NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 142

ตอนที่ 142

บทที่ 142 การรวมตัวของมหาเศรษฐี

บริษัทมีเดียของโจวเจ๋ จะน่ามีมูลค่าหลักสิบล้านเท่านั้น

ดาราที่อยู่ในสังกัด ถ้าไม่ใช่เน็ตไอดอล ก็เป็นพวกนางแบบ และก็ดาราเล็กๆ ไม่กี่คน ต่างก็เป็นดาราที่ไม่ค่อยมีเชื่อเสียง

เพียงแค่ร้านเหล้าRecalling the pastร้านเดียว ก็ลงทุนไปมากกว่าสองพันล้าน

โจวเจ๋เข้าใจว่าร้านRecalling the pastเป็นของถังหยู่ซวน ดังนั้นไม่ว่าถังหยู่ซวนจะพูดอะไรก็ตาม เขาจึงไม่กล้าที่จะโต้เถียง

โจวเจ๋ก็พูดอย่างไม่พอใจ: “ในเมื่อหลี่ฝางมาแล้ว งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ”

“ใจร้อนอะไร?” หลี่ฝางกล่าว: “ไปรับคนเป็นเพื่อนฉันก่อน”

ข้างกายถังหยู่ซวนมีจางปิงปิง ข้างกายโจวเจ๋มีจางเชี่ยน หลี่ฝางรู้สึกว่าตัวเองยังขาดคู่ควง

“จะไปรับใครละ?” สีหน้าของโจวเจ๋นั้นดูแย่ไปกว่าเดิม

“ไปรับแฟนฉัน” หลี่ฝางกล่าว

ถังหยู่ซวนดูออกว่าโจวเจ๋ไม่พอใจ ก็กล่าวขึ้น: “โจวเจ๋ หากนายรู้สึกว่าพวกเรายุ่งยากล่ะก็ นายไปก่อนเลย เดี๋ยวพวกเราตามไป”

โจวเจ๋หันไปยิ้มให้กับถังหยู่ซวน: “พี่ถัง ฉันไม่มีธุระอะไร ไปพร้อมกับพวกพี่แหละ ยังไงเวลาก็ยังเช้าอยู่”

“หลี่ฝาง นายจะไปรับใครเหรอ?” ถังหยู่ซวนถามไปหนึ่งคำ

“ลู่หลุ่ย” หลี่ฝางตบที่บ่าของถังหยู่ซวน ยิ้มแล้วกล่าว: “ใช่แล้ว ฉันยังไม่รู้ว่าบ้านของลู่หลุ่ยอยู่ตรงไหนเลย นายนำทางละกัน”

สีหน้าของถังหยู่ซวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย: “บ้านของลู่หลุ่ยนั้นอยู่บนเขาเลยนะ”

“บนเขาแล้วทำไม?” หลี่ฝางพูดอย่างไม่แยแส: “รีบไปนำทางเถอะ”

“ก็ได้” ถังหยู่ซวนตอบอย่างจำยอม ขึ้นรถแล้วขับนำทาง

รถปอร์เช่สองคัน รถเบนซ์G-Classหนึ่งคัน รถสามคันวิ่งบนถนน ก็ถือเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามภาพหนึ่ง

โดยเฉพาะรถปอร์เช่918ที่เป็นคนขับนำ ระหว่างทางมีคนถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง

ถังหยู่ซวนเห็นภาพนี้แล้ว รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนตัวเองขับรถมือสอง มีคนมองที่ไหนกันละ?

แต่ตอนนี้ ไม่ว่าถังหยู่ซวนจะจอดรถตรงไหน ก็ทำให้เกิดความสนใจได้ตลอด

ไม่นานนัก รถก็ได้เข้าสู่ทางขึ้นเขาอีกเส้นหนึ่ง

รถปอร์เช่นั้นต่ำมาก ตลอดทาง ไม่รู้ว่ารถปอร์เช่ของถังหยู่ซวนนั้นกระแทกไปกี่ครั้งแล้ว

“แม่ง รถของฉัน!” โจวเจ๋ด่าอย่างปวดใจ: “ไอ้สารเลวหลี่ฝาง ทำไมถึงมารับคนในที่แบบนี้?”

“เย็ดแม่ง รถกูถูกกระแทกจนจะพังแล้ว!” โจวเจ๋อยากที่จะหยุดรถแล้ว

จางเชี่ยนที่นั่งอยู่ข้างคนขับ คิดในใจ: “ปอร์เช่918เขายังไม่หวงขนาดนี้เลย ของนายมันแค่911จะหวงอะไรนักหนา”

เวลานี้ จางเชี่ยนเหมือนจะเห็นด้วยกับคำพูดประโยคนั้นของถังหยู่ซวนแล้ว

อยู่ตรงหน้าถังหยู่ซวน โจวเจ๋นั้นเป็นเหมือนคนจนคนหนึ่งจริงๆ

รถของหลี่ฝางนั้นไม่มีปัญหาอะไรเลย ทางขึ้นเขาเหมือนขับอยู่บนถนนที่เรียบ สบายอย่างมาก

รถกระแทกมาตลอดทาง ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงบ้านของลู่หลุ่ย ถังหยู่ซวนลงมาจากรถ ชี้ไปบ้านหลังหนึ่ง พูดกับหลี่ฝาง: “หลังนั้นแหละบ้านของลู่หลุ่ย”

“โอเค ฉันไปหาเธอก่อน” หลี่ฝางพูดจบก็เดินเข้าไปเลย

โจวเจ๋มองรถของตัวเองไปแวบหนึ่ง รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจมาก เป็นรถที่เพิ่งจะถอยมาใหม่ด้วย

ต้องโทษหลี่ฝาง ความไม่พอใจของโจวเจ๋ที่มีต่อหลี่ฝาง เพิ่งขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด

โจวเจ๋เหลือบมองไปที่ถังหยู่ซวน แต่หน้าของถังหยู่ซวน กลับเรียบเฉยมาก

“พี่ถัง รถราคายี่สิบล้านถูกกระแทกแบบนี้ พี่ไม่ปวดใจเลยเหรอ?” โจวเจ๋อดไม่ได้ที่จะถามออกไปหนึ่งประโยค พูดตามตรง เขาก็ปวดใจอยู่ ถึงแม้ว่ารถปอร์เช่918คันนี้จะไม่ใช่ของเขาก็ตาม

“ปวดใจไปทำไม ก็แค่รถคันเดียวไม่ใช่เหรอ?” ถังหยู่ซวนพูดสีหน้าที่ไม่แยแส: “มากสุดถ้าพังแล้วก็ซื้อคันใหม่”

โจวเจ๋กลืนน้ำลายลงคอ หมดคำพูดแล้วจริงๆ รถเทพยี่สิบกว่าล้าน อยู่ในสายตาของถังหยู่ซวน กลับกลายเป็นรถสัปปะรังเค?

เช้อ การพูดจานี้โอหังกว่าของไอ้หวางซือชงคนนั้นเสียอีก!

รอไปประมาณหนึ่งชั่วโมง หลี่ฝางก็ได้พาลู่หลุ่ยออกมาจากบ้าน

ขณะนั้นโจวเจ๋โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ: “ตั้งนานทำไมเพิ่งจะออกมา เย็ดแม่ฉันยังนึกว่านายตายไปแล้วเสียอีก”

“ทำไมนายถึงพูดแบบนี้!” ยังไม่ทันที่หลี่ฝางจะโกรธ ถังหยู่ซวนก็จ้องมองโจวเจ๋ด้วยสายตาที่ดุดัน

เดิมทีหลี่ฝางยังมีความรู้สึกผิด เตรียมตัวออกมาขอโทษ สรุปเพราะคำพูดประโยคเดียวของโจวเจ๋ ทำให้ความรู้สึกผิดของหลี่ฝาง หายไปในพริบตา

“ช่างเถอะ ทำให้พวกนายรอนานแล้ว ไปกันเถอะ” หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบเฉย

รอจนถังหยู่ซวนเข้าไปในรถ โจวเจ๋ก็หัวเราะเยาะ: “เธอจะใส่ชุดนี้ไปร่วมงานเหรอ?”

“มีปัญหาอะไรมั้ย?” หลี่ฝางถามไปหนึ่งประโยค

“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา” โจวเจ๋หัวเราะเสียงดัง แล้วก็เข้าไปในรถ

โจวเจ๋คิดในใจ รอให้ไปถึงในงานปาร์ตี้ พวกเธอก็จะเป็นตัวตลกแล้ว

มีใครใส่ชุดกีฬาไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?

อีกทั้งยังเป็นชุดตามตลาดนักอีกด้วย!

“หลี่ฝาง ฉันทำให้นายขายหน้าหรือเปล่า?” ลู่หลุ่ยเห็นถึงความผิดปกติ ก็รีบก้มหน้าลง

“พูดอะไรอย่างนั้นละ” หลี่ฝางถลึงตาใส่ลู่หลุ่ย แล้วกล่าว: “เธอใส่อะไรก็สวยแหละ รู้หรือเปล่า?”

“ยังมีอีก ผู้หญิงที่หน้าตางดงามอย่างเธอ ยอมมาเป็นคู่ควงให้ฉัน เป็นเพราะบรรพชนของฉันสั่งสมบุญไว้แน่เลย” หลี่ฝางปลอบใจลู่หลุ่ย

ใบหน้าของลู่หลุ่ยจึงได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง: “เวอร์ขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ก็ต้องขนาดนั้นสิ”

หลี่ฝางพูดจบ ก็ดึงมือลู่หลุ่ยขึ้นรถไปด้วยกัน

ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกหลี่ฝางก็ได้มาถึงรีสอร์ต

เมื่อลงจากรถ จางเชี่ยนและจางปิงปิงต่างอึ้งกันไปเลย

รถเฟอร์รารี่ ปอร์เช่ บีเอ็ม r8 แอสตันมาร์ติน รถหรูหลักหลายแบรนด์ได้ถูกรวบรวมไว้ที่นี่

ที่จอดรถของรีสอร์ตนี้ อลังการกว่างานแสดงรถหรู

จากลานจอดรถออกมา ไปยังทางเข้าประตูรีสอร์ต ทางเข้านี้ เป็นทางเดินที่ทำเป็นรูปทรงมังกรยักษ์

“พี่ถัง พ่อพี่ช่างใจป้ำจริงๆ ได้ยินว่าแค่ทางเข้ารีสอร์ตนี้ ก็ลงทุนไปหลายร้อยล้านแล้ว โจวเจ๋เดินไปข้างหน้าของถังหยู่ซวน” พูดอย่างเอาอกเอาใจ

ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างอึดอัด นั่นมันพ่อของหลี่ฝางหรือเปล่า?

โจวเจ๋ชี้ไปที่ดวงตาของมังกรยักษ์แล้วกล่าว: “เห็นมุกนี้หรือเปล่า? มันเป็นไข่มุกราตรีที่มีมูลค่ามาก ลูกละสามสิบกว่าล้านเลยนะ”

“ดูงานแกสลักนี่สิ เกล็ดมังกรทุกเกล็ดมาจากมือของอาจารย์ ได้ยินมาว่าใช้เวลาแกะสลักตั้งสามปีกว่านะ” โจวเจ๋เหมือนเป็นไกด์นำเที่ยวเลย ได้อธิบายให้หลี่ฝางและถังหยู่ซวนฟัง

“นายทำไมรู้เยอะจัง?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

หากสิ่งที่โจวเจ๋พูดเป็นความจริง ก็เท่ากับว่า เริ่มตั้งแต่วันที่พ่อของตัวเองหายไป ก็ได้เริ่มสร้างรีสอร์ตนี้อย่างลับๆ แล้วเหรอ?

ก็เท่าหมายความว่า ในสามปีนี้ พ่อของตัวเองได้เคยกลับมาที่ตงไห่?

โจวเจ๋ยิ้มอย่างลำพองใจ: “อาจารย์ที่แกะสลักมังกรยักษ์ตัวนี้ พอดีรู้จักกับพ่อของฉัน วันที่ท่านทำงานนี้เสร็จ ท่านยังไปทานข้าวที่บ้านฉันเลย”

“ดังนั้นฉันจึงรู้เยอะขนาดนี้ไง” โจวเจ๋อธิบาย

“ไปเถอะ เข้าไปข้างในกัน” หลี่ฝางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

เวลานี้โจวเจ๋หยิบการ์ดเชิญออกมา แสดงฐานะของตัวเอง อีกฝ่ายมองแล้ว ก็แสดงสีหน้าที่ดูแคลน: “บริษัทช่วงหง?”

“ใช่ๆ” โจวเจ๋พยักหน้าซ้ำๆ

“เห่อๆ บริษัทเล็กๆ แบบนี้ ยังมีการ์ดเชิญ? ช่างน่าแปลกจริงๆ” อีกฝ่ายส่ายหัว กล่าวอย่างเยาะเย้ย

“ช่างเหอะ เข้าไปเถอะ”

สีหน้าของโจวเจ๋ดูแย่ไปเลย เห็นได้ชัดว่า คนตรวจการ์ดเชิญดูถูกเขา!

มังกรยักษ์เป็นอุโมงค์ทางเดิน ปากมังกรก็คือทางเข้า หางมังกรก็คือทางออก

หลี่ฝางถามไปอย่างนั้น: “โจวเจ๋ การ์ดเชิญของนายได้มาจากไหน?”

“เมื่อกี้ก็พูดแล้วไง อาจารย์ที่แกะสลักเป็นเพื่อนของพ่อฉัน ดังนั้นฉันจึงได้การ์ดเชิญของรีสอร์ตนี้มา”

“ฉันจะบอกพวกนายนะ คนที่มาร่วมงานในครั้งนี้ มูลค่าของแต่ละคนไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน” โจวเจ๋กล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ร้อยล้าน?” จางเชี่ยนตกใจจนอ้าปากค้าง: “ก็เท่ากับว่า เดี๋ยวคนที่ฉันเจอทุกคน ล้วนเป็นเศรษฐีร้อยล้านเหรอ?”

“ก็คงไม่ใช่ทุกคน อย่างหลี่ฝาง เขาก็ไม่ใช่” โจวเจ๋ชำเลืองตาไปมองหลี่ฝาง กล่าวอย่างดูถูก

“ทำไม นายใช่เหรอ?” หลี่ฝางถามกลับ

“หากมูลค่าตัวนายมากว่าร้อยล้าน คนเฝ้าประตูก็คงไม่ดูถูกนายหรอก” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทิ้งห่างจากโจวเจ๋

โจวเจ๋ก็บ่นพึมพำ: “ยังไงก็ยังดีกว่านาย”

หลี่ฝางอยากที่จะบอกโจวเจ๋จริงๆ รีสอร์ตทั้งรีสอร์ตนี้ล้วนเป็นของกู!

ถังหยู่ซวนรีบเดินตามไป กระซิบกับหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง ฉันทำไมถึงรู้สึกกลัวนิดหน่อย!”

“กลัวอะไร?”

“เฮ้ย ฉันก็ไม่รู้” ถังหยู่ซวนขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียด

“ในเมื่อมาแล้ว ก็อยู่เที่ยวให้มีความสุข จะกลัวอะไร?” หลี่ฝางยิ้มเล็กน้อย

“รีสอร์ตนี้ จริงๆ แล้วก็เป็นของบ้านฉัน ถังหยู่ซวน นายมาเที่ยวบ้านฉัน นายมีอะไรต้องกลัว?

หลี่ฝางพูดจบ สีหน้าของถังหยู่ซวนก็ดีขึ้นไม่น้อย

“ก็ใช่ ต่อให้ถูกจับได้ ฉันก็เป็นเพื่อนนาย” ถังหยู่ซวนหัวเราะกล่าว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท