NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 169

ตอนที่ 169

บทที่ 169 เสแสร้งหนักไปแล้ว

หลี่ฝางรับเมนูมา เปิดดูไม่กี่หน้า

“อาหารพวกคุณมีหมดเลย”หลี่ฝางเงยหน้ามองพนักงานเสิร์ฟ หัวเราะเบาๆ

“ว่างโก๋ของเรามีทั้งอาหารเสฉวน อาหารกวางตุ้ง อาหาตงเป่ย อาหารจีนแต่ละประเภทก็มีแทบหมด รับรองว่าพวกคุณติดใจแน่ๆ”

“เชฟต่างมาจากแต่ละพื้นที่ในประเทศ ต่างเป็นซูเปอร์เชฟทั้งนั้น โรงแรมเรามีสี่คน”พนักงานพูดด้วยใบหน้าภูมิใจ

หลี่ฝางพยักหน้า มีความพอใจปรากฏ

“ไวน์ที่แพงสุดที่นี่เท่าไหร่?”หลี่ฝางถามไปงั้นๆ

“Lafiteปี1982 สองหมื่นเจ็ดพันแปดค่ะ”พนักงานคิด จึงพูด

“ร้านอาหารพวกคุณมีLafite1982กี่ขวด?”หลี่ฝางถามต่อ

“แขกด้านบนสั่งไปแล้วหนึ่ง ตอนนี้เหลือเก้าขวดค่ะ”พนักงานตอบ

“เก้าขวด?”หลี่ฝางขมวดคิ้วหน่อย คิดว่าน้อยไป

เหยนเสี่ยวน่าจ้องหลี่ฝางเขม็ง คิดในใจ:ผู้ชายคนนี้คงไม่สั่ง Lafiteหรอกนะ?

เงินน้อยๆของตัวเอง ไม่สามารถจ่ายอะไรที่ฟุ่มเฟือยขนาดนี้ได้

เหยนเสี่ยวน่าจะห้าม หลี่ฝางก็ถามขึ้นมา:“นอกจากLafiteแล้ว ยังมีไวน์อะไรที่ราคาแพงอีกไหม?”

“Latour ราคาถูกกว่าLafiteแปดสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ มีอยู่หกขวด”พนักงานเสิร์ฟพูด

ราคาของLatour ที่จริงไม่ต่างกับLafiteนัก แต่ความนิยมของLafite กลับมากกว่าLatourหลายเท่า ดังนั้นคนที่ดื่มLatourได้ ต่างสั่งLafiteทั้งนั้น

เพราะสาเหตุนี้ ดังนั้นคลังของLatour เลยน้อยกว่าLafite

หลี่ฝางคิดในใจ ยังน้อยไป

“มีอีกไหม?”หลี่ฝางถามต่อ

“ถ้ายังมีอยู่นั้น ก็จะเป็นHaut Brion ราคาหนึ่งหมื่นสองต่อขวด ไวน์รุ่นนี้ที่โรงแรมเรามีเยอะมาก มียี่สิบกว่าขวดค่ะ”พนักงานมองเมนู แล้วจึงพูด

“พอแล้ว อย่าเสแสร้งได้แล้วโอเคไหม?คุณถามไปตั้งมากขนาดนั้น คุณก็ดื่มไม่ไหว”เวลานี้ผู้หญิงสวมแว่นก็ทนไม่ไหว เธอขมวดคิ้ว พูดไปตรงๆ

พนักงานเสิร์ฟคนนั้นก็มีรอยยิ้มขี้เล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่หลี่ฝางยิ่งถามก็ยิ่งถามราคาต่ำลง พนักงานคิดในใจ เด็กคนนี้อยากดื่มไวน์แดง แต่ดื่มแพงๆไม่ไหว

พนักงานสำรวจหลี่ฝาง จากที่เขาแต่งตัวแล้วจึงพูดแนะนำ:“คุณผู้ชาย งั้นฉันแนะนำขวดนี้ให้ไหม Chateau Rauzan Seglaไวน์องุ่นแดงแห้งของแท้รุ่นครบรอบ 350ปี ราคาแค่พันห้า ท่านว่าอย่างไร?”

ถึงหลี่ฝางจะแต่งตัวไม่เป็น แต่ที่สวมใส่ก็ไม่ใช่ของหาบเร่ทั่วไป ทั้งตัวนี้ มีถึงสองสามพัน

ดังนั้นพนักงานเสิร์ฟคิดว่า ไวน์ขวดนี้ เหมาะกับหลี่ฝางมาก

“ถูกขนาดนี้เลย?”หลี่ฝางบ่น จึงพูด:“งั้นเอาที่คุณพูดมาสองขวด”

“เอาChateau Rauzan Seglaมาสองขวด ใช่ไหมคะ?”พนักงานถามความแน่ใจ

“ใช่”หลี่ฝางพยักหน้า

ทั้งหมดนี้ เหยนเสี่ยวน่ารู้สึกโล่งใจ แต่ไวน์สามพัน ก็เกินกว่าที่เธอคำนวณไว้ ดังนั้นในใจของเธอ ก็ไม่พอใจอย่างมาก

ทันใดนั้นเหยนเสี่ยวน่าก็รู้สึกแย่ต่อหลี่ฝาง เธอคิดในใจ:ฉันเป็นผู้หญิงอาสาเลี้ยงข้าว คุณมีหน้าไปสั่งไวน์แพงๆอย่างนั้นได้ไง?

ตอนที่พนักงานเสิร์ฟจะไปนั้น จู่ๆหลี่ฝางก็พูด:“เดี๋ยว ผมยังสั่งไม่เสร็จเลย”

“คุณผู้ชาย คุณจะสั่งเหล้าขาวเหรอ?”พนักงานหันไปถาม

“ผมยังสั่งไวน์ไม่เสร็จ”

“ไม่ใช่ว่าคุณสั่งChateau Rauzan Seglaไปสองขวดแล้วเหรอคะ?”พนักงานเสิร์ฟตะลึง

“ใช่ แต่ไวน์แย่ขนาดนั้น คุณคิดว่าพวกเราดื่มได้ไหม?สองขวดนี้ พวกเราเอามาล้างปาก”หลี่ฝางพูดนิ่งๆ

“ล้างปาก……เหรอ?”สีหน้าพนักงานดูอึดอัด

เอาChateau Rauzan Seglaราคาหนึ่งพันห้ามาล้างปาก คุณเป็นหวางซือชงเหรอ?

“คุณผู้ชาย คุณนี่ล้อเล่นเก่งจัง”พนักงานเสิร์ฟหัวเราะ พูด

นี่คือเรื่องตลกที่สุดตั้งแต่เธอทำงานมาได้ยิน

แต่แป๊บเดียว รอยยิ้มที่ใบหน้าพนักงานเสิร์ฟคนนี้ก็ซีเรียสขึ้นมา

เพราะเวลานี้ จู่ๆหลี่ฝางก็พูดอย่างจริงจัง:“Lafite1982มาเก้าขวด Latour หกขวด Haut Brionในคลังพวกคุณมีกี่ยี่สิบขวด?”

“ช่างเถอะ ไม่ว่าจะกี่ยี่สิบขวด ก็เอามาให้ผมให้หมด”หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์

“คุณผู้ชาย คุณแน่ใจนะว่าไม่ได้ล้อเล่น?”ใบหน้าพนักงานเสิร์ฟเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เธอคิดว่าหูเธอมีปัญหา

หรือว่า ตัวเองเจอคนบ้า?

นอกจากพนักงานเสิร์ฟแล้ว คนบนโต๊ะต่างพูดไม่ออกทั้งนั้น

รวมถึงหวางเสี่ยวโก๋ เขาขมวดคิ้วแน่น:“หลี่ฝาง คุณทำบ้าอะไร?สั่งไวน์แดงมาเยอะขนาดนั้น ดื่มหมดไหม?”

“ที่สำคัญก็คือ ไวน์พวกนี้ขวดหนึ่งก็หมื่นขึ้นทั้งนั้น คุณล้อพวกเราเล่น หรือจงใจเล่นงานพี่สาวผม”

หวางเสี่ยวโก๋พูดจบ ก็มองเหยนเสี่ยวน่าแวบหนึ่ง

เวลานี้สีหน้าของเหยนเสี่ยวน่า เขียวจนม่วง

ใครต่างก็คิดว่า หลี่ฝางตั้งใจเล่นงานเหยนเสี่ยวน่า

เหยนเสี่ยวน่าเพิ่งพูดไป เธอจะเลี้ยง

สุดท้าย หลี่ฝางก็เอาแต่สั่งไวน์ สั่งมาห้าหกแสนแล้ว

ถึงเอาออดี้ของตัวเองไปขาย ก็จ่ายบิลมื้อนี้ไม่พอ

เหยนเสี่ยวน่าโกรธจนแทบร้องไห้ เธอมองหลี่ฝาง:“หลี่ฝาง ฉันไปทำอะไรให้คุณขุ่นเคืองเหรอ?”

“เปล่านี่”หลี่ฝางส่ายหน้า

หลี่ฝางอยากเล่นงานผู้จัดการล็อบบี้เฉยๆ ไม่ได้คิดจะทำให้เหยนเสี่ยวน่าตกยากลำบาก

เวลานี้ หลี่ฝางจึงคิดขึ้นได้ เหมือนตัวเองจะลืมไปอย่างหนึ่ง

“ใช่สิ ลืมพูดไป วันนี้มื้อนี้ ผมเลี้ยงเอง”หลี่ฝางหัวเราะ พูด:“เสี่ยวน่า ทำไมคุณต้องแย่งผู้ชายอย่างพวกเราจ่ายเงินด้วย?นั่นไม่ได้หักหน้าผู้ชายอย่างเราเหรอ?”

“คุณเลี้ยง?”สีหน้าของเหยนเสี่ยวน่าดูดีขึ้นมาหน่อย

“ถึงคุณเลี้ยง ก็ไม่จำเป็นต้องสั่งไวน์แพงขนาดนั้น ยังไงพวกเราก็ยังเป็นนักเรียน”เหยนเสี่ยวน่าพูด

“ที่จริงสั่งมาขวดหนึ่งก็ไม่เป็นไร แค่ไม่จำเป็นต้องจ่ายมากขนาดนั้น”เวลานี้ฉินวี่เฟยก็พูด

ผู้หญิงสวมแว่นจับแว่นกรอบทองของตัวเอง หัวเราะออกมา:“ในเมื่อเขาเลี้ยง งั้นเขาอยากสั่งอะไรก็สั่งไปเถอะ”

“ทำไมเราต้องสนใจมากขนาดนั้น”

หญิงสวมแว่นมีเจตนาไม่ดี คิดในใจ ในเมื่อคุณชอบเสแสร้งนัก งั้นก็ปลอมต่อไปเถอะ รอตอนจ่ายเงิน ดูสิจะปลอมต่อไปยังไง

หญิงสวมแว่นคิดว่า ถ้าเอาไวน์จริงๆ หลี่ฝางจ่ายไม่ไหวแน่

ที่จริง หวางเสี่ยวโก๋ เหยนเสี่ยวน่า ก็คิดว่าหลี่ฝางกำลังเสแสร้ง และการเสแสร้งนี้ ก็ไม่ใช่เสแสร้งทั่วไป

ตั้งแต่ที่โรงแรมว่างโก๋เปิดกิจการมา ก็ไม่เคยมีใครฟุ่มเฟือยครั้งเดียวได้ขนาดนี้!

พนักงานก็หัวเราะ:“คุณผู้ชาย อย่าก่อกวนพวกเราอีกเลย ถ้าคุณจะสั่ง ก็จริงจังหน่อยค่ะ”

“คุณว่าผมไม่จริงจัง?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่ค่อยพอใจ

“คุณผู้ชาย ขอโทษ ฉันพูดผิดไป ความหมายของฉันคือ กรุณาอย่าล้อเล่นอีก ยังไงคุณก็เห็นแล้ว โรงแรมเรายุ่งมาก”พนักงานเสิร์ฟพูดอีกครั้ง

หลี่ฝางมองพนักงานเสิร์ฟอย่างจริงจัง:“คุณดูสภาพผม เหมือนกำลังล้อเล่นไหม?”

“หรือว่า คุณคิดว่าผมจ่ายไม่ไหว?”

หลี่ฝางหัวเราะ หยิบกุญแจรถออกมา:“ถ้าคุณคิดว่าผมซื้อไม่ไหว งั้นก็เอากุญแจรถนี้ไปกด รถของผม จอดอยู่หน้าร้านคุณ”

“เบนซ์G-Classคันหนึ่ง ราคาสองล้านขึ้น เดี๋ยวผมจ่ายไม่ไหว โรงแรมคุณก็แจ้งตำรวจ ยึดรถผมได้เลย”หลี่ฝางพูดนิ่งๆ

พนักงานเสิร์ฟเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง นี่กุญแจรถเบนซ์G-Classจริงๆ หรือว่าเอากุญแจอื่นปลอมมา?

พนักงานเสิร์ฟหัวเราะ:“โอเค ฉันจะไปดูหลักฐานที่หน้าประตู ถ้าเป็นจริง ฉันจะให้พนักงานเอาไวน์มาให้ ถ้าไม่จริงล่ะก็ ฉันจะคิดว่าคุณล้อเล่น”

“ไปเถอะ ”หลี่ฝางเอากุญแจรถโยนให้พนักงานเสิร์ฟ

การกระทำนี้ ทำเอาตกใจทั้งโต๊ะ

“หลี่ฝาง คุณทำอะไรน่ะ ถึงคุณจะเลี้ยง ก็ไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือย เมื่อกี๊ลองคำนวณดู รวมไวน์พวกนี้มา ก็ห้าแสน”

“คุณลืมไปหรือเปล่า มื้อนี้ของเรา ลดได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า พวกเราจ่ายแค่สองแสนกว่า ก็จะได้ดื่มไวน์ราคากว่าครึ่งล้าน พวกเราไม่คุ้มเหรอไง?”หลี่ฝางหัวเราะ

“ถึงจะลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ มื้อนี้ก็จ่ายไปสองแสนกว่า เกือบสามแสนด้วย ……”หวางเสี่ยวโก๋สูดหายใจลึกๆพูด:“พระเจ้า วันนี้พวกเราดื่มได้กับรถคันหนึ่ง?”

เห็นตรงนี้ ในใจฉินวี่เฟยก็แอบขำ หลี่ฝาง สมกับเป็นหลานหลี่เจียเฉินจริงๆ และก็มีแค่เขา ที่จะบ้าระห่ำได้ขนาดนี้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท