บทที่ 143 ลู่หลุ่ยถูกเยาะเย้ย
เป็นครั้งแรกที่จางเชี่ยนได้มารีสอร์ตที่หรูหราขนาดนี้ ในใจนั้นมีความสุขมาก อดไม่ได้ที่จะโพสต์รูปอวดเพื่อนๆ ในโซเชี่ยล
แชะ แชะ……
จางเชี่ยนถือโทรศัพท์ไว้ ถ่ายซ้าย ถ่ายขาว แล้วก็เซลล์ฟี่เป็นบางครั้ง
“อย่าถ่ายอีกเลย ดูท่าทางเธอที่ไม่เคยมาสถานที่แบบนี้ เหมือนผู้หญิงที่นอกคอกมากเลย ช่างขายหน้าจริงๆ” โจวเจ๋ขมวดคิ้ว ด้วยท่าทางที่รังเกียจ
จางเชี่ยนน้อยใจจนเบ้ปาก เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋า
จางเชี่ยนคิดในใจ ก็แค่ถ่ายรูปเอง? ฉันก็เป็นผู้หญิงนอกคอกแล้วเหรอ?
เดิมทีโจวเจ๋อยากที่จะหัวเราะเยาะคู่ควงของหลี่ฝาง สุดท้ายลู่หลุ่ยกลับมีความสง่างามมาก รักษากิริยามารยาที่สง่างามและสงบตลอดทาง กลับเป็นจางเชี่ยนคู่ควงของตัวเอง เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง ท่าทางเงอะๆ ง๊ะๆ เหมือนคนไม่เคยเห็นมาก่อน
โจวเจ๋เร่งฝีเท้า เดินไปที่ถังหยู่ซวน
โจวเจ๋พูดกับถังหยู่ซวน: “ไป พี่ถัง ผมพาพี่ไปรู้จักเพื่อนๆ”
ถังหยู่ซวนส่ายหัว กล่าวปฏิเสธ: “ไม่ละ”
“ทำไม พี่ถัง?” โจวเจ๋ถามอย่างสงสัย: “พี่ถัง พี่ไม่อยากรู้จักพวกลูกเศรษฐีให้มากกว่านี้เหรอ?”
โจวเจ๋คิดในใจ มาร่วมงานสังสรรค์แบบนี้ ก็เพื่อที่จะมาสร้างสัมพันธไมตรีของตัวเองไม่ใช่เหรอ?
หากไม่อยากสร้างไมตรี แล้วจะมาทำไม?
ถังหยู่ซวนก็ส่ายหัวอีก:” ก็ไม่เชิง”
“เพียงแต่ นายเคยเห็นคนที่ยิ่งใหญ่กว่าเป็นคนไปของจับมือคนที่อ่อนแอกว่าก่อนเหรอ?” ถังหยู่ซวนกล่าวอย่างยิ้มๆ
โจวเจ๋ยิ้มตามด้วย ทันใดนั้นก็เข้าใจทันที
“พี่ถัง ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมพาเพื่อนผมมาหาพี่” โจวเจ๋พูดจบ ก็เป็นคนแรกที่ก้าวเข้าสู่วิลล่าของรีสอร์ต
วิลล่าของรีสอร์ตนั้นใหญ่มาก สูงประมาณตึกห้าชั้น มีสระว่ายน้ำส่วนตัว และมีรูปแบบการพักผ่อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องหมากรุก ห้องพักผ่อน ห้องคาราโอเกะ แม่ว่าจะไม่ได้อยู่ติดกัน แต่ก็ห่างกันไม่มาก
“ถังหยู่ซวน นายก็วางมาดเก่งใช่เล่นเลยนะ?” อาศัยจังหวะที่จางปิงปิงไปเอาเหล้า หลี่ฝางก็ถามไปหนึ่งประโยค
“ไม่งั้นจะทำไง ในสายตาโจวเจ๋ ฉันเป็นคนชายที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน นายว่าฉันที่มีมูลค่าเป็นหลายหมื่นล้าน ไปทักทายทำความรู้จักกับพวกเขาที่มีมูลค่าหลักร้อยล้าน เหมาะสมเหรอ?” ถังหยู่ซวนกล่าวอย่างหัวเราะ
“หลี่ฝาง นี่มันนายเป็นคนสอนฉันเอง ให้ฉันเข้มขรึม ไม่ควรเข้าใกล้คนอื่นง่ายๆ”
หลี่ฝางพยักหน้า สิ่งที่ถังหยู่ซวนพูดนั้นมีเหตุผล
ตั้งแต่สมัยโบราณมีแต่ลูกน้องต้องมาทักทายจับมือเจ้านาย เจ้านายเดินไปทักทายจับมือลูกน้องมีที่ไหนกันละ?
“ไม่เลว ทำได้ดีมาก อยู่ต่อหน้าพวกเขา นายจงรักษาความเข้มขรึมนี้เอาไว้ นายยิ่งไม่เห็นหัวพวกเขา พวกเขาก็จะยิ่งประจบนาย ก็เหมือนกับโจวเจ๋ นายดูสิ ตอนนี้ก็เหมือนหมาตัวหนึ่งของพวกเรา ให้มันทำอะไร มันก็ทำ เชื่องจะตาย” หลี่ฝางพูดอย่างหัวเราะ
“ใช่แล้ว หลี่ฝาง ฉันลืมบอกนาย โจวเจ๋อยากจะให้ฉันร่วมลงทุนในบริษัทของเขามาโดยตลอด สองสามวันนี้ฉันได้ไปตรวจสอบดูแล้ว ฉันรู้สึกว่าบริษัทของเขา สามารถทำเงินได้นะ ขาดแค่เงินทุน ที่จะไปซื้อตัวเน็ตไอดอลดังๆ ดาราดังๆ ไม่อย่างนั้น บริษัทของเขา ต้องทำเงินได้ดีอย่างแน่นอน” ถังหยู่ซวนถามอย่างลองเชิง: “ไม่งั้น เราลงทุนเข้าไปหน่อยมั้ย?”
“สองสามปีมานี้อุตสาหกรรมด้านมีเดียพัฒนาไปเร็วมาก โดยเฉพาะด้านการไลฟ์สด รางวัลของขวัญของผู้ไลฟ์สดเมื่อปีที่แล้ว ถึงขั้นแซงรายได้ของหนังของปีที่แล้วเลย อุตสาหกรรมด้านมีเดียน่าลงทุน เพียงแต่คนอย่างโจวเจ๋พึ่งพาไม่ได้ เราลงทุนให้เขา ง่ายที่จะถูกอม”
หลี่ฝางหัวเราะ แล้วกล่าว: “อาศัยตอนนี้ที่โจวเจ๋เชื่อใจนาย นายเอาข้ออ้างเรื่องการลงทุน ไปดูวิธีการทำธุรกิจของเขา เมื่อถึงเวลา เรามาเปิดเอง”
สำหรับโจวเจ๋ หลี่ฝางได้ข้อมูลของเขาบางส่วนมาจากโจวหยาง
โจวหยางกับโจวเจ๋ เป็นพี่น้องต่างมารดากัน สำหรับโจวเจ๋คนนี้ เป็นคนที่มีหัวการค้าและสายตาทางธุรกิจที่ดี เมื่อสองปีก่อนเอาเงินจากที่บ้านมาห้าล้านหยวน มาก่อตั้งบริษัทช่วงหง วันนี้บริษัทช่วงหง มูลค่าตลาดเกิน 50 ล้าน
เป็นเพราะความสามารถของโจวเจ๋โดดเด่นเกินไป มันจึงส่งผลให้โจวหยางถูกพ่อของเขาเพิกเฉย
หลี่ฝางคิดในใจ ตอนที่ตัวเองตกต่ำนั้น โจวหยางให้ความช่วยเหลือเขามาโดยตลอด วันนี้ตัวเองสบายแล้ว น่าจะหาโอกาสช่วยเขา
“ได้ ฉันก็ไม่ค่อยจะเชื่อใจเขา” ถังหยู่ซวนพยักหน้า แล้วกล่าว
ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ โจวเจ๋ก็พาเพื่อนออกมาจากในวิลล่า เมื่อถังหยู่ซวนเห็นคนเหล่านั้นแล้ว ก็รีบกล่าวขึ้น: “หลี่ฝาง ฉันปวดท้อง นายช่วยฉันรับหน้าไปก่อน ฉันไปห้องน้ำก่อน”
พูดจบ ถังหยู่ซวนก็วิ่งหายแวบไปเลย การวิ่งแบบนี้ เหมือนคนปวดท้องที่ไหนกันเล่า?
หลี่ฝางส่ายหัวอย่างไม่มีคำพูด เห็นได้ชัดว่ากลัวมาก ก็เลยหนีไปก่อน!
โจวเจ๋เดินมาถึง เห็นว่าถังหยู่ซวนไม่อยู่ ก็ถามหลี่ฝางอย่างร้อนใจ: “หลี่ฝาง พี่ถังละ?”
“ถังหยู่ซวนไปห้องน้ำแล้ว นายไปหาเขาที่ห้องน้ำสิ” หลี่ฝางชี้ไปทางที่ถังหยู่ซวนวิ่งไป
“ทางโน้นเหมือนจะเป็นห้องเก็บของสะสมของคุณท่านหลี่ ห้ามคนนอกเข้าไป” ชายหนุ่มคนหนึ่งได้กล่าวขึ้น
“พี่ถังเป็นคนนอกเหรอ?” โจวเจ๋พูดขัดขึ้นมาก: “พี่ถังเป็นถึงเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้”
หลี่ฝางได้ยินแล้วก็หัวเราะในใจ
ในเวลานี้ ส้งเสียงก็เดินเข้ามา ด้านหลังเขา คนที่ตามมากลับเป็นหลิวเฉียวเฉียว
หลิวเฉียวเฉียวในวันนี้ ใส่ชุดเดรสสีขาว ชายกระโปรงเป็นแบบขนนก ดูแล้วมีสง่าราศีมาก
บนคอยังสวมสร้อยคอราคาแพง และได้ทำผมมาโดยเฉพาะ
แวบแรกที่เห็นหลี่ฝางจำเธอไม่ได้จริงๆ หลิวเฉียวเฉียวเดินมาเห็นหลี่ฝาง ก็สะดุ้งตกใจ เหมือนอยากจะที่หลบสายตา
ส้งเสียงเห็นหลี่ฝาง ก็แปลกใจเล็กน้อย: “โจวเจ๋ ไอ้หมอนี้ทำไมมาอยู่นี่ได้?”
“นายพามาเหรอ?” ส้งเสียงถามไปหนึ่งประโยค
“คุณคนนี้คือ?” คุณชายคนหนึ่งเอ่ยปากพูดขึ้น คิดว่าหลี่ฝางคือมหาเศรษฐีหมื่นล้าน
“โจวเจ๋ นายยังไม่รีบแนะนำให้พวกเรารู้จักอีก”
“เขาชื่อหลี่ฝาง” โจวเจ๋แนะนำไปอย่างนั้น
“แนะนำเสร็จแล้วเหรอ? ไม่ว่ายังไงนายก็ควรจะแนะนำด้วย ว่าบ้านพี่หลี่ทำธุรกิจอะไร?” คุณชายคนนั้นจี้ถามต่อ
“เขาเหรอ พ่อแม่เป็นชาวนา เป็นคนนอกคอกคนหนึ่ง” โจวเจ๋มองหลี่ฝาง กล่าวอย่างเยาะเย้ย ฉันพาเขามา ก็แค่อยากให้เขามาเปิดหูเปิดตาเท่านั้นเอง
เมื่อโจวเจ๋พูดออกมาแบบนี้ คุณชายคนนั้นก็หมดความสนใจในตัวหลี่ฝางทันที
หลี่ฝางก็ไม่อยากที่จะรู้จักกับคนพวกนี้ เพียงแต่เขาก็ได้ถามขึ้นอย่างสงสัย: “ใช่แล้ว เมื่อกี้ที่พวกนายพูดว่าเป็นห้องเก็บของสะสมของคุณท่านหลี่ คุณท่านหลี่ที่พวกนายพูดถึง ชื่ออะไรเหรอ?”
หลี่ฝางคิดในใจ:
คุณท่านหลี่คนนี้ หรือว่าจะเป็นหลี่ต๋าคางพ่อของตัวเองเหรอ?
ไม่ใช่มั้ง?
พ่อของตัวเองอายุแค่สี่สิบกว่าปีเอง ก็ถูกเรียกเป็นคุณท่านแล้วเหรอ?
“นายไม่รู้แม้กระทั่งคุณท่านหลี่เป็นใคร ยังกล้ามาเที่ยวที่รีสอร์ตนี้อีก ช่างตลกสิ้นดี”
คุณชายคนหนึ่งส่ายหัว แล้วกล่าว: “เอาล่ะ ฉันจะขยายความให้นายฟังละกัน คุณท่านหลี่คนนี้มีชื่อว่าหลี่เจียเฉิน ชื่อนั้นซ้ำกับมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเอเชีย แต่ว่าไม่ใช่คนคนเดียวกันนะ”
“รีสอร์ตแห่งนี้ เป็นรีสอร์ตที่ลูกชายคุณท่านหลี่ที่กลับมาจากต่างประเทศเป็นคนสร้าง และคุณท่านหลี่นั้น เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของดูไบ อยู่เขตตะวันออกกลาง มีบ่อน้ำมันหลายบ่อ บ่อน้ำมันของเขาทำเงินได้เร็วแค่ไหนเหรอ เร็วเหมือนกับเครื่องนับธนบัตรเลย”
“อย่ามองว่าหม่าหยุน หวางเจี้ยนหลินมีเงิน แต่เงินของพวกเขา ไม่ได้ได้มาง่ายๆ แบบคุณท่านหลี่ อีกอย่าง คุณท่านหลี่นั้นมีทองแท้และเม็ดเงินอยู่ในมือ แต่ว่ามหาเศรษฐีที่ขึ้นอันดับอย่างพวกหม่าหยุน สินทรัพย์นั้นก็เป็นเพียงตัวเลขเสมือนเท่านั้น ให้หม่าหยุนเอาเงินออกมาหนึ่งแสนล้าน เขาไม่มีทางเอาออกมาได้แน่ แต่ว่าคุณท่านหลี่ สามารถที่จะเอาออกมาได้จริงๆ”
“ใช่ ดังนั้นบรรดาคนรวยในจีน ที่ร่ำรวยกันจริงๆ ช่างเสพสุขกันเก่งจริงๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องคิดว่าจะหาเงินยังไง ทุกวันแค่คิดว่า จะใช้เงินเหล่านี้ยังไง!”
“ซื้อรถหรูมาขับเล่นๆ มาเก็บสะสม เลี้ยงสิงโตเลี้ยงเสื้อ เที่ยวผู้หญิง บางทีนี่อาจจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขาก็ได้” ก็มีคุณชายคนหนึ่งได้กล่าวขึ้นอย่างอิจฉา
เวลานี้ส้งเสียงได้ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว มาถึงตรงหน้าของหลี่ฝาง แล้วชี้ไปที่ลู่หลุ่ย: “หลี่ฝาง คนนี้ก็คือคู่ควงที่นายพามาด้วยเหรอ?”
“ใช่ ทำไมเหรอ?” หลี่ฝางพยักหน้า
“เห่อๆ ใส่ชุดกีฬามาร่วมงานปาร์ตี้ของลูกมหาเศรษฐีอย่างพวกเรา? เธฮมาหยาบพวกเราเหรอ?” ส้งเสียงกล่าวอย่างเย็นชา
พูดจบ ส้งเสียงก็ชี้ไปที่หน้าอกของลู่หลุ่ย: “ดูดีๆ เครื่องหมายการค้าภาษาอังกฤษของอดิดาสนี้ดีๆ หน่อย ตัวอักษรผิดแล้ว”
“นี่มันของตามตลาดนัดหรือเปล่า?!”
หลี่ฝางหันไปมอง พบว่าตัวอักษรผิดจริงๆ adidasนี้ กลายเป็นabibas
หลี่ฝางอายเล็กน้อย
จู่ๆ มีคุณชายคนหนึ่งเดินผ่านด้านหน้าของลู่หลุ่ย: “คนสวย ฉันขอดูจี้ที่อยู่บนคอของเธอหน่อยได้มั้ย?”