NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 137

ตอนที่ 137

บทที่137 พ่อแม่ของเซี่ยลู่

ในขณะนี้ สีหน้าตกใจของเซี่ยลู่ก็ยิ่งตกใจขึ้นไปอีก

แม้ว่าผลลัพธ์นี้ เซี่ยลู่จะเดาเอาไว้นานแล้ว แต่เมื่อได้รับคำยืนยันจากปากของหลี่ฝาง เธอก็ตกใจพูดไม่ออกขึ้นมา

“เสียดายไหม?” หลี่ฝางถามอีกครั้ง

“เธอคิดว่าเธอทอดทิ้งคนจนๆ คนหนึ่ง และไปคบกับลูกเศรษฐี เป็นการเลือกฉลาดอย่างยิ่ง แต่ผลสุดท้ายแล้ว คนจนคนนั้นคือลูกเศรษฐีที่แท้จริง ส่วนลูกเศรษฐีที่เธอเลือก กลับเป็นพวกรวยแค่เปลือก เทียบอะไรไม่ได้เลยสักนิด” หลี่ฝางยิ้มเหยียด และเปรียบเทียบตัวเองกับตู้เฟย

สีหน้าของเซี่ยลู่แสดงความเสียดายออกมาจริง น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว

“การล้มละลายของบริษัทของตู้ต้าไห่ เกิดจากพ่อของฉันจริงๆ และมีจุดประสงค์เพื่อล้างแค้นให้ฉัน” หลี่ฝางยอมรับอย่างตรงไปตรงมา

“และอาจกล่าวได้ว่านอกจากการตายของลูกพี่หลี่แล้ว สิ่งอื่นๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับฉัน” หลี่ฝางเอ่ยเรียบๆ

เซี่ยลู่มองไปที่หลี่ฝาง และรู้สึกว่าหลี่ฝางตรงหน้าคนนั้น ทั้งแปลกหน้าและน่ากลัว

“เพราะแค่ตู้เฟยคนเดียว นายถึงกับทำลายบริษัทตู้ซื่อลง?” เซี่ยลู่สูดอากาศเข้าอย่างหนาวเหน็บ

“ฉันรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ความหมายของเธอก็คือ ฉันและพ่อของฉันโหดร้ายเกินไป ยังไงซะ บริษัทตู้ซื้อก็ใหญ่โตขนาดนั้น มีพนักงานหลายร้อยคนในนั้น พวกเราทำแบบนี้ ก็เท่ากับทำร้ายอีกหลายร้อยครอบครัว”

หลี่ฝางหัวเราะ “อันที่จริง พนักงานเก่าที่เคยติดตามตู้ต้าไห่ ขอแค่พวกเขามีความสามารถอยู่บ้าง ล้วนถูกพ่อของฉันหลอกเอาตัวไปแล้ว”

“ฉันไม่คิดว่ามันโหดร้าย ฉันแค่คิดว่ามันน่ากลัวอยู่บ้าง” เซี่ยลู่แก้ไข

เซี่ยลู่รู้สึกน่ากลัวเกินไป นี่คือลูกเศรษฐีที่แท้จริงหรือ? บริษัทขนาดใหญ่แบบนั้น นึกจะทำลายก็ทำลาย!

เซี่ยลู่ไม่เคยคิดฝันว่า ผู้ชายที่เธอทอดทิ้ง พริบตา ก็กลายไปเป็นลูกชายของเศรษฐีหมื่นล้าน

หลี่ฝางหัวเราะหึหึ “มีอะไรน่ากลัว ฉันเคยพูดไปแล้ว ตู้เฟยต่อหน้าฉันแล้ว แม้แต่ตดยังไม่นับ”

“นายปกปิดตัวตนไว้ทำไม?” เซี่ยลู่ถาม

“ฉันเองก็เพิ่งได้รู้มาไม่นาน ว่าครอบครัวของฉันร่ำรวยมาก เช้าวันหนึ่ง จู่ๆ พ่อของฉันก็โอนเงินหนึ่งล้านให้ฉัน บอกว่าเป็นค่าขนมให้ฉัน แล้วบอกว่าปู่ของฉันเป็นคนที่รวยที่สุดในดูไบ ฮ่าฮ่า ตอนนั้นฉันยังคิดว่าฉันฝันไปแล้วจริงๆ”

“ฉันไม่รู้จนกระทั่งฉันกดเงิน 20000 หยวนจากตู้เอทีเอ็ม ฉันถึงค่อยได้รู้ว่า มันคือเรื่องจริง ฉันหลี่ฝางเป็นลูกเศรษฐี”

“มันคือวันที่ฉันเชิญพวกเธอมาทานอาหารเย็น ถ้าวันนั้นฉันบอกเธอว่าฉันเป็นลูกเศรษฐี พวกเธอจะเชื่อรึเปล่า?”

หลี่ฝางพูดพลางส่ายหัว “พวกเธอไม่เพียงไม่เชื่อ แต่ยังคงคิดว่าฉันเป็นคนบ้าแน่?”

“ดังนั้นฉันก็เลยโกหกว่าฉันถูกลอตเตอรี่ แต่ต่อมาฉันใช้เงินมากขึ้นเรื่อย ๆ และลอตเตอรี่ก็ไม่สามารถปกปิดตัวตนของฉันต่อไปได้ ฉันจึงโกหกไปอีกเรื่องนั่นคือการขายที่ดิน”

“เพื่อที่จะซ่อนตัวตนของฉันต่อไป ไม่ลังเลเลยที่จะโอนรถสปอร์ต 20 ล้านที่พ่อแม่ให้ฉัน ให้อยู่ในชื่อของถังหยู่ซวน”

“จุดประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดของฉันในการปกปิดตัวตนก็คือการได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของทุกคนรอบตัวฉัน” หลี่ฝางเอ่ย

หลังจากพูดจบ หลี่ฝางก็สตาร์ทรถ “ค่ำแล้ว ฉันไปส่งเธอกลับ”

หัวใจของเซี่ยลู่ไม่สามารถสงบลงได้ เธอคิดจะดึงหลี่ฝางกลับมา

ขณะที่รถขับผ่านโรงแรมแห่งหนึ่ง จู่ๆ เซี่ยลู่ก็พูดขึ้น “หลี่ฝาง ดึกขนาดนี้แล้ว พ่อแม่ของฉันอาจจะหลับอยู่”

“ไม่งั้น พวกเราไปหาโรงแรมอยู่กันเถอะ” เซี่ยลู่บอกใบ้

มุมปากของหลี่ฝางผุดรอยยิ้มจางๆ เขาเอ่ย “ฉันเข้าใจความหมายของเธอ”

“เซี่ยลู่ ฉันจะบอกเธอให้ ตอนที่ฉันตกต่ำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฉันฝันอยู่เสมอว่า เมื่อไหร่ที่ฉันสามารถจับมือเธอได้อีกครั้ง มันจะต้องมีความสุขมากๆ แน่ ตอนนั้น แต่จับมือของเธอ สำหรับฉันแล้วมันช่างเป็นเรื่องเกินเอื้อม อย่าว่าแต่ไปเปิดห้องที่โรงแรมเลย”

“ฉันยอมรับ ว่าฉันเคยชอบเธอ”

หลี่ฝางหายใจเข้ายาวๆ และพูด “แต่เธอไม่เอาฉันนี่ ถ้าตอนนั้นเธอเข้ามาพูดว่าหลี่ฝาง พวกเราไปเปิดห้องที่โรงแรมกัน ฉันคงตอบรับเธออย่างไม่ลังเลเลยสักนิด”

“แต่ตอนนี้ เธอคิดว่าเธอยังคู่ควรกับฉันไหม?” หลี่ฝางยิ้มอย่างเย็นชา

เธอยังคู่ควรกับฉันไหม?

ประโยคนี้ สะท้อนอยู่ในใจของเซี่ยลู่ไปมาหลายครั้ง

จู่ๆ เซี่ยลู่ก็ได้สติขึ้นมา หลี่ฝางในตอนนี้ ไม่มองเธออีกต่อไปแล้ว

หลี่ฝางในวันนี้ บนตัวมีมูลค่าหลายพันล้านแล้ว เขาไม่ใช่หลี่ฝางขี้แพ้อีกต่อไป

หลี่ฝางในตอนนี้ จะมาต้องการสินค้าเน่าๆ ที่คนอื่นเล่นมาแล้วได้อย่างไร?

เซี่ยลู่รู้สึกเสียดายอย่างที่สุด

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่ฝางก็ขับรถเบนซ์G-Classคันใหญ่มาส่งเซี่ยลู่ไปที่หน้าประตู

“ตาแก่ รีบมาดูเร็ว ลู่ลู่กลับมาแล้วใช่ไหม?”

ทันทีที่รถหยุดลง แม่ของเซี่ยลู่ก็เห็นเข้าและตบบ่าพ่อของเซี่ยลู่

บังเอิญกับที่หน้าบ้านของเซี่ยลู่มีไฟถนนอยู่ ที่หลี่ฝางหยุดรถของเขาลงใต้โคมไฟถนน

“นั่นรถเบนซ์เหรอ” พ่อของเซี่ยลู่สายตาดีอย่างยิ่ง และมองเห็นโลโก้ได้จากระยะไกล

สีหน้าพ่อของเซี่ยลู่แสดงความดีใจ “ครั้งล่าสุดฉันได้ยินเด็กๆ คนอื่นพูดว่า ลู่ลู่ของเรา หาแฟนเป็นลูกเศรษฐีได้ เห็นทีจะเป็นเรื่องจริง”

“ไปเถอะ พวกเราไปต้อนรับสักหน่อย”

พวกเขาปิดทีวี จากนั้นพ่อแม่ของเซี่ยลู่ก็ออกมาจากบ้าน

ในตอนนี้เอง หลี่ฝางเอ่ยกำชับเรื่องนี้กับเซี่ยลู่ “อ้อใช่ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในคืนนี้ อย่าได้บอกใครทั้งนั้น ยังมี ตัวตนของฉันก็ห้ามบอกออกไป รวมถึงพ่อแม่ของเธอ แล้วก็ห้ามมีพิรุธเด็ดขาด เข้าใจไหม?”

เซี่ยลู่พยักหน้าและพูด “ฉันเข้าใจ”

และในเวลานี้เอง พ่อแม่ของเซี่ยลู่ก็เดินมาถึง

เมื่อเห็นเซี่ยลู่ออกมาจากรถ พ่อของเซี่ยลู่ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “กลับมาแล้วหรือ ลูกรัก”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เซี่ยลู่กลับมาแบบนี้ พ่อของเธอคงจะตบหน้าเธอไปนานแล้ว

แต่คราวนี้เซี่ยลู่นั่งรถเบนซ์กลับมา สำหรับครอบครัวเธอแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเชิดหน้าชูตาให้ครอบครัว ดังนั้นพ่อของเธอไม่เพียงแต่ไม่โกรธเซี่ยลู่เท่านั้น แต่ในใจยังมีความสุขมากอีกด้วย

ในตอนนี้ พ่อของเซี่ยลู่แทบจะทนไม่ไหวที่อยากให้ใครสักคนออกมาดูฉากตรงหน้านี้

“ในรถนั่นแฟนลูกใช่ไหม?” แม่ของเซี่ยลู่มองไปที่เซี่ยลู่และกระซิบ “บอกให้แฟนของเธอรีบเข้าไปในบ้านนั่งเล่น ดื่มชาสักหน่อย”

แม่ของเซี่ยลู่ก็เห่อด้วยเช่นกัน เธอแทบอยากจะรั้งลูกเขยเศรษฐีคนนี้ให้มาค้างคืนที่บ้านเสียด้วยซ้ำ

“แม่ ในรถไม่ใช่แฟนฉัน” เซี่ยลู่อธิบาย

แม่ของเซี่ยลู่กลอกตาใส่เซี่ยลู่ “เอาเถอะฉันกับพ่อของแกได้ยินมาตั้งนานแล้ว ได้ยินว่าแกมีแฟนเป็นลูกเศรษฐี กลัวอะไร ยังไงแกก็กำลังจะเรียนจบแล้ว จะคบใครก็คบสิ วางใจเถอะ พ่อแม่จะคอยสนับสนุนลูก”

“นอกจากนี้ ลูกหาแฟนเร็วหน่อย ก็ถือเป็นเรื่องดี ลูกชายของหลี่ต๋าคางนั่นจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดถึงลูกอยู่ได้”

“ลูกลองดูสภาพครอบครัวของหลี่ต๋าคาง แย่ขนาดไหน ได้ยินมาว่ากลับมาครั้งนี้ ยังหอบเอาหนี้ก้อนใหญ่มาด้วย” แม่ของเซี่ยลู่แค่นเสียงเอ่ย

“ตอนนี้ลูกมีแฟนแล้วก็อยู่ให้ห่างจากลูกชายของหลี่ต๋าคาง สักหน่อย จะได้หลีกเลี่ยงเรื่องเข้าใจผิด เข้าใจไหม?” แม่ของเซี่ยลู่กระซิบข้างหูของเธอ

หลังจากได้ยิน ใบหน้าของเซี่ยลู่ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอมม่วง เธออยากจะบอกแม่ของเธอจริงๆ ว่า ในรถนั่น เด็กที่นั่งอยู่ก็คือลูกของหลี่ต๋าคาง นั่นแหละ อีกทั้งหลี่ต๋าคาง ที่ว่า ไหนเลยจะมีหนี้ก้อนใหญ่อยู่ คนเขาเป็นถึงเศรษฐีหลายพันล้านต่างหาก?

แต่เมื่อคำพูดขึ้นมาที่ปาก เซี่ยลู่กลับไม่ได้พูดส่งออก นั่นเพราะหลี่ฝางได้กำชับเธอไว้ว่าไม่ให้เธอพูด

“แม่ พวกเรากลับเข้าไปกันเถอะ” เซี่ยลู่จับแขนแม่ของเธอและเอ่ย

แม่ของเซี่ยลู่จ้องมองเธอและเอ่ย “เด็กคนนี้นี่ ยังมัวอายอะไรอีก!”

พูดจบ แม่ของเซี่ยลู่ก็มาที่เบนซ์G-Classและเคาะกระจกรถ

หลี่ฝางที่กำลังเตรียมจะขับรถกลับบ้าน เมื่อเห็นแม่ของเซี่ยลู่เคาะกระจก เขาก็ลดบานกระจกลงมา ในใจเขาคิด ยังไงก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส ทักทายสักหน่อยค่อยไป

แม่ของเซี่ยลู่เมื่อเห็นหลี่ฝางอยู่ในรถ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที “ทำไมเป็นนาย?”

พ่อของเซี่ยลู่ก็แสดงสีหน้าตกตะลึงเช่นกัน “หลี่ฝาง? นายมาอยู่ในรถได้อย่างไร!”

พ่อแม่ของเซี่ยลู่ตกตะลึง ลูกเขยเศรษฐีที่พวกตนคาดหวังเอาไว้ในใจ ทำไมถึงเป็นหลี่ฝางไปได้?

เหมือนกับเจอผีก็ไม่ปาน!

“ตาแก่ คุณว่าฉันตาฝาดไปรึเปล่า? ทำไมถึงเป็นลูกชายของหลี่ต๋าคาง ไปได้ล่ะ?” แม่ของเซี่ยลู่มองไปที่สามีของเธอและถาม

“เห็นผีอะไรนี่ นั่นเป็นลูกชายของหลี่ต๋าคาง หลี่ฝางจริงๆ” พ่อของเซี่ยลู่พูดอย่างเย็นชา

หลี่ฝางถามด้วยรอยยิ้ม “คุณลุง คุณป้า เห็นผมแล้ว ผิดหวังอย่างมากเลยใช่ไหม?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท