NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 155

ตอนที่ 155

บทที่ 155 หลินชิงชิงถูกรังแกแล้ว

“เรื่องของฉัน?”

หลี่ฝางเอ่ยพร้อมยิ้มอย่างโง่งม “ฉันเพิ่งจะจบการศึกษามัธยมปลายมา จะไปมีเรื่องราวอะไรได้”

เจ้าหัวแบนส่ายหัว “ทำไม ยังคิดจะปิดบังพวกเราอีกหรือไง?”

“ถ้านายไม่ใช่หลานของหลี่เจียเฉิน ลุงเฉียนจะช่วยนายขนาดนี้ได้หรือ? เพื่อนายถึงกับไปทำให้ตระกูลมู่ขุ่นเคือง?” เจ้าหัวแบนถามด้วยความสงสัย

“ยังมีเรื่องตู้ต้าไห่อีก”

“ตู้ต้าไห่เป็นถึงนักธุรกิจกระดูกใหญ่ เขามีไหวพริบในโลกธุรกิจมาโดยตลอด แต่ไหนแต่ไรไม่เคยทำให้ใครขุ่นเคือง แต่บริษัทของเขากลับถูกคนทำให้ล้มละลาย ฉันคิดว่านี่ต้องเป็นเพราะลูกชายของเขาทำให้นายขุ่นเคือง”

เจ้าหัวแบนเอ่ย “ถ้านายไม่ยอมรับ อย่างนี้ก็ช่างน่าเบื่อ”

หลี่ฝางยิ้มๆ เขาดื่มเบียร์เข้าไปอึกใหญ่ “ในเมื่อนายเดาออกแล้ว ฉันก็ยอมรับแล้วกัน”

“อันที่จริงแล้วพ่อของฉันเป็นเศรษฐีลึกลับนั่น อีกทั้งRecalling the pastก็เป็นของฉันเอง” หลี่ฝางกล่าว

พูดจบ สายตาของหลินชิงชิงที่มองไปที่หลี่ฝาง ราวกับกำลังมองมนุษย์ต่างดาว

“เป็นอะไรไป พี่สาว?” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เสี่ยวฝาง….นายเป็นลูก…..เศรษฐีลึกลับ…นั่น…จริงๆ หรือ?” หลินชิงชิงรู้สึกตื่นเต้นจนพูดจาติดขัด

“ใช่”

หลี่ฝางพยักหน้า เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่สาว คุณยังจำได้ไหม ครั้งแรกที่พวกเราไปที่บาร์ ตอนที่พี่ไปส่งผมกลับโรงเรียน ผมบอกพี่ไปแล้ว”

“ผมบอกว่าเศรษฐีลึกลับคือพ่อของผม แต่พี่ไม่เชื่อ” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

“พระเจ้า” หลินชิงชิงทับอกของตน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“พี่ ดื่มเบียร์ระงับความตกใจสักหน่อย” หลี่ฝางรินเบียร์ให้หลินชิงชิง

เมื่อเทียบกับหลินชิงชิงแล้ว เจ้าหัวแบนกลับสงบมากขึ้นแล้ว

ใบหน้าของเขา ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

บางทีอาจเป็นเพราะเขาเดาได้ตั้งนานแล้วว่าจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง

“เสี่ยวฝาง ทำไมนายต้องปกปิดตัวตนของนาย?” เจ้าหัวแบนมองไปที่หลี่ฝางและถาม

“อันที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไร” หลี่ฝางยิ้ม “เป็นความเคยชินไปแล้วน่ะ”

“ถ้าหากมีวันหนึ่งปกปิดต่อไม่ได้แล้ว ฉันก็จะประกาศ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ยังไงเสียนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าหัวแบน นายฉลาดจริงๆ”

“คนที่ฉลาดกว่าฉันมีมากมาย อีกไม่นาน นับวันตัวตนของนายก็จะถูกคนเดาออกได้มากขึ้นเรื่อยๆ”

“กลุ่มคนในวิลล่าวันนี้ เห็นทีคงเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้ว” เจ้าหัวแบนเอ่ย

หลี่ฝางไม่สนใจ ใครจะสงสัยก็สงสัยไป

หลังจากกินแกะย่างไป หลี่ฝางก็เอ่ย “มู่เสี่ยวไป๋จะรู้ไหม?”

หลี่ฝางคิดในใจ เจ้าหัวแบนมองออก คนอื่นสามารถสงสัยได้ แล้วมู่เสี่ยวไป๋ล่ะ?

“เขาคงไม่โง่ไปกว่าคนอื่นหรอกหรือ?” หลี่ฝางถามเจ้าหัวแบน

เจ้าหัวแบนยิ้ม เขาเอ่ย “อาศัยความฉลาดของเขา เขาคงเดาออกได้แล้ว”

“ความหมายของนายก็คือ เขาเองก็รู้ตัวตนของฉันล่ะ?” หลี่ฝางถามต่อ

เจ้าหัวแบนส่ายหัว “เสี่ยวฝาง นายเคยได้ยินคำนี้ไหม ใบไม้หนึ่งใบบังตา มองไม่เห็นภูเขาไท่ซาน”

“เคยได้ยิน” หลี่ฝางพยักหน้า

“อย่างนั้นก็ช่างเถอะ ต่อให้เขาเดาออกถึงฐานะนาย แต่ในใจลึกๆ ของเขา ก็คงไม่ยอมเชื่อแน่ว่านี่เป็นเรื่องจริง”

“แต่ว่า มู่เจิ้งถังยอมเชื่อ ในใจของมู่เจิ้งถังระมัดระวังอย่างยิ่ง อาศัยขอบเขตของเขา ไม่ยากเลยที่เขาจะรู้ตัวตนของนาย”

“แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ มู่เสี่ยวไป๋ไม่ไปบอกมู่เจิ้งถังแน่ เพราะสุดท้ายแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอะไร” เจ้าหัวแบนเอ่ย

“ทำไม นายไม่อยากให้เขารู้ล่ะ?” เจ้าหัวแบนมองไปที่หลี่ฝางด้วยความสนใจ

หลี่ฝางส่ายหัว “ไม่ต้องการ”

“ถ้ามู่เสี่ยวไป๋รู้จักตัวตนของนาย ก็คงจะไม่มาหาเรื่องนายแน่” เจ้าหัวแบนเอ่ย

“ฉันเข้าใจ”

หลี่ฝางเอ่ย “แต่ถ้าตัวตนของฉันถูกเปิดเผย ต่อไปหลังจากนี้คงหลีกเลี่ยงไม่พ้นปัญหามากมาย”

“ฉันแค่อยากใช้ชีวิตธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินนั่น นั่นเป็นเรื่องดีจะตาย” หลี่ฝางกล่าวด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ

“คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่านายจะเป็นถึงลูกชายของเศรษฐีลึกลับ”

ในเวลานี้หลินชิงชิงไม่ได้ตื่นเต้นมากขนาดนั้นแล้ว “อันที่จริงฉันควรจะคิดได้มาตั้งนานแล้ว”

“ในตอนแรกพี่สะใภ้ของฉัน ซึ่งก็คือภรรยาของจางกงหมิงถูกลักพาตัว นายขอให้ถังหยู่ซวนส่งการ์ดมาให้หนึ่งใบให้ฉัน ในนั้นมีเงินมากกว่า 6 ล้านหยวน”

“มาลองคิดดู พวกเรานี่มันโง่จริงๆ ลูกคนธรรมดาทั่วไป ไหนเลยมีเงินมากขนาดนั้นในบัตรได้?”

ทันใดนั้นหลินชิงชิงก็ตระหนักได้ขึ้นมา “ตอนนั้นรีบร้อนเกินไป ไม่ได้คิดดูให้ดี ตอนนี้มาคิดดูอีกที อันที่จริงนายหลุดตัวตนออกมาตั้งนานแล้ว”

“อ้อใช่ พี่หมิงไปไหนแล้ว?”

หลี่ฝางนึกไปถึงจางกงหมิงและถามขึ้น “พวกคุณรู้ไหมว่าเขาไปอยู่ไหนแล้ว?”

“เขาเองก็อยู่ในเมืองเอกของจังหวัดด้วย”

เจ้าหัวแบนเอ่ย “ตอนนี้เขากำลังร่วมมือกับมู่เสี่ยวไป๋ มู่เสี่ยวไป๋ให้เงินสนับสนุนเขา เป็นเบื้องหลังให้กับเขา ช่วยให้เขาขึ้นเป็นลูกพี่ของเมืองเอกของจังหวัดได้”

ใบหน้าของหลี่ฝางตกตะลึง สีหน้าเปลี่ยนเป็นแย่ลงอยู่บ้าง

ข่าวนี้ ยากที่หลี่ฝางจะยอมรับอยู่บ้าง

“พี่หมิงเขาไม่มีเรื่องอะไรจะทำแล้วหรือไง? ฉันได้ยินมาว่าเขาฆ่าทั้งต้าเฉียงและหลี่หลงไปแล้ว” หลี่ฝางคิดแล้วก็รู้สึกกลัว นี่เป็นเรื่องของสองชีวิตได้

“มีคนช่วยจัดการหนี้ชีวิตของสองคนนั้นแทนลูกพี่ลูกน้องของฉันแล้ว คดีของหลี่หลงและต้าเฉียงถูกปิดลงแล้ว” สีหน้าของหลินชิงชิงมีความซับซ้อนอยู่บ้าง เธอเอ่ย “อันที่จริงอู๋เฟยก็ไม่เลว แต่น่าเสียดาย”

“อู๋เฟย?”

“ชายตุ้มหู” หลินชิงชิงเอ่ย “เขาถูกตัดสินประหารชีวิต”

“เชื่อว่าอีกไม่นานคงถูกยิงแน่”

ในขณะที่คุยกัน จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นด้านนอก

เจ้าพานเดินเข้ามาและถาม “ชิงชิง เธอออกมาหน่อยได้ไหม”

หลินชิงชิงวางบาร์บีคิวในมือลง และเดินออกไป

ในเวลานี้เอง หลี่ฝางและเจ้าหัวแบนต่างก็เห็นบางอย่างผิดปกติ

สีหน้าของเจ้าพานผู้จัดการร้าน มีรอยฝ่ามือห้านิ้วอยู่อย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าเพิ่งถูกคนตบมา

“ออกไปดูกันเถอะ” หลี่ฝางรีบลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินออกไป

และจากนั้นเจ้าหัวแบนก็ตามออกมาด้วย

ในเวลานี้ ข้างนอกไม่มีเงาของเจ้าพานและหลินชิงชิงอีกต่อไป

“หลิงหลิง ปู่ล่ะ?” เจ้าหัวแบนกวักมือเรียกเด็กหญิงอายุเจ็ดหรือแปดขวบเข้ามา

เด็กหญิงที่ถูกเรียกว่าหลิงหลิง ผูกผมเปียอยู่สองข้าง มองดูแล้วน่ารักอย่างยิ่ง

แต่ว่า ดวงตาของหลิงหลิง ดูเหมือนว่าจะเพิ่งผ่านการร้องไห้มา

หลิงหลิงเดินมาตรงหน้าเจ้าหัวแบน ก่อนจะกอดต้นขาของเจ้าหัวแบนและร้องไห้ “คุณลุงเสี่ยวโจว พวกเขารังแกปู่ของหนู”

“พวกเขา? พวกเขาเป็นใคร?” เจ้าหัวแบนถามอย่างรวดเร็ว

“พวกเขาทุกคนเป็นคนเลว ไม่เพียงแค่ต้องการเงินของคุณปู่ พวกเขายังลงมือกับคุณปู่ด้วย” เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่มีชื่อว่า

หลิงหลิงร้องไห้ไปพูดไป

ไทุกครั้งที่มาพวกเขามา ก็มักจะรังแกคุณน้าชิงชิงด้วย ให้คุณน้าชิงชิงดื่มเป็นเพื่อนพวกเขา”

“พวกเขาอยู่ที่ไหน?”

หลังจากหลี่ฝางได้ยิน เขากำหมัดแน่นทันที ทุบตีคน ต้องการค่าคุ้มครองก็แล้วไป แต่ยังกล้ามารังแกหลินชิงชิง จุดนี้ หลี่ฝางทนไม่ได้

“พวกเขาขึ้นไปชั้นบนแล้ว” หลิงหลิงชี้ไปที่ชั้นสอง

“ไป” หลี่ฝางและเจ้าหัวแบนรีบขึ้นไปชั้นบนทันที

บนชั้นบันได ทั้งสองคนก็พบกับเจ้าพานกำลังเดินลงมาชั้นล่าง

เจ้าพานหยุดเจ้าหัวแบนเอาไว้และเอ่ย “เสี่ยวโจว ฉันรู้ว่านายจะทำอะไร แต่นายไม่สามารถทำแบบนี้ได้”

“ถ้านายตีพวกเขาไป ธุรกิจฉันก็ทำไม่ได้แล้ว” เจ้าพานเอ่ยอย่างขมขื่น

“เจ้าพาน นายยังจำที่ฉันบอกได้ไหม?”

เจ้าหัวแบนกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันเคยบอกนายว่า ฉันฝากฝังชิงชิงให้นาย ให้นายดูแลเธอให้ดี”

“แต่นายดูแลเธอแบนนี้หรือ?” เจ้าหัวแบนเอ่ยถามเสียงเย็น

“เสี่ยวโจว ไม่ต้องกังวล ชิงชิงสามารถรับมือได้ ไม่ถูกเอาเปรียบแน่” เจ้าพานเอ่ย

“ถอยไป!” หลี่ฝางถลึงตาใส่เจ้าพาน “ร้านผุพังนี่มีมูลค่าเท่าไหร่กันเชียว? อย่างมากฉันก็แค่ชดค่าเสียหายให้ ฉันจ่ายเอง! “”

หลี่ฝางผลักเจ้าพานออกและพุ่งขึ้นไปชั้นบน

เจ้าพานรีบตามไป และหยุดเจ้าหัวแบนเอาไว้และกระซิบเอ่ย “เสี่ยวโจว พวกเขาเป็นคนของเสือ”

“ถ้านายตีเขา นายจะเอ่ยกับตระกูลมู่ยังไง”

เจ้าพานรู้เรื่องเจ้าหัวแบนมาไม่น้อย

“คนของเสือ?” เจ้าหัวแบนหยุดชะงักลง

“เป็นอะไรไป เจ้าหัวแบน”

“เสี่ยวฝาง เรื่องนี้ฉันไม่สามารถออกหน้าได้ คนของเสือ ล้วนเคยเจอฉัน ถ้าหากฉันลงมือ เรื่องนี้จะต้องทำให้มู่เสี่ยวไป๋ตื่นตัวได้”

“ถ้ามู่เสี่ยวไป๋เกิดตรวจสอบขึ้นมา และรู้ว่าชิงชิงอยู่ที่นี่ อย่างนั้นก็เป็นปัญหาใหญ่” เจ้าหัวแบนพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว

ในเวลานั้นเอง หลี่ฝางก็นึกถึงคนคนหนึ่ง

“บางทีพวกเราสามารถขอความช่วยเหลือจากหวางเห้าได้” หลี่ฝางเอ่ย

“ใช่ ฉันลืมไปเสียสนิท” เจ้าหัวแบนหัวเราะขึ้นมา

หวางเห้า ก็คือลูกพี่ใหญ่ของย่านไฟแดง

ตอนที่หลี่ฝางถูกขังอยู่ในย่านไฟแดง ก็เป็นหวางเห้าที่ช่วยเอาไว้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท