NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 150

ตอนที่ 150

บทที่ 150 รสชาติของการถูกหักหลัง

เจอเจ้าหัวแบนที่นี่ หลี่ฝางก็แปลกใจไม่น้อย

โดยเฉพาะเห็นเจ้าหัวแบนเดินตามหลังของมู่เสี่ยวไป๋นั้น หลี่ฝางยิ่งแปลกใจมาก

เมื่อเข้าประตูมาแล้ว เจ้าหัวแบนและมู่เสี่ยวไป๋ก็เห็นหลี่ฝางแล้ว

มู่เสี่ยวไป๋เดินไปข้างหน้า มองไปที่หลี่ฝาง: “อ้อ อีกาตัวนี้กลายเป็นหงส์แล้วเหรอ? เพียงแค่รู้จักถังหยู่ซวน ก็สามารถมาร่วมงานปาร์ตี้ของพวกเราได้”

คำพูดของมู่เสี่ยวไป๋ จะมากจะน้อยก็แฝงไว้ด้วยความเยาะเย้ย

“ครั้งที่แล้วยังโดนไม่พอใช่มั้ย รู้ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นถิ่นของถังหยู่ซวน นายยังกล้ามาอีก?” หลี่ฝางก็ไม่ได้ยอมมู่เสี่ยวไป๋ รีบสวนกลับไปทันที

เป็นเช่นนั้น เมื่อหลี่ฝางพูดออกมา สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ก็มืดมนลงทันที

ตั้งแต่เล็กจนโต ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของมู่เสี่ยวไป๋ที่โดนต่อย

เรื่องนี้ ถึงเป็นเรื่องด่างพร้อยในชีวิตของมู่เสี่ยวไป๋ไปแล้ว

หลี่ฝางนั้นเจ๋งมาก แค่เปิดปากก็จี้โดนปมของมู่เสี่ยวไป๋เลย

ในเวลานี้ นอกวิลล่าดังได้ดังขึ้นด้วยเสียงโห่ร้อง

“ฉินวี่เฟยมาแล้ว”

“คิดไม่ถึงจริงๆ เลย ฉินวี่เฟยมาร่วมงานปาร์ตี้นี้ด้วย น่าจะเป็นครั้งแรกมั้ง?”

“สาวงามอันดับหนึ่งในตงไห่ ในที่สุดวันนี้ก็มีโอกาสได้เจอ”

เธอว่าฉินวี่เฟยคนนี้รีสอร์ตเชิญเขามา? หรือว่าเธอมาด้วยตัวเอง?

“หากเป็นเมื่อก่อน ฉันต้องเข้าใจว่าฉินวี่เฟยนั้นน่าจะถูกรีสอร์ตเชิญมา แต่เมื่อเห็นเรื่องเมื่อกี้แล้ว ก็ถือว่าฉันได้เห็นแล้ว คุณท่านหลี่คนนี้ ไม่ได้เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลย”

“ดังนั้นฉันเดา ฉินวี่เฟยน่าจะมาด้วยตัวเอง” คุณชายคนหนึ่งกล่าวอย่างมั่นใจ

ยืนอยู่ตรงหน้าประตูวิลล่า หลี่ฝางก็ยืนมองไปสักพัก

เห็นฉินวี่เฟยสวมชุดเดรสสีขาว เพชรพลอยบนชุด สะดุดตามาก

เดรสสีขาวช่วงอกเปิดเล็กน้อย ให้ความรู้สึกที่งดงามดั่งผู้หญิงถือพิณบังหน้าเอาไว้

ขณะที่ฉินวี่เฟยเดินผ่านหลี่ฝางนั้น หลี่ฝางพบว่าตัวเองนั้นเตี้ยกว่าผู้หญิงคนนี้เสียอีก

ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา หรือรูปร่าง หรือสง่าราศี ฉินวี่เฟยนั้นล้วนมีมากกว่าคุณหนูไฮโซคนอื่นอยู่หนึ่งขั้น

ไฮโซทุกคนทุกคนชื่นชมฉินวี่เฟยราวกับดาวที่ล้อมเดือน มีแต่มู่เสี่ยวไป๋ กลับพูดอย่างดูถูก: “แม่งเอ๊ยวางท่าเก่งจัง เมื่อขึ้นเตียงแล้ว ก็แรดทั้งนั้นแหละ”

หลี่ฝางก็เห็นด้วย ไม่ว่าฉินวี่เฟยตอนนี้จะแสดงออกมาดูดีมีสง่าราศีเพียงใด จะงดงามดั่งเทพธิดามากแค่ไหน เมื่ออยู่บนเตียง จะยังสงวนท่าทีแบบนี้ไว้อีกเหรอ?

หากเป็นเช่นนั้น ก็เท่ากับปลาตายแล้ว

ถูกขนานนามว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของตงไห่ ไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตาที่สวยอย่างเดียว เชื่อว่าฐานะทางบ้านของฉินวี่เฟย ก็ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

มู่เสี่ยวไป๋แตะไปที่ก้นของหลี่ฝางหนึ่งที แล้วถาม: “ช่วงนี้ชิงชิงได้ติดต่อนายบ้างหรือเปล่า?”

ถีบนี้ถึงแม้จะไม่รุนแรงอะไร แต่ก็ทำให้หลี่ฝางเคืองอยู่บ้าง

หลี่ฝางพูดในใจ ตรงนี้มันถิ่นของตัวเองนะ เย็ดแม่นายมาถีบใครเนี่ย?

ดีที่ถีบนี้คนอื่นมองไม่เห็น หลี่ฝางจึงไม่ได้ถือสามากนัก เพียงแต่ส่ายหัวแล้วตอบ: “ไม่ได้ติดต่อ”

พูดจบ หลี่ฝางจึงเดินไปอีกฝั่ง

“หนีแม่งอะไรกัน กูไม่ได้จะตีมึงสักหน่อย” มู่เสี่ยวไป๋ตามไป

“นายพูดความจริงมา ชิงชิงติดต่อนายหรือเปล่า?” มู่เสี่ยวไป๋ไม่ค่อยจะเชื่อ

ไม่ได้ติดต่อ หลี่ฝางส่ายหัวอย่างไม่อยากจะพูด มู่เสี่ยวไป๋นี้เกิดปีจอป่ะ ทำไมถึงกัดไม่เลิกเลย

“ฉันไม่เชื่อ เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน ฉันเช็คดูบันทึกการโทรเข้าโทรออกหน่อย” มู่เสี่ยวไป๋ยื่นมือออกไปโดยตรง ขอตรวจโทรศัพท์ของหลี่ฝาง

หลี่ฝางถลึงตาใส่มู่เสี่ยวไป๋: “มู่เสี่ยวไป๋ นายจะแย่งเหรอ!”

หลี่ฝางกับมู่เสี่ยวไป๋ทะเลาะกัน ก็ได้ดึงดูดความสนใจของคนไม่น้อย

“หลี่ฝางคนนี้มันยังไงกันแน่เนี่ย เหมือนเขาจะรู้จกคุณชายมู่ด้วยนะ” เห็นยืนอยู่ด้วยกันกับคุณชายมู่ ผู้คนยิ่งสงสัยฐานะของหลี่ฝางเข้าไปอีก

มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะฮ่าๆ : “แย่งมือถือนายแล้วจะทำไม? หากมึงไม่เชื่อฟัง กูก็จะแย่งแฟนมึงไปด้วย เชื่อมั้ย?”

ขณะที่พูด มู่เสี่ยวไป๋ใช้นิ้วมือชี้ไปที่ลู่หลุ่ย: “เธอก็คือแฟนนายใช่ป่ะ?”

จริงๆ แล้วหลี่ฝางกับลู่หลุ่ยยังไม่ได้ยืนยันความสัมพันธ์กัน แต่เวลานี้ หากบอกว่าไม่ใช่มู่เสี่ยวไป๋ก็คงไม่เชื่อ

ลู่หลุ่ยไม่ได้ปฏิเสธ หลี่ฝางก็ขี้เกียจจะปฏิเสธ

มู่เสี่ยวไป๋มองลู่หลุ่ย แล้วกล่าว: “คนสวย ฉันว่าเธอมันตาบอดหรือเปล่า ไอ้หมอนี่ทั้งจนทั้งไม่มีเงิน เธอชอบมันได้ยังไง”

“รีบเลิกกับมันเลย ฉันจะแนะนำคนหล่อให้เธอ” มีเงินด้วย มู่เสี่ยวไป๋กล่าว

หลี่ฝางโมโหขึ้นมาทันที จ้องมองมู่เสี่ยวไป๋ มู่เสี่ยวไป๋: “นายหาเรื่องเหรอ!”

“หาเรื่องแล้วจะทำไม? ทำไม นายจะต่อยฉันอีกเหรอ?” มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะอย่างดูถูก: “มา นายลองเข้ามาสิ”

“คิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ?”

พูดจบ หลี่ฝางก็กำหมัดขึ้น ชกไปที่หน้าของมู่เสี่ยวไป๋

แต่ว่าหมัดยังไม่ทันโดนหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ ก็ถูกเจ้าหัวแบนขวางเอาไว้แล้ว

หลี่ฝางอึ้งไปชั่วขณะ มองเจ้าหัวแบนอย่างแปลกใจ: “เจ้าหัวแบน นาย!”

ในเวลานี้ มู่เสี่ยวไป๋ได้จังหวะ จึงใช้ฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าของหลี่ฝาง

เสียงเพี้ยนี้ดังขึ้น แม้กระทั่งฉินวี่เฟยก็ลุกขึ้นมา

ถึงอย่างไรงานปาร์ตี้ของสังคมไฮโซ น้อยมากที่จะมีคนชกต่อยกัน

ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ลงมือยังคือมู่เสี่ยวไป๋

ใบหน้าของหลี่ฝาง จู่ๆ ก็ร้อนวูบวาบ นอกจากความเจ็บที่หน้าแล้ว ในใจหลี่ฝาง รู้สึกเจ็บปวดและทรมาน

ในวินาทีนี้ หลี่ฝางอยากจะร้องไห้

เพียงแต่ หลี่ฝางได้อดกลั้นมันเอาไว้ ถึงอย่างไรก็มีคนมองดูอยู่ตั้งมากมาย

ที่หลี่ฝางอยากจะร้องไห้ ไม่ใช่เพราะโดนมู่เสี่ยวไป๋ตบ แต่เป็นเพราะเจ้าหัวแบน

หลี่ฝางนับถือเจ้าหัวแบนเป็นพี่ชายตัวเองมาโดยตลอด……..

แต่หลี่ฝางคิดไม่ถึงเลย เจ้าหัวแบนกลับไปช่วยมู่เสี่ยวไป๋มาเล่นงานตัวเอง

หลี่ฝางรู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอก ถูกหักหลัง

สีหน้าของเจ้าหัวแบนปรากฏด้วยความรู้สึกผิด เขาปล่อยมือของหลี่ฝาง

“เย็ดแม่ มึงนึกว่าถังหยู่ซวนเป็นเพื่อนมึง แล้วกูจะไม่กล้าทำอะไรมึงใช่มั้ย?”

มู่เสี่ยวไป๋ใช้เท้าถีบไปที่ตัวของหลี่ฝาง ทำให้หลี่ฝางล้มลงบนพื้น

ขณะนั้นหลี่ฝางกำลังสับสนอยู่ ไม่ได้ระวังมู่เสี่ยวไป๋ไว้เลย

หลังจากที่หลี่ฝางโดนทำร้าย ทุกคนต่างหัวเราะกันขึ้นมา

“สะใจจริงๆ ในที่สุดมีคนมาสั่งสอนไอ้หมอนี่แล้ว”

“คุณชายมู่นี่เก่งจริงๆ เลย”

คนที่นี่ เมื่อกี้ส่วนใหญ่ต่างล้วนแต่โดนหลี่ฝางเล่นงานมาแล้ว ดังนั้นพวกเขามองหลี่ฝางขัดหูขัดตาอยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อหลี่ฝางถูกทำร้าย พวกเขาก็ต้องดีใจที่เห็นหลี่ฝางเจ็บปวด

“สมน้ำหน้า”

“ก็เป็นเพียงคนนอกคอกคนหนึ่งเท่านั้น ยังกล้ามาวางก้ามแถวนี้อีก”

มู่เสี่ยวไป๋ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็หัวเราะขึ้นมา หลี่ฝาง: “ชื่อเสียงนายช่างเน่าเหม็นไม่เบาเลยนะ”

“นายดูสิ ฉันทำร้ายนายแล้ว ยังมีคนดีใจอีก”

สายตาของหลี่ฝาง จ้องอยู่แต่ที่เจ้าหัวแบน

หากไม่มีเจ้าหัวแบนคอยช่วย ตัวเองก็อาจจะสู้มู่เสี่ยวไป๋ได้

เวลานี้ หลี่ฝางก็ยังคงคาใจไม่น้อย เขาจ้องมองมู่เสี่ยวไป๋อย่างเยือกเย็น: “ฉันถูกทำร้าย พวกเขาเห็นแล้วดีใจ”

“นายว่าหากนายโดนทำร้ายแล้ว พวกเขาก็จะดีใจมั้ย?” หลี่ฝางหัวเราะแล้วกล่าว

หลี่ฝางรู้ ตัวเองเมื่อกี้ได้ล่วงเกินคนไปไม่น้อย คนส่วนใหญ่กำลังรอดูตัวเองถูกสั่งสอน

แล้วมู่เสี่ยวไป๋ละ ด้วยนิสัยที่เหิมเกริมของมู่เสี่ยวไป๋ เกรงว่าคนที่ไม่ชอบเขา น่าจะมากกว่านะ

หลี่ฝางใช้สองมือยันพื้นเอาไว้ จู่ๆ ก็ยิ้มขึ้นที่มุมปาก

จากนั้น สองขาของหลี่ฝาง ก็หมุนขึ้นมา

ก็ได้กวาดขาไปที่ขาของมู่เสี่ยวไป๋

ขณะนั้นมู่เสี่ยวไป๋กำลังเอนกายอยู่พอดี การกวาดนี้ ทำให้เขาล้มลงไปบนพื้น

หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมา ยื่นเท้าออกไป ถีบไปที่หน้าอกของมู่เสี่ยวไป๋

และในเวลานี้ เจ้าหัวแบนก็ขยับร่างอีกครั้ง ใช้ความว่องไวมาถึงตรงหน้าของหลี่ฝาง

ขณะที่หลี่ฝางยกขาขึ้น ก็ไม่ค่อยมั่งคงอยู่แล้ว เมื่อเจ้าหัวแบนมาถึง ผลักลงไป ทำให้หลี่ฝางล้มลงบนพื้น

หลี่ฝางล้มลงบนพื้น เลือดกลบปาก

เจ้าหัวแบนเห็นเลือดตรงมุมปากของหลี่ฝาง ก็พูดด้วยเสียงต่ำ: “เสี่ยวฝาง ขอโทษด้วย”

เสียงเพี้ยดังขึ้น มู่เสี่ยวไป๋ใช้ฝ่ามือตบไปที่หน้าของเจ้าหัวแบน: “มึงทำอะไรอยู่ กูจะโดนทำร้ายอยู่แล้ว!”

“เหี้ย มึงยังจะไปขอโทษมัน มึงทำไมต้องขอโทษ? มันทำร้ายเจ้านายมึง มึงยังจะไปขอโทษมัน มึงไม่สบายป่ะ!”

มู่เสี่ยวไป๋ด่าเจ้าหัวแบน เหมือนด่าหมาตัวหนึ่ง

แต่ว่าเจ้าหัวแบนกลับไม่มีท่าทีที่โกรธเลย

“แกไปตีขามันให้หัก เร็วๆ” มู่เสี่ยวไป๋ผลักเจ้าหัวแบนไปหนึ่งที

และในเวลานี้ เจ้าหัวแบนเกิดความลังเล

มู่เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้ว ลุกขึ้นมา: “ทำไม เสี่ยวโจว แกอยากจะต่อต้านเหรอ?”

เจ้าหัวแบนขมวดคิ้ว ลังเลไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็เดินไปทางหลี่ฝาง

“เจ้าหัวแบน นาย……..”

หลี่ฝางไม่กล้าเชื่อ: “นายจะตีขาฉันให้หักจริงๆ เหรอ?”

ในเวลานี้ ลุงเฉียนมาแล้ว ด้านหลังของลุงเฉียน ยังมีโหจื่อตามมาด้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน