NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 129

ตอนที่ 129

บทที่129 หลินชิงชิงโทรมา

เจ้าพวกนี้ในผับต่างวิ่งเข้ามา ยืนด้านหลังหลี่ฝางกับถังหยู่ซวน

มู่เสี่ยวไป๋เห็นฉากนี้ สีหน้าหม่นลงทันที ที่นี่คือตงไห่ ไม่ใชถิ่นเขา

“อยากสร้างปัญหาเหรอ!” ถังหยู่ซวนมองมู่เสี่ยวไป๋อย่างเซ็งๆ

สีหน้ามู่เสี่ยวไป๋ยิ่งดูแย่ยิ่งขึ้น ลูกน้องเขา กลับไม่ขี้ขลาด แค่มู่เสี่ยวไป๋พูดมา พวกเขาก็กล้าลงมือ

แต่มู่เสี่ยวไป๋ไม่กล้าพูด

ก่อเรื่องที่นี่ จะทำให้ถังหยู่ซวนไม่พอใจได้ มู่เสี่ยวไป๋ไม่อยากผิดใจต่อถังหยู่ซวน

มู่เสี่ยวไป๋พูด: “ผมจะกล้าก่อเรื่องในถิ่นพี่ถังได้ไง ผมมาเพื่อเข้าร่วม”

“พี่ถัง?ใครพี่ถังของคุณ อย่ามาตีสนิทผมนักเลย” ถังหยู่ซวนขมวดคิ้ว ถาม: “คุณชื่อมู่เสี่ยวไป๋ใช่ไหม?”

“ใช่ ผมเอง” มู่เสี่ยวไป๋เลิกคิ้วขึ้นอย่างดีใจ: “พี่ถัง คุณรู้จักผมเหรอ!”

“ผมหาคุณมานานแล้ว!”

ถังหยู่ซวนพูดจบ ยกขาขึ้นไปเตะ มู่เสี่ยวไป๋เวลานี้ยังไม่ทันป้องกัน ถูกเตะล้มไปที่โซฟา

“ก็ขยะอย่างคุณที่แทงเพื่อนรักผมไง!ผมหาคุณมานานแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้คุณจะมาหาถึงที่เองเลย!” ถังหยู่ซวนยกหมัดขึ้นต่อยไปอีก

หมัดนี้ปล่อยไป ก็ถูกมู่เสี่ยวไป๋ยื่นไปคว้า

มู่เสี่ยวไป๋ร้องเสียงดัง: “แม่งเอ๊ยไม่ทำธุรกิจแล้วหรือไง ผมมากินเหล้าร้านคุณ มาสถานที่ของคุณนะ”

“ผมคือลูกค้า ลูกค้าคือพระเจ้า แม้แต่พระเจ้าคุณก็ทำร้ายเหรอ!”

มู่เสี่ยวไป๋จงใจร้องเสียงดัง เพื่อให้คนเยอะๆ ได้ยิน

แต่ผับก็เสียงดังอยู่แล้ว นอกจากโต๊ะรอบๆ ใครจะได้ยิน?

เสียงของDJดังขนาดนั้น อยู่ตรงหน้าเสียง คอของมู่เสี่ยวไป๋ก็ไร้ประโยชน์

“พระเจ้าแม่คุณสิ!”

มืออีกข้างของถังหยู่ซวนถือขวดเหล้า ทุบใส่ตัวมู่เสี่ยวไป๋โดยตรง: “ผมไม่สนใจพระเยซู และก็ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าอะไรทั้งนั้น”

มู่เสี่ยวไป๋ถูกทำร้าย คนข้างๆ เขาก็ขยับตัว จะพุ่งไปจัดการถังหยู่ซวน

พวกโหจื่อไม่ใช่ไม่ยอมทำงาน พวกเขาถือกระบองไฟฟ้า พุ่งเข้าไป

เสียงกระบองไฟฟ้าดังขึ้นเอี๊ยดอ๊าด ไม่ถึงหนึ่งนาที คนที่มู่เสี่ยวไป๋พามา ต่างถูกพวกโหจื่อจัดการเรียบ

ถังหยู่ซวนโหดร้ายมาก คนเดียวก็จัดการมู่เสี่ยวไป๋ได้

หลี่ฝางและพวกโหจื่อยืนอยู่หลังถังหยู่ซวน กดมู่เสี่ยวไป๋ไปบนโซฟา พอโจมตีไปแรงๆ เสร็จ ถังหยู่ซวนยืนขึ้นตรง พูด: “เหนื่อยจะตาย!”

พูดจบ ถังหยู่ซวนก็เตะมู่เสี่ยวไป๋

มู่เสี่ยวไป๋ถูกเตะไม่เบา ทั้งหน้าก็บวมขึ้นมา

“หายโกรธยัง?” ทำร้ายเสร็จ ถังหยู่ซวนหันไปมองหลี่ฝาง ถาม

หลี่ฝางคิดในใจ หายโกรธนะหาย แต่ทำร้ายลูกค้าในสถานที่ของตัวเอง ที่จริงไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่

พวกโหจื่อเพิ่งลงมือไป ลูกค้ารอบๆ ต่างล้อมกันเข้ามา แม้แต่โหจื่อก็ยังสวมชุดทำงานอยู่

พนักงานคนนี้ทำร้ายลูกค้า นี่มันเรื่องอะไรกัน!

หลี่ฝางพูดเบาๆ : “ถังหยู่ซวน แบบนี้จะส่งผลเสียต่อผับนะ”

ลูกค้าที่ล้อมวงกันเข้ามานี้ ต่างยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย คิดว่าถ่ายเสร็จ ก็จะส่งแชร์อัปโหลดลงกันมั่วแน่ๆ

โมเมนต์ ฟอรั่มต่างๆ แบบนี้

โมเมนต์ไม่เป็นอะไรหรอก ยังไงส่งผลกระทบก็มีจำกัด

แต่อัปลงเวยป๋อ ในฟอรั่มต่างๆ หากทำการแชร์เป็นจำนวนมาก ก็จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงอันแย่ต่อผับ

ถังหยู่ซวนสมองแล่นขึ้นมาเฉียบพลัน ชี้ไปที่มู่เสี่ยวไป๋พูด: “นี่คือจุดจบที่ไม่มีเงินจ่ายตังค์”

“ไม่มีเงินจ่ายตังค์ก็แล้วไปนะ ยังกล้าว่าพนักงานของพวกเราอีก ใส่ร้ายว่าพวกเราขายเหล้าปลอม ห่า กวนตีนจริงๆ !” ถังหยู่ซวนสบถแรงๆ ใส่

“นั่นสมควรแล้ว ใครไม่รู้บ้างว่าเจ้าของผับนี้รวยน่ะ จะขายเหล้าปลอมได้ไงกัน?” มีลูกค้าพูด

ตั้งแต่เปิดรีสอร์ตกับสวนสนุกอย่างเป็นทางการ เศรษฐีลึกลับก็ไม่ใช่เรื่องข่าวลืออีกต่อไป

ทุกคนต่างก็รู้ ผับนี้ เป็นหนึ่งในธุรกิจของเศรษฐีลึกลับ

เศรษฐีลึกลับคนนั้นลงทุนไปกว่าหลายหมื่นล้าน จะเปิดผับ แล้วขายเหล้าปลอมได้ไงกัน?ทุกคนต่างไม่เชื่อ

“ไม่มีเงินก็อย่ามากินเหล้าสิ เป็นถึงกลุ่มคุณชายขนาดนี้ ไม่อายคนเหรอไง!”

“ตีเขาแค่นี้น้อยไป ผมว่าไปแจ้งความ เอาพวกเขาเข้าคุก ขังไว้หลายวันหน่อย ให้พวกเขาจำไว้นานๆ”

หลี่ฝางแปลกใจหน่อย แขกพวกนี้ ทำไมไม่พูดเพื่อมู่เสี่ยวไป๋เลย!

ต่อมาหลี่ฝางก็คิด ก็เข้าใจขึ้นมา นอกจากหลี่ต๋าคางจะพัฒนารีสอร์ตกับสวนสนุกแล้ว ก็ยังสร้างห้างใหญ่ๆ โรงพยาบาล ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ให้ตงไห่ ……

คนตงไห่ในตอนนี้ ต่างขอบคุณหลี่ต๋าคางจะตายอยู่แล้ว

Recalling the pastเป็นถึงธุรกิจของหลี่ต๋าคาง พวกเขายังไม่ทันสนับสนุน จะแบนมันได้ไงกัน?

มีสาวแซ่บคนหนึ่งวิ่งเข้ามา ถ่ายที่หน้าของมู่เสี่ยวไป๋อยู่หลายที

“สาวสวย คุณทำอะไรเนี่ย?” หลี่ฝางถามอย่างไม่เข้าใจ

“ก็จะแฉเขาไง คนขี้โกงแบบนี้ ควรแฉเอาลงเน็ต โดนชาวเน็ตกร่นด่า!” สาวแซ่บพูดด้วยความโกรธ

“ใช่ แฉเขาเลย!”

ทุกคนต่างพูดอย่างเห็นด้วย: “เจ้านายของผับที่นี่ เป็นถึงคนจิตใจดีของพวกเราตงไห่ สร้างบ้านพักคนชรากับโรงเรียนอนุบาลให้พวกเราตงไห่หลายแห่ง คนจิตใจดีแบบนี้ จะขายเหล้าปลอมได้ไง?”

“กินแล้วชักดาบ ยังใส่ความคนใหญ่โตจิตใจดีของตงไห่อีก น่าโมโหจริงๆ”

มีคนหยาบคายคนหนึ่งวิ่งเข้ามา ทนไม่ไหวถีบมู่เสี่ยวไป๋ไป

คนหยาบคายคนนี้เปิดก่อน หลายคนต่างก็วิ่งเข้ามา ลงไม้ลงมือกับมู่เสี่ยวไป๋กับคนของเขา

เจ้าพวกมู่เสี่ยวไป๋เพิ่งได้สติคืนมา ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกกลุ่มคนล้อมไว้ ถูกตบตีสารพัด ทั้งตบตี และถ่มน้ำลายใส่

ตอนนั้นหลี่ฝางตกใจ

คนของพ่อตัวเองสุดยอดจริงๆ ต่างใจบุญทั้งนั้น

“จัดการคนขี้โกงแบบนี้ ก็สมควรที่จะรุมลงมือ จากนั้นก็แฉเขาลงอินเทอร์เน็ต” สาวแซ่บคนนั้นพูดจบ ก็เริ่มอัปโหลดโพสต์

อัปโหลดเสร็จ เธอยังขอให้คนในผับช่วยให้โพสต์ของเขาเธอเป็นที่นิยม

หลี่ฝางกับถังหยู่ซวนเห็นฉากนี้ ก็ไม่รู้จะร้องไห้หรือขำดี

ถึงแม้มู่เสี่ยวไป๋เอาแต่อธิบายตลอด แก้ต่างเพื่อตัวเอง แต่คนพวกนี้ ไม่ฟังเขาสักนิด

สุดท้ายมู่เสี่ยวไป๋ก็ถูกกลุ่มคนทิ้งไปนอกผับ ถังหยู่ซวนชี้ไปที่มู่เสี่ยวไป๋พูด: “ต่อไปอย่าให้ผมเห็นคุณอีกดีที่สุด ไม่งั้นผมเห็นคุณ ก็จะจัดการคุณ ได้ยินไหม?”

มู่เสี่ยวไป๋โกรธจนกัดฟัน ตอนที่กัดฟัน มุมปากก็รู้สึกเจ็บปวด

ใบหน้ามู่เสี่ยวไป๋ มีหมัดนับไม่ถ้วน ถึงจะแสดงสีหน้าเบาๆ ก็ยังรู้สึกเจ็บ

“บัญชีนี้ ผมมู่เสี่ยวไป๋จะจำไว้” มู่เสี่ยวไป๋อดกลั้นความเจ็บ พูดอย่างเยือกเย็น

ถังหยู่ซวนไม่กลัวสักนิด แค่พูดอย่างเหยียดหยาม: “ยังจะกล้าขู่ผม?”

“หลี่ฝาง หมอนี้ท่าทางไม่พอใจมาก ไม่งั้นพวกเราทำร้ายอีกหน่อย จัดเขาครั้งเดียวให้พอใจไปเลย” ถังหยู่ซวนถามหลี่ฝาง

หลี่ฝางส่ายหน้า พูด: “ช่างเถอะ ปล่อยเขาไป”

ยังไงต่อไปตัวเองยังต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองเอก เมืองเอกเป็นถึงถิ่นของมู่เสี่ยวไป๋

จะทำให้ผิดใจมากไม่ได้นัก

ตั้งแต่เล็กจนโต มู่เสี่ยวไป๋ก็ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติด้วยความมั่งคั่งและร่ำรวย ยังไม่เคยโดยรังแกแบบนี้

พอกลับถึงผับ ถังหยู่ซวนมองหลี่ฝางอย่างไม่พอใจ: “คุณก็ปล่อยเขาแบบนี้เนี่ยนะ?ผมยังอยากแทงเขาสักหน่อย แก้แค้นให้คุณ”

“อย่าเพิ่งบุ่มบ่าม สถานะของมู่เสี่ยวไป๋ไม่ธรรมดา เขาเจ๋งมากที่เมืองเอก” หลี่ฝางพูดห้ามปราม

“ไม่มั้ง ผมไม่เชื่อว่า ตระกูลมู่เสี่ยวไป๋จะเจ๋งกว่าคุณได้” ถังหยู่ซวนพูด

หลี่ฝางก็ไม่รู้ว่า พ่อตัวเองกับตระกูลมู่ ใครเจ๋งกว่ากันแน่

ถ้าเทียบเงินล่ะก็ หลี่ต๋าคางไม่แพ้ให้ตระกูลมู่แน่ ยังไงก็ลงทุนไปกว่าหลายหมื่นล้านแล้ว แล้วทางบ้านก็ไม่รู้อีกว่ามีตั้งเท่าไหร่

ก็แค่ อำนาจคอนเนคชั่น หลี่ต๋าคางเพิ่งกลับประเทศ สู้ตระกูลมู่ไม่ได้แน่

ไม่นานนัก โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้นมา เป็นเบอร์แปลกโทรเข้า

ตอนแรกหลี่ฝางไม่รับ แต่เบอร์นี่โทรติดกันอยู่หลายครั้ง หลี่ฝางวิ่งไปที่ข้างห้องน้ำ กดรับ: “ใครอ่ะ?”

“ฉันพี่คุณนะ หลินชิงชิง!” หลินชิงชิงพูดด้วยความโมโหหน่อยๆ : “เสี่ยวฝาง คุณนี่ปีกกล้าขาแข็งแล้วนะ แม้แต่เบอร์พี่คุณยังไม่รับ”

“นี่ไม่ใช่เบอร์คุณนี่!” หลี่ฝางพูด

“ใช่สิ ฉันลืมไปเลย นี่คือเบอร์ใหม่ฉัน คุณบันทึกไว้สิ”

หลินชิงชิงพูดจบ ก็พึมพำแล้วหัวเราะในสาย: “หลี่ฝาง คุณทำร้ายมู่เสี่ยวไป๋เหรอ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท