NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 183

ตอนที่ 183

“หลี่ฝาง นายคงไม่ได้กำลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหม?”

นาทีนี้ โจวหยางรู้สึกไม่อยากจะเชื่อแล้ว

โดยเฉพาะที่หลี่ฝางบอกว่าเงินสิบล้านเป็นค่าขนม นี่ก็ฟังดูเกินจริงไปหน่อย……

แต่ว่าโจวหยางกับหลี่ฝางรู้จักกันมาหลายปี เขารู้สึกว่าหลี่ฝางไม่เหมือนคนที่ชอบคุยโม้โอ้อวด วันนี้เป็นอะไรไป?

“ทำไม ไม่เชื่อฉัน?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ

“หลี่ฝาง ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อนาย แต่นายพูดเกินจริงไปหน่อย การเปิดบริษัทถือเป็นเรื่องใหญ่ ทำไมมาถึงปากนายแล้ว อย่างกับแค่เปิดร้านสะดวกซื้อ บอกจะเปิดก็เปิดเลย เหมือนเด็กเล่นขายของเกินไปแล้วมั้ง?”

“ยังมีอีก นายไปเอาเงินสิบล้านมาจากไหน?”

โจวหยางพูดด้วยความสงสัย

ตอนนี้โจวหยางรู้แล้ว หลี่ฝางไม่ได้ถูกลอตเตอรี่เลย เขาก็แค่ขายที่ดินไปผืนหนึ่ง ทำกำไรได้สามล้านกว่าในทันที

สามล้านกว่า หักรถเบนซ์ G-Class คันนั้นออก ก็เหลือแค่ล้านกว่าแล้ว

โจวหยางไม่เชื่อว่าหลี่ฝางมีเงินสิบล้าน

หลี่ฝางกดเสียงให้ต่ำลง แล้วยิ้มออกมา: “โจวหยาง นายน่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับมหาเศรษฐีลึกลับของตงไห่อยู่บ้างใช่ไหม?”

“ฉันเป็นคนตงไห่ จะไม่รู้ได้อย่างไร? ล่าสุดเขาเพิ่งลงทุนไปหลายหมื่นล้านในตงไห่ ข่าวดังมาถึงเมืองเอกแล้วด้วย” โจวหยางพูด

“ความจริงแล้ว ฉันเป็นลูกชายเขา” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ

“นายพูดอะไรน่ะ?” โจวหยางอึ้งไปครู่หนึ่ง มองไปที่หลี่ฝางด้วยความประหลาดใจ: “นายว่านายเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีลึกลับ?”

หลี่ฝางพยักหน้า

โจวหยางยิ้มเจื่อนๆแล้วพูดว่า: “หลี่ฝาง คำล้อเล่นนี้ของแกใหญ่ไปแล้วนะ”

โจวหยางรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ถึงอย่างไร มหาเศรษฐีลึกลับมีเงินมากเกินไป เฉพาะตงไห่เมืองเล็กๆแห่งนี้ ก็ลงทุนไปสองหมื่นกว่าล้านแล้ว

เงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้น เศรษฐีทั่วไป ใครกล้าเล่น?

แม้แต่มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองจีนยังไม่กล้าทำอย่างนี้เลยมั้ง?

โจวหยางประมาณการ มูลค่าสินทรัพย์ของมหาเศรษฐีลึกลับคนนี้ เกรงว่าอย่างน้อยคงต้องมีหลายแสนล้าน

หลี่ฝางบอกว่าเขาเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีท่านนี้ โจวหยางรู้สึกว่ามันเป็นภาพลวงตาในความฝันมากเกินไป ไม่มีความรู้สึกของความเป็นจริงเลยสักนิด

“นายไม่เชื่อ?” หลี่ฝางถาม

“ไม่เชื่อ” โจวหยางส่ายหน้า

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พูดว่า: “นายรู้ไหมว่าพ่อของตู้เฟย ตู้ต้าไห่ล้มละลายอย่างไร?”

“รู้”

โจวหยางพยักหน้า: “ได้ยินว่าตู้ต้าไห่ถูกมหาเศรษฐีลึกลับหลอกเอา การลงทุนทั้งหมดที่ทำ กลายเป็นฟองอากาศไปหมด……”

“แล้วทำไมมหาเศรษฐีลึกลับคนนั้นถึงต้องกลั่นแกล้งตู้ต้าไห่ล่ะ?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ

“ฉันสอบเอนทรานซ์ได้คะแนนแค่สี่ร้อยกว่า แต่กลับเข้าสุ่ยมู่ได้ นายไม่รู้สึกแปลกใจสักนิดเลยเหรอ?” หลี่ฝางถามต่อ

“เพราะอะไรฉันถึงกล้าผลาญเงินเหมือนผลาญดิน ซื้อรถหรูราคาสองล้านกว่า เลี้ยงข้าวพวกนายมื้อหนึ่งกล้าใช้จ่ายเงินเป็นแสนๆ หรือนายคิดจริงๆว่าฉันเป็นคนไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำพอมีเงินนิดหน่อยก็ทำตัวโอ้อวด?”

หลี่ฝางหยิบกุญแจรถปอร์เช่ดอกนั้นขึ้นมา: “รู้ไหมว่านี่รถอะไร?”

“ปอร์เช่” โจวหยางตอบ

เขาเป็นถึงทายาทเศรษฐี เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้จักปอร์เช่

“พูดเจาะจงหน่อย นี่คือปอร์เช่ 918 ราคาขายของมันอยู่ที่ประมาณสิบห้าล้าน แต่ซื้อขึ้นมาจริงๆ ราคามันเกือบจะถึงยี่สิบล้าน” หลี่ฝางพูด

“รถคันนี้ไม่ใช่ของถังหยู่ซวนเหรอ?” โจวหยางเหลือบมองไปที่ถังหยู่ซวน

ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างอายๆ: “ความจริงรถคันนี้เป็นของหลี่ฝาง หลี่ฝางรู้สึกว่ารถคันนี้ดูเด่นเกินไป ก็เลยโอนเป็นชื่อฉันชั่วคราว”

“จากนั้นก็ซื้อรถเบนซ์ G-Class คันหนึ่ง”

ถังหยู่ซวนพูดจบ โจวหยางมองดูหลี่ฝางด้วยความประหลาดใจ: “กลัวว่าจะเด่นเกินไป ดังนั้นเลยซื้อรถเบนซ์ G-Class?”

แล้วรถเบนซ์ G-Class ไม่เด่นเหรอ?

เบนซ์ G-Class ก็ราคาสองล้านกว่านะ!

ทายาทเศรษฐีทั่วไป ยังไม่มีปัญญาซื้อเบนซ์ G-Class เลยไหม?

โจวหยางกลืนน้ำลาย มองดูหลี่ฝาง: “นายเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีลึกลับจริงๆเหรอ?”

นาทีนี้ โจวหยางเริ่มรู้สึกเชื่อขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

หลี่ฝางพยักหน้า

“งั้นก็หมายความว่า สาเหตุที่ตู้ต้าไห่ล้มละลาย เป็นความคิดของนาย?” โจวหยางมองดูหลี่ฝางแล้วถาม

“ไม่ใช่ความคิดของฉัน แต่ก็เป็นเพราะฉัน เพราะตู้เฟยหาเรื่องฉันหลายครั้งหลายหน พ่อฉันทนดูไม่ได้ เลยจัดการทำลายตู้ต้าไห่”

หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เพราะถึงอย่างไรสาเหตุที่ตู้เฟยคุยโม้โอ้อวดที่ตงไห่ได้ ก็เพราะอาศัยว่าตัวเองมีพ่อรวยไม่ใช่เหรอ?”

“เมื่อพ่อของเขาล้มละลาย เขายังนับเป็นตัวอะไร?”

หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ ก็มองไปที่โจวหยาง แล้วถามอีกรอบ: “ตอนนี้เชื่อแล้วใช่ไหม?”

“เชื่อแล้ว” โจวหยางพยักหน้า

จากนั้น โจวหยางก็หัวเราะเหอะๆ: “พี่ชายฉันคิดมาตลอดว่าลูกชายของมหาเศรษฐีลึกลับคือถังหยู่ซวน ดูท่า พี่ชายฉันถูกพวกนายหลอกซะแล้ว”

“ใช่ เราจงใจหลอกเขาเอง” หลี่ฝางพูด

“ตอนนี้ เราจะร่วมมือกันเปิดบริษัทได้แล้วใช่ไหม?” หลี่ฝางถามใหม่อีกครั้ง

โจวหยางพยักหน้า

ในตอนนี้ โจวหยางรู้สึกว่าคำพูดของหลี่ฝางไม่เกินจริง

แล้ว

สิบล้านสำหรับหลี่ฝางแล้ว อาจจะเป็นแค่ค่าขนมจริงๆ

เอาเงินค่าขนมของหลี่ฝางมาเปิดบริษัท ความรู้สึกกดดันในใจของโจวหยางลดลงไปมากในทันที

ถึงแม้จะขาดทุนแล้วอย่างไร อย่างไรหลี่ฝางก็มีเงินอยู่แล้ว

แน่นอนว่า โจวหยางจะไม่ถือว่าการเปิดบริษัทเป็นเรื่องการละเล่นของเด็กเพราะสาเหตุนี้ เขาจะบริหารจัดการด้วยความตั้งใจอย่างมาก

โจวหยางรู้ว่า หลี่ฝางทำแบบนี้ ทั้งหมดเพื่อช่วยตัวเองทั้งนั้น

“งั้นเราทำแบบนี้ ในเมื่อฉันเป็นคนออกเงิน เรื่องหุ้น ฉันจะเป็นคนถือหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ โจวหยาง นายถือหุ้นยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีกยี่สิบสี่เปอร์เซ็นต์ ก็ให้ถังหยู่ซวนเป็นคนถือ” หลี่ฝางพูด

“พวกนายมีความเห็นอะไรไหม?”

หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ ก็มองโจวหยางกับถังหยู่ซวน

“ฉันไม่มีความคิดเห็น” ถังหยู่ซวนแบมือและพูด

“โจวหยาง นายล่ะ?” หลี่ฝางหันกลับไปมองโจวหยาง

โจวหยางส่ายหน้า พูดว่า: “เยอะเกินไปแล้ว หลี่ฝาง ฉันรู้ว่านายอยากตอบแทนฉัน แต่นายไม่คิดว่าการตอบแทนนี้มันมากเกินไปเหรอ?”

“นี่เป็นยี่สิบสามเปอร์เซ็นต์ของหุ้นเชียวนะ นายรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร? ในระยะแรกบริษัทลงทุนไปสิบล้าน ซึ่งก็หมายความว่า นายให้เงินฉันสองล้านสามแสนแล้วทันที”

“นี่ก็เท่ากับว่านายให้รถเบนซ์ G-Class ฉันคันหนึ่งเลย”

“ยังมีอีก อนาคตถ้าหากบริษัทรุ่งเรืองขึ้นมา แม้ว่ามันจะพัฒนาไปถึงระดับพี่ชายฉัน มูลค่าของหุ้นนี้ ก็จะสูงขึ้นเป็นห้าเท่า ถึงเวลานั้น ก็จะไม่ใช่แค่สิบล้านแล้ว”

โจวหยางพูด: “นายให้ฉันน้อยลงหน่อยเถอะ ให้ฉันแค่สิบเปอร์เซ็นต์ก็พอแล้ว”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พูดว่า: “พอแล้ว มัธยมปลายสามปี นายไม่ได้ช่วยฉันแค่เล็กน้อยนะ”

ในเวลานี้ อาหารก็ถูกเสิร์ฟเข้ามาแล้ว

“คุณชายหลี่ นี่คือสิ่งที่เจ้านายเรามอบให้คุณโดยเฉพาะ……”

ผู้จัดการล็อบบี้นำไวน์แดงสองขวดมาให้ด้วยตัวเอง มันคือLafite(ลาฟีต)

“ไม่ถูกนะ โรงแรมของพวกคุณมีLafite(ลาฟีต)เหลือแค่เก้าขวดไม่ใช่เหรอ แล้วเมื่อวานก็ถูกเราดื่มไปจนหมด แล้วนี่ไปเอามาจากไหนอีก?” หลี่ฝางถามด้วยความสงสัย

เมื่อคำพูดนี้ออกมา หวางเหยาก็เงยหน้าขึ้นมา

อะไรนะ?

ฟังความหมายนี้ กินข้าวมื้อหนึ่งก็ดื่มLafite(ลาฟีต)ไปเก้าขวด

ถ้างั้นข้าวมื้อนี้ไม่ใช่ว่าต้องจ่ายหลายแสนอย่างนั้นเหรอ?

หวางเหยารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ชีวิตของคนรวยฟุ่มเฟือยขนาดนี้เลยเหรอ? กินข้าวมื้อเดียวก็ใช้จ่ายไปหลายแสนหยวน?

ช่างน่ากลัวมากจริงๆ

“คุณชายหลี่ พูดอย่างไม่ปิดบังคุณ ความจริงเจ้านายเราเป็นนักสะสมไวน์แดง ในห้องใต้ดินของเขา มีไวน์ดีๆเก็บสะสมไว้มากมาย Lafite(ลาฟีต)สองขวดนี้ มีอายุยาวนานมากกว่า ราคาตลาดก็แพงกว่ามาก ถ้าอย่างไร คุณลองชิมดูก่อนไหม?” ผู้จัดการล็อบบี้พูด

หลี่ฝางพยักหน้า: “ถ้าอย่างนั้นผมก็ยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญได้แล้ว”

หวางเหยาก็แบ่งได้หนึ่งแก้ว เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถึงเอ่ยปากถามขึ้นมา: “Lafite(ลาฟีต)ขวดนี้ ราคาประมาณเท่าไหร่เหรอ?”

“ราคาขายอยู่ที่ประมาณห้าหมื่นหยวนต่อหนึ่งขวด แต่ว่ามีราคาไม่มีตลาด ในท้องตลาดหาซื้อได้ยากมากแล้ว” ผู้จัดการล็อบบี้ยิ้มแล้วก็พูดออกมา

“ขวดละห้าหมื่นกว่า ขวดหนึ่งรินได้แค่สามแก้ว งั้นก็หมายความว่า แก้วนี้ราคาหมื่นกว่าหยวนเลย?”

หวางเหยาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

สำหรับคนที่เชี่ยวชาญการดื่มไวน์แดงโดยเฉพาะแล้ว ทุกครั้งจะรินแค่หนึ่งนิ้วเท่านั้น จะไม่รินจนเต็มแก้วเด็ดขาด

แต่หลี่ฝางและคนอื่นๆล้วนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ดื่มเล่นกันล้วนๆ ดังนั้นเลยรินเต็มแก้วอย่างไม่สนใจอะไร

หวางเหยามองดูไวน์แดงในแก้ว ยังรู้สึกเสียดายที่จะดื่มเล็กน้อยแล้ว

หลังจากกินข้าวเสร็จ หลี่ฝางลงไปจ่ายเงินข้างล่าง

แต่เพิ่งจะเดินไปถึงแผนกต้อนรับ หลี่ฝางก็เห็นหวงว่างโก๋ยืนอยู่ตรงนั้น

หลี่ฝางเข้าไปทักทาย: “พี่หวง ขอบคุณมากที่คุณส่งไวน์แดงราคาแพงขนาดนี้ให้ผม”

“ที่ไหน ที่ไหน เมื่อคืนข้าวมื้อหนึ่งคุณใช้จ่ายไปหกแสนกว่า ผมให้ไวน์แดงคุณสองขวดจะเป็นไรไป?” หวงว่างโก๋หัวเราะเหอะๆขึ้นมา

ข้าวหนึ่งมื้อหกแสนกว่าหยวน?

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่หวางเหยา แม้แต่โจวหยางกับถังหยู่ซวน ก็ตะลึงไป

“ใช่แล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์มีเวลาไหม? ผมอยากเลี้ยงข้าวคุณมื้อหนึ่ง” หวงว่างโก๋พูดเชิญชวน

หลี่ฝางไม่ได้คิดอะไรมาก พยักหน้าก็ตอบตกลงเลย

พูดทักทายเสร็จ หลี่ฝางก็ออกจากโรงแรมว่างโก๋

ห่างออกไปไม่ไกลจากโรงแรมว่างโก๋ รถตู้สองสามคัน ก็เตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหวในการก่อการร้ายในเวลานี้แล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท