NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 170

ตอนที่ 170

บทที่ 170 มื้ออาหารหลานล้าน

หลี่ฝางรู้กำไรของไวน์แดง ในร้านอาหาร คลับระดับสูง ถ้าไวน์ยิ่งเกรดดี กำไรก็จะน้อย

ยังไงซะผู้จัดการล็อบบี้ก็จะลดให้ตัวเองห้าสิบเปอร์เซ็นต์ กลัวอะไร?

แป๊บเดียว พนักงานเสิร์ฟคนนั้นก็วิ่งกลับมา เอากุญแจรถให้หลี่ฝาง:“คุณผู้ชาย ฉันไม่มีแววเอง รถเบนซ์G-Classคันนั้น เป็นของท่านจริงๆ”

“คนมองภายนอกไม่ได้คำนี้ ช่างเหมาะกับคุณเลยจริงๆ”พนักงานเสิร์ฟคนนั้นพูดประจบทันที กลัวทำหลี่ฝางขุ่นเคือง

หลี่ฝางยิ้มอย่างเหยียดหยาม:“พูดเหลวไหลให้มันน้อยๆหน่อย เสิร์ฟไวน์สิ”

ที่จริงจนกระทั่งตอนนี้ ทุกคนยังสงสัยหน่อยๆ หลี่ฝางจะสั่งไวน์ห้าหกแสนจริงๆ?

ยังไง ข้าวมือหนึ่งจ่ายไปมากขนาดนั้น ก็ถือว่าเป็นมื้อที่แพงที่สุดสำหรับเมืองเอก

พนักงานคนนั้นพยักหน้า ตอนที่จะหมุนตัวออกไป

“เดี๋ยว!”จู่ๆหลี่ฝางกลับเรียกเธอไว้

พนักงานเสิร์ฟคนนั้นหันหน้ากลับ มองหลี่ฝางอย่างสงสัย คิดในใจ:นี่เปลี่ยนท่าทีแล้ว?

จริงๆด้วย เด็กนี่แค่กำลังเสแสร้งอยู่

เวลานี้ผู้หญิงสวมแว่นก็หัวเราะขึ้นมา:“เสแสร้งต่อไปไม่ได้แล้วสินะ ฉันบอกแล้ว เดิมทีเขาก็เสแสร้งอยู่แล้ว พวกคุณยังจะเชื่ออีกว่าเขาจะเลี้ยงไวน์ราคาแพงขนาดนั้นให้พวกเรา”

“หลี่ฝาง ในเมื่อคุณไม่อยากสั่ง ก็ไม่ต้องสั่ง พวกเรากินอาหารกันธรรมดาๆ รู้จักกันและกันดีกว่า ทำไมต้องจ่ายเงินมากขนาดนั้น,”

เหยนเสี่ยวน่าโน้มน้าว:“ฉันรู้ว่าคุณอยากสั่งสอนผู้จัดการคนนี้ แต่ก็จะใช้วิธีที่ดูเหมือนเราชนะ แต่จริงๆแล้วเราทั้งสองฝ่ายต่างก็เสียเปรียบด้วยกันหมดไม่ได้นะ”

“มากไปกว่านั้น คุณสั่งไวน์เยอะขนาดนั้น พวกเราดื่มไม่หมดจริงๆ”เหยนเสี่ยวน่าพูดอย่างหวังดี

หวางเสี่ยวโก๋ก็โน้มน้าว:“คือ คือ สั่งเหล้ามากขนาดนั้นเพื่ออะไรกัน”

เงยหน้าขึ้นไป หวางเสี่ยวโก๋พูดกับพนักงานเสิร์ฟ:“ขอโทษนะ พนักงานเสิร์ฟ เพื่อนรักผมล้อคุณเล่นน่ะ”

“เอาChateau Rauzan Seglaมาให้พวกเราสองขวดก็พอครับ”

พนักงานเสิร์ฟพยักหน้า พูดด้วยสีหน้าผิดหวัง:“โอเค”

ส่วนเวลานี้ หลี่ฝางกลับพูดด้วยสีหน้างุนงง:“ใครว่าผมเรียกพนักงานไว้ คือเปลี่ยนความคิด?”

“ผมแค่คิดว่า ไวน์เอาให้พวกคุณสาวๆดื่ม ส่วนพวกเราหนุ่มๆ ควรจะดื่มเหล้าขาว”หลี่ฝางพูดอย่างหมดคำพูด

หลี่ฝางคิดว่า ดื่มไวน์บนโต๊ะอาหาร เป็นเรื่องงี่เง่า

ยังไงก็ไม่ใช่ร้านอาหารฝรั่ง

“งั้นคุณผู้ชาย ดูละกันค่ะ ว่าท่านต้องการสั่งอะไร?”สีหน้าพนักงานเสิร์ฟดูปีติอีกครั้ง เธอเปิดเมนูไปที่หน้าเครื่องดื่ม ส่งให้หลี่ฝาง

หลี่ฝางไม่รับ และส่ายหัว:“ผมไม่ค่อยเข้าใจเครื่องดื่มนัก เอาเป็นว่า ผมจะดื่มแต่ของแพง”

“งั้นท่านต้องการกี่ขวด?”พนักงานเสิร์ฟถาม

“ถามก่อนเฉยๆ เครื่องดื่มพวกนี้ดื่มไม่หมด ใส่ถุงกลับไปได้ไหม?”หลี่ฝางถาม

“เครื่องดื่มร้านเราเอามาจากข้างนอกไม่ได้ค่ะ หมายความว่า ไม่ให้ลูกค้าเอาเข้ามาเอง แต่เอาออกไปได้ค่ะ”พนักงานพูดยิ้มๆ

ยังไงเครื่องดื่มของร้าน ก็แพงกว่าข้างนอก

ในเมื่อดื่มไม่หมด ลูกค้าก็เอาไปคืนที่เคาน์เตอร์ ใครจะโง่เอาออกไป?

“โอเค เอาเหล้าขาวที่ร้านที่แพงที่สุด มาสี่ขวด”หลี่ฝางพูด

“ค่ะ”พนักงานเสิร์ฟพยักหน้า หมุนตัวออกไป

“เดี๋ยว ผมยังพูดไม่จบเลย”หลี่ฝางขมวดคิ้ว:“คุณรีบไปขนาดนั้นทำไม”

“คุณผู้ชาย คุณมีอะไรต้องกำชับอีก?”

“เหล้าขาวที่โรงแรมคุณ มีเท่าไหร่ เอามาเท่านั้น”หลี่ฝางพูด:“เดี๋ยวจะห่อกลับไป”

“คุณผู้ชาย ความหมายของท่านคือ……”พนักงานเสิร์ฟคนนั้นกลืนน้ำลายอย่างตกใจ

“ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?ความหมายของผมคือ ห่อกลับหมด”หลี่ฝางยิ้มนิดๆ

“โอ……โอเคค่ะ”พนักงานเสิร์ฟตกใจ แต่ก็ดีใจมากขึ้น

ยังไงพวกเครื่องดื่ม พนักงานก็มีค่าคอมมิชชั่น ถึงค่าคอมจะแค่สามต่อพัน เจอลูกค้าใจกว้างอย่างหลี่ฝาง ถือว่าเธอทำเงินได้เยอะ

“คุณผู้ชาย ท่านน่าจะไม่มีกำชับใช่ไหม?”พนักงานถามอย่างไม่แน่ใจ

เธอคิดในใจ เครื่องดื่มนี้ถูกคุณซื้อเรียบ คุณน่าจะไม่มีอะไรต้องการอีกแล้วใช่ไหม?

“พวกเครื่องดื่มไม่เอาแล้ว แต่อาหาร……เมื่อกี๊สั่งไปน้อย”

“ผมไม่ชำนาญเรื่องกินนัก ไม่รู้ว่าเพื่อนผมชอบกินอะไรด้วย งั้นแบบนี้ละกัน คุณกำชับพ่อครัว เอาอาหารทุกเมนู มาเสิร์ฟที่โต๊ะเลย”

“เสิร์ฟหมด?”พนักงานเสิร์ฟสูดหายใจ อาหารพวกนี้มีเป็นร้อยเชียว

“ใช่ เสิร์ฟหมด”หลี่ฝางหัวเราะ พูด:“อาหารมากขนาดนั้น โต๊ะของพวกเราวางไม่ได้แน่ ผมเพิ่งเห็นโต๊ะหนึ่งลุกไป ต่อให้พวกเราหน่อย เอาเป็นโต๊ะใหญ่”

“ได้……ค่ะ”เสียงของพนักงานเสิร์ฟเริ่มสั่น

ทำงานมาหลายปี เป็นครั้งแรกที่เจอลูกค้าเอาแต่ใจแบบนี้

เครื่องดื่มห่อกลับ อาหารเสิร์ฟให้หมด ……

อาหารมื้อหนึ่งหมดไปเป็นล้าน……

ที่มากกว่าคนรวยซื้อของฟุ่มเฟือย ก็คือการข่มสู้กันของพวกคนรวยพวกนั้น

“โอเค ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว คุณไปได้แล้ว”เวลานี้ หลี่ฝางจึงโบกมือให้พนักงานเสิร์ฟ แล้วพูด

“หลี่ฝาง คุณจะทำอะไรกันแน่”พอพนักงานเสิร์ฟไป หวางเสี่ยวโก๋ก็ถามอย่างทนไม่ไหว

เหยนเสี่ยวน่าก็ตะลึงทันที

“หลี่ฝาง คุณรู้ไหมว่าโรงแรมว่างโก๋มีเหล้าขาวเก็บไว้แค่ไหน?ที่ครอบครัวฉันส่ง ก็ราคาเป็นแสนแล้ว แล้วยังมีเหมาไถ อู่เหลียงเย่ แอลกอฮอล์พวกนี้อยู่ระดับสูง น่าจะเป็นล้าน”เหยนเสี่ยวน่าถอนหายใจยาวๆ:“เดี๋ยวคุณไม่มีเงินจ่าย คิดจะเอารถG-Classให้พวกเขายึดจริงเหรอ”

เหยนเสี่ยวน่ารู้ ช่วงที่เรียน ถึงจะเป็นลูกคนรวย ก็ไม่มีเงินมากขนาดนั้น

มีแค่พวกเรียนจบแล้ว เปิดธุรกิจ หรือว่ารับธุรกิจของที่บ้าน ถึงจะเริ่มมีเงินเท่านั้นแหละ

นักเรียนที่ไหน จะมีเงินเช่นเศรษฐีแบบนี้?

ฉินวี่เฟยก็ตกใจหน่อยๆ เพราะว่าถ้าเป็นเธอ ก็จ่ายแค่ไม่กี่แสน

ถ้าเอาเป็นล้านขึ้นไป เธอจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากที่บ้าน

แต่ขอความช่วยเหลือจากที่บ้าน บอกที่บ้านว่าตัวเองกินอาหารมื้อหนึ่งไปล้านกว่า ต้องถูกว่าแน่

หลี่ฝางยักไหล่น้อยๆ เหมือนไม่เก็บมาใส่ใจ

ที่จริงในบัตรของหลี่ฝาง ไม่มีเงินมากขนาดนั้นแล้ว แต่เขายังมีบัตรเครดิตอีกใบ

วันนั้นที่ออกมาจากรีสอร์ต ลู่หลุ่ยเอาบัตรเครดิตสีดำให้หลี่ฝาง

หลี่ฝางรู้ บัตรเครดิตสีดำที่อยู่ในมือตัวเองนี้ เบิกเงินได้ไม่จำกัด

ดังนั้น ไม่ว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หลี่ฝางก็ไม่ห่วง

สำหรับหลี่ฝางที่รวยสุดๆแล้ว เงินทอง ก็แค่ตัวเลขเท่านั้น

เทียบกับที่ลุงเฉียนกับพ่อใช้เงินสิบเจ็ดล้านเพื่อซื้อบทเรียนให้ตัวเองแล้ว ส่วนตัวเองกินอาหารไปหนึ่งล้าน มันจะมากอะไรกัน?

“พวกคุณไม่ต้องห่วง อีกเดี๋ยวเครื่องดื่มและอาหารมาเสิร์ฟ ทุกคนกินเนื้อเยอะๆ ดื่มเยอะๆ ไม่ต้องรู้สึกมีภาระใดๆ”หลี่ฝางพูด

“ใช่สิ เหยนเสี่ยวน่า ที่คุณพูด เครื่องดื่มที่นี่ เป็นของที่บ้านคุณจัดหาให้ ใช่ไหม?”หลี่ฝางถาม

เหยนเสี่ยวน่าพยักหน้า:“หลายวันก่อนเพิ่งส่งมาให้ว่างโก๋คันหนึ่ง ราคาสองแสนกว่า”

“แต่พวกเขาขาย เครื่องดื่มทั่วไปจะเพิ่มราคาห้าสิบเปอร์เซ็นต์”

เหยนเสี่ยวน่าพูด จู่ๆก็คิดในใจ:“ใช่สิ ไม่ใช่ว่าคุณเอาเครื่องดื่มทั้งหมดห่อกลับเหรอ?แบบนี้ไหม เหล้าที่ดื่มหมด ก็ขายให้พวกเราตระกูลเหยนละกัน”

“ราคา ก็เอาตามที่พวกเราขายให้ว่างโก๋ รับราคาเดิม แบบนี้ คุณก็จะได้กำไรเล็กน้อยจากพวกเราด้วย”คิดถึงตรงนี้ เหยนเสี่ยวน่าก็ยิ้มออกมา

“กลัวว่าหลี่ฝางจะคิดแบบนี้ตั้งนานแล้ว”ผู้หญิงใส่แว่นหัวเราะ:“เขาเอาเหล้าขาวทุกอย่างของว่างโก๋ห่อกลับ จากนั้นก็ขายออกไป กลัวว่าเงินที่หาได้ ก็แทบจะเป็นราคาหักลบของอาหารมื้อนี้เลย”

“หลี่ฝาง คุณฉลาดจริงๆเลย”

ผู้หญิงสวมแว่นพูดอย่างนี้ คนทั้งโต๊ะต่างก็นึกขึ้นได้ จากนั้นก็ส่งสายตาชื่นชมหลี่ฝาง

ถึงข้าวมื้อนี้จะหมดเป็นล้าน แต่ที่จริงก็จ่ายแค่ห้า แล้วยังใส่ถุงกลับได้ แล้วยังขายไปได้เป็นแสน

นับดูแล้ว หลี่ฝางก็จ่ายไปไม่เท่าไหร่ แต่สั่งสอนผู้จัดการล็อบบี้ไปอย่างแรง

ครั้งนี้ ผู้จัดการล็อบบี้เรียกได้ว่าสูญเสียร้ายแรงมาก

“สมแล้วที่เรียนเศรษฐศาสตร์ สมองนี้ ทำให้คนยอมจริงๆ”หวางเสี่ยวโก๋พูดด้วยใบหน้านับถือ

ฉินวี่เฟยก็มองหลี่ฝางอย่างชื่นชม ดูเหมือน หลี่ฝางไม่ใช่แค่ฟุ่มเฟือยเป็นอย่างเดียว

ในเวลานี้เอง หลี่ฝางก็หัวเราะ พูดกับเหยนเสี่ยวน่า:“พวกเราล้วนแต่เป็นเพื่อนกัน ผมหวังว่ามิตรภาพของพวกเราจะบริสุทธิ์จริงใจต่อกัน ไม่มีตุกติก ไม่มีเพื่อธุรกิจ”

“ดังนั้น เหล้าขาวพวกนั้น ก็เอาให้พวกคุณตระกูลเหยนแล้ว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท