NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 143

ตอนที่ 143

บทที่ 143 ลู่หลุ่ยถูกเยาะเย้ย

เป็นครั้งแรกที่จางเชี่ยนได้มารีสอร์ตที่หรูหราขนาดนี้ ในใจนั้นมีความสุขมาก อดไม่ได้ที่จะโพสต์รูปอวดเพื่อนๆ ในโซเชี่ยล

แชะ แชะ……

จางเชี่ยนถือโทรศัพท์ไว้ ถ่ายซ้าย ถ่ายขาว แล้วก็เซลล์ฟี่เป็นบางครั้ง

“อย่าถ่ายอีกเลย ดูท่าทางเธอที่ไม่เคยมาสถานที่แบบนี้ เหมือนผู้หญิงที่นอกคอกมากเลย ช่างขายหน้าจริงๆ” โจวเจ๋ขมวดคิ้ว ด้วยท่าทางที่รังเกียจ

จางเชี่ยนน้อยใจจนเบ้ปาก เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋า

จางเชี่ยนคิดในใจ ก็แค่ถ่ายรูปเอง? ฉันก็เป็นผู้หญิงนอกคอกแล้วเหรอ?

เดิมทีโจวเจ๋อยากที่จะหัวเราะเยาะคู่ควงของหลี่ฝาง สุดท้ายลู่หลุ่ยกลับมีความสง่างามมาก รักษากิริยามารยาที่สง่างามและสงบตลอดทาง กลับเป็นจางเชี่ยนคู่ควงของตัวเอง เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง ท่าทางเงอะๆ ง๊ะๆ เหมือนคนไม่เคยเห็นมาก่อน

โจวเจ๋เร่งฝีเท้า เดินไปที่ถังหยู่ซวน

โจวเจ๋พูดกับถังหยู่ซวน: “ไป พี่ถัง ผมพาพี่ไปรู้จักเพื่อนๆ”

ถังหยู่ซวนส่ายหัว กล่าวปฏิเสธ: “ไม่ละ”

“ทำไม พี่ถัง?” โจวเจ๋ถามอย่างสงสัย: “พี่ถัง พี่ไม่อยากรู้จักพวกลูกเศรษฐีให้มากกว่านี้เหรอ?”

โจวเจ๋คิดในใจ มาร่วมงานสังสรรค์แบบนี้ ก็เพื่อที่จะมาสร้างสัมพันธไมตรีของตัวเองไม่ใช่เหรอ?

หากไม่อยากสร้างไมตรี แล้วจะมาทำไม?

ถังหยู่ซวนก็ส่ายหัวอีก:” ก็ไม่เชิง”

“เพียงแต่ นายเคยเห็นคนที่ยิ่งใหญ่กว่าเป็นคนไปของจับมือคนที่อ่อนแอกว่าก่อนเหรอ?” ถังหยู่ซวนกล่าวอย่างยิ้มๆ

โจวเจ๋ยิ้มตามด้วย ทันใดนั้นก็เข้าใจทันที

“พี่ถัง ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมพาเพื่อนผมมาหาพี่” โจวเจ๋พูดจบ ก็เป็นคนแรกที่ก้าวเข้าสู่วิลล่าของรีสอร์ต

วิลล่าของรีสอร์ตนั้นใหญ่มาก สูงประมาณตึกห้าชั้น มีสระว่ายน้ำส่วนตัว และมีรูปแบบการพักผ่อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องหมากรุก ห้องพักผ่อน ห้องคาราโอเกะ แม่ว่าจะไม่ได้อยู่ติดกัน แต่ก็ห่างกันไม่มาก

“ถังหยู่ซวน นายก็วางมาดเก่งใช่เล่นเลยนะ?” อาศัยจังหวะที่จางปิงปิงไปเอาเหล้า หลี่ฝางก็ถามไปหนึ่งประโยค

“ไม่งั้นจะทำไง ในสายตาโจวเจ๋ ฉันเป็นคนชายที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน นายว่าฉันที่มีมูลค่าเป็นหลายหมื่นล้าน ไปทักทายทำความรู้จักกับพวกเขาที่มีมูลค่าหลักร้อยล้าน เหมาะสมเหรอ?” ถังหยู่ซวนกล่าวอย่างหัวเราะ

“หลี่ฝาง นี่มันนายเป็นคนสอนฉันเอง ให้ฉันเข้มขรึม ไม่ควรเข้าใกล้คนอื่นง่ายๆ”

หลี่ฝางพยักหน้า สิ่งที่ถังหยู่ซวนพูดนั้นมีเหตุผล

ตั้งแต่สมัยโบราณมีแต่ลูกน้องต้องมาทักทายจับมือเจ้านาย เจ้านายเดินไปทักทายจับมือลูกน้องมีที่ไหนกันละ?

“ไม่เลว ทำได้ดีมาก อยู่ต่อหน้าพวกเขา นายจงรักษาความเข้มขรึมนี้เอาไว้ นายยิ่งไม่เห็นหัวพวกเขา พวกเขาก็จะยิ่งประจบนาย ก็เหมือนกับโจวเจ๋ นายดูสิ ตอนนี้ก็เหมือนหมาตัวหนึ่งของพวกเรา ให้มันทำอะไร มันก็ทำ เชื่องจะตาย” หลี่ฝางพูดอย่างหัวเราะ

“ใช่แล้ว หลี่ฝาง ฉันลืมบอกนาย โจวเจ๋อยากจะให้ฉันร่วมลงทุนในบริษัทของเขามาโดยตลอด สองสามวันนี้ฉันได้ไปตรวจสอบดูแล้ว ฉันรู้สึกว่าบริษัทของเขา สามารถทำเงินได้นะ ขาดแค่เงินทุน ที่จะไปซื้อตัวเน็ตไอดอลดังๆ ดาราดังๆ ไม่อย่างนั้น บริษัทของเขา ต้องทำเงินได้ดีอย่างแน่นอน” ถังหยู่ซวนถามอย่างลองเชิง: “ไม่งั้น เราลงทุนเข้าไปหน่อยมั้ย?”

“สองสามปีมานี้อุตสาหกรรมด้านมีเดียพัฒนาไปเร็วมาก โดยเฉพาะด้านการไลฟ์สด รางวัลของขวัญของผู้ไลฟ์สดเมื่อปีที่แล้ว ถึงขั้นแซงรายได้ของหนังของปีที่แล้วเลย อุตสาหกรรมด้านมีเดียน่าลงทุน เพียงแต่คนอย่างโจวเจ๋พึ่งพาไม่ได้ เราลงทุนให้เขา ง่ายที่จะถูกอม”

หลี่ฝางหัวเราะ แล้วกล่าว: “อาศัยตอนนี้ที่โจวเจ๋เชื่อใจนาย นายเอาข้ออ้างเรื่องการลงทุน ไปดูวิธีการทำธุรกิจของเขา เมื่อถึงเวลา เรามาเปิดเอง”

สำหรับโจวเจ๋ หลี่ฝางได้ข้อมูลของเขาบางส่วนมาจากโจวหยาง

โจวหยางกับโจวเจ๋ เป็นพี่น้องต่างมารดากัน สำหรับโจวเจ๋คนนี้ เป็นคนที่มีหัวการค้าและสายตาทางธุรกิจที่ดี เมื่อสองปีก่อนเอาเงินจากที่บ้านมาห้าล้านหยวน มาก่อตั้งบริษัทช่วงหง วันนี้บริษัทช่วงหง มูลค่าตลาดเกิน 50 ล้าน

เป็นเพราะความสามารถของโจวเจ๋โดดเด่นเกินไป มันจึงส่งผลให้โจวหยางถูกพ่อของเขาเพิกเฉย

หลี่ฝางคิดในใจ ตอนที่ตัวเองตกต่ำนั้น โจวหยางให้ความช่วยเหลือเขามาโดยตลอด วันนี้ตัวเองสบายแล้ว น่าจะหาโอกาสช่วยเขา

“ได้ ฉันก็ไม่ค่อยจะเชื่อใจเขา” ถังหยู่ซวนพยักหน้า แล้วกล่าว

ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ โจวเจ๋ก็พาเพื่อนออกมาจากในวิลล่า เมื่อถังหยู่ซวนเห็นคนเหล่านั้นแล้ว ก็รีบกล่าวขึ้น: “หลี่ฝาง ฉันปวดท้อง นายช่วยฉันรับหน้าไปก่อน ฉันไปห้องน้ำก่อน”

พูดจบ ถังหยู่ซวนก็วิ่งหายแวบไปเลย การวิ่งแบบนี้ เหมือนคนปวดท้องที่ไหนกันเล่า?

หลี่ฝางส่ายหัวอย่างไม่มีคำพูด เห็นได้ชัดว่ากลัวมาก ก็เลยหนีไปก่อน!

โจวเจ๋เดินมาถึง เห็นว่าถังหยู่ซวนไม่อยู่ ก็ถามหลี่ฝางอย่างร้อนใจ: “หลี่ฝาง พี่ถังละ?”

“ถังหยู่ซวนไปห้องน้ำแล้ว นายไปหาเขาที่ห้องน้ำสิ” หลี่ฝางชี้ไปทางที่ถังหยู่ซวนวิ่งไป

“ทางโน้นเหมือนจะเป็นห้องเก็บของสะสมของคุณท่านหลี่ ห้ามคนนอกเข้าไป” ชายหนุ่มคนหนึ่งได้กล่าวขึ้น

“พี่ถังเป็นคนนอกเหรอ?” โจวเจ๋พูดขัดขึ้นมาก: “พี่ถังเป็นถึงเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้”

หลี่ฝางได้ยินแล้วก็หัวเราะในใจ

ในเวลานี้ ส้งเสียงก็เดินเข้ามา ด้านหลังเขา คนที่ตามมากลับเป็นหลิวเฉียวเฉียว

หลิวเฉียวเฉียวในวันนี้ ใส่ชุดเดรสสีขาว ชายกระโปรงเป็นแบบขนนก ดูแล้วมีสง่าราศีมาก

บนคอยังสวมสร้อยคอราคาแพง และได้ทำผมมาโดยเฉพาะ

แวบแรกที่เห็นหลี่ฝางจำเธอไม่ได้จริงๆ หลิวเฉียวเฉียวเดินมาเห็นหลี่ฝาง ก็สะดุ้งตกใจ เหมือนอยากจะที่หลบสายตา

ส้งเสียงเห็นหลี่ฝาง ก็แปลกใจเล็กน้อย: “โจวเจ๋ ไอ้หมอนี้ทำไมมาอยู่นี่ได้?”

“นายพามาเหรอ?” ส้งเสียงถามไปหนึ่งประโยค

“คุณคนนี้คือ?” คุณชายคนหนึ่งเอ่ยปากพูดขึ้น คิดว่าหลี่ฝางคือมหาเศรษฐีหมื่นล้าน

“โจวเจ๋ นายยังไม่รีบแนะนำให้พวกเรารู้จักอีก”

“เขาชื่อหลี่ฝาง” โจวเจ๋แนะนำไปอย่างนั้น

“แนะนำเสร็จแล้วเหรอ? ไม่ว่ายังไงนายก็ควรจะแนะนำด้วย ว่าบ้านพี่หลี่ทำธุรกิจอะไร?” คุณชายคนนั้นจี้ถามต่อ

“เขาเหรอ พ่อแม่เป็นชาวนา เป็นคนนอกคอกคนหนึ่ง” โจวเจ๋มองหลี่ฝาง กล่าวอย่างเยาะเย้ย ฉันพาเขามา ก็แค่อยากให้เขามาเปิดหูเปิดตาเท่านั้นเอง

เมื่อโจวเจ๋พูดออกมาแบบนี้ คุณชายคนนั้นก็หมดความสนใจในตัวหลี่ฝางทันที

หลี่ฝางก็ไม่อยากที่จะรู้จักกับคนพวกนี้ เพียงแต่เขาก็ได้ถามขึ้นอย่างสงสัย: “ใช่แล้ว เมื่อกี้ที่พวกนายพูดว่าเป็นห้องเก็บของสะสมของคุณท่านหลี่ คุณท่านหลี่ที่พวกนายพูดถึง ชื่ออะไรเหรอ?”

หลี่ฝางคิดในใจ:

คุณท่านหลี่คนนี้ หรือว่าจะเป็นหลี่ต๋าคางพ่อของตัวเองเหรอ?

ไม่ใช่มั้ง?

พ่อของตัวเองอายุแค่สี่สิบกว่าปีเอง ก็ถูกเรียกเป็นคุณท่านแล้วเหรอ?

“นายไม่รู้แม้กระทั่งคุณท่านหลี่เป็นใคร ยังกล้ามาเที่ยวที่รีสอร์ตนี้อีก ช่างตลกสิ้นดี”

คุณชายคนหนึ่งส่ายหัว แล้วกล่าว: “เอาล่ะ ฉันจะขยายความให้นายฟังละกัน คุณท่านหลี่คนนี้มีชื่อว่าหลี่เจียเฉิน ชื่อนั้นซ้ำกับมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเอเชีย แต่ว่าไม่ใช่คนคนเดียวกันนะ”

“รีสอร์ตแห่งนี้ เป็นรีสอร์ตที่ลูกชายคุณท่านหลี่ที่กลับมาจากต่างประเทศเป็นคนสร้าง และคุณท่านหลี่นั้น เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของดูไบ อยู่เขตตะวันออกกลาง มีบ่อน้ำมันหลายบ่อ บ่อน้ำมันของเขาทำเงินได้เร็วแค่ไหนเหรอ เร็วเหมือนกับเครื่องนับธนบัตรเลย”

“อย่ามองว่าหม่าหยุน หวางเจี้ยนหลินมีเงิน แต่เงินของพวกเขา ไม่ได้ได้มาง่ายๆ แบบคุณท่านหลี่ อีกอย่าง คุณท่านหลี่นั้นมีทองแท้และเม็ดเงินอยู่ในมือ แต่ว่ามหาเศรษฐีที่ขึ้นอันดับอย่างพวกหม่าหยุน สินทรัพย์นั้นก็เป็นเพียงตัวเลขเสมือนเท่านั้น ให้หม่าหยุนเอาเงินออกมาหนึ่งแสนล้าน เขาไม่มีทางเอาออกมาได้แน่ แต่ว่าคุณท่านหลี่ สามารถที่จะเอาออกมาได้จริงๆ”

“ใช่ ดังนั้นบรรดาคนรวยในจีน ที่ร่ำรวยกันจริงๆ ช่างเสพสุขกันเก่งจริงๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องคิดว่าจะหาเงินยังไง ทุกวันแค่คิดว่า จะใช้เงินเหล่านี้ยังไง!”

“ซื้อรถหรูมาขับเล่นๆ มาเก็บสะสม เลี้ยงสิงโตเลี้ยงเสื้อ เที่ยวผู้หญิง บางทีนี่อาจจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขาก็ได้” ก็มีคุณชายคนหนึ่งได้กล่าวขึ้นอย่างอิจฉา

เวลานี้ส้งเสียงได้ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว มาถึงตรงหน้าของหลี่ฝาง แล้วชี้ไปที่ลู่หลุ่ย: “หลี่ฝาง คนนี้ก็คือคู่ควงที่นายพามาด้วยเหรอ?”

“ใช่ ทำไมเหรอ?” หลี่ฝางพยักหน้า

“เห่อๆ ใส่ชุดกีฬามาร่วมงานปาร์ตี้ของลูกมหาเศรษฐีอย่างพวกเรา? เธฮมาหยาบพวกเราเหรอ?” ส้งเสียงกล่าวอย่างเย็นชา

พูดจบ ส้งเสียงก็ชี้ไปที่หน้าอกของลู่หลุ่ย: “ดูดีๆ เครื่องหมายการค้าภาษาอังกฤษของอดิดาสนี้ดีๆ หน่อย ตัวอักษรผิดแล้ว”

“นี่มันของตามตลาดนัดหรือเปล่า?!”

หลี่ฝางหันไปมอง พบว่าตัวอักษรผิดจริงๆ adidasนี้ กลายเป็นabibas

หลี่ฝางอายเล็กน้อย

จู่ๆ มีคุณชายคนหนึ่งเดินผ่านด้านหน้าของลู่หลุ่ย: “คนสวย ฉันขอดูจี้ที่อยู่บนคอของเธอหน่อยได้มั้ย?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท