“ฉันเต็มใจ แต่ฉันไม่มีความสามารถ ฉันไม่มีประสบการณ์การจัดการ จะมาเป็นผู้จัดการให้บาร์ของคุณได้อย่างไร ถ้าเกิดว่าฉันทำให้บาร์เจ๊งไปจะทำอย่างไร?” ถังหยู่ซวนพูดขึ้นด้วยความกลัว

“ไม่เป็นไร ยังมีลุงเฉียน ช่วงแรกคุณไม่ต้องทำอะไรเลย คุณแค่อยู่ในตำแหน่งนี้ คุณเรียนรู้งานจากลุงเฉียนไป คุณคิดว่าตัวเองทำได้เมื่อไหร่ ค่อยวางแผนแล้วบริหารงานในบาร์นี้”

เมื่อหลี่ฝางพูดจบ ก็แนะนำกับลุงเฉียนให้รู้จักถังหยู่ซวน

หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็แยกย้าย

ถังหยู่ซวนยังไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่: “หลี่ฝาง คุณจะให้ฉันเป็นผู้จัดการของบาร์จริงๆ เหรอ?”

“ใช่สิ เมื่อครู่คุณไม่ไปหาจางปิงปิงแล้ว เพราะรู้สึกน้อยอกน้อยใจใช่ไหมล่ะ?”

“ในใจของคุณไม่มีความกล้าเลย และคิดว่าตัวเองนั้นไม่ใช่คนที่จะประสบความสำเร็จอะไร ถึงจะขับรถปอร์เช่ไปหาเธอ ก็รู้สึกว่าเป็นการหลอกตัวเองและคนอื่นก็เท่านั้นเอง”

“ก่อนหน้านี้ฉันก็เป็นเหมือนคุณนี่แหละ จิตใจไม่แข็งแกร่งพอ”

“ดังนั้น คุณเลยให้ฉันเป็นผู้จัดการของบาร์เหรอ?” ถังหยู่ซวนถามขึ้น

“ใช่ ตอนนี้คุณเป็นผู้จัดการของบาร์แล้ว เป็นคนที่มีฐานะมีตัวตนแล้ว ถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว” หลี่ฝางหัวเราะ พลางพูดว่า: “ทำไม ยังไม่พออีกเหรอ?”

ถังหยู่ซวนส่ายหัว: “ให้เวลาฉันเคยชินกับมันหน่อย”

“บาร์ใหญ่ขนาดนี้ ต่อไปจะให้ฉันเป็นคนบริหารเหรอ?” ถังหยู่ซวนมองไปรอบๆ แววตาก็ส่องประกาย

เพียงไม่นาน ถังหยู่ซวนก็เปลี่ยนจากคนล้างรถ มาเป็นผู้จัดการในบาร์ ตัวตนของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ จู่ๆ ถังหยู่ซวนก็ได้รับโทรศัพท์จากที่บ้าน

หลังจากวางสายไป สีหน้าของถังหยู่ซวนก็ดูสับสนเป็นอย่างมาก

หลี่ฝางถาม: “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

“จำคำที่ตู้เฟยเคยพูดที่โรงพยาบาลได้ไหม?” ถังหยู่ซวนถาม

“คำพูดไหนเหรอ?”

“เขาบอกว่าบริษัทส่งของที่พ่อฉันทำงานอยู่นั้นร่วมงานกับครอบครัวของพวกเขา ตอนนั้นเขาเอาพ่อของฉันมาขู่ ให้ฉันหักหลังคุณ” ถังหยู่ซวนพูดขึ้น

“ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง พ่อของฉันถูกบริษัทส่งออกไล่ออกแล้ว แถมยังไม่ให้เงินเดือนอีกด้วย” ถังหยู่ซวนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

หลี่ฝางกลับไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย: “ไม่เป็นไรหรอก เงินเดือนหายไปแล้วก็ปล่อยไปเถอะ เดี๋ยวฉันหาให้พ่อคุณเอง”

“ฉันยังพูดไม่จบพูดจบ แต่เมื่อพ่อฉันเพิ่งจะถูกไล่ออก ก็ถูกโจวเจ๋พาไปในบริษัทของพวกเขา นอกจากนี้ยังให้เป็นหัวหน้าผู้จัดการด้วย เงินเดือนสามหมื่น แถมยังไม่ต้องทำอะไรอีก พูดอีกอย่างก็คือไปนั่งๆ นอนๆ ฟรีๆ”

ถังหยู่ซวนเหม่อไป: “หลี่ฝาง คุณว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย ทำไมอยู่ดีๆ โจวเจ๋ถึงทำดีกับพ่อฉันล่ะ?”

หลี่ฝางหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไร โจวเจ๋ต้องคิดว่าถังหยู่ซวนเป็นลูกชายของเศรษฐีลึกลับแล้วแน่นอน

เมื่อเป็นแบบนี้ ก็หมายความว่า แผนการสลับตัวของหลี่ฝางนั้น สำเร็จแล้ว

ในตอนนั้นเอง โจวเจ๋โทรหาถังหยู่ซวน ถามว่าเขาอยู่ที่ไหน?

ถังหยู่ซวนตอบ: “พี่โจวฉันอยู่ที่บาร์ คุณจะมาเมื่อไหร่?”

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” โจวเจ๋พูดขึ้น

หลังจากวางสายไป หลี่ฝางมองถังหยู่ซวนพลางพูดว่า: “คุณไม่ต้องพูดจาเกรงใจอะไรโจวเจ๋ขนาดนั้นหรอก ทำกับเขาให้มันน้อยลงหน่อย”

“จะทำแบบนั้นได้อย่างไร เขาเพิ่งให้งานดีๆ กับพ่อฉันนะ ถ้าเกิดว่าฉันทำไม่ดีกับเขา เขามาบีบพ่อฉันออกจะทำอย่างไรล่ะ?” ถังหยู่ซวนพูดด้วยความกังวล

“ถังหยู่ซวน คุณเชื่อฉันไหม?” หลี่ฝางถามขึ้น

“ฉันไม่เชื่อได้เหรอ?”

“ถ้าเกิดว่าคุณเชื่อคำพูดของฉัน ก็รักษาระยะห่างกับโจวเจ๋เอาไว้ ให้เขาคิดว่าคุณหยิ่งสักหน่อย ไม่อย่างนั้น เขาจะไม่เคารพคุณ และยิ่งไม่เคารพพ่อคุณด้วย” หลี่ฝางพูดขึ้น

ถังหยู่ซวนเหม่อมองหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง คุณเหมือนกับมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่นะ!”

“หลังจากที่โจวเจ๋รู้ว่าฉันเป็นเจ้าของรถ918 ก็อยากจะเข้าหาฉัน หรือมันเกี่ยวอะไรกับรถคันนั้น?” ถังหยู่ซวนพูดพลางขมวดคิ้ว

“บ้าหน่า รถคันนั้นราคายี่สิบกว่าล้าน คนที่สามารถขับรถราคายี่สิบล้านได้ จะเป็นคนธรรมดาได้เหรอ?โจวเจ๋เห็นก็ต้องอยากประจบเป็นธรรมดา ดังนั้น คุณเลยต้องสร้างตัวตนเสียหน่อย”

“สร้างตัวตนงั้นเหรอ?”

“เอาตัวเองเป็นลูกหลานเศรษฐี ไม่ว่าคนอื่นจะมาสืบยังไง คุณก็อย่าให้ถูกเปิดโปง ต้องทำตัวลึกลับเข้าไว้” หลี่ฝางยิ้ม พลางพูด: “ไม่ต้องกลัว 918คันนี้เป็นชื่อคุณ แค่คันนั้น ก็รับรองว่าตัวตนคุณจะไม่ถูกเปิดโปงแล้ว”

“มันจะสำเร็จไหม?”

“แน่นอนอยู่แล้ว” หลี่ฝางหัวเราะ

ถังหยู่ซวนเหมือนจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“จริงสิ คุณถามลู่หลุ่ยกับเสี่ยวเสี่ยวทำไมเหรอ ถ้าเธอสองคนไม่มีอะไร คุณให้พวกเธอมาเที่ยวเล่นด้วยกันก็ได้” หลี่ฝางพูด

ไม่เห็นลู่หลุ่ยทั้งวัน หลี่ฝางเริ่มคิดถึงเธอแล้ว

ถังหยู่ซวนโทรหาพวกเธอ ลู่หลุ่ยไม่ได้สัญญา แต่หลี่เสี่ยวเสี่ยวตอบตกลงแล้ว

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง โจวเจ๋ก็มาแล้ว แถมยังพาเพื่อนมาอีกหลายคนด้วย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

โจวเจ๋เปิดบริษัทสื่อ มีนางแบบ เน็ตไอดอลมากมาย แถมยังมีดาราระดับสามอีกเล็กน้อยด้วย

ผู้หญิงพวกนี้ หน้าตาดี หุ่นก็ไม่เลวเลย

โจวเจ๋ไม่ได้สนใจหลี่ฝาง แต่แนะนำสาวสวยให้ถังหยู่ซวนรู้จัก

ตอนที่แนะนำผู้หญิงผมสั้น ถังหยู่ซวนอึ้งไป: “ปิงปิงเหรอ?”

“ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ?” ผู้หญิงผมสั้นเองก็อึ้งไป พลางมีสีหน้าเหยียดหยาม

“คุณคือลูกหลานเศรษฐีที่เจ้านายบอกเองเหรอ?หึๆ อยากจะหัวเราะให้ฟันหลุด” ผู้หญิงผมสั้นหัวเราะอย่างเยือกเย็น พลางมองโจวเจ๋: “เถ้าแก่ คุณถูกหลอกหรือเปล่า?”

“คนนี้เขาเป็นแค่พนักงานล้างรถ ไม่ใช่ลูกหลานเศรษฐีอะไรสักหน่อย” ผู้หญิงผมสั้นส่ายหัว พลางพูดขึ้น

หลี่ฝางเดินไป ก่อนจะจับถังหยู่ซวน: “นี่เป็นแฟนเก่าคุณ ชื่อจางปิงปิงเหรอ?”

ถังหยู่ซวนพยักหน้า: “เธอนั่นแหละ แต่เมื่อก่อนผมยาว แต่งหน้าก็ไม่ได้เยอะขนาดนี้”

ในตอนนี้เอง มีชายตัวอ้วนเดินเข้ามา

“ให้ตายเถอะ ธุรกิจของRecalling the pastดีเกินไปแล้ว หาที่จอดยากจริงๆ” ชายอ้วนคนนั้นเดินเข้ามา ก่อนจะโอบไหล่ของจางปิงปิง

“ปิงปิง นี่มันอะไรกัน สีหน้าไม่ค่อยดีเลย มีคนกลั่นแกล้งอะไรหรือเปล่า?” เจ้าอ้วนมองจางปิงปิง ก่อนจะถามขึ้นด้วยความเอ็นดู

โจวเจ๋มีสีหน้าสงสัย พลางมองถังหยู่ซวนถามขึ้น: “พี่ถัง คุณรู้จักปิงปิงเหรอ?”

เจ้าอ้วนเงยหน้าขึ้นในตอนนั้น ก็เห็นถังหยู่ซวน

เจ้าอ้วนมองถังหยู่ซวนอยู่นาน จู่ๆ ก็ขมวดคิ้วเป็นปม: “ทำไมฉันคิดว่าฉันเคยเจอคุณที่ไหนมาก่อน?”

ถังหยู่ซวนไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าเต็มไปด้วยความทำตัวไม่ถูก

“ให้ตายเถอะ ฉันคิดออกแล้ว!”

เจ้าอ้วนชี้ไปที่ถังหยู่ซวน พลางพูดว่า: “คุณเป็นแฟนเก่าขี้แพ้ของปิงปิงใช่ไหม?”

เจ้าอ้วนหัวเราะคิกคักอย่างเย็นชา: “ฉันจำได้ว่าคุณเป็นคนล้างรถของต้าเฉียงไม่ใช่เหรอ?ทำไม หลังจากที่ต้าเฉียงเกิดเรื่อง ก็มาเป็นเด็กเสิร์ฟที่Recalling the pastเหรอ?”

“จ้าวเหลย คุณหุบปากไป!”

ยังไม่ทันจะให้ถังหยู่ซวนพูดอะไร โจวเจ๋ก็ด่าออกมา

“ทำไม พี่เจ๋ ฉันพูดอะไรผิดเหรอ?” เจ้าอ้วนไม่เข้าใจ ก่อนจะมองโจวเจ๋ด้วยความสงสัย: “ไอนี่มันก็เป็นแค่ขี้แพ้เท่านั้นเอง ฉันด่าเขาหน่อยจะเป็นอะไรไป?”

โจวเจ๋มองเจ้าอ้วนด้วยสีหน้ายากจะเข้าใจ ก่อนจะพูดว่า: “เขาเป็นขี้แพ้งั้นเหรอ?”

“ถ้าเกิดว่าพี่ถังเป็นขี้แพ้ งั้นคุณเป็นอะไรล่ะ?”

“เมื่อครู่คุณถามฉันไม่ใช่เหรอว่าปอร์เช่918คันนั้นเป็นของใคร?” โจวเจ๋ยิ้มด้วยความเย็นชา พลางชี้ไปที่ถังหยู่ซวนแล้วพูดว่า: “ฉันจะบอกให้ตอนนี้เลย ว่ามันเป็นของพี่ถัง”

“ของเขางั้นเหรอ?” เจ้าอ้วนหัวเราะคิกคัก พลางพูดว่า: “พี่เจ๋ คุณอย่ามาล้อเล่นเลย”

“เขาเป็นขับแค่รถฟอร์ดมือสองเท่านั้นเอง จะเป็นปอร์เช่918ได้อย่างไร” เจ้าอ้วนมองถังหยู่ซวน ก่อนจะถามขึ้น: “ถังหยู่ซวน ฉันถามหน่อย ปอร์เช่918คันตรงหน้าประตูนั้น เป็นของคุณหรือเปล่า?”

ถังหยู่ซวนหายใจออกยาวๆ ก่อนจะหยิบกุญแจรถปอร์เช่ออกมาจากกระเป๋า: “ของฉันเอง มีอะไรเหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท