NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 177

ตอนที่ 177

หลี่ฝางกำบัตรใบนั้นแน่น โกธรจนตัวสั่นเทา

สองพ่อลูกนี่ หัวดื้อไปหน่อยแล้วมั้ง

แต่พอได้ยินคำพูดนั้นของลู่หลุ่ย ว่าเธอไม่ได้มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้เฉินเสี้ยว หากแต่มาคืนเงิน

ในใจของหลี่ฝาง จึงบรรเทาลงหน่อย

ถ้าลู่หลุ่ยมาเพราะเรื่องของเฉินเสี้ยว คืนนี้หลี่ฝางคงจะนอนร้องไห้ตายกันไปข้าง

ต่อให้ไม่ร้องไห้ ก็คงนอนไม่หลับ

ก้มหน้ามองบัตรในมือ หลี่ฝางคิดในใจ คุณอาลู่เอาเงินมากมายมาจากไหน

แสนห้า สำหรับหลี่ฝางจิ๊บจิ๊บจ๊อย

แต่สำหรับบิดาของลู่หลุ่ยแล้ว นับเป็นเงินก้อนใหญ่แน่นอน

อย่างไรเสียก่อนหน้า เพื่อที่จะรักษาอาการป่วย บิดาของลู่หลุ่ยไม่เพียงแต่จะใช้เงินเก็บไปจนหมด แถมยังไปยืมเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมาอีกมากมาย

ตอนนี้ เขายังต้องเจียดหาออกมาอีกแสนห้าอีก

ยืมมาเหรอ เป็นไปไม่ค่อยได้

คงไม่ได้ขายไตหรอกมั้ง

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ หลี่ฝางก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ ถ้าจะต้องขายไตเพื่อมาคืน แสนห้า ตัวเขาเองคงจะบาปหนัก

ลู่หลุ่ยคงจะเกลียดเขาเข้ากระดูกดำเพราะเหตุนี้แน่นอน

ในเวลานี้ หวางเสี่ยวโก๋ถามหลี่ฝาง“หลี่ฝาง เด็กผู้หญิงเมื่อกี้นี้ใครกันเหรอ แฟนสาวของนายหรือเปล่า”

“ไม่เชิง”

หลี่ฝางส่ายหน้า เขากับลู่หลุ่ย ไม่เคยคบหากันอย่างเป็นทางการสักที

หวางเสี่ยวโก๋ถอนหายใจ“เมื่อกี้พี่สาวฉันยังถาม ว่านายมีแฟนสาวแล้วหรือยัง ฉันบอกเธอว่ายังไม่มี”

“ฮ่าๆ ดูท่าพี่สาวฉัน ยังมีโอกาสสินะ”หวางเสี่ยวโก๋พูด

“เรื่องตอนไหนกัน”หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“เมื่อกี้ไง สองนาทีก่อน”หวางเสี่ยวโก๋พูด

หลี่ฝางพูดอย่างไม่สบอารมณ์“เด็กสาวที่วิ่งไปเมื่อกี้ ชื่อลู่หลุ่ย เราเกือบจะเป็นแฟนกัน แต่เกิดการเข้าใจผิดกันเสียก่อน”

พูดจบ หลี่ฝางจึงพูดเสริม“แต่ฉันเชื่อว่า ความเข้าใจผิดจะต้องคลี่คลายสักวัน ถึงเวลานั้น ลู่หลุ่ยก็จะเป็นแฟนสาวของฉันจริงๆเสียที”

“ดูไม่ออกนะ พ่อหนุ่มนายนี่ก็โรแมนติกไม่เบานะเนี่ย”หวางเสี่ยวโก๋แปลกใจเล็กน้อย อย่างไรเสียลูกเศรษฐีที่เขาเคยเจอ มีใครบ้างที่ไม่ใช่เพลย์บอย

หลี่ฝางกลอกตาใส่หวางเสี่ยวโก๋“เรียกลูกพี่”

“ลูกพี่”

“ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่เล้ยยย”

เมื่อกลับมาถึงหอพัก พอทุกคนล้างหน้าล้างตาเสร็จ ต่างก็แยกย้ายกันขึ้นเตียงนอน

หวางเสี่ยวโก๋ถาม“ลูกพี่ เมื่อกี้ตอนอยู่ร้านอาหาร ลูกพี่แต่งเรื่องขึ้นใช่ไหม”

ตอนแรกที่อยู่ในห้องส่วนตัว เรื่องที่หลี่ฝางขายที่ดิน นอกจากฉินหยู่เฟย ทุกคนต่างเชื่อ

แต่พอตอนที่หลี่ฝางหยิบบัตรแบล๊คการ์ดออกมา ใช้ชำระเงิน ทุกคนต่างก็สงสัยในฐานะของหลี่ฝาง ขึ้นมาทันที

“ลูกพี่ พ่อพี่ชื่อไรอ่ะ”หวางเสี่ยวโก๋หยิบมือถือออกมา เตรียมตัวตรวจ

คนทั่วโลกที่จะมีบัตรแบล๊คการ์ดได้ จะต้องเป็นบุคคลชั้นนำ

“พ่อพี่ชื่อหลี่ต้าคาง ตรวจสอบได้ตามสบาย”หลี่ฝางมองเจตจำนงของหวางเสี่ยวโก๋ออก จึงพูดขึ้นอย่างไม่ยี่หร่า

ไม่ว่าจะเป็นบิดาของเขาหลี่ต้าคาง หรือว่าคุณปู่ของเขาหลี่เจียเฉิง หลี่ฝางเคยตรวจเช็คมาบนเนตแล้วรอบหนึ่ง

แต่บนเนต กลับไม่พบข้อมูลใดๆของหลี่ต้าคังหรือหลี่เจียเฉิง

บนเน็ตมีการระเบิดข่าวของมหาเศรษฐีดูไบ ชื่อว่าMajidอะไรสักอย่าง ทรัพย์สมบัติราวหกแสนล้าน คิดเป็นเงินหยวนก็ราวๆสี่ล้านล้าน บางทีคุณปู่ ค่อนข้างโลว์โปรไฟล์มั้ง

เสี่ยวหวางโก๋ตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย และก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ได้แต่ก้มหน้าก้มตา

หลี่ฝางหยิบมือถือออกมา ส่งข้อความหาหลี่เสี่ยวเสี่ยว ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องของลู่หลุ่ย

หลี่เสี่ยวเสี่ยวบอกหลี่ฝาง ว่าลู่หลุ่ยขายบ้านตัวเองทิ้งแล้ว ส่วนผู้ซื้อ ก็คือบิดาของเฉินเสี้ยว

ทั้งหมดขายไปไม่เกินหนึ่งแสนเจ็ด นอกจากจ่ายค่าเทอมให้ลู่หลุ่ยไปแล้ว ที่เหลืออีกแสนห้า ก็ให้หลี่ ฝางไปทั้งหมด

หลังจากที่หลี่ฝางรับรู้ข่าวนี้ จู่ๆก็รู้สึกบีบหัวใจขึ้นมา

เดิมทีคิดจะทำความดี อยากช่วยเหลือลู่หลุ่ย แต่ใครรู้ว่า สุดท้ายกลับกลายเป็นทำร้ายคุณอาให้ไม่มีที่ซุกหัวนอน

เฮ้อ ถ้ารู้แต่แรก ไม่แส่หาเรื่องดีกว่า ไปคืนเงินแทนลู่หลุ่ยก็ได้

ในค่ำคืนนี้ หลี่ฝางครุ่นคิดไปมา

แต่ว่า ในค่ำคืนนี้ หลี่ฝางเกิดความคิดที่อยากช่วยลู่หลุ่ยขึ้นมา

วันที่สอง หลี่ฝางสวมชุดทหาร แล้วเริ่มไปคอร์สฝึกอบรมทหารแล้ว

การฝึกทหารในมหาวิทยาลัย กฏระเบียบค่อนข้างเยอะ

ในตอนที่ฝึกอบรมทหาร จู่ๆหลี่ฝางก็เห็นคนที่รู้จักมักคุ้น ในตอนที่เขาเดินผ่าน เขาตบบ่าคนผู้นั้นเบาๆ“ส้าวส้วย”

“หลี่ฝาง ทำไมเป็นนายล่ะ”ส้าวส้วยหันหน้ากลับไป ตะลึงเล็กน้อย

“ฉันก็อยากถามนายเหมือนกัน นายมาได้ไง นายอยู่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่เหมือนกันเหรอ”หลี่ฝางถามประหลาดใจ“เราอยู่คณะเศรษฐศาสตร์เหมือนกันอีกด้วย แถมยังเรียนชั้นเดียวกันอีก”

“บังเอิญเกินไปแล้วมั้ง”หลี่ฝางขมุ่นคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องราวแปลกๆ

“นั่นสิ ทำไมถึงบังเอิญขนาดนี้นะ”ส้าวส้วยแสดงสีหน้าตื่นเต้น

ส้าวส้วยไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย เปลี่ยนไปแค่ทรงผม

เมื่อก่อนผมเขาค่อนข้างยาว ตอนนี้ตัดผมเกรียน ดูกระฉับกระเฉงขึ้น และสดใสขึ้นด้วย

“เดิมทีนายเป็นพนักงานบาร์นี่นา ทำไมถึงมาเป็นนักเรียนที่สุ่ยมู่ล่ะ”หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างตะลึง

“ฉันเรียนภาคค่ำน่ะ เรียนตอนกลางวัน กลางคืนไปทำงานบาร์ หาค่าเทอม ค่าครองชีพ”ส้าวส้วยยิ้มอย่างเปิดเผย“ไม่ปิดบังนะ เถ้าแก่ ที่จริงผมเป็นลูกกำพร้า”

ลูกกำพร้าเหรอ

หลี่ฝางไม่เชื่อคำพูดบ้าๆนี่หรอก

หลี่ฝางพูด“มาถึงขนาดนี้ ทุกคนต่างเป็นเพื่อนนักเรียนกัน นายเรียกฉันว่าหลี่ฝางเถอะ เรียกเถ้าแก่อะไรกัน”

“รู้แล้วนะ เถ้าแก่”ส้าวส้วยพยักหน้า

“ยังเรียกอีก”หลี่ฝางทำหน้าง้ำ รู้ว่าส้าวส้วยจงใจ

ไม่นานนัก การฝึกทหารภาคเช้าก็ผ่านไป

“หลี่ฝาง มากินข้าวด้วยกันสิ ฉันเลี้ยง”ส้าวส้วยพูดอย่างใจกว้าง

“นายไปกินก่อนเถอะ ฉันมีธุระนิดหน่อย”หลี่ฝางบอกปัด

ในเวลานี้ เหยนเสี่ยวน่าเดินออกมาจากด้านข้าง

เหยนเสี่ยวน่าสวมชุดทหาร และสวมหมวกทหารสีเขียว ดูดีเป็นพิเศษ

เธอยิ้มสดใสราวพระอาทิตย์ เดินไปทางหลี่ฝาง หลังจากที่

ส้าวส้วยเห็น หัวเราะแหะๆ“เถ้าแก่ แฟนเถ้าแก่เหรอ สวยดีนะ”

“ไสหัวไปเลย แค่เพื่อนเฉยๆ”หลี่ฝางกลอกตาขาวใส่ส้าวส้วย

“จำไว้นะ อย่าเรียกเถ้าแก่อีก เกิดใครมาได้ยิน ฉันจะอธิบายยังไง”หลี่ฝางพูดไม่ออก

“ได้ครับ เถ้าแก่”ส้าวส้วยยิ้มพูด

หลี่ฝางโมโหจนเวียนหัว

พอดี เหยนเสี่ยวน่ามาหยุดตรงหลี่ฝาง ได้ยินพอดี

“หลี่ฝาง คนนี้คือ”เหยนเสี่ยวน่าบุ้ยคางไปที่ส้าวส้วย

ส้าวส้วยยื่นมือออกไป แนะนำตัวเอง“สวัสดีครับ คนสวย ผมชื่อส้าวส้วย เป็นเพื่อนนักเรียนของหลี่ฝาง”

“ฉันชื่อเหยนเสี่ยวน่า”เหยนเสี่ยวน่ายื่นมือออกไปอย่างมีมารยาท สัมผัสมือกับส้าวส้วยเบาๆ

“โอเค พวกเธอคุยกันไปก่อน ฉันไปก่อน”ส้าวส้วยเป็นฝ่ายไป

เหยนเสี่ยวน่ามองตามเงาหลัง ถามอย่างสงสัย“หลี่ฝาง เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินส้าวส้วยเรียกนายว่าเถ้าแก่”

“เขาเป็นเพื่อนนักเรียนนายไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเรียกนายว่าเถ้าแก่”

“เธอฟังผิดแล้วมั้ง”หลี่ฝางขมวดคิ้ว รู้สึกเซ็ง ครั้งนี้ส้าวส้วย จงใจแน่นอน!

“จริงสิ เธอจะพาฉันไปลงทะเบียนทหารไม่ใช่เหรอ ไปเถอะ”หลี่ฝางกล่าว

เหยนเสี่ยวหน้าพาหลี่ฝางมาถึงป้อมยาม หลี่ฝางหยิบใบขับขี่ บัตรประชาต่างๆ มอบให้ป้อมยาม

หลังจากที่ป้อมยามตรวจดู จึงพยักหน้าให้หลี่ฝาง“ได้ ได้แล้ว”

“จ่ายเงินที่ฉันนี่แหละ วิ่งไปวิ่งมาวุ่นวายเปล่า”ยามพูด

หลี่ฝางถาม“รูดบัตรได้ไหม”

“ไม่ได้ที่นี่รับแต่เงินสด”ยามส่ายหน้า

“ฉันจ่ายให้ก่อน ฉันมีเงินสด”เหยนเสี่ยวน่าควักกระเป๋าตังค์ออกมา นับจำนวนพันสอง ยื่นให้ยาม“จ่ายปีนึงก่อนแล้วกัน”

ในตอนที่หลี่ฝางกำลังจะโอนเงินวีแชทให้เหยนเสี่ยวน่า กลับโดนเหยนเสี่ยวน่าขวางไว้

“เงินน่ะไม่ต้องคืนหรอก ถ้านายเกรงใจ ก็เลี้ยงข้าวแล้วกัน”เหยนเสี่ยวน่าพูด

หลี่ฝางครุ่นคิด เหยนเสี่ยวน่าก็ไม่ใช่คนขาดแคลนเงิน

ในเมื่อหล่อนพูดแบบนี้ ก็ช่างเถอะ

“ตกลง”หลี่ฝางพยักหน้า ยิ้ม

ทั้งคู่เพิ่งออกจากห้องยาม แต่กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งจับจ้อง

“หลี่ฝาง นายรู้สึกว่าคนข้างหลังไม่กี่คนนั้นแปลกๆไหม”เหยนเสี่ยวน่ารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

การระมัดระวังตัวของหลี่ฝาง มีสูงกว่าเหยนเสี่ยวน่า

ในช่วงที่ออกมาจากป้อมยาม หลี่ฝางรู้สึกได้

“ฉันนับหนึ่ง สอง สาม พวกเราวิ่ง ได้ยินมั้ย”หลี่ฝางพูดเสียงคอย กับเหยนเสี่ยวน่า

เหยนเสี่ยวน่าพยักหน้า

สาม!

สอง!

หนึ่ง!

หลี่ฝางนับจบ จึงกระตุกมือเหยนเสี่ยวน่า รีบวิ่งกันไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท