NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 180

ตอนที่ 180

แค่การปะทะกันง่ายๆ โค้ชตัวสูงก็รู้สึกได้ ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ส้าวส้วยแน่นอน

เดิมทีโค้ชอีกคนคิดมาช่วย แต่พอเห็นส้าวส้วยลงมือ จึงล้มเลิกความคิด

คาราเต้ของส้าวส้วย ไม่ได้มาจากการฝึกทหาร แต่ความเร็วเร็วกว่า กระบวนท่าประหลาดกว่า

ต่อให้โค้ชสองคนขึ้นพร้อมกัน ก็ไม่แน่ว่าจะสู้ส้าวส้วยคนเดียวได้

ลองคิดดู โค้ชคนหนึ่งโดนนักเรียนใช้คาราเต้ล้ม เป็นเรื่องที่น่าขายหน้าขนาดไหน

การฝึกทหารคราวต่อไปจะทำอย่างไร

มีโค้ชคนหนึ่งถึงขั้นแอบหนีออกไปจากกลุ่มคน

ในตอนที่หนีออกไป เขายังแอบควักมือถือออกมา ทำเหมือนมีคนโทรหาเขา

“แก……แกกล้าลงมือกับโค้ชงั้นหรือ”โค้ชแสดงสีหน้าเย็นชา

“โค้ช ผมแค่อยากได้รับการชี้แนะจากโค้ชเท่านั้น”

ส้าวส้วยปล่อยโค้ชลง พูดขึ้น“โค้ช พ่อผม ก็เป็นทหารเหมือนกัน ผมเรียนคาราเต้กับพ่อแต่เด็ก แต่แค่ฝีมือไม่โดดเด่นแค่นั้น หวังว่าโค้ชจะชี้แนะ”

ส้าวส้วยพูดจบ ไม่รอให้โค้ชเห็นชอบด้วย จึงลงมือเลย

ส้าวส้วยกำหมัดแน่น ปล่อยหมัดออกไป ราวพยัคฆ์ท้าลม

โค้ชขมวดคิ้ว ท่าทางปล่อยหมัดของส้าวส้วย แม้จะดูเหมือนทหาร แต่ในความเป็นจริง เท่ห์กว่าทหารเยอะ

โค้ชหดแววตาลง รวบรวมกำลังทั่วกาย

โค้ชดูออก ว่านักเรียนคนนี้ เป็นคนที่คุมยากทีเดียว

ถ้าหากขัดใจขึ้นมาหน่อย แพ้ราบแน่นอน

โค้ชโดนส้าวส้วยรัดรึง จึงไม่มีเวลาไปวุ่นวายกับเรื่องหลี่ฝางและหลิวเสี่ยวเทา

“ยังไม่ยอมพูดอีก นิ้วมือแก ใกล้หักแล้วนะ”หลี่ฝางมองหลิวเสี่ยวเทาอย่างสงบ

หลิวเสี่ยวเทาดูสับสน มองหลี่ฝาง อ้อนวอน“พี่ใหญ่ ปล่อยผมไปเถอะ ไม่ใช่ว่าผมไม่พูด แต่ผมไม่กล้าพูด”

“ถ้าผมพูดไป ผมตายแน่เลย”หลิวเสี่ยวเทาพูดสีหน้าลำบากใจ。

หลี่ฝางหัวเราะหึๆ เขาพอจะเดาออกแล้ว

เพียงแต่ว่าคนที่หลี่ฝางล่วงเกินมีมากเกินไป มู่เสี่ยวไป๋ สวีเถิงเฟย ตู้เฟย หยูเถิง……

คนเหล่านี้ล้วนมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้บงการเบื้องหลัง

เดิมทีหลี่ฝางสงสัยเฉินเสี้ยวด้วยซ้ำ แต่ในจังหวะนี้ หลี่ฝางตัดเขาออกไปแล้ว

ถ้าเป็นเฉินเสี่ยว หลิวเสี่ยวเทาคงไม่กลัวที่จะบอกว่าเป็นเขาหรอก

“หลิวเสี่ยวเทา นายมีหลิวเหล่าซานอาของนายคุ้มกะลาหัวอยู่ นายกลัวอะไร”หวางเสี่ยวโก๋ถาม

หลี่ฝางหัวเราะหึๆ“ดูท่าคนบงการ น่าจะร้ายกาจกว่าหลิวเหล่าซาน”

“ถ้าหลิวเสี่ยวเทาหักหลังเขา เกรงว่า ต่อให้หลิวเหล่าซานออกหน้า ก็คุ้มหัวไม่อยู่”หลี่ฝางพูด

“คนอะไรน่ากลัวขนาดนี้”หวางเสี่ยวโก๋หน้าถอดสี

“ฉันเองก็อยากรู้”หลี่ฝางหัวเราะหึๆ มองหลิวเสี่ยวเทาเย็นชา

“ไม่บอกใช่ไหม ไม่บอกฉันจะหักนิ้วแก ให้แกลิ้มรสความร้ายกาจฉันบ้าง”พูดจบหลี่ฝางออกแรง

เสียงกร๊วบดังขึ้น เสียงร้องโหยหวนราวหมูถูกเชือดตามมา

หลิวเสี่ยวเทา ร้องเหมือนหมูถูกเชือด

“ในเมื่อแกไม่พูด ฉันก็ต้องบังคับแกพูด”

หลี่ฝางหักนิ้วหลิวเสี่ยวเทา จากนั้นก็เตรียมกุมมืออีกมือหลิวเสี่ยวเทาขึ้น

หลิวเสี่ยวเทาตกใจพัลวัน เงยหน้ามองหลี่ฝาง แววตาเต็มไปด้วยความหมดหวัง

เดิมทีหลิวเสี่ยวเทาคิดว่าหลี่ฝางแค่ขู่ คิดไม่ถึงว่า หลี่ฝางพูดจริงทำจริง หักนิ้วเขาจริงๆ

เวลานี้ ในใจหลิวเสี่ยวเทา พูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง

คนๆนี้เป็นใครกัน

คุณอาของตนเอง เขาก็ไม่กลัว!

โค้ชมา ก็ไม่กลัว!

“คนอื่นมีแต่ไม่เห็นโค้ชไม่หลั่งน้ำตา ส่วนแก เห็นโค้ชก็ยังไม่หลังน้ำตาอยู่ดี ยังไม่ยอมพูดใช่ไหม”หลี่ฝางสีหน้าเย็นชา“บังคับให้ฉันหักนิ้วที่สองใช่ไหม”

“ฉัน……ฉันพูด”

หลี่ฝางแค่ออกแรง หลิวเสี่ยวเทาก็ทนไม่ไหว

“เป็นสวีเถิงเฟย สวีเถิงเฟยเป็นคนบงการให้มาหาเรื่อง”ในใจหลิวเสี่ยวเทาล่มสลายขั้นสุด เขาได้บอกผู้บงการเบื้องหลังออกมา

“สวีเถิงเฟยเหรอ”หวางเสี่ยวโก๋ถอนหายใจยาว

หวางเสี่ยวโก๋โดนหลี่ฝางหยิกจนเหงื่อแตกเหงื่อแตน สวีเถิงเฟยเริ่มแก้แค้นหลี่ฝางแล้ว

หลี่ฝางยิ้มเบา ปล่อยหลิวเสี่ยวเทา

“แกกลับไปบอกสวีเถิงเฟย ถ้าคิดหาเรื่องฉัน ก็มาแบบเปิดเผยหน่อย อย่าหลบๆซ่อนๆ เหมือนเต่าหดหัว”หลี่ฝางบอกหลิวเสี่ยวเทา

พอหลี่ฝางหมดธุระที่นี่ ส้าวส้วยก็ล้มพับลงพื้น เหมือนมะเขือเผา พูดกับโค้ชว่า

“โค้ช โค้ชเก่งกว่า”

“หมัดทหารของนาย เก่งกาจกว่าฉันเยอะ”

“ผมแพ้แล้ว”

ส้าวส้วยมือทาบอก สีหน้าเจ็บปวด

สีหน้าโค้ช มีแต่ความสงสัย

เขามองส้าวส้วยด้วยความงุนงง คิดในใจ เขาชนะหรือ

ชนะยังไงอ่ะ

ตอนปะทะฝีมือเมื่อกี้ ส้าวส้วยกดเขาไว้ตลอด

และบังคับจังหวะได้ดีมาก ทำให้เขาอยู่ใต้ลมตลอด ไม่กล้าล้มตัวเองแม้แต่น้อย

โค้ชรู้ แค่ส้าวส้วยคิดจะทำ เขาล้มตนเองได้ตลอด

เพียงแต่ เขาไม่ลงมือก็แค่นั้น จึงได้แต่กดไว้

โค้ชตัวสูงเงยหน้า“หมัดทหารของนายไม่เลว ฝึกอีกสองปี จะต้องล้ำหน้าฉันแน่”

โค้ชตัวสูงเดินมา ดึงมือส้าวส้วยขึ้น

“ขอบใจนะ เจ้าหนู”โค้ชตัวสูงขอบคุณข้างหูส้าวส้วยเสียงเบา

โค้ชตัวสูงแสดงสีหน้าขอบคุณ ถ้าส้าวส้วยคิดจะล้มเขา เขาคงขายหน้าเต็มประดา

ส้าวส้วยปัดก้นลุกขึ้นยืน มองโค้ชตัวสูง หัวเราะแหะๆ“เรื่องเล็กๆ”

“โค้ช เราแค่เล่นกัน โค้ชอย่าหักคะแนนผมนะ”ส้าวส้วยถามหยั่งเชิง

“หักคะแนนอะไรเล่า เล่นกันแค่นั้น มีคะแนนอะไรให้หัก”โค้ชตัวสูงโบกมือ ไม่มองหลิวเสี่ยวเทาแม้แต่น้อย แล้วเดินจากไป

หลิวเสี่ยวเทาหน้าเหมือนคนตาย เขามองหลี่ฝาง แล้วก็ไปเช่นกัน

“เถ้าแก่ เมื่อกี้ผมแสดงเป็นไงบ้าง”

“การวางท่าเมื่อกี้ ธรรมชาติดีใช่ไหม”

หลังจากกลุ่มคนสลายตัว ส้าวส้วยจึงถามหลี่ฝาง

เมื่อมองส้าวส้วยที่กำลังปรีดา หลี่ฝางหัวเราะหึๆ“ฝีมือการแสดงของนาย สมจริงกว่าลู่ฮั่นนักแสดงชั้นยอดอีก”

“ลู่ฮั่นเหรอ เขาคือใคร ผมรู้จักแต่เฉิงหลง หลี่เหลียนเจี๋ย พวกเขาเป็นไอดอลผม”ส้าวส้วยตะลึง

จากนั้น ส้าวส้วยฉีกปากยิ้ม“แต่ว่าในเมื่อเป็นนักแสดงชั้นนำ ฝีมือการแสดงต้องสุดยอด”

หลี่ฝางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด

ท่าหกล้มของส้าวส้วยเมื่อกี้ ตอแหลเหลือเกิน นักเรียนไม่น้อยรุมล้อมเข้ามา ส้าวส้วยขายหน้าแล้ว

แต่ต่อให้ดูออก ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูโค้ช มีหวังจบเห่

“เถ้าแก่ เมื่อไหร่จะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์สักที”ส้าวส้วยคลึงท้อง ถามอย่างหิวโหย

“ไป ไปกินกันตอนนี้”

หลี่ฝางพูดจบ จึงโบกมือให้เหยนเสี่ยวน่ากับหวางเสี่ยวโก๋ ชวนพวกเขาไปโรงอาหารด้วยกัน

“นายจะกินแฮมเบอร์เกอร์กี่อัน ฉันไปซื้อให้”หลี่ฝางถาม

“สิบอันแล้วกัน”ส้าวส้วยตอบ

หลี่ฝางขมวดคิ้ว“สิบอันเลยเหรอ แกกินไหวเหรอ”

“หรือไม่ก็ เก้าอัน”ส้าวส้วยเม้มปาก“ไหนๆเมื่อกี้กินไปแล้วอันหนึ่ง”

หลี่ฝางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด“สิบอันแล้วกัน”

หลี่ฝางมาถึงโรงอาหาร ซื้ออาหารมังไปสองจาน ผัดผักสองจาน แล้วเดินไปซุปเปอร์ ซื้อแฮมเบอร์เกอร์สิบอันให้ส้าวส้วย

ตอนกินข้าว หวางเสี่ยวโก๋อดถามไม่ได้“หลี่ฝาง นายมีแก่ใจกินข้าวเหรอ”

“ไม่ล่ะ”

“สวีเถิงเฟยไม่ปล่อยนายแน่”หวางเสี่ยวโก๋พูดสีหน้าหวาดกลัว“เขาจะมาหาเรื่องเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

“ตอนเรียนมอปลาย คนที่ล่วงเกินสวีเถิงเฟย ถ้าไม่ย้ายโรงเรียน ก็ลาออกไม่เรียนไปเลย”

“ถ้าไม่หนี ก็จะโดนสวีเถิงเฟยเล่นจนเข้าโรงพยาบาล คนอย่างเขา โหดเหี้ยมอำมหิต”หวางเสี่ยวโก๋พูด

หลี่ฝางพยักหน้า เขารู้นานแล้ว

ถ้าสวีเถิงเฟยไม่อำมหิต หลิวเสี่ยวเทาจะกลัวลนลานแบบนี้เหรอ

ยอมนิ้วหักนิ้วนึง ก็ไม่ยอมบอกว่าสวีเถิงเฟยเป็นคนทำ!

เห็นชัดว่า สวีเถิงเฟยเป็นคนอำมหิตคนหนึ่ง

เหยนเสี่ยวน่าก็พูดขึ้น“หลี่ฝาง ยังมีที่นายต้องระวัง สวีเจิ้งหรงพ่อของสวีเถิงเฟย เป็นอธิการบดีของสุ่ยมู่ เพราะงั้น ไ่ม่ว่าสวีเถิงเฟยจะทำไรที่สุ่ยมู่ ก็ไม่เป็นไรทั้งนั้น”

“แต่นายไม่แน่”

หลี่ฝางยิ้มขึ้น“ไม่แน่เสมอไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน