NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 163

ตอนที่ 163

บทที่ 163 เปิดเทอมรายงานตัว

“ทำไมยังไม่มาอีก!”หลิวเฉียวเฉียวยืนอยู่ใต้พระอาทิตย์ โกรธจนกระทืบเท้า

หลิวเฉียวเฉียวหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาส้งเสียง แต่โทรศัพท์ของส้งเสียงติดสายตลอด โทรไม่ติด

“ทำบ้าอะไร?”หลิวเฉียวเฉียวขมวดคิ้ว

ส้งเสียงในเวลานี้ ไม่ได้อยู่บนถนน แต่อยู่กับสาวสวยที่บริษัทสื่อบันเทิงของโจวเจ๋

ตลอดทาง หลี่ฝางก็ไม่พูดอะไร

จนถึงเมืองเอก หลี่ฝางก็พูด:“ใช่สิ เซี่ยลู่ คุณจะลงรถที่นั่น?”

“ฉันลงไปกับคุณก็ได้”เซี่ยลู่พูด

หลี่ฝางหันไปมองเซี่ยลู่ ถามอย่างไม่แน่ใจ:“คุณก็ลงรถที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่?”

มุมปากเซี่ยลู่ยิ้มนิดๆ หยักหน้าให้หลี่ฝาง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว คิดในใจ เกิดอะไรขึ้น?

เซี่ยลู่สอบได้แค่หกร้อยกว่า อยากเข้ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“เสี่ยวเสี่ยว ให้ไปส่งคุณก่อนไหม?”หลี่ฝางมองหลี่เสี่ยวเสี่ยวแวบหนึ่ง

หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูด:“ก็ได้ คนบางคนอยากจะติดรถมาด้วยก็ให้ติดรถไป”

คำพูดหลี่เสี่ยวเสี่ยวนี้ ชัดเจนว่าเยาะเย้ยเซี่ยลู่

เซี่ยลู่ทำเหมือนไม่ได้ยิน ไม่สนใจคำนี้

กลับรถ แล้วหลี่ฝางก็หยุดรถ

หลี่เสี่ยวเสี่ยวสอบไม่ดีนัก สอบได้มหาวิทยาลัยเกรดธรรมดา หลี่ฝางถือกระเป๋า ส่งเธอที่หน้าโรงเรียน

วันนี้เป็นวันเปิดเทอม

หน้ามหาวิทยาลัย เรียกได้ว่ามาถึงจุดที่ชุลมุนวุ่นวาย

“สาวสวย คณะอะไร”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวถือว่าเป็นสาวสวย เดินเข้ามหาวิทยาลัย ก็ถูกพวกรุ่นพี่มาล้อม

รุ่นพี่มักจะกระตือรือร้นต่อรุ่นน้องเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นน้องที่สวยอย่างหลี่เสี่ยวเสี่ยว

หลี่ฝางมองฉากนี้ หัวเราะบางๆ กลับไปที่รถ

นักศึกษาไม่น้อย ต่างชี้ไม้ชี้มือไปที่เบนซ์G-Classของหลี่ฝาง

“ใช่สิ เซี่ยลู่ คุณไปทำอะไรที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่?”ในรถเหลือแค่สองคน หลี่ฝางก็ถามอย่างแปลกใจ

“จะไปทำอะไรได้ล่ะ ไปมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ก็ต้องไปรายงานตัวสิ”เซี่ยลู่ยกมุมปากขึ้น พูดยิ้มๆอย่างพอใจ

“คุณก็ถูกมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่รับเข้า?ไม่มีทางอ่ะ คะแนนของคุณไม่ถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่รับนี่”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

“คะแนนของคุณก็ไม่ถึงเกณฑ์มหาวิทยาลัย ไม่ได้ถูกมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่รับเข้าเหมือนกันเหรอ?”เซี่ยลู่ถาม

หลี่ฝางหัวเราะ ไม่ได้ถามต่อ

ถึงเซี่ยลู่ไม่พูด แต่หลี่ฝางก็เดาอะไรออก

ตอนนั้นที่งานพิธีจบการศึกษา ตู้เฟยเอาหนังสือที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่แจ้งรับเข้าให้หลี่ฝาง แต่หลี่ฝางไม่เอา

เช่นนั้น ตู้เฟยเลยเอาหนังสือแจ้งนั่นให้เซี่ยลู่

หลี่ฝางไม่ได้เปิดเผยเซี่ยลู่ แต่ในใจก็มีคำตอบ

เซี่ยลู่กับตู้เฟย ยังมีความสัมพันธ์ลับๆต่อกัน

ผู้หญิงคนนี้ แพศยาจริงๆ

แป๊บเดียว หลี่ฝางก็ขับรถมาที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่

ภายในมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ คึกคักผิดปกติ

คณะจำนวนมากต่างถือป้ายต้อนรับนักศึกษาใหม่ ผู้ชายบางคนถือลำโพงใหญ่ๆ ตะโกนไปที่ท้องฟ้าดังๆ:“สาขาวิทยุและโทรทัศน์มารวมตัวตรงนี้”

“นักเรียนคอมมาตรงนี้”

“นักเรียนสาขาภาษาต่างประเทศตามผมมา”

พูดกันดังมาก หลี่ฝางหาที่จอดรถ เข้าไปในเขตมหาวิทยาลัยกับเซี่ยลู่

ที่ไม่เอารถเข้าไป เพราะว่าปากทางมหาวิทยาลัยปิดชั่วคราว ไม่ให้รถส่วนตัวเข้าไป ยังไงนักเรียนที่มารายงานตัวที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ ถ้าเป็นนักเรียนดีเด่น ถ้าสถานภาพทางครอบครัวดี ก็เข้าไปที่ประตูหลัง

ผู้ปกครองไม่น้อยต่างขับรถหรูมา หลี่ฝางมองไป ก็มองเห็นโรลส์รอยสคันหนึ่ง

เทียบกับตงไห่แล้ว ห่างกันไม่ใช่แค่หนึ่งดาวครึ่งจริงๆ

ทั้งตงไห่ ก็คงหาโรลส์รอยสไม่ถึงสองคัน?

ดูเหมือนมาที่เมืองเอก จะต่ำลงเล็กน้อย

“หลี่ฝาง คุณสมัครสาขาการจัดการเศรษฐศาสตร์ใช่ไหม?”พอเข้าโรงเรียน เซี่ยลู่ถาม

“ใช่”หลี่ฝางพยักหน้า หันไปมองเซี่ยลู่:“คุณล่ะ?”

“บังเอิญจัง ฉันก็ด้วย”เซี่ยลู่หัวเราะแห้ง

หลี่ฝางหัวเราะตาม ในใจรู้สึกตรงข้าม เสแสร้งอะไรอีก?นี่บังเอิญอะไรกัน?นี่มันจงใจชัดๆ?

หลี่ฝางจำได้ดี ก่อนหน้านี้เซี่ยลู่สมัครวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม สาขาที่ไม่เป็นที่นิยมมาก

ตอนนี้ดูเหมือน เพื่อจีบตัวเอง เซี่ยลู่ก็ถือว่าพยายามมากๆ

“ตู้เฟยก็มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ใช่ไหม?”จู่ๆหลี่ฝางก็ถาม

เซี่ยลู่พยักหน้า:“เหมือนจะใช่นะ”

หลี่ฝางถามอีกครั้ง:“พวกคุณไม่ได้ติดต่อกันเหรอ?”

เซี่ยลู่ส่ายหน้า:“ไม่”

เวลานี้ โทรศัพท์ของเซี่ยลู่ก็ดังขึ้น เธอมองหน้าจอ สีหน้ากังวลหน่อยๆ

“ฉันไปรับสายก่อน”

พูดจบ หลี่ฝางก็รีบวิ่งไปข้างๆ ไปรับสาย

หลี่ฝางหาต้นไม้ แล้วแอบอยู่ตรงนั้น

หลบอยู่ประมาณห้านาที ตู้เฟยก็วิ่งเข้ามา

“คุณมาทำไมไม่โทรบอกผม”ตู้เฟยวิ่งเข้ามา ก็ตำหนิเซี่ยลู่

“ไม่ได้คุยกันแล้วเหรอ คุณจะลงสถานีรถโดยสาร ให้ผมไปรับ”ตู้เฟยบ่น

จากนั้น ตู้เฟยก็ยกกระเป๋าของเซี่ยลู่ เข้าไปในเขตพื้นที่ลึกของมหาวิทยาลัย

ส่วนหลี่ฝาง เดินออกมาจากหลังต้นไม้

หลี่ฝางไม่ได้ถามทางคน แต่เดินไปรอบๆอย่างไร้จุดหมาย

ถ้าไปรายงานตัวที่สาขาการจัดการเศรษฐศาสตร์เลยทันที ก็จะเจอตู้เฟยกับเซี่ยลู่ได้ ถึงตอนนั้นไม่ใช่แค่เซี่ยลู่ที่จะลำบากใจ ตู้เฟยก็จัดขัดใจกับตัวเองได้ด้วย

แน่นอน อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน วันข้างหน้ายังไงก็ต้องเจอกับตู้เฟยอยู่แล้ว และจะต้องขัดใจกันแน่นอน

แต่หลี่ฝางอยากยืดเวลาไปสักหน่อย

เดินไป หลี่ฝางก็มาที่สาขาวิทยุและโทรทัศน์ ลู่หลุ่ย รายงานตัวที่สาขาวิทยุและโทรทัศน์

“คนหล่อ คุณก็อยู่สาขาวิทยุและโทรทัศน์เหรอ?”

พี่ชายที่รับสมัครนักเรียนพูดอย่างมีมารยาท:“เอาหนังสือตอบรับให้ผมดูได้ไหม?”

หลี่ฝางส่ายหน้า:“ขอโทษนะครับ ผมสาขาการจัดการเศรษฐศาสตร์”

“สาขาการจัดการเศรษฐศาสตร์เหรอ คุณมาผิดทางแล้ว”พูดจบ รุ่นพี่คนนี้ก็ชี้ทางให้หลี่ฝาง

“รุ่นพี่ คุณรับผิดชอบรับสมัครนักเรียน ใช่ไหม?”หลี่ฝางยิ้มนิดๆ ส่งบุหรี่ให้เขา

พี่ชายส่ายหน้า ปฏิเสธ:“ผมไม่สูบบุหรี่”

“รุ่นพี่ ผมขอถามคนๆหนึ่งกับคุณได้ไหม?”หลี่ฝางถามอย่างตรงประเด็น

“เธอก็อยู่สาขาวิทยุและโทรทัศน์ เธอชื่อลู่หลุ่ย เป็นแฟนผม”หลี่ฝางพูด

“ลู่หลุ่ย……”

หลี่ฝางคิดในใจ ลู่หลุ่ยสวยขนาดนั้น จะต้องประทับใจคนแน่ๆ

“คุณแน่ใจ ว่าคุณเป็นแฟนลู่หลุ่ย?”มองหลี่ฝาง พี่ชายถามอย่างสงสัย

“ใช่”หลี่ฝางพยักหน้า

“น้องชาย อย่าก่อกวนเลย คุณตามจีบลู่หลุ่ยล่ะสิ”พี่ชายหัวเราะ:“แต่ผมว่าคุณยอมแพ้เถอะ ลู่หลุ่ยเป็นสาวสวยมีเจ้าของแล้ว แล้วก็ยังหล่อกว่าคุณมากๆด้วย”

หล่อแค่ไหนเชียว หลี่ฝางขมวดคิ้ว รู้ว่าพี่ชายคนนี้พูดถึงเฉินเสี้ยว

สีหน้าของหลี่ฝาง ก็ยิ่งหม่นลง

เฉินเสี้ยวนี้ ไม่ใช่แค่ส่งลู่หลุ่ยมาที่มหาวิทยาลัย แต่ยังลงทะเบียนกับเธอด้วย

“รุ่นพี่ หอพักผู้หญิงของสาขาวิทยุและโทรทัศน์อยู่ไหน?”หลี่ฝางถามต่อ

“เอ่อ……”พี่ชายลำบากใจหน่อยๆ

หลี่ฝางหยิบสองร้อยออกมา ส่งให้พี่ชายคนนี้ พี่ชายหัวเราะ:“น้องชาย อยู่เป็นเหมือนกันนะเรา”

“ข้างหน้าร้อยเมตร เลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว”

“ผมชื่อลู่เชา ทิ้งช่องทางติดต่อไว้สิ ต่อไปลู่หลุ่ยมีอะไรเกิดขึ้น ผมจะได้รายงานคุณได้”ลู่เชาพูดจบ ก็แลกวีแชทกับหลี่ฝาง

ลู่เชาคิดว่าหลี่ฝางใจกว้างขนาดนี้ จะต้องเป็นลูกคนรวยแน่

หลี่ฝางลาลู่เชาเสร็จ ก็เดินไปทางหอพักลู่หลุ่ย

ถึงหน้าหอพักผู้หญิง หลี่ฝางก็เห็นเฉินเสี้ยวกับลู่หลุ่ยออกมาจากหอพักผู้หญิงด้วยกัน

เห็นฉากนี้ หลี่ฝางโกรธจนตัวสั่น

เฉินเสี้ยวกล้าตามลู่หลุ่ยไปที่หอพักผู้หญิงด้วย?

ไอ้โง่เง่าเต่าตุ่นนี่!

หลี่ฝางรีบวิ่งไปตรงหน้าลู่เชา พูด:“พี่ชาย ช่วยผมดูกระเป๋าหน่อย เดี๋ยวผมมาเอา”

“ได้”ลู่เชาพยักหน้า:“แต่ถ้ามีของราคาแพงหายไป อย่าโทษผมนะ”

นอกจากเสื้อผ้ากับของใช้ประจำวัน ก็ไม่มีอะไรแพงๆ!

หลี่ฝางทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ หมุนตัวตามลู่หลุ่ยกับเฉินเสี้ยวไป ตามไปจนหน้าโรงเรียน

ลู่หลุ่ยกับเฉินเสี้ยวแยกกันแล้ว

เวลานี้ หลี่ฝางรีบเดิน มาตรงหน้าเฉินเสี้ยว

“ฮัลโหล!”หลี่ฝางตบไหล่เฉินเสี้ยว มีรอยยิ้มชั่วร้าย

เฉินเสี้ยวหันหน้าไป พอเห็นหลี่ฝาง ตาเขาก็ขยายกว้าง

“หลี่ฝาง?ทำไมเป็นคุณ!”เฉินเสี้ยวมองหลี่ฝางอย่างตกใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“แม่เอ๊ย กล้ามายุ่งกับแฟนผม คุณอยากตายเหรอ!”หลี่ฝางกำหมัด ต่อยไปที่หน้าเฉินเสี้ยว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท